สุมหัวล้มประชุม-ทำแท้งก.ม.ลูก
สภาล่มตามคาด
‘สส.-สว.’หายหัวไม่เข้าประชุม
คืนชีพสูตรปาร์ตี้ลิสต์หาร 100
สว.สมชายชี้เส้นตายเที่ยงคืน 14 ส.ค.
กฎหมายลูกครบกำหนด 180 วัน
‘บิ๊กตู่’ลั่นสูตรไหนรับได้ทั้งหมด
องค์ประชุมครบ!ถกร่วมรัฐสภาร่างพ.ร.บ.ยุติธรรมฯ-ร่างก.ม.ลูกเลือกตั้งสส.“ชวน”แจ้งมีสมาชิกลาพิเศษ 32 คน ติดเชื้อโควิด 4 คน และลาไม่ได้เจ็บป่วย 28 คน ก่อนโหวตผ่าน พ.ร.บ.ยุติธรรมฯ จากนั้นถกร่างก.ม.ลูกเลือกตั้ง สส.ต่อวาระ 2-3
“ผู้นำฝ่ายค้าน”เปิดฉากตีรวน ชงนับองค์ประชุม หวังคว่ำแต่ไก่โห่ พร้อมประกาศ“เพื่อไทย” ไม่ร่วมสังฆกรรม ขณะที่ปชป.-ภท.ประสานเสียงยึดข้อบังคับ ลุยลงมติเรียงรายมาตราตามข้อบังคับ“เต้”ลั่นพ้นเที่ยงคืน 23 สิงหาคมหมดเวลา 8 ปี “บิ๊กตู่”
เซ็นอะไรไม่ได้ ดัน’บิ๊กป้อม’นั่งรักษาการ นายกฯโดยตำแหน่ง เหน็บถ้าอยากให้ เป็นต่อ ให้แก้รธน.รัฐบาล-ฝ่ายค้าน ล่นเกมฝุ่นตลบ‘เพื่อไทย’ชงขานเช็คชื่อรายตัว หวั่นกดบัตรแทนกัน แต่สมาชิกแสดงตนเหลือๆ 403คน พอลงมติโหวตมาตรา24/1 หายหัวไม่ยอมเข้าห้องประชุมจนสภาฯล่มตามคาด ส่งผลร่างกม.ลูก มีแนวโน้มพิจารณาไม่เสร็จภายในกำหนด180วัน คือ15สิงหาคมนี้
เมื่อเวลา 09.00น.วันที่ 10สิงหาคม ที่รัฐสภา มีการประชุมร่วมกันของรัฐสภา ครั้งที่13 สมัยสามัญประจำปีครั้งที่หนึ่ง โดยมีวาระพิจารณาเรื่องที่คณะกรรมาธิการพิจารณาแล้วเสร็จ คือร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) กำหนดระยะเวลาดำเนินงานในกระบวนการยุติธรรม พ.ศ.....และร่างพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญ (พรป.) ว่าด้วยการเลือกตั้งส.ส.ที่จะพิจารณาตามลำดับ ซึ่งเมื่อถึงเวลานัดประชุม 09.00น.มีสมาชิกรัฐสภาลงชื่อเข้าร่วมประชุม 147คน แบ่งเป็น สว.78คนและสส.69คน จากสมาชิกรัฐสภาทั้งหมด 727 คน กระทั่งเวลา 09.46น.จึงมีจำนวนสมาชิกรัฐสภาลงชื่อเข้าร่วมประชุม 368คน ถือว่าครบองค์ประชุม
‘ชวน’แจ้งจำนวนผู้ร่วม-ลาประชุม
จากนั้นนายชวน หลีกภัย ประธานรัฐสภา ทำหน้าที่ประธานที่ประชุมได้สั่งเปิดการประชุมและแจ้งต่อที่ประชุมว่า วันนี้มีสมาชิกรัฐสภาลาพิเศษ 32คน ลาเพราะติดเชื้อโควิด 4คนและลาที่ไม่ได้เจ็บป่วย 28 คน จึงแจ้งให้ที่ประชุมรับทราบ เหนือสิ่งอื่นใดต้องขอขอบคุณเพื่อสมาชิกที่กรุณามาประชุม อย่างน้อยร่างกฎหมายที่เราเห็นว่าเป็นประโยชน์ ซึ่งเหลืออยู่ 5มาตรา จะได้ผ่านไปได้ จากนั้น ที่ประชุมได้เข้าสู่ระเบียบวาระการประชุม เพื่อพิจารณาร่างพรบ.กำหนดระยะเวลาดำเนินงานในกระบวนการยุติธรรม พ.ศ.....ในมาตรา8 ต่อจากการประชุมครั้งที่ผ่านมา จากนั้น ที่ประชุมได้พิจารณาต่อในมาตรา9 ของร่างพรบ.กำหนดระยะเวลาดำเนินงานในกระบวนการยุติธรรม พ.ศ..ที่ประชุมพิจารณากฎหมายฉบับนี้ในมาตราที่เหลือไปอย่างราบรื่นและครบทั้ง 12มาตรา
เวลา 10.38น.ที่ประชุมได้ลงมติเห็นชอบในวาระ3 โดยมีเสียงส่วนใหญ่เห็นด้วย442 ไม่เห็นด้วย 6 เสียง งดออกเสียง 2 เสียงและไม่ลงคะแนน 6เสียง ถือว่าที่ประชุมเห็นชอบกับร่าง พรบ.ฯฉบับนี้
รัฐสภาถกร่วมร่างกม.ลูกวาระ2-3
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เวลา10.45น.ที่ประชุมได้เริ่มเข้าสู่วาระการพิจารณา ร่าง พรป.ว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส.โดยก่อนที่ประชุมร่วมกันของรัฐสภาจะเข้าสู่วาระการพิจารณา ปรากฏว่า นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว ส.ส.น่าน หัวหน้าพรรคเพื่อไทย (พท.) ในฐานะผู้นำฝ่ายค้าน เสนอญัตติขอนับองค์ประชุมก่อนที่จะมีการพิจารณาร่างกฎหมายลูกฉบับดังกล่าว เนื่องจากเป็นกฎหมายสำคัญ อีกทั้งแจ้งให้ทราบว่า สส.ของพรรคเพื่อไทยจะไม่อยู่ร่วมสังฆกรรม ไม่ขออยู่ในห้องประชุม เพื่อพิจารณากฎหมายเรื่องนี้
‘ครูมานิตย์’ท้ามีการครอบงำหรือไม่
นายครูมานิตย์ สังข์พุ่ม สส.สุรินทร์ พรรคเพื่อไทย (พท.) อภิปรายว่า การที่ร่างพรป.ว่าด้วยการเลือกตั้งส.ส. เข้าสู่ที่ประชุมรัฐสภา หลังการอภิปรายไม่ไว้วางใจ เป็นเหตุให้มีการเปลี่ยนวิธีคำนวณส.ส.บัญชีรายชื่อ จากหาร 100 เป็นหาร 500 เหมือนอยากเห็นพรรคส่วนเกิน พรรคเล็ก พรรคน้อยเดินกันเป็นพรวน และขอชื่นชมคนเสนอญัตติเปลี่ยนเป็นวิธีหาร 500 ชื่อวีๆ มาศๆ ที่มีส.ส.บัญชีรายชื่อคนเดียว ได้คะแนนมา 35,000 คะแนน แต่กลับมามีบารมีในสภา ถ้าไม่มีเบื้องหลังการถ่ายทำ เรื่องแบบนี้คงไม่เกิดขึ้นในรัฐสภา กล้าไปสาบานวัดพระแก้วหรือไม่ว่า ไม่มีกลุ่มคนมาแทรกแซงหรือต่อรอง วันนี้เรากำลังโดนครอบงำ ขอให้ช่วยกันสกัด เพื่อให้ทุกอย่างเดินไปตามครรลอง
‘หมอระวี’ชี้แพ้หาร500เหมือนถูกน้ำร้อน
ระหว่างนั้น นพ.ระวี มาศฉมาดล ส.ส.บัญชีรายชื่อ หัวหน้าพรรคพลังธรรมใหม่ ประท้วงที่ถูกพาดพิง โดยตอบโต้ว่า น่าสงสารพรรคที่แพ้หาร500 เหมือนหมาถูกน้ำร้อนลวก ทำให้นายพรเพชร วิชิตชลชัย รองประธานรัฐสภา ซึ่งทำให้หน้าที่ประธานในที่ประชุมในขณะนั้น เตือนให้ถอนคำพูด จากนั้นนายครูมานิตย์และนพ.ระวีได้พูดตอบโต้กันไปมา จนนายพรเพชรต้องไกล่เกลี่ยให้ยุติ เพื่อเดินหน้าประชุมต่อไป
ขณะที่ นายชินวรรณ์ บุณยเกียรติ สส.นครศรีธรรมราช พรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.)และนายศุภชัย ใจสมุทร ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคภูมิใจไทย (ภท.) คัดค้านญัตติของ นพ.ชลน่าน โดยเห็นว่า การเสนอญัตติไม่เป็นไปตามข้อบังคับการประชุมรัฐสภาและควรเดินหน้าการประชุมเข้าสู่ระเบียบวาระตามกระบวนการปกติ โดยไม่ต้องเช็กองค์ประชุมก่อนเข้าสู่การพิจารณา
ด้าน นายชาดา ไทยเศรษฐ์ ส.ส.อุทัยธานี พรรคภูมิใจไทย กล่าวว่า ต้องการให้ลงมติตามระบบ จะรับหรือไม่รับเป็นเรื่องสภา ทุกอย่างต้องเป็นไปตามครรลองของระบบ การที่จะมาพูดให้ฝ่ายตรงข้ามที่ลงคะแนนไม่เหมือนกันกลายเป็นคนผิดหรือคนไม่ดีนั้นเป็นเรื่องที่ไม่ถูกต้อง การพิจารณากฎหมายลูกครั้งนี้จะออกซ้าย ออกขวา ไม่สนใจ เป็นนักกีฬาที่ไม่เลือกกติกา ได้ทุกระบบ พรรคภูมิใจไทยพร้อมทั้งหาร100 หาร500 เราทำให้วุ่นวาย เพราะเราให้นักกีฬาเลือกกติกา
ตีตกญัตติ’ชลน่าน’เริ่มถกพรป.เลือกตั้ง
จากนั้น นายชวน ขอมติจากที่ประชุมว่า เห็นชอบหรือไม่เห็นชอบ ที่จะดำเนินการตามญัตติที่มีการเสนอ ซึ่ง นพ.ชลน่าน ได้คัดค้านการทำหน้าที่ของ นายชวน โดยระบุว่า การเสนอญัตติเป็นสิทธิ์ตามรัฐธรรมนูญและข้อบังคับที่จะเสนอไม่ใช่ญัตติที่ต้องมาขอความเห็นชอบจากที่ประชุมก่อน แต่ นายชวน ยืนยันว่า ต้องสอบถามจากที่ประชุมเสียก่อน เนื่องจากการเสนอญัตติเช็กองค์ประชุมเป็นแนวทางที่ไม่ปกติ เนื่องจากเป็นการเสนอก่อนที่ที่ประชุมจะเข้าสู่ระเบียบวาระการประชุม ต่อมา ที่ประชุมลงมติไม่เห็นชอบที่จะดำเนินการตามญัตติของ นพ.ชลน่าน ด้วยคะแนน283ต่อ27 งดออกเสียง36 ไม่ออกเสียง28เสียง จากนั้นเวลา 11.28น.ที่ประชุมเข้าสู่การพิจารณาร่าง พรป.ด้วยการเลือกตั้งสส.โดย นายชวน กล่าวย้ำว่า เมื่อเริ่มการประชุมแล้ว พบว่าองค์ประชุมไม่ถึงกึ่งหนึ่ง ตนจะปิดประชุมทันที
พท.หวั่นกดบัตรแทนกัน-เสนอขานชื่อ
เวลา 13.30น.ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในการประชุมร่วมกันของรัฐสภา ครั้งที่ 13 สมัยสามัญประจำปีครั้งที่หนึ่ง ที่มี นายพรเพชร วิชิตชลชัย รองประธานรัฐสภา ทำหน้าที่ประธานที่ประชุม ภายหลังที่ประชุมร่วมรัฐสภาได้อภิปรายมาตรา 24/1 ของร่างพระราชบัญญัติ (พรบ.) กำหนดระยะเวลาดำเนินงานในกระบวนการยุติธรรม พ.ศ....ในวาระ2 ซึ่งกมธ.ได้เพิ่มขึ้นใหม่ โดยมีเนื้อหาเกี่ยวกับวิธีคำนวณสส.บัญชีรายชื่อเรียบร้อยแล้วนั้น ประธานที่ประชุมได้ตรวจสอบองค์ประชุมก่อนลงมติมาตราดังกล่าว
โดย นายพิเชษฐ์ เชื้อเมืองพาน สส.เชียงราย พรรคเพื่อไทย ขอให้ประธานที่ประชุมสั่งให้กล้องที่ถ่ายทอดสดการประชุมช่วยบันทึกบรรยากาศรอบห้องประชุมเพื่อให้เห็นว่า ไม่มีใครเสียบบัตรแทนกัน เนื่องจากวาระการประชุมนี้เป็นวาระสำคัญ ปรากฏว่ามีสมาชิกรัฐสภากดบัตรแสดงตน 367คน ซึ่งเกินกึ่งหนึ่งคือ 364คน ทำให้ นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ ส.ส.เชียงใหม่ พรรคเพื่อไทย ได้ใช้เอกสิทธิ์เสนอให้มีการนับองค์ประชุมแบบขานชื่อ
ด้าน นพ.ระวี มาศฉมาดล ส.ส.บัญชีรายชื่อ และหัวหน้าพรรคพลังธรรมใหม่ จึงลุกขึ้นหารือว่า เมื่อสักครู่ได้ตรวจสอบองค์ประชุมครบเรียบร้อยแล้ว การที่เสนอญัตติให้ขานชื่อเป็นเจตนาที่จะเตะถ่วงมากเกินไป ตนจึงขอเสนอญัตติตรงกันข้าม เพราะไม่เห็นด้วย ไม่เช่นนั้นต้องใช้เวลาขานชื่อกว่า2ชั่วโมง
‘สว.เสรี-สส.ศรีนวล’ค้านเสียเวลาเปล่า
ขณะที่ นายพรเพชร กล่าวว่า ตนคิดว่า นพ.ระวี จะเสนอญัตติไม่ให้ขานชื่อไม่ได้ เพราะการเสนอขานชื่อถือเป็นเอกสิทธิ์ เมื่อมีข้อสงสัยว่าการลงคะแนนด้วยเครื่องถูกต้องหรือไม่ ยืนยันว่าทุกอย่างต้องเป็นไปตามข้อบังคับ แม้ว่าจะมีนายเสรี สุวรรณภานนท์ สมาชิกวุมิสภา (สว.) และน.ส.ศรีนวล บุญลือ สส.เชียงใหม่ พรรคภูมิใจไทย ลุกขึ้นแสดงความเห็นว่า ไม่เห็นด้วยกับการขานชื่อ เพราะทำให้เสียเวลาในการแก้ไขปัญหาให้กับประชาชน
‘พรเพชร’ให้ขานชื่อ-ครบองค์ประชุม
จากนั้น นายพรเพชร ได้ขอเวลาให้เจ้าหน้าที่เตรียมตรวจสอบองค์ประชุมโดยการขานชื่อ ทำให้นพ.ระวี ลุกขึ้นประท้วงอีกครั้งและแสดงความไม่พอใจ กล่าวว่า ที่ผ่านมาเมื่อมีความเห็นต่างจะต้องมีการขอมติจากที่ประชุมว่าคิดเห็นอย่างไร แต่ นายพรเพชร ยังยืนยันที่จะตรวจสอบองค์ประชุมโดยการขานชื่อเช่นเดิม และเวลา 13.47น.ที่ประชุมได้ดำเนินการนับองค์ประชุมแบบขานชื่อสมาชิกรัฐสภาทั้งหมดที่มีจำนวน 727 คน จนกระทั่งเวลา 15.30น.นายพรเพชร วิชิตชลชัย รองประธานรัฐสภา ทำหน้าที่ประธานที่ประชุม ได้แจ้งผลการแสดงตนพบว่า มีสมาชิกขานชื่อแสดงตนจำนวน 403คน ซึ่งถือว่าเกินกึ่งหนึ่งคือ 364คน
ให้ลงมติม.24/1อยู่ไม่ครบ-ปิดทันที
จากนั้นที่ประชุมลงมติว่าจะมีการเพิ่มมาตรา24/1 หรือไม่ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ช่วงการเสียบบัตรลงคะแนนจะเห็นด้วยกับมาตรา 24/1 หรือไม่ ก็ต้องเสียเวลาไปอีกร่วม 20 นาที เพราะสมาชิกในห้องประชุมกลับมาเหลืออยู่น้อย โดยนายพรเพชรพยายามยื้อให้สมาชิกกลับมาเสียบบัตรลงคะแนนให้มากที่สุด จนนายพิเชษฐ เชื้อเมืองพาน ส.ส.เชียงราย พรรค พท.ทักท้วงว่า ขอให้ นายพรเพชร รีบเปิดเผยผลการลงคะแนนมาตรา 24/1
ในที่สุด นายพรเพชร แจ้งผลการลงคะแนนต่อที่ประชุมว่า องค์ประชุมไม่ครบขอปิดประชุม ในเวลา 16.17น.ทำให้การพิจารณาร่างกฎหมายลูกค้างอยู่ในที่ประชุม และมีแนวโน้มว่าจะพิจารณาไม่แล้วเสร็จภายในกำหนด 180 วัน ในวันที่ 15สิงหาคม เนื่องจากขณะนี้ยังไม่มีการกำหนดวันประชุมร่วมรัฐสภาเพิ่มเติมแต่อย่างใด
ผู้สื่อข่าวรายงานว่าภายหลังปิดประชุม นายสมชัย ศรีสุทธิยากร กมธ.วิสามัญพิจารณาร่างพ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้งส.ส. ได้โพสต์เฟซบุ๊กทันทีว่า“สภาล่ม ขาด 22คน”
‘เต้’ลั่นพ้นเที่ยงคืน23ส.ค.หมดเวลา8ปี
ที่รัฐสภา นายมงคลกิตติ์ สุขสินธารานนท์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ และหัวหน้าพรรคไทยศรีวิไลย์ กล่าวถึงการตีความการดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี 8ปีของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม ว่า ตนได้ร่างหนังสือเพื่อยื่นให้ศาลรัฐธรรมนูญตีความในเรื่องนี้ โดยมี พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส ส.ส.บัญชีรายชื่อและหัวหน้าพรรคเสรีรวมไทย เป็นที่ปรึกษาและช่วยดูรายละเอียดให้เรียบร้อย แต่ตอนนี้ยังขาดรายชื่ออีก 47รายชื่อ ตนได้ปรึกษา นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว สส.น่านและหัวหน้าพรรคเพื่อไทย ในฐานะผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร จะช่วยรวบรวมสส.มาช่วยกันเซ็นชื่อ
นายมงคลกิตติ์ กล่าวต่อว่า รัฐธรรมนูญฉบับนี้ตีความย้อนหลังหมด รวมถึงกรณีการถือครองหุ้นสื่อของนายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ประธานคณะก้าวหน้า ดังนั้นทุกคดีความมีผลย้อนหลังหมด จะมาย้อนหลังให้พล.อ.ประยุทธ์ หรือคนใดคนหนึ่งไม่ได้ ซึ่งตอนนี้มีวิธีเดียวคือ เที่ยงคืนวันที่ 23สิงหาคม พล.อ.ประยุทธ์ จะไม่สามารถเซ็นอะไรได้แล้ว เพราะหากเซ็นไปจะผิดกฎหมายและถูกดำเนินคดีและจะการเป็นรักษาการคณะรัฐมนตรี (ครม.) ทั้งหมด “วันที่ 24สิงหาคม พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี จะเป็นรักษาการนายกรัฐมนตรีโดยตำแหน่ง ดังนั้นต้องดำเนินการไปตามกระบวนการสรรหานายกฯคนใหม่ โดยมีวิธีเดียวที่จะทำให้พล.อ.ประยุทธ์ เป็นนายกฯได้อีกรอบ คือสส.หรือสว.ต้องรวมกันเกิน20% ของจำนวนที่มีอยู่ หรือประมาณ97-98 คน เสนอแก้ไขรัฐธรรมนูญมาตรา158 เพิ่ม (5)ไป ให้ พล.อ.ประยุทธ์ ดำรงตำแหน่งได้ต่อเนื่องจนกว่าจะเสียชีวิตและหากเสียชีวิตไปแล้วได้มอบหมายให้ใครเป็นนายกรัฐมนตรีต่อก็เขียนไว้ในรัฐธรรมนูญเลย ถ้าจะเชลียร์แล้วก็ให้สุดๆไปเลย” นายมงคลกิตติ์ กล่าว
‘บิ๊กตู่’เมินตอบดีลลับ‘บิ๊กป้อม-พท.’
เวลา14.30 น.ที่สำนักงานสภาความมั่นคงแห่งชาติ ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม เป็นประธานการประชุมสภาความมั่นคงแห่งชาติ ครั้งที่ 3/2565 โดยเมื่อผู้สื่อข่าวพยายามถึงกระแสข่าวดีลลับระหว่างพรรคพลังประชารัฐและพรรคเพื่อไทย เพื่อให้มีปัญหาเรื่ององค์ประชุมและทำให้การประชุมล่ม เพื่อให้ พล.อ.ประวิตร เป็นนายกรัฐมนตรี หลังการเลือกตั้งที่จะมาถึง นายกฯเชื่อเรื่องนี้หรือไม่ โดย พล.อ.ประยุทธ์ หยุดหันมาชำเลืองมองผู้สื่อข่าวเพื่อฟังคำถาม แต่ไม่ได้ตอบคำถามแต่อย่างใด ก่อนเดินขึ้นไปประชุมทันทีด้วยสีหน้าเรียบเฉย
‘บิ๊กตู่’น้อมรับคำวินิจฉัย-อย่าบิดเบือน
ด้าน นายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยถึงกรณีที่มีการเผยแพร่เอกสารบันทึกการประชุมคณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ (กรธ.) เมื่อวันที่ 7กันยายน2561 อ้างความเห็นของ นายมีชัย ฤชุพันธุ์และนายสุพจน์ ไข่มุกด์ ต่อประเด็นวาระการดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี 8 ปี ว่า ส่วนตัวมองว่ามีความพยายามของคนบางกลุ่มต้องการกดดันหวังสร้างประเด็นให้ พล.อ.ประยุทธ์ โดยหยิบเอาบางช่วงบางตอนของเอกสารดังกล่าวที่เป็นความเห็นของกรรมการเพียงไม่กี่คนมานำเสนอจนเกิดความสับสน ทั้งๆ ที่เอกสารฉบับนี้เป็นแค่บันทึกการประชุม หรือบันทึกการแสดงความเห็นของกรรมการ แต่ไม่ใช่มติ
นายธนกรกล่าวว่า หน้าปกเอกสารก็ระบุชัดเจนว่าคณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญยังไม่ได้รับรอง จึงไม่ควรนำมาใช้อ้างอิง และการประชุมในวันนั้นเกิดขึ้นหลังจากที่รัฐธรรมนูญปี2560 ได้ประกาศใช้ไปแล้ว เพื่อจัดทำเจตนารมณ์ของรัฐธรรมนูญในขั้นตอนถัดมา ซึ่งท้ายที่สุดก็ไม่ได้ระบุไว้“ที่ถูกต้องควรไปพิจารณาความมุ่งหมายและคำอธิบายประกอบรายมาตราของรัฐธรรมนูญปี2560 ในส่วนที่เกี่ยวข้องกับที่มาของนายกฯและฟังคำวินิจฉัยศาลรัฐธรรมนูญ ไม่ใช่ตีความกันไปตามความเห็น หรือความรู้สึกของตัวเอง โดยไม่มีอำนาจหน้าที่ หรือความรู้ความเข้าใจที่ถูกต้องตามหลักนิติศาสตร์ หรือหลักกฎหมาย พล.อ.ประยุทธ์เคารพการวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญและไม่อยู่เหนือกฎหมาย จึงขอให้ทุกฝ่ายยึดหลักการและปฏิบัติตามขั้นตอนของกฎหมายเช่นเดียวกัน เพื่อให้ประเทศเดินต่อไปได้และไม่เกิดความวุ่นวาย” นายธนกรกล่าว
ทยอยร่วมม็อบ10ส.ค.ลานพญานาค
วันเดียวกัน ผู้สื่อข่าวรายงานว่าเวลา 15.00 น. ที่บริเวณลานพญานาค ภายในหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ศูนย์รังสิต ต.คลองหนึ่ง อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี ซึ่งเป็นสถานที่จัดกิจกรรมชุมนุม’10สิงหา ประชาธิปไตยต้องไปต่อ’ บรรยากาศรอบๆบริเวณงานทางกลุ่มนักศึกษาได้นำแผงเหล็กมากั้นบริเวณงานงาน โดยมีกลุ่มมวลชนคนเสื้อแดงเข้าร่วมกิจกรรมในครั้งนี้และมีแม่ค้า พ่อค้านำอาหารและเครื่องดื่มมาขายพร้อมทั้งนำข้าวและอาหารมาเลี้ยงกลุ่มมวลชนที่เข้าร่วมกิจกรรมในครั้งนี้ ได้มีเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยมาบอกไม่ให้ขายของบริเวณจัดกิจกรรม นอกจากนี้ ยังมีเจ้าหน้าที่ชุดเก็บกู้ระเบิดของตำรวจจังหวัดปทุมธานีเข้ามาตรวจหาวัตถุต้องสงสัยในพื้นที่ด้วย
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี