ผู้นำกะเหรี่ยงเผยเหตุปะทะใหญ่ชายแดนด้านอำเภอพบพระ ชี้สาเหตุมิก-29 รุกล้ำน่านฟ้าไทย คาดนักบินอาจไม่ใช่คนพม่าเพราะไม่ได้บินเก่งขนาดนี้ ขณะที่ชาวบ้านถูกยิงรถโอดไร้คนรับผิดชอบความเสียหาย
เมื่อวันที่ 1 กรกฎาคม 2565 พล.ต.เนอดา โบ เมียะ ผู้บัญชาการกองกำลังพิทักษ์กะเหรี่ยงแห่งชาติ (Karen National Defense Organization : KNDO ) แห่งสหภาพแห่งชาติกะเหรี่ยง (Karen National Union:KNU) ซึ่งกำลังร่วมกับกองกำลังปลดปล่อยประชาชนกะเหรี่ยง (Karen National Liberation Army-KNLA) กองพล 6 และพันธมิตร ต่อสู้กับทหารกองทัพพม่าเพื่อยึดฐานทหารพม่าใกล้หมู่บ้านอูแกร้ท่า บริเวณชายแดนไทยตรงข้ามกับอำเภอพบพระ จังหวัดตาก ให้สัมภาษณ์ว่า ปฎิบัติการครั้งนี้เริ่มต้นตั้งแต่วันที่ 26 มิถุนายน โดยสามารถยึดฐานทหารพม่าที่อูแกร้ท่าได้ในวันที่ 30 มิถุนายน ทำให้ทหารพม่าต้องใช้เครื่องบินรบปฎิบัติการเพื่อยึดฐานกลับคืน แต่จนถึงขณะนี้ก็ยังยึดไม่ได้เนื่องจากกองกำลังกะเหรี่ยงและพันธมิตรได้กระจายตัว จึงยังเผชิญหน้ากันอยู่
พลตรีเนอดา เมียะ กล่าวว่า สาเหตุที่ต้องยึดฐานทหารพม่าแห่งนี้เนื่องจากเดิมเคยเป็นพื้นที่ของ KNU แต่ในปี 1995 ทหารพม่าได้ร่วมกับทหารดีเคบีเอเข้ายึดพื้นที่ ที่ผ่านมาเราพยายามส่งสัญญาณให้ทหารพม่าออกไป แต่เขาก็ไม่ฟัง และพื้นที่แห่งนี้เป็นพื้นที่ยุทธศาสตร์สำคัญและอยู่ใกล้กับพื้นที่อูเกท่าซึ่งฐานใหญ่ของทหารพม่า ทำให้เขาสามารถส่งกำลังพลมาได้ตลอด
“จริงๆแล้วเป้าหมายของเราไม่ใช่แค่ยึดค่ายแห่งนี้เท่านั้น แต่เราต้องการยึดพื้นที่ตลอดชายแดนตั้งแต่กองพล 5 (ตรงข้ามจังหวัดแม่ฮ่องสอน) ไปจนถึงกองพล 4 (ตรงข้ามกับจังหวัดกาญจนบุรี)คืนมาทั้งหมด แม้ตอนนี้กองทัพพม่าจะส่งกำลังเข้ามาเสริมจำนวนมาก แต่เราก็จะสู้ต่อไป”ผู้บัญชาการ KNDO กล่าว
ผู้สื่อข่าวถามผลการสู้รบว่าเป็นอย่างไรบ้าง พลตรีเนอดา เมียะ กล่าวว่า ทหารพม่าเสียหายหนักโดยมีทหารเสียชีวิตและบาดเจ็บประมาณ 200 คน ส่วนกองกำลังกะเหรี่ยงเสียชีวิตประมาณ 9-10 คน
เมื่อถามถึงภูมิประเทศบริเวณดังกล่าวเป็นอย่างไรทำไมเครื่องบินรบของกองทัพจึงต้องล่วงล้ำเข้ามาในเขตแดนไทย พลตรีเนอดา เมียะ กล่าวว่า “ผมคิดว่าเหตุผลจริงๆคือคนขับเครื่องบินไม่ใช่คนพม่า แต่คนต่างชาติหรือไม่ เขาเลยไม่รู้จักเขตแดน เช่นเดียวกับเมื่อครั้งที่เขาใช้เครื่องบินรบต่อสู้กับทหารกะเหรี่ยงที่ชายแดนด้านแม่น้ำสาละวิน และมีเครื่องบินรบเข้ามาที่บ้านท่าตาฝั่ง (อ.แม่สะเรียง จ.แม่ฮ่องสอน) นักบินเหล่านั้นก็ไม่ใช่คนพม่า เพราะคนพม่าไม่เก่งขนาดนั้น เครื่องบินเหล่านั้นซื้อมาจากรัสเซียและมีชาวรัสเซียมาฝึกสอนให้ จริงๆ แนวชายแดนควรเป็นเขตห้ามบิน เรื่องนี้ควรต้องเตือนกองทัพพม่า”
เมื่อถามอีกว่า ปฎิบัติการสู้รบครั้งนี้จะยืดเยื้ออีกนานหรือไม่ ผู้บัญชาการ KNDO กล่าวว่า ก็ต้องสู้กันต่อไปเรื่อยๆ ซึ่งขณะนี้เรามี PDF (กองกำลังพิทักษ์ประชาชน หรือ The People’s Defense Froce :PDF)เข้าร่วมด้วยจำนวนมาก พวกเขาไม่มีบ้านอยู่เพราะโดนทหารพม่าทำร้ายและฆ่า ดังนั้นจึงต้องหลบมาอยู่ตาแนวชายแดน
ด้านนายสายัณห์ วงศ์ใจ ชาวบ้านซึ่งมาทำสวนปาร์มและเลี้ยงแพะอยู่บริเวณชายแดนวาเลย์ อ.พบพระ ให้สัมภาษณ์ถึงช่วงจังหวัดที่ถูกปืนกลจากเครื่องบนรบของทหารพม่ายิงใส่รถยนตร์เมื่อวันที่ 30 มิถุนายนที่ผ่านมาว่า ตอนนั้นตนอยู่ห่างจากรถยนต์ราว 50 เมตร ได้ยินเสียงเครื่องบินๆวนมา 3 รอบโดยรอบ 2 เครื่องบินได้เอียงตัวต่ำ แต่พอรอบ 3 บินต่ำลงขนาดยอดต้นยูคาลิปตัสพร้อมกับยิงกระสุนปืนกลใส่รถยนตร์ของตน ซึ่งตนได้หมอบลง ขณะที่ลูกน้อง 2 คนต่างวิ่งหนีกันกระจัดกระจาย
"ผมไม่รู้ว่าเป้าหมายเขาต้องการยิงอะไร เพราะสวนแห่งนี้อยู่ห่างจากชายแดน 1 กิโลเมตร และฐานทหารของ KNU ก็อยู่ห่างลึกเข้าไปในพม่า หรือเขาเห็นรถผมเป็นสีส้มสะดุดตา”นายสายัณห์ กล่าว
นายสายัณห์ กล่าวว่า ภายหลังจากเหตุการณ์สงบลงได้เข้าไปดูความเสียหายที่รถยนต์ พบว่ามีรูกระสุนปืน 24 รู และได้แจ้งให้ประกันได้รับทราบซึ่งก็ยังไม่แน่ใจว่าจะได้รับค่าชดใช้หรือไม่ นอกจากนี้ยังได้แจ้งไปยังหน่วยงานต่างๆทั้งผู้ใหญ่บ้าน ทหารและตำรวจ นอกจากนี้ยังมีอีกหลายหน่วยงานเข้ามาสอบถาม แต่ไม่มีใครพูดถึงความเสียหายที่เกิดขึ้นว่าใครจะเป็นผู้ชดใช้
“ทุกครั้งผมมักเอาลูก 2 คนไปสวนด้วย และพวกเขามักนั่งเล่นโทรศัพท์อยู่ในรถ แต่โชคดีวันนี้เขาไปโรงเรียน ไม่เช่นนั้นคงตายกันหมด จริงๆแล้วช่วงนี้เขาก็ยิงกันแทบทุกวันในช่วงนี้ แต่มันอยู่ฝั่งโน้น เมื่อเกิดเหตุการณ์ยิงรถผม ทำให้ชาวบ้านรู้สึกกลัวว่าจะมีความผิดพลาดเกิดขึ้นอีกหรือไม่”นายสายัณห์กล่าว และว่าสถานการณ์ล่าสุดก็ยังคงมีเสียงปืนดังอย่างต่อเนื่องในฝั่งพม่า
-001
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี