เมื่อวันที่ 21 มิถุนายน 2565 ณ ห้องประชุมสัมมนา B1-1 ชั้น B1 (โซนกลาง) อาคารรัฐสภา นายชวน หลีกภัย ประธานรัฐสภาและประธานสภาผู้แทนราษฎร เป็นประธานในพิธีเปิดการสัมมนาเรื่อง "การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ : ยุทธศาสตร์ของไทยและบทบาทของรัฐสภา" กล่าวตอนหนึ่งว่า ตนมีความยินดีและรู้สึกเป็นเกียรติที่ได้มาเป็นผู้กล่าวเปิดการสัมมนาในวันนี้ โดยขอชื่นชมและขอบคุณคณะผู้จัดที่ดาริให้มีจัดการสัมมนาเรื่องนี้ขึ้น เพื่อสร้างความเข้าใจและความร่วมมือของภาคส่วนต่างๆ ในการขับเคลื่อนยุทธศาสตร์ไทยและบทบาทของรัฐสภาในประเด็นปัญหาที่มีความสำคัญยิ่งทั้งต่อประเทศไทยและประชาคมโลกโดยรวม จากสถานการณ์ผลกระทบของปัญหาการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศที่เกิดขึ้นและมีแนวโน้มนำไปสู่ระดับวิกฤตหากไม่สามารถลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกได้ตามเป้าหมายและระยะเวลาที่กำหนด ทำให้ประชาคมโลก และประเทศต่างๆ เกิดความตื่นตัวอย่างกว้างขวาง มีการปรับเปลี่ยนยุทธศาสตร์และนโยบายการพัฒนาประเทศสู่ระบบเศรษฐกิจคาร์บอนต่ำ มีการประกาศเป้าหมายมุ่งสู่ความเป็นกลางทางคาร์บอน (Carbon Neutral) และเป้าหมายการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ (Net Zero Emission)
นายชวน กล่าวต่อว่า ขณะเดียวกัน ประเทศเป็นหนึ่งในหลาย ๆ ประเทศในโลกที่กำลังเผชิญกับปัญหาฝุ่นเล็กจิ๋วที่เรียกว่า PM 2.5 ซึ่งส่งผลต่อสุขภาพอย่างมหาศาล โดยปัญหานี้เริ่มรุนแรงขึ้นมาในประเทศไทยเมื่อประมาณปี 2561 และต่อเนื่องกันมาทุกปี ซึ่งฝุ่น PM 2.5 นั้นมาจากหลายแหล่งกำเนิด และถือว่าเป็นปัญหาด้านสิ่งแวดล้อมที่สมควรได้รับความสนใจเช่นเดียวกัน โดยประเทศไทยได้ให้ความสำคัญต่อปัญหาด้านนี้ โดยเฉพาะการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ จึงได้เข้าร่วมเป็นภาคีความตกลงปารีส และกำหนดยุทธศาสตร์และนโยบายของประเทศในเรื่องนี้ไว้ในยุทธศาสตร์ชาติ แผนปฏิรูปประเทศหลายด้าน รวมทั้งแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ฉบับที่ 13 เนื่องจากเรื่องการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศไม่ได้เป็นประเด็นเฉพาะเรื่องสิ่งแวดล้อม แต่มีความเกี่ยวโยงกับการพัฒนาเศรษฐกิจและการพัฒนาประเทศอีกหลายมิติ ทั้งในเรื่องการค้าและการลงทุน ภาคการผลิตอุตสาหกรรม นโยบายความสัมพันธ์ระหว่างประเทศและกติการะหว่างประเทศ ความมั่นคงทางอาหาร น้ำ พลังงาน และอื่นๆ ที่เป็นความท้าทายต่อเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืนขององค์การสหประชาชาติ
นายชวน กล่าวต่อว่า ในส่วนของการประชุมรัฐภาคีกรอบอนุสัญญาสหประชาชาติว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศที่ผ่านมา ที่ประชุมได้มีการระบุยุทธศาสตร์ที่สำคัญ ได้แก่ การกำหนดกลไกความร่วมมือการถ่ายโอนคาร์บอนเครดิตระหว่างประเทศ การกำหนดกรอบระยะเวลาในการดำเนินงานตามเป้าหมายการมีส่วนร่วมที่ประเทศกำหนด และการกำหนดเป้าหมายทางการเงินที่ประเทศที่พัฒนาแล้วต้องให้การสนับสนุนประเทศที่กำลังพัฒนาเพื่อดำเนินงานด้านการเปลี่ยนแปลงภูมิอากาศ การขับเคลื่อนยุทธศาสตร์และนโยบายเรื่องการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศของประเทศไทยให้เกิดความก้าวหน้าและบรรลุเป้าหมายที่กำหนดไว้ จึงต้องอาศัยการดำเนินงานจากทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้อง ทั้งฝ่ายบริหาร ฝ่ายนิติบัญญัติ และการมีส่วนร่วมจากภาคธุรกิจ ภาคประชาสังคม โดยสร้างความเชื่อมโยงกับยุทธศาสตร์การพัฒนาประเทศในด้านอื่น ๆ อาทิ ยุทธศาสตร์การพัฒนาตามตัวแบบเศรษฐกิจฐานชีวภาพ เศรษฐกิจหมุนเวียน และเศรษฐกิจสีเขียว และจำเป็นต้องมีการพัฒนามาตรการและกลไกสนับสนุนทั้งในด้านกฎหมาย เศรษฐศาสตร์ สังคม รวมทั้งการป้องกันความขัดแย้งที่อาจเกิดขึ้นจากผลกระทบของปัญหาการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ หรือจากนโยบายที่กำหนดขึ้นมาเพื่อรองรับปัญหาดังกล่าว
นายชวน กล่าวต่อว่า รัฐสภาจัดการประชุมประจำปีรัฐสภาภาคพื้นเอเชียและแปซิฟิก หรือ APPF ครั้งที่ 30 ระหว่างวันที่ 26 - 29 ต.ค.65 และมีหัวข้อสำคัญในการประชุมครั้งนี้เป็นเรื่องที่เกี่ยวข้องกับการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศด้วย โดยการสัมมนาวันนี้นับเป็นความร่วมมือของหลายภาคส่วน ทั้งจากสภาผู้แทนราษฎร วุฒิสภา สถาบันวิชาการ และองค์กรภาคประชาสังคม ซึ่งนับเป็นเรื่องน่ายินดีที่ภาคส่วนต่างๆ เห็นความสำคัญของเรื่องการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศโลก และร่วมมือกันนำเสนอประเด็นสำคัญต่างๆ พร้อมแนวทางด้านนโยบาย ยุทธศาสตร์ และแนวปฏิบัติอย่างสร้างสรรค์และรอบด้าน ซึ่งทางรัฐสภาจะได้นำข้อเสนอแนะและสรุปผลการสัมมนาในวันนี้ ไปใช้ประโยชน์ต่อการปฏิบัติภารกิจของรัฐสภา และคณะ กมธ. คณะต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง ทั้งในมิติด้านการพัฒนากฎหมาย การพัฒนามาตรการ และเครื่องมือ เพื่อส่งเสริมการลดก๊าซเรือนกระจกและการปรับตัว รวมทั้งการติดตามนโยบายและการดำเนินงานของรัฐบาล เพื่อร่วมผลักดันและขับเคลื่อนยุทธศาสตร์ของประเทศไทยด้านการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ และเป็นโอกาสต่อการเร่งรัดการปรับเปลี่ยนไปสู่การพัฒนาแบบคาร์บอนต่ำเพื่อรักษาขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศ และมุ่งสู่การพัฒนาอย่างยั่งยืน
"ความร่วมมือหลายฝ่ายในวันนี้เป็นความไม่ดูดายต่อปัญหาของส่วนรวมของแต่ละฝ่าย แม้ว่าอาจจะไม่ใช่หน้าที่โดยตรงของบางฝ่ายแต่การที่เราไม่ละเลยต่อปัญหาส่วนรวม สามารถเข้าไปมีส่วนร่วมทำสิ่งใดได้ก็เข้าไปร่วมทำ เหมือนกับที่สภาในขณะนี้ก็ไม่ดูดายในการกำหนดนโยบายเรื่องบ้านเมืองสุจริต โดยเชื่อมั่นว่าประเทศจะรุ่งเรือง ถ้าบ้านเมืองสุจริต ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งที่ไม่ดูดายเช่นเดียวกันกับคณะ กมธ.การต่างประเทศในวันนี้ที่ร่วมกับหลายฝ่ายปฏิบัติภารกิจของ กมธ.โดยการไม่ดูดายต่อปัญหาของส่วนรวม" นายชวน กล่าว
- 006
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี