เมื่อวันที่ 24 มิถุนายน 2565 นพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม หัวหน้าพรรคไทยภักดี ได้ออกคำประกาศพรรคไทยภักดีในหัวข้อเรื่อง " 90 ปีประชาธิปไตยไทย: กระดุมเม็ดแรกที่กลัดผิด" โดยมีใจความว่า
เมื่อคณะราษฎร 2475 ได้ปฏิวัติสยาม เป็นการแย่งชิงพระราชอำนาจจากสถาบันพระมหากษัตริย์ ซึ่งเป็นองค์รัฎฐาธิปัตย์ มาสู่พวกพ้องของตนเอง สร้างระบอบคณาธิปไตย (Oligarchy) หาได้เป็นระบอบประชาธิปไตย อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นพระประมุขก็หาไม่
ระบอบคณาธิปไตยดังกล่าวไม่ได้ฟังเสียง อันแท้จริงของประชาราษฎร แต่ประการใด และเป็นแค่การผลัดเปลี่ยน หมุนเวียนกันขึ้นครองอำนาจ ของคณะบุคคลคณะใดคณะหนึ่ง ไม่ว่าจะเป็นเผด็จการทหาร หรือนักการเมืองทุนสามานย์เผด็จการรัฐสภา เป็นเพียงสมบัติผลัดกันชม ทำให้ประชาธิปไตยของไทยไร้การพัฒนา เนื่องจากมีจุดเริ่มต้น ที่กลัดกระดุมเม็ดแรกผิด และยังคงผิดมาจนถึงปัจจุบันระบอบการเมืองการปกครอง ของประเทศไทยหาได้ดำเนินไปตาม พระราชปณิธาณในพระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว พระผู้พระราชทานรัฐธรรมนูญฉบับแรก ให้กับประเทศไทยก็หาไม่ ด้วยทรงต้องการให้ประเทศไทย มีการเมืองการปกครองในระบอบประชาธิปไตย อันมีพระมหากษัตริย์ ทรงเป็นองค์พระประมุข แบบราชอาณาจักรที่เรียกว่า Constitutional monarchy หาใช่แบบสาธารณรัฐ
ทำไม Constitutional monarchy ซึ่งชื่อที่ควรเรียกคือ ราชาธิปไตยตามรัฐธรรมนูญ และราชประชาสมาสัย จะเป็นคำตอบของระบอบการเมืองการปกครอง ของประเทศไทย
ประการแรก ราชาธิปไตยตามรัฐธรรมนูญ และราชประชาสมาสัย จะช่วยป้องกันวงจรอุบาทว์คณาธิปไตยอันเป็นสมบัติผลัดกันชม ระหว่างเผด็จการทหารและนักการเมืองทุนสามานย์เผด็จการรัฐสภาเพราะราชาธิปไตยตามรัฐธรรมนูญ จะเป็นการทรงใช้พระราชอำนาจอธิปไตย ผ่านสามสถาบันหลักของประเทศคือ นิติบัญญัติ ตุลาการ และบริหาร ซึ่งเป็นไปตามหลัก The king can do no wrong. โปรดเกล้าในการให้มีผู้รับสนองพระบรมราชโองการ ในการบริหารราชการแผ่นดิน
ในขณะที่ราชประชาสมาสัย อันหมายถึงการอาศัยกันอย่างเท่าเทียม ระหว่างพระราชากับประชาชนจะช่วยให้ประชาชน ได้มีบทบาทในการบริหารราชการแผ่นดิน ร่วมกันอย่างเท่าเทียม เคียงบ่าเคียงไหล่ ในการพัฒนาชาติบ้านเมือง อันเป็นปัจจัยป้องกัน ไม่ใช่คณะบุคคลใดๆ ลุแก่อำนาจ โดยไม่ฟังเสียงอันแท้จริง ของประชาชน
ประการที่สอง ราชาธิปไตยตามรัฐธรรมนูญ และราชประชาสมาสัย จะเป็นศูนย์รวมดวงใจ ของคนไทยทั้งชาติ ป้องกันความแตกแยกทางความคิดที่อาจจะเกิดจากคณะบุคคลหลายฝ่าย ยุยงให้แผ่นดินแตกแยก ด้วยความคิดเห็นทางการเมืองที่แตกต่างกัน การมีสถาบันพระมหากษัตริย์ เป็นศูนย์รวมดวงใจและศรัทธา จะช่วยคลี่คลายความแตกแยก ทางความคิดเห็น ทางการเมือง ให้สามารถหลอมรวมประสานเป็นหนึ่งเดียวได้ ภายใต้ศูนย์รวมดวงใจและศรัทธา ที่เป็นหนึ่งเดียวของคนในชาติ ดังที่เคยเป็นมาแล้วในอดีต
ประการที่สาม ราชาธิปไตยตามรัฐธรรมนูญ และราชประชาสมาสัย สามารถให้เกิดการใช้พระราชอำนาจพิเศษหรือ Royal Prerogative ซึ่งเป็นสิ่งที่มีตามปกติอยู่แล้ว อันได้แก่พระราชอำนาจในการให้กำลังใจ พระราชอำนาจในการตักเตือน พระราชอำนาจในการยับยั้งรัฐบาลโดยที่รัฐบาลและคณะรัฐมนตรี ต้องเข้าประชุมถวายรายงาน การบริหารราชการแผ่นดิน อย่างเป็นทางการ ให้พระมหากษัตริย์ทรงรับทราบเป็นประจำ ดังเช่น อังกฤษ นอรเวย์หรือสวีเดนเพื่อให้สถาบันพระมหากษัตริย์ได้ทรงใช้ Royal Prerogative ในการให้กำลังใจ ตักเตือน และยับยั้งการบริหารราชการแผ่นดินที่ดี ที่อาจจะพลาดพลัง หรือที่ยังไม่สมควร มิให้เกิดผลร้ายต่อบ้านเมืองและประชาชน
พรรคไทยภักดี ขอแถลงคำประกาศสนับสนุน ราชาธิปไตยตามรัฐธรรมนูญ ราชประชาสมาสัย และพระราชอำนาจพิเศษ (Royal Prerogative)เพื่อพัฒนา ระบอบการปกครองบ้านเมือง และราชอาณาจักรไทย ให้สู่ความเป็นประชาธิปไตยอันแท้จริงคือ ประชาราษฎรเป็นผู้มีสิทธิมีเสียง ในการปกครองบ้านเมือง ให้บ้านเมืองเกิดความวัฒนาสถาพร ยั่งยืนราบรื่นเรียบร้อย ต่อไปในอนาคตกาล
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี