พท.ขยี้ปม‘ส.ต.ท.หญิง’ เตรียมชงกมธ.ฯเรียกสอบผู้บังคับบัญชากราวรูด
28 สิงหาคม 2565 ที่พรรคเพื่อไทย นายประเดิมชัย บุญช่วยเหลือ ส.ส.กทม. พรรคเพื่อไทย (พท.) กล่าวว่า หลังจากที่ตั้งกระทู้ถามสดด้วยวาจา พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี รักษาการนายกรัฐมนตรี กรณีการเข้าเป็นตำรวจของ “ส.ต.ท.หญิง” และการกระทำที่อาจเป็นการเข้าข่ายค้ามนุษย์เมื่อวันที่ 25 สิงหาคม 2565 และแม้ พล.อ. ชัยชาญ ช้างมงคล รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม ได้ออกมาชี้แจงในสภาแทนรักษาการนายกรัฐมนตรีแล้ว แต่ข้อมูลทั้งหมดล้วนไร้จุดหมายปลายทาง ที่จะได้มาซึ่งข้อเท็จจริงโดยเร็ว
ทั้งนี้ การตอบคำถามของ พล.อ.ชัยชาญ อาจเกิดจากการที่ท่านไม่ทราบ หรือไม่อยากตอบก็เป็นได้ แต่ความเห็นส่วนตัวมองว่าพล.อ.ชัยชาญ หลีกเลี่ยงที่จะตอบคำถามมากกว่า และแม้มีการตั้งกรรมการเข้ามาตรวจสอบข้อเท็จจริงโดยให้ยึดถือสำนวนการสอบสวนเดิมเป็นหลัก อาจทำให้สังคมมองว่าเป็น “ตัดตอน” ผลักภาระให้หน่วยงานอื่น ทั้งที่ความผิดในบางประเด็น มีหลักฐานชัดแจ้งเป็นที่ประจักษ์และเต็มไปด้วยข้อสงสัย เช่น
1. กระบวนการรับบุคคลเข้ารับราชการตำรวจทำอย่างตรงไปตรงมาหรือไม่ เป็นไปด้วยเส้นสนกลในหรือไม่
2. ส.ต.ท.หญิง ชื่อไปปฏิบัติงานที่ กอ.รมน.ภาค 4 ส่วนหน้า ซึ่งมีสิทธิประโยชน์ช่วยเหลือจากการปฏิบัติมากมาย เช่น เบี้ยเลี้ยง เบี้ยเสี่ยงภัยและอายุราชการที่ทวีคูณ เท่าที่ทราบข้อมูลในเบื้องต้น มีการสร้างขบวนการขึ้นมาเพื่อสร้างการเติบโตในตำแหน่งหน้าที่การงานให้ ส.ต.ท.หญิง
นายประเดิมชัย กล่าวว่า นอกจากกระบวนการสอบสวนที่ยังต้องหาคำตอบอีกมากมาย การกระทำของผู้ที่เกี่ยวข้องในกระบวนการฝากฝังให้ ส.ต.ท.หญิง ได้รับการบรรจุเข้าเป็นข้าราชการตำรวจ และมีชื่อช่วยงาน กอ.รมน.ภาค 4 สน. เรื่องนี้คนที่เป็นผู้บังคับบัญชาต้องรับผิดชอบ ไม่ว่าจะเป็น พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผบ.ตร. , ผบ.ทบ. , แม่ทัพภาคที่ 4 , ผู้อำนวยการ กอ.รมน.ภาค 4 ส่วนหน้า ที่ไม่ใช่เพียงการย้าย ส.ต.ท.หญิง กลับต้นสังกัดแล้วเรื่องก็จบไปเท่านั้น แต่ผู้บังคับบัญชา และผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับกระบวนการแต่งตั้งโยกย้าย ส.ต.ท.หญิง คนดังกล่าวโดยมิชอบ อาจมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157 “ผู้ใดเป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ เพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใด หรือปฏิบัติหรือละเว้น การปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริตต้องระวางโทษจําคุกตั้งแต่ 1 ปีถึง 10 ปีหรือปรับตั้งแต่ 2,000 บาทถึง 20,000 บาท หรือทั้งจําทั้งปรับ”
“ผมยังได้ข้อมูลมาว่าในหน่วยงาน กอ.รมน.ภาค 4 มีเจ้าหน้าที่ปฏิบัติงานช่วยงาน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้กว่า 50,000 คน หากมีกรณี ส.ต.ท.หญิง เพียงแค่ 1% หรือ 500 คน ในหน่วยงานราชการก็ถือเป็นการกระทำที่จงใจปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบที่สร้างความเสียหายให้กับงบประมาณแผ่นดิน เพราะนั่นคือภาษีประชาชนที่ต้องจ่ายเป็นเงินเดือนและค่าตอบแทนมหาศาล ผมจะรวบรวมข้อมูล ข้อเท็จจริง หลักฐานในเบื้องต้นร้องเรียนต่อคณะกรรมาธิการ การป้องกันและปราบปรามการทุจริตประพฤติมิชอบ (กมธ.ป.ป.ช.) เพื่อเรียกผู้ที่เกี่ยวข้องเข้ามาให้ข้อมูลชี้แจงโดยเร็วที่สุด” นายประเดิมชัย กล่าว
นายประเดิมชัย กล่าวด้วยว่า บุคคลที่เป็นเจ้าพนักงาน มีฐานะนอกเหนือไปจากประชาชน เพราะมีอํานาจหน้าที่ที่ต้องปฏิบัติ มีสถานะเป็นผู้รักษากฎ และห้ามไม่ให้ผู้อื่นทำผิดกฎ แต่ตอนนี้เจ้าหน้าที่รัฐทำผิดเสียเอง และยิ่งปรากฏมีหลายกรณีมากขึ้นๆ หากรวบรวมดูแล้วพบว่า ในรัฐบาลนี้ เจ้าหน้าที่รัฐซึ่งเป็นผู้คุมกฎ แต่ทำผิดกฎโดยไม่เกรงกลัวกฎหมายมากมายหลายกรณี จนทำให้วิกฤตศรัทธารัฐบาลอยู่ในขั้นติดลบ อย่างนี้ผู้นำไม่ว่าจะเป็นใครที่มาจากรัฐบาลนี้คงไม่สามารถปกครองประเทศได้ เพราะคนทำผิดกฎหมายเต็มบ้าน เต็มเมือง เต็มสภา
-005
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี