เมื่อวันที่ 2 สิงหาคม 2565 นายอัษฎางค์ ยมนาค นักประวัติศาสตร์ โพสต์เฟซบุ๊ก “เอ็ดดี้ อัษฎางค์ ยมนาค” ระบุข้อความว่า เสื้อแดง สามกีบ สองมาตรฐาน

“คนทำผิดไม่พูดถึง พูดถึงแต่คนไม่ได้ทำผิด”

อธิบายกันเป็นมารอบที่ร้อย แต่ยังคงวนลูบพูดแบบเดิมเหมือนแผ่นเสียงตกร่อง ไม่ยอมก้าวผ่านเรื่องที่คิดและพูดผิดๆ อยู่เหมือนเดิม ซึ่งนั้นคือ….

หากมีการปฏิวัติหรือรัฐประหาร แล้วกระทำการไม่สำเร็จ คณะปฏิวัติหรือคณะรัฐประหารจะกลายเป็น กบฏ ซึ่งมีความผิดตามกฎหมาย เป็นกบฏ เป็นโจรปล้นชาติ

แต่ถ้าการปฏิวัติหรือรัฐประหารก่อการยึดอำนาจสำเร็จ ในทางปฏิบัติคือว่า คณะก่อการเป็นรัฏฐาธิปัตย์ ได้ทันทีโดยที่ไม่ต้องประกาศใดๆ

รัฏฐาธิปัตย์ คือ ผู้มีอำนาจสูงสุดของรัฐ และเป็นอำนาจสูงสุดของรัฐที่จะใช้บังคับบัญชาภายในอาณาเขตของตน

รัฏฐาธิปัตย์ คือผู้กุมอำนาจอธิปไตย จึงทำให้มีอำนาจเหนือพระมหากษัตริย์ เหนือรัฐธรรมนูญ เหนือประชาชน

ตัวอย่างเช่น คณะราษฎร์ ก่อการปฏิวัติยึดอำนาจจากพระมหากษัตริย์เปลี่ยนแปลงการปกครองสำเร็จ หรือ คสช.ก่อการรัฐประหารยึดอำนาจจากรัฐบาลเป็นผลสำเร็จ คณะราษฎร์และ คสช. จึงเป็น รัฏฐาธิปัตย์ คือผู้กุมอำนาจอธิปไตย ซึ่งเป็นอำนาจสูงสุด

คณะราษฎร์ยึดอำนาจมาจากพระมหากษัตริย์ เชิดชูกันว่า ทำเพื่อชาติและประชาชน แล้ว คสช.ยึดอำนาจจากรัฐบาลที่ศาลถูกตัดสินว่าผู้นำรัฐบาลทำผิดกฎหมาย ทำไมไม่บอกว่า คสช.ทำเพื่อชาติและประชาชน

เลิกบิดเบือนข้อเท็จจริง เกี่ยวกับ คสช.เสียที แล้วหันมาสนใจข้อเท็จจริงเรื่องโจรปล้นสมบัติของชาติกันดีกว่า เพราะหลายคดี กระบวนการยุติธรรมตัดสินความผิดและคดีสิ้นสุดลงแล้ว แต่ยังไม่สามารถเอาผู้กระทำผิดมาลงโทษได้ ในขณะที่ยังมีอีกหลายคดีอยู่ในกระบวนการยุติธรรม

ไปตามจี้คดีปล้นชาติและคดีคิดล้มเจ้าซึ่งก็คือการคิดล้มล้างการปกครองที่ยังค้างอยู่ดีกว่า ว่ามีหลักฐานเอาผิดได้หรือไม่

เมื่อไหร่จะก้าวข้าม เมื่อไหร่จะเลิกเห็นผิดเป็นชอบกันเสียที ประเทศชาติจะล่มจมหรือการพัฒนาต้องหยุดชะงักก็เพราะประชาชนที่ไม่สามารถแยกแยะผิดชอบชั่วดี ไม่รู้ว่า อะไรคือผิด ไม่รู้อะไรคือถูก

- 004