‘นักสู้ปอสี่’ประกาศลั่นเตรียมเปิด‘หมู่บ้านเทิดไท้องค์ราชัน’ภาคอีสานครบทุกจังหวัด เปลี่ยนจาก‘หมู่บ้านเสื้อแดง’เป็น‘หมู่บ้านเทิดไท้องค์ราชัน’ เล่าย้อนความหลังที่มาถูกสวมภาพล้มสถาบัน
19 กรกฎาคม 2565 ที่บ้านท่าโฮง ต.ท่าศิลา อ.ส่องดาว จ.สกลนคร นายอานนท์ แสนน่าน ประธานหมู่บ้านเทิดไท้องค์ราชัน , นางนิตยา นาโล หรือ “นักสู้ปอสี่” ประธานหมู่บ้านเทิดไท้องค์ราชันภาคอีสาน พร้อมด้วย นายพงศ์พัฒ รุ่งเรือง รองประธานภาค , นายเพ็รชพรรณ จันทเกตุ รองประธานภาค , นายชำนาญ แสงงามซึ้ง รองประธานภาค , น.ส.กัญญ์ชลิดา แก่นท้าว ประธานหมู่บ้านเทิดไท้องค์ราชันจังหวัดสกลนคร และประชาชนชาวอำเภอส่องดาว ร่วมกิจกรรมเปิด “หมู่บ้านเทิดไท้องค์ราชัน” ตามแนวทางของ “แรมโบ้อีสาน” นายเสกสกล อัตถาวงศ์ อดีตผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำนายกรัฐมนตรี ที่ต้องการให้ประชาชนที่อยู่ตามหมู่บ้าน ชนบท และอดีตหมู่บ้านเสื้อแดง แสดงพลังเปิดเป็น “หมู่บ้านเทิดไท้องค์ราชัน” ไปทั่วทุกภูมิภาคของประเทศไทย เพื่อเป็นการแสดงออกเชิงสัญลักษณ์ที่มีความจงรักภักดีต่อ ชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ และ ประชาชน ตามสโลแกนที่ว่าอยู่อย่างจงรัก ตายอย่างภักดี
นางนิตยา กล่าวว่า อดีตที่ผ่านมาตนคือประธานหมู่บ้านเสื้อแดงภาคอีสาน และการเปิดหมู่บ้านเทิดไท้องค์ราชัน เราต้องการจะให้อดีตหมู่บ้านเสื้อแดง มาประกาศตนเป็นหมู่บ้านที่มีความจงรักภักดีต่อสถาบัน ชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ ซึ่งที่ผ่านมาเราจะถูกประณามและถูกว่ากล่าวจากประชาชนทั่วๆไปว่าหมู่บ้านเสื้อแดง คือ หมู่บ้านล้มเจ้า ที่เราเคยกระทำมาต้องดำเนินการแก้ไข เพราะตลอดระยะเวลาที่ผ่านมาพวกเราเองไม่เคยคิดจะล้มเจ้า ล้มสถาบันแต่อย่างใด
“แต่มีวิทยากรที่มาร่วมเดินสายเปิดหมู่บ้านกับพวกเรานำเอาคำพูดต่างๆมาปลูกฝังชาวบ้าน จนตนเองทราบพฤติกรรมต่างๆ จึงต่อต้านและเกิดการทะเลาะกันเกิดขึ้นในช่วงปลายปี 2555 เราจึงได้เปลี่ยนมาเป็นหมู่บ้านที่ส่งเสริมอาชีพเกษตรกรและประชาชนรากหญ้ามาก่อตั้งเป็น “กลุ่มวิสาหกิจชุมชน” เดินตามแนวปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ จาก ร.9-ร.10” นางนิตยา กล่าว
นางนิตยา กล่าวด้วยว่า กระทั่งปี 2557 ได้ยกฐานะจากหมู่บ้านเสื้อแดงมาเป็น “หมู่บ้านวิสาหกิจชุมชน” จนถึงปัจจุบัน แม้วิกฤตเศรษฐกิจไวรัสโควิด-19 ระบาดไปทั่วโลก แต่กลุ่มวิสาหกิจชุมชน ของพวกเราก็สามารถช่วยเหลือตนเองได้ จึงอยากจะให้อดีตหมู่บ้านเสื้อแดง และหมู่บ้านอื่น ๆ มีแนวคิดในการจัดตั้งกลุ่มวิสาหกิจชุมชน ตามศาสตร์พระราชาเศรษฐกิจพอเพียงตามรอยเท้าพ่อ
นางนิตยา กล่าวอีกว่า เราได้รับแนวทางจาก นายเสกสกล อัตถาวงศ์ หรือ “แรมโบ้อีสาน” อดีตผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำนายกรัฐมนตรี ที่ต้องการสลายความเป็นสีเสื้อจะไม่ให้มี เสื้อสีแดง เสื้อสีเหลือง หรือเสื้อสีน้ำเงิน จะมีเพียงเสื้อสีเดียวนั่นก็คือ “สีแห่งความจงรักภักดีต่อ ชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์” พร้อมกับต้องการจะส่งเสริมอาชีพ สร้างรายได้ให้กับประชาชน ให้กระจายการเปิดหมู่บ้านเทิดไท้องค์ราชัน ไปทั่วทุกภูมิภาค โดยเฉพาะภาคอีสานทั้ง 20 จังหวัด
“ตอนนี้ทางเราได้ให้ประธานแต่ละจังหวัดทุกจังหวัดประสาน ประธานอำเภอ ประธานตำบล และประธานหมู่บ้านดำเนินการเปิดกันเอง เหมือนกับการเปิดหมู่บ้านแผ่นดินธรรมแผ่นดินทองก่อนปักป้ายหมู่บ้านเราให้ปราชญ์ชาวบ้านมาพูดคุยกับประชาชนถึงความเป็นมาของ “แผ่นดินไทย ถ้าไม่มีกษัตริย์ไทย จะมีแผ่นดินไทยมาจนถึงวันนี้ได้อย่างไร” หลังจากนั้นก็ให้ตัวแทนกลุ่มวิสาหกิจชุมชน มาพูดถึงการนำเอาหลักการปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง มาดำเนินการใช้ในชีวิตจริงว่าประสบผลสำเร็จอย่างไรและจะต้องต่อยอดอย่างไรให้มั่นคง มั่งคั่ง และ ยั่งยืน ต่อไป” นางนิตยา กล่าว
-005
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี