เคาะวันซักฟอก19-22ก.ค./45ชม.
เปิดศึกซัดกัน4วัน
สภาโหวตคว่ำบัตร2ใบเบอร์เดียว
ใช้แบบเดิม2ใบคนละเบอร์
พท.จี้สส.-สว.ยึดหลักการ
ขู่สูตรปาร์ตี้ลิสต์จบที่ศาล
หน.กลุ่ม16เย้ยพท.พลาด
ปั่นแลนด์สไลด์ถูกพลิกเกม
“วิษณุ”ชี้โหวตสูตรปาร์ตี้ลิสต์ไหน ไม่มีใครติดคุก มั่นใจไม่มีเดดล็อก ถึงอย่างไรก็มีเลือกตั้ง แย้มกฎหมายระบุไว้ 3 ทางออก “ชัยวุฒิ” ยัน “บิ๊กตู่” ไม่ได้ทุบโต๊ะสั่งสูตรหาร 500 โต้“โทนี่” วิธีเลือกตั้งเป็นแค่ส่วนหนึ่ง ส่วนสำคัญอยู่ที่เจตจำนงปชช.“ธนกร” ป้อง นายกฯสั่งหาร 500 ไม่ได้ เป็นเรื่องของสภาฯต้องไปพิจารณากันเอง เหน็บ“ทักษิณ”อย่าเคยชินกับพฤติกรรมชี้นิ้วสั่งได้ “อัครเดช”ลั่นปชป.ไม่มีใครสั่งได้ กลับลำหนุนหาร 500 ยึดประโยชน์ชาติ “เพื่อไทย” ฟาดงวงฟาดงาหนัก ดักคอ“สส.-สว.”ยึดหลักการโหวต
คำนวณปาร์ตี้ลิสต์ อย่าปล่อย‘บิ๊กตู่’สั่งหาร 500 เย้ยถ้าทำขนาดนี้ยึดอำนาจแล้วไปเขียนเองเท่กว่ายืมมือสภาฯ ฝนยังไม่ทันตกอย่าเอาร่มไปกาง รัฐสภาคว่ำบัตร2ใบเบอร์เดียว 341ต่อ150คะแนน กลับไปใช้แบบเดิมบัตร2ใบ แต่คนละหมายเลข
เมื่อวันที่ 6 กรกฎาคม ที่ทำเนียบรัฐบาล นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์กรณีที่พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โฮชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม ย้ำกับแกนนำพรรคร่วมรัฐบาลในที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ให้สนับสนุนสูตรคำนวณสส.บัญชีรายชื่อด้วยการหาร500 ว่า ไม่ทราบ ตนไม่ได้อยู่ในช่วงที่เขาคุยกันในวงเล็ก ไม่ได้พูดในห้องประชุมครม.เมื่อถามว่า หากหาร500 จะมีช่องทางอย่างไรที่จะไม่ให้ผิดกฎหมาย นายวิษณุ กล่าวว่า มันอาจจะไม่ผิดเลยก็ได้ ตนไม่รู้ แต่ว่ามันคงต้องมีคนสงสัยอยู่ดี ผิดหรือไม่ผิดเราก็ไม่รู้ อย่าไปบอกว่าผิดแล้วทำอย่างไรจึงจะไม่ผิด มันอาจจะไม่ผิดก็ได้
‘วิษณุ’ชี้โหวตสูตรไหนก็ไม่มีใครติดคุก
เมื่อถามว่า บรรดาสส.ก็เป็นห่วงว่า หากลงมติโหวตหนุนหาร500 เขาอาจมีความผิด นายวิษณุ กล่าวว่า ไม่ขนาดนั้น แต่คงมีคนสงสัยส่งศาลรัฐธรรมนูญแน่ก็ไปว่ากันในชั้นศาล หากศาลบอกว่า อันไหนถูกอันไหนผิดก็ไม่ถึงขนาดใครมีความผิดถึงขั้นติดคุก ส่วนจะกระทบกับการประกาศใช้กฎหมายลูกหรือไม่นั้น นายวิษณุ กล่าวว่า แน่นอนหากมีการยื่นจะใช้เวลาอย่างน้อย 1เดือน เรื่องนี้ตนไม่จำเป็นต้องคุยกับนายกฯ เพราะเป็นเรื่องของรัฐสภา รัฐบาลไม่เกี่ยว ให้เขาว่ากันไป เมื่อถามว่า หากมีการยื่นศาลรัฐธรรมนูญจะชี้ชัดเลยหรือไม่ว่า จะใช้สูตรคำนวณ100หรือ500 นายวิษณุ กล่าวว่า ศาลอาจไม่รับไว้พิจารณาหรือรับไว้พิจารณาแล้วดูว่าเจตนารมณ์ หรือบทบัญญัติถ้อยคำในรัฐธรรมนูญ การใช้100 หรือ500หาร จะนำไปสู่ผลที่แตกต่างอย่างไรและวินิจฉัยว่า อันไหนถูกหรือผิด
เมื่อถามว่า สุดท้ายแล้วจะไม่นำไปสู่เดตล็อคในการเลือกตั้งใช่หรือไม่ รองนายกฯกล่าวว่า หากต้องเลือกตั้งโดยที่กฎหมายยังไม่ประกาศใช้ มันจะเกิดปัญหาเพราะยังไม่ประกาศใช้กฎหมายลูกแต่หากยังไม่มีการเลือกตั้งก็ไม่ถือว่า มีปัญหาอะไร
ไม่เกิดเดตล็อก-จัดเลือกตั้งได้แน่นอน
“ผมไม่เรียกว่าเดตล็อค เพราะมันมีทางออก แต่ไม่รู้ว่า อันไหนถูกหรือผิด แต่ถึงอย่างไรก็ต้องเลือกเอาอย่างหนึ่ง เช่น ออกเป็นพระราชกำหนด (พรก.) หรือออกเป็นประกาศคณะกรรมการการเลือกตั้ง หรือร้องขอต่อศาลรัฐธรรมนูญให้วินิจฉัย ซึ่งไม่มั่นใจว่าศาลจะรับหรือไม่ แต่มีคนแนะนำว่า ให้ขอคำแนะนำจากศาลว่า จะให้ทำอย่างไรมันมีอยู่ 3ทาง ถึงอย่างไรมันก็ได้เลือก เลือกไปก่อน ถูกหรือผิดก็ว่ากัน เชื่อว่า หากมีการเลือกตั้งโดยที่กฎหมายลูกยังไม่ประกาศใช้ แม้จะเสร็จแล้วก็ตามก็จะมีคนไปร้องศาลรัฐธรรมนูญ ยอมรับว่ายุ่ง แต่ไม่ถึงขึ้นเดตล็อค”
เมื่อถามว่า ทางออกที่กล่าวว่า ยังไม่ใช่ทางออกที่ดี เพราะต้องใช้งบประมาณไปกับการเลือกตั้งไปก่อน นายวิษณุ กล่าวว่า ใช่ ตนถึงบอกว่า มันมีเวลาที่จะไปร้องต่อศาลโดยยังไม่เสียงบประมาณในการจัดการเลือกตั้ง เช่น หากศาลกรุณาวินิจฉัยให้ได้โดยเร็ว หรือในรัฐธรรมนูญมาตรา104 ระบุว่า กรณีมีเหตุจำเป็นอันมิอาจหลีกเลี่ยงได้ เป็นเหตุให้ไม่สามารถจัดการเลือกตั้งตามที่ กกต.กำหนด กกต.จะกำหนดวันเลือกตั้งใหม่ก็ได้ภายใน 30วัน นับแต่วันที่เหตุนั้นสิ้นสุดลง ซึ่งถ้อยคำดังกล่าวอาเขียนไว้เผื่อสำหรับเหตุการณฺ์น้ำท่วมหรืออะไรในบางเขตเลือกตั้ง แต่หากเกิดปัญหาอย่างที่ว่า แล้วส่งเรื่องไปยังศาลรัฐธรรมนูญ แล้วประเมินว่า ศาลจะตัดสินได้เร็ว กกต.ก็อาจประกาศเลื่อน เพราะมีการเปิดช่องไว้ หากเป็นเช่นนี้ก็ไม่ต้องสูญเสียงบประมาณในการจัดการเลือกตั้ง แต่หากจะร้องก็ต้องร้องเร็วเพื่อให้เวลาศาล ไม่ใช่เลือกตั้งเสร็จแล้วไปร้อง เพราะก่อนการเลือกตั้งเราจะรู้แล้วว่า เลือกตั้งด้วยกฎหมายอะไร
‘ชัยวุฒิ’ยัน’บิ๊กตู่’ไม่ได้สั่งหนุนหาร500
นายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รมว.ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอีเอส) ในฐานะรองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) กล่าวถึงสูตรคำนวณ สส.บัญชีรายชื่อหาร100 หรือหาร500ว่า ขณะนี้มีสมาชิกพรรคการเมืองและสส.หลายพรรคการเมืองเห็นแตกต่างกัน เรื่องนี้เป็นเรื่องสำคัญ มีผลต่อการเลือกตั้งและมีผลต่อชีวิตนักการเมืองทุกคนว่าจะได้เป็นสส.หรือไม่ได้ เพราะมันคือกฎหมายเลือกตั้ง ทุกคนจึงให้ความสำคัญมาก เพราะเป็นชีวิตของเขาจะมาสั่งไม่ได้ ทุกคนต้องคิดแนวทางที่ดีที่สุด คิดว่าสุดท้ายเป็นเรื่องของแต่ละพรรคคิดกันตัดสินใจเอง อย่างไรก็ตาม เท่าที่ตนพูดคุยก็มีมติวิปอยู่ว่าอยากให้เป็นไปตาม กมธ.สำหรับตนเห็นว่าเป็นเรื่องสำคัญให้สิทธิ์สมาชิกแต่ละคนตัดสินใจ
ผู้สื่อข่าวถามว่า ขณะนี้ถูกมองว่านายกฯต้องการให้ใช้สูตรหาร500 นายชัยวุฒิ กล่าวว่า นายกฯไม่เคยพูด นายกฯบอกมาตลอดว่า เป็นเรื่องของสภาฯ ส่วน พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรณ รองนายกฯและหัวหน้าพรรค พปชร.ในความเป็นจริงก็ไม่ได้พูดชัดเจนจะเอาแบบไหน แล้วแต่ กมธ.แล้วแต่สส.ให้ไปคุยกัน ไม่ได้มีธงจะเอาแบบไหน ตนไม่เคยเห็นหัวหน้าพรรคพูดจะเอาแบบไหน เป็นเรื่องของกมธ.วิปรัฐบาลและพรรคการเมืองต่างๆจะต้องคุยกัน เมื่อถามถึงกรณี นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯระบุว่าไม่ว่าจะหารด้วยอะไร แม้สัดส่วนของพรรคเพื่อไทย (พท.) จะลดลง แต่พรรคก้าวไกล (ก.ก.) จะเพิ่มขึ้น ก็ยังมีจำนวนที่มากกว่าพรรค พปชร.อยู่ดี รองหัวหน้าพรรค พปชร.กล่าวว่า สิ่งที่นายทักษิณพูด ก็เป็นข้อเท็จจริงอย่างหนึ่งว่า การรับฟังคือการฟังเสียงของประชาชนว่า ประชาชนมีเจตจำนงอย่างไรว่า จะให้ใครมาเป็นตัวแทนทำงานในสภาฯ อยากให้ใครเป็นตัวแทนมาบริหารบ้านเมือง ซึ่งวิธีเลือกตั้งเป็นแค่ส่วนหนึ่ง แต่ส่วนสำคัญอยู่ที่เจตนารมณ์ของประชาชน ดังนั้นไม่ว่ากฎหมายจะเขียนอย่างไรต้องสะท้อนความต้องการของประชาชนให้ได้ ส่วนตัวคิดว่าขณะนี้เป็นเช่นนั้นอยู่แล้ว
เมื่อถามว่า ถึงอย่างไรก็ต้องส่งศาลรัฐธรรมนูญตีความใช่หรือไม่ นายวัยวุฒิ กล่าวว่า ก็ต้องรอให้ถึงตรงนั้นก่อน เพราะเราพูดไม่ได้ว่า ขัดหรือไม่ขัด ต้องให้ศาลรธน.ตัดสินและเดี๋ยวคงมีคนส่งศาล รธน.
สูตรไหนไม่สำคัญ-อยู่ที่ปชช.เลือก
ผู้สื่อข่าวถามว่า ไม่ว่าจะหาร100หรือหาร500 พรรค พปชร.ก็มีคะแนนเสียงที่มากอยู่ดีใช่หรือไม่ นายชัยวุฒิ กล่าวว่า ตนบอกแล้วว่าไม่เกี่ยวกับวิธีเลือกตั้ง อยู่ที่กระแสนิยมและเจตนารมณ์ของประชาชนที่จะสนับสนุนพรรคการเมืองใด วิธีเลือกตั้งเป็นเพียงกลไกหนึ่งที่ทำให้การเลือกตั้งบริสุทธิ์ยุติธรรม ให้คะแนนของประชาชนสะท้อนออกมาจริงมาสู่สภาฯ คือให้มีประชาธิปไตยที่แท้จริงเท่านั้น จะหาร100หรือ500 หรือ บัตรใบเดียวหรือสองใบ คนละเบอร์หรือเบอร์เดียวกัน ชาวบ้านก็เลือกถูกทั้งหมดนั่นแหละ ตนเองผ่านมาหมดแล้ว ชาวบ้านกาถูกหมด ไม่ต้องห่วง ถ้าเขาอยากเลือกก็เลือกอยู่แล้ว ถ้าเขาไม่เลือกเขาก็ไม่เลือก เพราะฉะนั้นอยู่ที่พวกเราอย่าไปคิดมาก
‘ธนกร’ป้อง’บิ๊กตู่’ไม่ได้สั่งหาร500
นายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีที่ นายทักษิณ ชินวัตร หรือโทนี วู้ดซัม อดีตนายกฯระบุว่า พล.อ.ประยุทธ์ ต้องทำงานแบบมียุทธศาสตร์ มอบหมายงานและมีการตอบกลับว่า แก้ไขยังไง ต้องมีการบ้านกลับมาคิดว่า นายทักษิณ อาจจะอยู่เมืองนอกนาน จึงไม่ทราบภารกิจของนายกฯในแต่ละวันนายกฯได้มอบหมายงานให้ทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องไปดำเนินการและนำกลับมารายงานทุกครั้ง เพียงแต่นายกฯไม่ต้องออกมาประกาศว่า ได้ทำอะไรไป หรือเคยทำอะไรไปบ้าง เพราะท่านไม่สนเกมการเมืองที่ต้องหาเสียง เรียกกระแสนิยม แต่ขอแก้ปัญหาความเดือดร้อนให้ประชาชนเต็มที่
สวนกลับ’ทักษิณ’ไม่ได้ชี้นิ้วสั่งการ
ส่วนกรณีที่ นายทักษิณ ระบุว่า นายกฯทุบโต๊ะสั่งให้เอาสูตรคำนวณ สส.บัญชีรายชื่อว่าจะหารด้วย 500 เพราะกลัวพรรคเล็กจับมือกับ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า หัวหน้าพรรคเศรษฐกิจไทย นายธนกร กล่าวว่า ไม่ว่าจะใช้สูตรหาร100หรือ500ก็ไม่เกี่ยวกับนายกฯ เป็นเรื่องที่สภาฯต้องไปพิจารณาร่วมกัน นายกฯ ไม่สามารถไปชี้นำหรือสั่งการได้ สมาชิกสภาฯทุกท่านล้วนมีคุณวุฒิ ไม่อยากให้ นายทักษิณ เอาความเคยชินที่คิดว่าทุกอย่างชี้นิ้วสั่งได้มาทึกทักจินตนาการเอง ทั้งนี้ ไม่ว่าพรรค พท.หรือพรรคก้าวไกลจะได้ สส.เท่าไหร่ก็เป็นเรื่องที่ประชาชนจะตัดสินใจ หากได้เกิน300อย่างที่พูดก็เพราะประชาชนเลือกและไว้วางใจ แต่ถ้าไม่ถึง300 ก็เพราะประชาชนให้บทเรียนที่ฝ่ายค้านไม่เคยทำหน้าที่ในสภาฯอย่างที่ควรจะเป็นเช่นกัน
‘อัครเดช’หนุนหาร500ยึดประโยชน์ชาติ
นายอัครเดช วงษ์พิทักษ์โรจน์ สส.ราชบุรี พรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) ในฐานะคณะกรรมาธิการ (กมธ.) วิสามัญพิจารณาร่างพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญ (พรป.) ว่าด้วยการเลือกตั้งสส.กล่าวว่า กรณีที่มีคนบอกว่า สูตรคำนวณสส.บัญชีรายชื่อด้วย500 แปลกและไม่มีที่ไหนใช้ ตนยืนยันว่า ไม่ใช่ระบบที่แปลก เพราะเป็นระบบที่คนร่างรัฐธรรมนูญ2560เอามาจากประเทศเยอรมัน แต่การเลือกตั้งปี2562ที่ใช้บัตรเลือกตั้งใบเดียวจึงกลายเป็นเยอรมันครึ่งใบและเป็นระบบที่แปลก ส่วนการคำนวณโดยใช้ระบบMMP หรือจัดสรรปันส่วนผสม คือมีบัตรเลือกตั้ง 2ใบและหาร500 จะทำให้การเลือกตั้งเป็นไปตามระบบเยอรมัน
เมื่อถามว่า สส.พรรคปชป.ที่เริ่มเห็นด้วยกับหาร500 มีประมาณกี่คน นายอัครเดช กล่าวว่า การประชุมพรรค เมื่อวันที่ 5ก.ค.ที่ผ่านมา มีเวลาประชุมน้อย จึงยังไม่มีมติว่า จะหาร100 หรือ500 ทั้งนี้ ตนสนับสนุนการฟรีโหวต แต่สุดท้ายขึ้นอยู่กับหัวหน้าพรรค เลขาธิการพรรค ประธานสส.และประธานวิปพรรคประชาธิปัตย์ ตนในฐานะกมธ.เสียงข้างน้อยจะโหวตสนับสนุนหาร500 เพราะได้สงวนความเห็นไว้ และพรรคประชาธิปัตย์ ไม่มีใครสั่งได้
เมื่อถามว่า ที่ผ่านมาพรรคปชป.เป็นต้นคิดแก้ไขรัฐธรรมนูญโดยกำหนดให้ใช้วิธีคำนวณสส.บัญชีรายชื่อด้วยการหาร100 แต่วันนี้มากลับลำเลือกใช้สูตรหาร500 นายอัครเดช กล่าวว่า หาก 8ญัตติที่พรรคปชป.เสนอไปผ่านรัฐสภาทั้งหมดก็จะไม่เกิดปัญหานี้ ปัญหาเกิดขึ้นเพราะผ่านมาแค่1ญัตติ จึงยังมีติ่งอยู่ ไม่ว่าจะหารด้วยอะไรก็ต้องส่งศาลตีความ สิ่งที่เราต้องยึด คือระบบไหนเป็นประโยชน์กับประเทศชาติมากกว่ากันและในรัฐธรรมนูญที่แก้ไขกำหนดว่าการคำนวณและการกำหนดวิธีการรายละเอียดให้ไปดูในร่าง พรป.ว่าด้วยการเลือกตั้งสส.จึงยังไม่ได้กำหนดว่าหาร100 หรือหาร500 ส่วนกฎหมายลูกที่ยื่นมาก็เป็นสิทธิของสมาชิกที่จะสงวนคำแปรญัตติหาร100 หรือหาร 500
‘หมอระวี’ชี้สูตรไหนก็ยื่นตีความในศาล
นพ.ระวี มาศฉมาดล สส.บัญชีรายชื่อและหัวหน้าพรรคพลังธรรมใหม่ กล่าวถึงทิศทางการโหวตวาระ2 ในร่างพรป.ว่าด้วยการเลือกตั้ง สส.ประเด็นการคำนวณสส.บัญชีรายชื่อแบบหาร100และหาร500 ว่า ตนขออธิบายว่าการหาร100และหาร500มีความแตกต่างกัน โดยการหาร100 คือการคิดเฉพาะสส.บัญชีรายชื่อ โดยเอาคะแนนทั้งประเทศมาหารด้วย100 จะเป็นคะแนนประมาณ 370,000คะแนนต่อ1สส.บัญชีรายชื่อ แต่การหาร500จะคิดสส.พึงมีบวกกับสส.บัญชีรายชื่อและนำคะแนนพรรคการเมืองทั่วประเทศ มาหารด้วยจำนวนส.ส.ทั้งสภาฯคือ500 ออกมาเป็นตัวเลขคือ คะแนนเฉลี่ยต่อ1สส.พึงมี แต่ยังไม่ใช่ สส.บัญชีรายชื่อ ซึ่งจำเป็นจะต้องคงมาตรา93และ 94 ที่ผ่านมาพรรคขนาดเล็กและพรรคขนาดกลางร่วมมือกันมาตลอดและคิดว่า มีแนวโน้มที่ดีในการหาร500 แต่วันนี้ไม่ใช่ตนจะแถลงประกาศชัยชนะ เพราะต้องรอให้ผ่านการโหวตวาระ3ไปก่อน เนื่องจากมีเกมการเมืองที่จะไม่ให้มาตรา23 เข้าสู่การพิจารณาในการประชุมรัฐสภา ดังนั้นจึงต้องรอดูว่า วันที่ 6กรกฎาคมนี้ จะมีเวลาพอหรือจะมีการเตะถ่วงอะไรหรือไม่
ผ่านวาระ3ส่ง3หน่วยงานพิจารณาต่อ
ส่วนกรณีที่ฝ่ายโหวตแพ้อาจจะยื่นศาลรัฐธรรมนูญหรือไม่นั้น นพ.ระวี กล่าวว่าหลังจากจบวาระ3ตามระเบียบสภาฯจะต้องส่งเรื่องให้3หน่วยงานที่เกี่ยวข้องคือ 1.ศาลรัฐธรรมนูญ 2.ศาลฎีกาและ3.คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ซึ่งจะใช้เวลา 10วันเพื่อตอบว่า เห็นชอบหรือขัดต่อกฎหมายรัฐธรรมนูญหรือไม่ หากมีองค์กรใดชี้ว่า ขัดต่อรัฐธรรมนูญต้องส่งกลับรัฐสภาเพื่อแก้ไขให้แล้วเสร็จภายใน 30วัน แต่ถ้าไม่ขัด ก็จะส่งให้รัฐสภา เพื่อส่งให้รัฐบาลและนายกฯมีเวลา 5วัน ก่อนจะนำขึ้นทูลเกล้า ซึ่งช่วง5วันนี้เป็นช่วงนาทีทองของฝ่ายที่โหวตแพ้ที่มีสิทธิ์ยื่นต่อศาลรัฐธรรมนูญ ดังนั้นเชื่อว่า ฝ่ายที่แพ้ไม่ว่าฝ่ายไหนคงจะมีการเตรียมการรองรับไว้แล้ว
ชี้หาร500รัฐบาล‘บิ๊กตู่’เข้มแข็งยิ่งขึ้น
เมื่อถามว่า หากหาร500ชนะ มองการเมืองข้างหน้าอย่างไร นพ.ระวี กล่าวว่า หากหาร500 ชนะการเมืองก็จะพลิกโฉม แต่ถ้าหาร100ชนะ กระแสแลนด์สไลด์จะสูงขึ้นและรัฐบาลก็จะอ่อนลง โดยเฉพาะพรรคพลังประชารัฐ(พปชร.)ที่มีการแบ่งเป็นกลุ่มต่างๆ แต่หากหาร500ชนะ คือ การส่งสัญญาณว่า พรรคร่วมรัฐบาลเอาจริงและพรรคพปชร.จะมีความมั่นคง รวมถึงการแสดงความสามัคคีของ3ป.ด้วย ส่วนพรรคเล็กในอนาคตคงมีไม่มากเหมือนปัจจุบัน ซึ่งอาจเหลือ6-7พรรค ไม่ใช่ 30-40พรรค อย่างที่เขาว่ากัน
เมื่อถามว่า ฝ่ายที่แพ้จะดึงเช็งให้เลื่อนการพิจารณาในมาตราที่เกี่ยวข้องกับการหาร100และหาร500 นั้น นพ.ระวี กล่าวว่า มีข่าวมาอย่างนั้น ซึ่งไม่เป็นอะไร ทุกอย่างต้องเป็นไปตามระบอบประชาธิปไตย การดึงเกมเป็นเรื่องธรรมดาเหมือนแข่งกีฬา ซึ่งเชื่อว่า คงดึงเกมไม่กี่วัน ทางรัฐสภาต้องหาวันประชุมในวันอื่น ซึ่งเป็นการเบรคเกมเสิร์ฟตามปกติ หากประชุมช่วงปลายเดือนก.ค.คงคิดว่า ทันใช้ในการเลือกตั้ง แต่จะมีการลงคะแนนอย่างไรนั้นต้องดูในวันโหวตจริง
เมื่อถามถึงพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ เปลี่ยนใจมาสนับสนุนการหาร500 นพ.ระวี กล่าวว่า ยืนยันว่า ไม่ใช่การต่อรองของกลุ่มพรรคเล็ก เพราะที่เราเข้าไปพบ พล.อ.ประวิตร เพื่อไปอธิบายว่า การหาร100ก็ผิดรัฐธรรมนูญเช่นกัน ซึ่ง พล.อ.ประวิตร ก็เข้าใจถึงจุดนี้ สำหรับท่าทีการโหวตของพรรคร่วมรัฐบาลนั้น ตนคิดว่า พรรค พปชร.และพรรคปชป.ที่เคยสนับสนุนการหาร100ก็จะเปิดฟรีโหวตเพื่อให้คนที่เคยออกตัวแรงสนับสนุนการหาร100 ได้ใช้สิทธิ์โหวตเต็มที่
‘พิเชษฐ’ชี้เร่งปั่นแลนด์สไลด์เจอพลิกเกม
นายพิเชษฐ สถิรชวาล สส.บัญชีรายชื่อ พรรคพปชร.ในฐานะหัวหน้ากลุ่ม16 กล่าวถึงวิธีคำนวณส.ส.บัญชีรายชื่อ ที่มีแนวโน้มสูงจะใช้วิธีหาร500 แทนหาร100 หลังจาก พล.อ.ประยุทธ์ แสดงท่าทีสนับสนุนว่า เหตุที่ทำให้วิธีคำนวณสส.บัญชีรายชื่อพลิกเป็นหารด้วย500 เพราะพรรค พท.เคลื่อนเรื่องกระแสแลนด์สไลด์แรงเกินไป ยิ่งผลโพลหลายสำนักมาสมทบกระแสแลนด์สไลด์ให้แรงยิ่งขึ้น จนหลายพรรคกลัว โดยเฉพาะพรรคร่วมรัฐบาลกลัวสอบตก ต้องมารวมตัวกันใช้สูตร500หาร ที่เห็นชัดคือพรรคประชาธิปัตย์ที่เป็นเจ้าของร่างแท้ๆและพรรคชาติไทยพัฒนา (ชทพ.) ก่อนหน้านี้ยืนยันสนับสนุนใช้ 100หาร แต่จู่ๆกลับลำใช้สูตร500หาร เพราะเห็นผลโพลแลนด์สไลด์ กลายเป็นเข้าทาง พล.อ.ประยุทธ์ ที่อยากใช้500 หารอยู่แล้ว ส่วน พล.อ.ประวิตร ก่อนหน้านี้แม้มีจุดยืนใช้100หาร แต่เกมมาเปลี่ยนหลังประชุมครม.วันที่ 5ก.ค.ที่ พล.อ.ประยุทธ์ เช็กชื่อแกนนำเรียงคน ทุกพรรคเอาหาร500หมด มีเพียง พล.อ.ประวิตร คนเดียวตอบใช้ 100หาร พรรคร่วมรัฐบาลไม่ฟัง พล.อ.ประวิตร เมื่อครม.ไม่เล่นด้วย พล.อ.ประวิตร ก็ต้องเลยตามเลย
และมองว่าพรรค พท.เร่งกระแสแลนด์สไลด์เร็วเกินไป ควรไปบูมหลังผ่านร่างพรบ.งบฯรายจ่ายปี2566และการอภิปรายไม่ไว้วางใจไปแล้ว แต่มาเร่งตั้งแต่ตอนนี้ จนทุกพรรคกลัวหมดหันมาจับมือกันไม่เอา100หาร ให้ตัวเองมีโอกาสมากขึ้น ถ้าไปเร่งกระแสแลนด์สไลด์ช่วงใกล้เลือกตั้งก็ไม่สายเกินไป งานนี้ทุกพรรคได้ประโยชน์หมด ยกเว้นพรรคพท.พรรคเดียวที่เสียประโยชน์ พล.อ.ประยุทธ์ ชนะเที่ยวนี้ เพราะพรรค พท.เดินเกมพลาดเอง
‘พท.’ดักคอ‘ส.ส.-ส.ว.’ต้องยึดหลักการ
ที่รัฐสภา สส.พรรคเพื่อไทย (พท.) นำโดย นายสมคิด เชื้อคง ส.ส.อุบลราชธานี นายศรัณย์ ทิมสุวรรณ ส.ส.เลย และนายองอาจ วงษ์ประยูร ส.ส.สระบุรี ร่วมแถลงกรณีที่วันนี้ (6ก.ค.) ที่ประชุมร่วมรัฐสภาจะลงมติร่าง พรป.ว่าด้วยการเลือกตั้งส.ส.โดยนายสมคิด กล่าวว่า วานนี้ (5 ก.ค.) เชื่อว่าหลายท่านคงได้ยินข่าว พล.อ.ประยุทธ์ สั่งการพรรคร่วมรัฐบาลและสว.ว่า จะใช้เสียงส่วนมากคำนวณสส.บัญชีรายชื่อ มาตรา23 ว่าจะใช้ 500หาร หากเป็นเช่นนั้นจริงแปลว่า ครม.ที่นำโดย พล.อ.ประยุทธ์ กลืนน้ำลายตัวเอง เพราะเป็นร่างที่ครม.นายวิเชียร ชวลิต สส.บัญชีรายชื่อ พรรคพลังประชารัฐ พรรคเพื่อไทย และพรรคก้าวไกล ล้วนหารด้วย100 ดังนั้น หาก พล.อ.ประยุทธ์ จะเอาหาร500แปลว่า หลักการออกกฎหมายในรัฐสภาไม่มีความหมายอะไรเลย คิดดูว่าประชาชนจะพึ่งพาอะไรได้ ตนอยากให้กระบวนการเริ่มต้นด้วยความถูกต้องก่อน ตนขอให้ สส. และสว.ยึดมั่นในหลักการ ตนยืนยันว่า เรื่องนี้ขัดรัฐธรรมนูญและขัดกฎหมายล้านเปอร์เซ็นต์
“นี่เป็นการดันทุรังถ้าคิดว่าผ่านไปได้ สุดท้ายก็ต้องไปศาลรัฐธรรมนูญ โดยที่พรรคเพื่อไทยไม่ต้องร้อง เพราะเป็นกติกาตามรัฐธรรมนูญ มาตรา132 หาก พล.อ.ประยุทธ์ ทำอย่างที่มีข่าวจริงจะยิ่งกว่ายึดอำนาจ แบบนี้บ้านเมืองจะไปไหวหรือ วันนี้พรรคการเมืองเกือบ 20พรรค ท่านยังวุ่นวายพอสมควร แล้วทำไมต้องกลับไปเป็นแบบนั้นอีก นายวิษณุ เครืองาม รองนายกฯ ก็ไม่ได้โง่ พรรคเพื่อไทยจึงไม่เห็นด้วยอย่างยิ่ง รัฐสภาแห่งนี้ถ้าไม่มีหลักการ อย่ามีรัฐสภาดีกว่า ยึดอำนาจไปเขียนเองทำเองเท่กว่าเยอะ อย่าใช้วิธียืมมือสภาแบบนี้ ไม่ถูกต้องอย่างยิ่ง ตอนนี้ยังไม่ทันเห็นฝนก็เอาร่มไปกางแล้ว” นายสมคิด กล่าว
โวยสกัดแลนด์สไลด์-สุดท้ายจบที่ศาล
นายสุทิน คลังแสง สส.มหาสารคาม รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย ในฐานะประธานคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมฝ่ายค้าน (วิปฝ่ายค้าน) กล่าวถึงกรณีมีกระแสรัฐบาลจะโหวตคำนวณสส.บัญชีรายชื่อด้วยการหาร500 ว่า ไม่มีเหตุผลอื่นนอกจากรัฐบาลคิดว่า พรรคเพื่อไทยจะได้เปรียบจากการหาร100 เท่านั้น แต่หาก พล.อ.ประยุทธ์ สั่งได้หมด ทั้ง สว.พรรคประชาธิปัตย์ พรรคภูมิใจไทยและพรรคร่วมรัฐบาล เราก็สู้ไม่ได้อยู่แล้ว เว้นแต่ว่า พล.อ.ประยุทธ์ จะสั่งไม่ได้ เมื่อถามว่าย้ำถึง พล.อ.ประยุทธ์ มีสัญญาณจะเอาหาร500 นายสุทิน กล่าวว่า เขาก็คิดบนฐานว่าใครจะได้เปรียบเสียเปรียบ ถ้าหาร500 พรรคเพื่อไทยก็เสียเปรียบ ถ้าหาร 100 พรรคเพื่อไทยก็ได้เปรียบ พล.อ.ประยุทธ์ ก็สั่งบนฐานความคิดนี้ ไม่ได้คิดถึงเรื่องระบบที่ดีของประเทศในอนาคต และไม่ได้คิดว่าจะขัดรัฐธรรมนูญหรือไม่ ซึ่งเขาคงไม่คิดถึงทางข้างหน้า หากกฎหมายผ่านการพิจารณาในเรื่องการหาร 500ก็ต้องไปถึงศาลรัฐธรรมนูญ เพื่อให้มีความเห็นในเรื่องนี้ หากขัดรัฐธรรมนูญชัดเจน ศาลรัฐธรรมนูญจะว่าอย่างไรตนเชื่อว่า พล.อ.ประยุทธ์ ยังไม่คิดในเรื่องนี้
ลั่นพรรคเพื่อไทยแพไม่แตกแน่นอน
“นายกฯคิดอย่างเดียวว่า ทำอย่างไรเพื่อสกัดพรรคเพื่อไทย ซึ่งไม่มีอะไรมากและผมไม่เชื่อว่าหากชนะการหาร500แล้วพรรคร่วมรัฐบาลจะแข็งแกร่งมากขึ้นและพรรคฝ่ายค้านจะไหลออก เพียงแต่ว่าให้พรรคร่วมที่อยู่ในช่วงกระแสตกมีความหวังขึ้นเพื่อให้มีพลังเกาะเกี่ยวเหนี่ยวนำกันไปได้ต่อ หากหาร 100 อาจจะแพแตกตั้งแต่วันพรุ่งนี้เลยก็ได้ เพราะเขาทราบดีว่า ประชาชนไม่นิยม จึงต้องใช้แทคติกการเลือกตั้งช่วย” นายสุทิน กล่าว เมื่อถามว่าหากหาร500 พรรคเพื่อไทยจะแพแตกหรือไม่ นายสุทิน กล่าวว่า ไม่แตก เพราะเชื่อว่าเราไม่ได้มีความคิดว่า ต้องอาศัยเทคนิคการเลือกตั้ง เพราะเรายืนบนฐานประชาชนเป็นที่ตั้ง
รัฐสภาลงมติคว่ำบัตร2ใบเบอร์เดียว
วันเดียวกัน เวลา 10.00น.ที่รัฐสภา มีการประชุมร่วมรัฐสภา เพื่อพิจารณาร่างพรป.ว่าด้วยการเลือกตั้งสส.ที่คณะกรรมาธิการ(กมธ.)วิสามัญฯรัฐสภา พิจารณาเสร็จแล้ว ต่อเนื่องเป็นวันที่สอง มี นายชวน หลีกภัย ประธานรัฐสภา ทำหน้าที่ประธาน ซึ่งได้เริ่มต้นพิจารณาลงมติ มาตรา6/3 ที่กมธ.เสียงข้างน้อยเสนอเพิ่มขึ้นใหม่ ให้บัตรเลือกตั้ง2ใบ ทั้งสส.เขตและบัญชีรายชื่อ ใช้หมายเลขเดียวกัน เพื่อไม่ให้ประชาชนสับสน จากเดิมกมธ.เสียงข้างมากเสนอให้ใช้บัตรเลือกตั้ง2ใบ แต่เป็นคนละเบอร์ ปรากฏว่า สมาชิกรัฐสภาลงมติไม่เห็นด้วยกับข้อเสนอกมธ.เสียงข้างน้อย ด้วยคะแนน341ต่อ150 งดออกเสียง5 ไม่ลงคะแนน3 ส่งผลให้ยังคงใช้วิธีมีบัตรเลือกตั้ง 2ใบ แต่คนละหมายเลข จากนั้นที่ประชุมได้พิจารณาเรียงรายมาตรา นอกจากนี้ ที่ประชุมลงมติยืนตาม กมธ.คือ ห้ามมิให้ผู้สมัครกระทำการจูงใจให้ผู้มีสิทธิเลือกตั้งลงคะแนนให้ตนเองหรือผู้อื่นด้วยการสัญญาจะให้ทรัพย์สิน เงินทอง การสัญญาว่าจะให้ การจัดมหรสพงานรื่นเริงต่างๆ ด้วยคะแนน 401ต่อ78 งดออกเสียง6 ไม่ลงคะแนน3เสียง
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี