ส.ส.ก้าวไกล‘จิรัฏฐ์’ขุด 13 ปีเครื่องตรวจจับระเบิด GT200 อาถรรพ์ไม้ล้างป่าช้าถล่ม"พี่น้อง 3 ป." ซัดคนซื้อได้เป็นรัฐมนตรี ส่วนกลุ่มคนขายยังได้ดีรับงานกองทัพต่ออีก 8,000 ล้านบาท
เมื่อเวลา 19.37 น. วันที่ 20 ก.ค. ที่รัฐสภา ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร วาระพิจารณาญัตติขอเปิดการอภิปรายทั่วไป เพื่อลงมติไม่ไว้วางใจรัฐมนตรีเป็นรายบุคคลตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 151 จำนวน 11 คนต่อเป็นวันที่สองนั้น
นายจิรัฏฐ์ ทองสุวรรณ์ ส.ส.ฉะเชิงเทรา พรรคก้าวไกล อภิปรายไม่ไว้วางใจพล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และพล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทย กรณีการจัดซื้อเครื่องตรวจสอบวัตถุระเบิด GT-200 ที่ไม่สามารถใช้งานได้จริงว่า คดี GT-200 ถือเป็นมหกรรมการทุจริตครั้งใหญ่ในประวัติศาสตร์ เกิดขึ้นในช่วง 2549-2552 จากการจัดซื้อจัดจ้างเครื่องค้นหาวัตถุระเบิดและสารเสพติดต่างๆ ที่ต่อมาถูกแหกว่าไร้คุณภาพ จนมีการให้ฉายาความห่วยแตกว่าไม่ต่างอะไรกับไม้ล้างป่าช้า
ส่วนสาเหตุที่สังคมไทยไม่ลืมเรื่องค่าโง่ GT-200 ทั้งที่ผ่านมาแล้ว 13 ปี ก็เพราะยังคงมีคำถามที่ยังไม่เคยได้รับคำตอบว่า ใครต้องรับผิดชอบจากการจัดซื้อเครื่อง GT-200 ปัญหาสำคัญของการจัดซื้อเครื่องนี้ไม่ได้เป็นเพียงแค่การทุจริตที่ทำให้ประเทศชาติสูญเงินฟรีนับพันล้าน แต่ยังเป็นต้นเหตุที่ทำให้ทหารและพลเรือนหลายคนได้รับบาดเจ็บจากเหตุระเบิด เพราะเครื่องที่ใช้การไม่ได้ ทั้งยังทำให้ผู้บริสุทธิ์นับร้อยรายต้องโดนละเมิดสิทธิมนุษยชนจากการโดนคุมขัง ดำเนินคดี เพราะเครื่องชี้ผิดชี้ถูก ดังนั้นเรื่องนี้มันไม่ใช่แค่เพียงได้เงินคืนแล้วจบ แต่ต้องมีการเอาผิดไปถึงผู้ที่อนุมัติการซื้อเครื่องนี้เข้ามา เพราะมันได้ทำร้ายชีวิตของผู้คนไปมากมาย
นายจิรัฏฐ์ กล่าวต่อว่า คดีนี้เพิ่งมีความคืบหน้าไปอีกขั้น เมื่อวันที่ 28 มี.ค. 2565 อัยการสูงสุด โดยอัยการศาลทหารกรุงเทพ ได้ยื่นฟ้องทหารจำนวน 22 คน ในข้อหาว่ากระทำผิดฐานเป็นเจ้าพนักงานร่วมกันปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ จากกรณีที่กองทัพบกสั่งซื้อ GT-200 เป็นจำนวน 12 สัญญา ทั้งหมด 757 เครื่อง รวมเป็นเงินทั้งสิ้น 682,600,000 บาท สำนวนนี้รับต่อจากป.ป.ช. ที่มีมติชี้มูลความผิดทหารทั้ง 22 นาย แต่ประเด็นสำคัญคือ คดีนี้กลับชี้ไปไม่ถึงผู้มีส่วนสำคัญในการอนุมัติเลย ทั้งที่ GT-200 เกือบทั้งหมด ถูกอนุมัติสั่งซื้อโดยพล.อ.อนุพงษ์ ผบ.ทบ.ขณะนั้น ร่วมกับพล.อ.ประวิตร รมว.กลาโหมขณะนั้นโดยการสั่งซื้อครั้งที่ 11 พบว่าเสนาธิการทหารบกผู้รับคำสั่งจาก ผบ.ทบ. ให้เซ็นอนุมัติซื้อ มีชื่อว่า พล.อ.ประยุทธ์ กระบวนการจัดซื้อจัดจ้างทั้ง 12 สัญญา ซึ่ง ป.ป.ช. ถืออยู่มา 10 ปีแล้ว คำถามคือทำไมชื่อเหล่านี้หายไป คดีนี้มองมุมไหนก็ส่อเค้าทุจริตและพล.อ.อนุพงษ์และพล.อ.ประวิตรต้องรับผิดชอบด้วย แต่สาเหตุที่ไม่สามารถนำไปสู่การชี้มูลความผิดได้ เพราะ ป.ป.ช. ซึ่งรู้กันว่ามีที่มาเกี่ยวข้องกับการรัฐประหารเพิกเฉยในการทำหน้าที่จึงไม่สามารถไปสู่การดำเนินคดีต่อได้
"คดีนี้ป.ป.ช.ไม่แจ้งข้อกล่าวหารมว.กลาโหม ผู้มีอำนาจอนุมัติจัดซื้อในการจัดซื้อ ผู้บัญชาการทหารบกผู้มีอำนาจอนุมัติจัดซื้อในการจัดซื้อ อัยการสูงสุดจึงไม่มีอำนาจพิจารณาการกระทำความผิดของบุคคลดังกล่าวได้ นอกจากกรณีที่คนเซ็นอนุมัติไม่ต้องรับผิดชอบแล้ว ภายหลังการรัฐประหารโดยพล.อ.ประยุทธ์ การหาความจริงในคดีนี้จากหน่วยงานตรวจยิ่งหายไปเลย ขณะที่เมื่อหันไปดูฝั่งผู้ขาย คือ Avia Satcom ซึ่งขาย GT-200 ให้กับทุกหน่วยงานในกองทัพ รวมถึงกองทัพบกที่อ้างมาตลอดว่าโดนหลอก พบว่ากว่าจะดำเนินคดีกับ 18 มงกุฏที่มาหลอกได้ ใช้เวลาคิดอยู่ 7 ปี โดยเพิ่งจะยื่นฟ้องเมื่อปี 60 คดีถึงที่สิ้นสุดในปี 65 ศาลปกครองลงโทษให้กรรมการหนึ่งคนของ เอวิเอ แซทคอม ต้องชดใช้เงิน 683 ล้านพร้อมดอกเบี้ย แต่ต่อมาศาลได้ให้ประกันตัวและได้ข่าวว่าย้ายไปอยู่อังกฤษนานแล้วจึงไม่รู้ว่าถึงชนะจะได้เงินคืนหรือไม่" นายจิรัฏ กล่าว
และว่า สิ่งที่น่าสนใจคือ แม้กองทัพจะอ้างว่าโดน Avia Satcom หลอก แต่กลับพบว่า หลังการรัฐประหาร 57-65 บริษัทในก๊วนเดียวกันกับเครือนี้ยังคงได้รับการประเคนงานจากกองทัพและกระทรวงกลาโหมอย่างต่อเนื่องคิดเป็นมูลค่าประมาณ 8,000 ล้านบาท และโครงการเกือบทั้งหมด เป็นการจัดซื้อจัดจ้าง โดยวิธีพิเศษ ไม่มีการประมูลและสืบราคา และประเด็นสำคัญคือประธานอาวุโสของ Avia Satcom คือคีย์แมนคนสำคัญในการรัฐประหาร 49 และเป็นเพื่อนเตรียมทหารรุ่น 6 รุ่นเดียวกับ พล.อ.ประวิตร มีผลงานเด่นๆเช่น นำเข้าฝูงบินกริพเพนที่ราคาแพงเกินจริง โครงการจัดซื้อโดรนต่างๆ ความปลอดภัยไซเบอร์
"หลังรัฐประหารเคยได้เป็นทั้ง สนช.,รองปลัดกระทรวงกลาโหม ประธาน กสทช. ควบตำแหน่ง ผ.อ. สถาบันเทคโนโลยีป้องกันประเทศ ที่มีโครงการทำวิจัยภายใต้ข้อตกลงรูปแบบความร่วมมือมากมายกับ Avia Satcom ซึ่งเป็นบริษัทตัวเอง ด้วยเหตุผลล้านแปด ผมไม่สามารถไว้วางใจ พล.อ.ประยุทธ์ พล.อ.ประวิตร และพล.อ.อนุพงษ์ ให้บริหารราชการแผ่นดินต่อไป ขอให้พวกท่านไม่ไปดี ไม่เจอสุคติ และไม่ต้องคาดหวังจะได้รับการอโหสิกรรมจากพวกเรา” นายจิรัฏฐ์ กล่าว
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี