"อิทธิพร"สั่ง กกต.จังหวัดทั่วประเทศ เตรียมพร้อมเลือกตั้ง ส.ส. เน้นศึกษากฎหมาย เพื่อให้การเลือกตั้งโปร่งใสเป็นกลางทางการเมือง
เมื่อวันที่ 17 สิงหาคม 2565 นายอิทธิพร บุญประคอง ประธานกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) เป็นประธานในพิธีเปิดการประชุมเพื่อพัฒนางานและยกระดับมาตรฐานการทำงานของสำนักงาน กกต.เพื่อมอบแนวทางและข้อเสนอแนะในการเตรียมความพร้อมในการจัดการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร โดยมี กกต. , เลขาธิการ กกต.และผู้อำนวยการการเลือกตั้ง77 จังหวัด เข้าร่วมประชุม
โดย นายอิทธิพร กล่าวเปิดงานว่า การจัดการเลือกตั้ง ส.ส.และองคาพยพของวงจรการบริหารและจัดการเลือกตั้งซึ่งจะต้องทำงานท่ามกลางการเฝ้าติดตามจากทุกภาคส่วนอย่างใกล้ชิด การแข่งขันทางการเมืองจากนักการเมืองที่มีความเข้มข้นมากขึ้น รวมทั้งต้องคำนึงถึงความคาดหวังที่สูงต่อการเลือกตั้ง และไม่ว่าระบบการเลือกตั้งจะถูกออกแบบไว้อย่างไร หากเกิดความผิดพลาดเพียงเล็กน้อยก็จะเป็นประเด็นที่ถูกนำมาหยิบยกได้ ข้อคำนึงอีกประการในการทำงานคืออิทธิพลของสื่อสังคมออนไลน์ที่สื่อสารได้อย่างรวดเร็ว เราต้องยอมรับความเป็นจริง เช่น หากกรรมการประจำหน่วยเลือกตั้ง ซึ่งส่วนใหญ่เป็นผู้สูงอายุ ปฏิบัติงานผิดพลาดก็จะถูกถ่ายรูปแและแชร์ข้อมูลไปอย่างรวดเร็ว ทำให้กรรมการประจำหน่วยหน่วยเลือกตั้ง ปฏิเสธไม่อยากทำหน้าที่ เนื่องจากปัญหาสุขภาพ ที่ต้องทำงานติดต่อกันหลายชั่วโมง อีกทั้งยังเสี่ยงต่อการถูกฟ้องร้องและแรงกดดันต่างๆ
"สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ซึ่งจะครบวาระในวันที่ 23 มี.ค.66 ผู้อำนวยการเลือกตั้งประจำหวัด ในฐานะผู้รับผิดชอบจัดการเลือกตั้งในระดับจังหวัดนับว่ามีความสำคัญ ที่จะต้องทำให้การเลือกตั้งเป็นไปด้วยความเรียบร้อย สุจริต โปร่งใส และชอบด้วยกฎหมาย การได้รับความรู้จากการนำเสนอ ปัญหา อุปสรรคที่เกิดขึ้น และแลกเปลี่ยนประสบการณ์ของผู้แทนในแต่ละภาค จะสามารถนำไปประยุกต์ใช้ในการบริหารจัดการเลือกตั้ง ส.ส.ได้อย่างรวดเร็ว และเป็นมาตรฐานเดียวกัน เพราะปัญหาบางอย่างที่เกิดขึ้นก็ไม่ได้มี อยู่ในคู่มือที่จะศึกษาได้" นายอิทธิพร กล่าว
นายอิทธิพร ยังกล่าวด้วยว่า ขอให้ผู้อำนวยการเลือกตั้งประจำจังหวัด ให้ความสำคัญกับแหล่งข่าวและผู้แจ้งเบาะแสด้วยการพิจารณาเงินรางวัลให้กับแหล่งข่าว และผู้แจ้งเบาะแส การหาแหล่งข่าวต้องเชื่อถือได้ สามารถให้ข้อมูลที่เป็นประโยชน์ต่อการทำสำนวนได้ ระวังเรื่องนำเครือญาติหรือบุคคลที่รู้จักมาเป็นแหล่งข่าว อาจทำให้หลักฐานไม่เพียงพอที่จะจัดการกับคนที่ทำการไม่สุจริตได้ และนอกจากบทบาทผู้จัดการเลือกตั้งแล้วผู้อำนวยการเลือกตั้งควรจัดกิจกรรมสร้างการเรียนรู้ ให้กับประชาชนที่มีความสนใจ เพื่อจะได้อบรมให้ความรู้ในกระบวนการเลือกตั้ง เพื่อสร้างบุคลากรที่นำมาเป็นเครือข่าย และลดแทนผู้ที่ลาออก
ประธาน กกต.ยังย้ำถึงการเตรียมความพร้อมในการจัดการเลือกตั้ง ส.ส.ที่จะครบวาระในปี 2566 ให้ครอบคลุมทุกด้าน เช่น การแบ่งเขตเลือกตั้ง โดยทราบดีว่า แต่ละจังหวัดได้เตรียมการเรื่องนี้ไว้แล้ว การประชาสัมพันธ์เกี่ยวกับบัตรเลือกตั้งที่จะใช้บัตรใบเดียวตามที่กฎหมายได้มีการแก้ไข และการสรรหาผู้สมัครของพรรคการเมือง หรือตัวแทนพรรคการเมืองประจำจังหวัด ในการส่งผู้สมัครรับเลือกตั้ง ส.ส.ในแต่ละเขตเลือกตั้ง ตามที่ที่กฎหมายประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมือง ที่มีการแก้ไขกำหนดขึ้นใหม่ จึงจำเป็นต้องมีการประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนได้รับทราบตั้งแต่ตอนนี้ เพื่อให้เกิดความเข้าใจในเบื้องต้น
ส่วนการทำสำนวน และแจ้งข้อกล่าวหาให้ยึดแนวทาง 4 ประสานต้านทุจริต คือ ควรสอบสวน ทำสำนวนให้มีความสมบูรณ์ เมื่อมีการร้องเรียนเกี่ยวกับเรื่องให้เงินควรทำการตรวจสอบเส้นทางการเงินของผู้เกี่ยวข้องให้ครบถ้วน หากมีเงินของกลางก็ให้ส่งตรวจพิสูจน์ลายนิ้วมือ เพื่อเป็นหลักฐานทางวิทยาศาสตร์ด้วย พร้อมต้องสร้างความสัมพันธ์กับหน่วยงานอื่นๆ
สำหรับการสรรหา กกต.เขต , ผอ.กกต.เขต และคณะกรรมการประจำหน่วยเลือกตั้ง ต้องสรรหาจากบุคคลที่มีความเป็นกลางทางการเมือง ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับผู้สมัคร หรือพรรคการเมืองใด โดยเฉพาะกรรมการประจำหน่วย ซึ่งมีส่วนสำคัญในการปฎิบัติงาน ในวันเลือกตั้งไม่ควรเสนอบุคคลที่เคยเป็น กปน.และถูกร้องเรียนหรือถูกดำเนินคดีในการปฏิบัติหน้าที่ ซึ่งสิ่งเหล่านี้จะเป็นประโยชน์ต่อการบริหารจัดการด้านต่างๆ ในการจัดการเลือกตั้ง ส.ส.ที่จะมีขึ้นในปี 2566
- 006
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี