‘วิษณุ’แจงความคืบหน้าติดตามตัว ‘บอส อยู่วิทยา’เผย หลายหน่วยงานเร่งติดตาม แต่ยังไม่พบตัว ‘ก้าวไกล’ตามอัดรัฐบาล ชี้สังคมกังขาเกิดความเหลื่อมล้ำกระบวนการยุติธรรมคนรวยยังไม่ถูกลงโทษทางกฎหมาย
เมื่อเวลา 13.25 น.วันที่ 11 ส.ค.65 ที่รัฐสภา นายธีรัจชัย พันธุมาศ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล ตั้งกระทู้ถาม พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ถึงความคืบหน้าการติดตามเร่งรัด จับกุมตัวนายวรยุทธ อยู่วิทยา ทายาทเครื่องดื่มชูกำลังชื่อดัง กรณีขับรถชนตำรวจตาย เมื่อปีพ.ศ. 2555 คดีนี้ได้รับความสนใจจากประชาชน กรณีนี้ถือเป็นความเหลื่อมล้ำทางกระบวนการยุติธรรมหรือไม่ ที่ยังไม่สามารถติดตามตัวผู้ที่มีฐานะร่ำรวยมาลงโทษทางกฎหมายได้
นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะผู้ได้รับมอบหมายจากนายกรัฐมนตรี มาชี้แจงว่า ความคืบหน้าหลังจากคณะกรรมการตรวจสอบ ชุดที่มีนายวิชา มหาคุณ เป็นประธานตรวจสอบ ได้ส่งเรื่องให้รัฐบาลเมื่อปี 2563 และรัฐบาลส่งให้ปปท. ดำเนินการประสานงานกับหน่วยงานต่างๆที่เกี่ยวข้องไปอีก 5 หน่วยงาน คือ 1.ปปช. ที่ต้องตรวจสอบการทุจริตประพฤติมิชอบ มีรายชื่อต้องตรวจสอบ 19 รายชื่อ ตามที่คณะกรรมการชุดของนายวิชา รายงานมา พบว่า มีผู้ถูกกันไว้เป็นพยาน 2 คน ไม่เกี่ยวข้อง2คน เหลืออีก15คน จากนั้นปปช.เต็มคณะได้มีการไต่สวน ยังอยู่ในกระบวนการไต่สวน ตรวจสอบ 2.สำนักงานอัยการสูงสุด เนื่องจาก มีอัยการที่ถูกตรวจสอบ ทางอัยการตั้งกรรมการตรวจสอบ ต่อมามีคำสั่ง ลงโทษทางวินัยรองอัยการสูงสุดในขณะนั้น ให้ออกจากราชการ และอีกคน กำลังถูกสอบวินัยร้ายแรง ที่ยังอยู่ระหว่างการตรวจสอบ
3. กรมสอบสวนคดีพิเศษ(ดีเอสไอ) รัฐบาลส่งให้ตรวจสอบพร้อมกับให้รับเป็นคดีพิเศษ ชั้นต้นคณะอนุกรรมการกลั่นกรอง เห็นว่า ไม่มีเหตุให้รับเป็นคดีพิเศษ เพราะอยู่ในการตรวจสอบของหน่วยงานอื่นแล้ว แต่คณะกรรมการคดีพิเศษเห็นว่า บางประเด็นน่าจะรับเป็นคดีพิเศษ และชี้ประเด็นให้คณะอนุกรรมการฯ รับไป แต่เนื่องจากยังไม่ถึงวงรอบการประชุมคณะกรรมการชุดใหญ่ แต่อีกไม่กี่วันนี้ จะถึงวงรอบการประชุมอีกครั้ง และคงจะได้รับทราบว่าจะมีการรับคดีนี้ไว้เป็นคดีพิเศษหรือไม่
4.สภาทนายความ ที่ตรวจสอบทนายความที่เกี่ยวข้อง ที่กำลังใกล้จะปิดสำนวนการตรวจสอบ 5.สำนักงานตำรวจแห่งชาติ(สตช.) มีนายตำรวจที่มีส่วนเกี่ยวข้องหลายราย โดยผบ.ตร.ให้สอบทั้งทางวินัย อาญา พร้อมกับแก้ระเบียบตามคำแนะนำ เพื่อทำให้การตรวจสอบเป็นไปด้วยความเรียบร้อย เบื้องต้นในการตรวจสอบ ให้ยุติเรื่องการตรวจสอบตำรวจบางราย ที่ไม่เกี่ยวข้องกับคดี ขณะที่นายตำรวจยศ พ.ต.อ. บางคน ต้องตรวจสอบเพิ่มเพื่อให้ได้ความชัดเจนว่าจะมีการลงโทษวินัยหรือไม่ ซึ่งตอนนี้ยังไม่ได้ข้อยุติ
“หลายเรื่องการตรวจสอบยังไม่จบ ตามที่ท่านได้ตั้งกระทู้ถามมาตั้งแต่วันที่ 1 มี.ค. ยังมีการตรวจสอบอยู่จากหลายหน่วยงานเข้าใจว่า น่าจะได้ข้อสรุปภายในเดือนสิงหาคม”นายวิษณุกล่าว
ด้าน นายธีรรัจชัย กล่าวอีกว่า การตอบคำถามของนายวิษณุ เป็นแบบกว้างๆย่อๆไม่ระบุ แต่สำหรับคณะกรรมการกฎหมาย กระบวนการยุติธรรม ของสนช. ที่เป็นน้องชาย รองนายกรัฐมนตรี ร่วมเป็นคณะกรรมการ ยังไม่มีใครทำอะไร เพราะถูกระบุว่า มีส่วนเกี่ยวข้องเปลี่ยนแปลงความเร็ว ที่ส่งผลต่อคดี มีผลให้สั่งไม่ฟ้อง นอกจากนี้ นับแต่เม.ย.2560 นายวรยุทธ หนีออกไปต่างประเทศ รัฐบาลมีความตั้งใจในการติดตามนายวรยุทธมาดำเนินคดีหรือไม่
นายวิษณุ ชี้แจงอีกครั้งว่า การสั่งย้ายตำรวจที่ทำคดีนี้ เป็นการย้ายตามปกติ ไปสู่ตำแหน่งที่สูงขึ้น เมื่อ2ปีแล้ว การติดตามตัว หน่วยที่เกี่ยวข้องคือ กระทรวงการต่างประเทศ และสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ใช้กระบวนการติดตามตัวเหมือนกับผู้ต้องหาคนอื่นที่หลบหนีไปต่างประเทศ สตช.ดำเนินการติดต่อไปยังสถานเอกอัครราชทูต สถานกงสุลในประเทศต่างๆ ที่คาดว่าผู้ต้องหาจะไปหลบหนีคดี แต่ก็ยังไม่พบหลักฐาน การผ่านเข้า-ออกในประเทศนั้นๆ หนังสือเดินทางนายวรยุทธ หมดอายุไปแล้ว ยังไม่พบ การขอออกหนังสือเดินทางเล่มใหม่ ขณะเดียวกันตำรวจติดต่อไปยังตำรวจสากล หรือ อินเตอร์โพล เพื่อขอตรวจสอบในทางลับด้วย แต่ยังไม่พบความคืบหน้า โดยตำรวจได้ติดตามในทางลับอื่นด้วย เท่าที่พอยกตัวอย่างได้ ได้ติดตามญาติ ที่เดินทางไปต่างประเทศ เผื่อว่าจะมีการไปพบปะติดต่อกัน แต่ก็ยังไม่พบผู้ต้องหา
“นายวรยุทธ ที่เป็นผู้ต้องหา ยังมีคดีติดตัว 2 คดี คือ 1.คดีทางยาเสพติด แต่จากการแก้ไขกฎหมายยาเสพติดเมื่อเร็วๆนี้ ลดโทษจำคุกจากการลงโทษที่สูงให้ลดลงมา พลอยทำให้อายุความลดลงตามไปด้วย เป็นเหตุให้อายุความยาเสพติด สิ้นสุดลง คือหมดอายุความไปแล้ว 2.ข้อหาขับรถโดยประมาท ทำให้ผู้อื่นถึงความตาย นับจากวันนี้ ยังอยู่ในอายุความอีก 5 ปี เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง ยืนยัน จะใช้กระบวนการต่างๆที่มีอยู่ ความร่วมมือกับต่างประเทศ และการใช้ช่องทางต่างๆ ในการร่วมมือกับต่างประเทศติดตามตัวมาดำเนินคดีให้ได้ ส่วนผู้ถูกกล่าวหาคนอื่นๆ ที่อยู่ในประเทศ เรื่องทั้งหมดยังอยู่ในปปช. ที่เกี่ยวข้อง 15 คน มีทั้งตำรวจ ทหาร พลเรือน ซึ่งยังอยู่ในสำนวน ปปช. และทางรัฐบาลยินดีให้ความร่วมมือตรวจสอบอย่างเต็มที่”นายวิษณุกล่าว
-001
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี