‘บิ๊กตู่’ยื่นคำชี้แจงปม8ปีนายกฯ
ถึงมือศาลรธน.
อธิบายเป็นข้อๆยาวกว่า30หน้า
ร้านยาเริ่มจ่ายยาโควิด1ก.ย.
ใช้มือกฎหมายชี้แจงละเอียดยิบ
มั่นใจครบทุกประเด็นตามคำร้อง
‘สุวัจน์-กรณ์’นัดแถลงข่าวใหญ่
สะพัดจับมือรวมพรรคสู้ศึกลต.
‘ประวิตร’ไฟเขียวกมธ.สอบ2น้องชาย
“ประยุทธ์”มอบทีมกฎหมาย จัดทำคำชี้แจงปม“8 ปี นายกฯ”เสร็จแล้วยาวกว่า 30 หน้า แจงรายละเอียดเป็นข้อๆ ยื่นต่อศาลรัฐธรรมนูญวันนี้ โดยใช้มือกฎหมายระดับบิ๊ก 3 คน “บิ๊กตู่” เตรียมลงอยุธยา ตรวจเยี่ยมให้กำลังใจทหาร-ปชช. “บิ๊กป้อม”ลงพื้นที่ฉะเชิงเทรา ปลื้มแฟนคลับแห่ต้อนรับคึกคัก อวยพรให้อายุยืน150 ปี เขินเจอหญิงวัยกลางคนหอมแก้ม ลั่นทุกคนเป็นพวกเดียวกัน ร่วมทำงานไปด้วยกัน เพื่อให้ประชาชนอยู่ดีกินดี
‘บิ๊กป้อม’ชูปชต.มีพระมหากษัตริย์ ทรงเป็นประมุข ย้ำรู้รักสามัคคีรอดพ้นวิกฤตได้ตลอด ชี้การปลูกฝังเยาวชนเปรียบเสมือนเมล็ดพันธุ์ที่จะเติบโตได้อย่างแข็งแรง ‘สุวัจน์-กรณ์’นัดแถลงข่าวใหญ่พรุ่งนี้ สะพัด’ชาติพัฒนา-กล้า’รวมพรรคฯจับมือทำงานการเมืองลุยเลือกตั้ง
เมื่อวันที่ 1 กันยายน 2565 รายงานข่าวแจ้งถึงความเคลื่อนไหวของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา รมว.กลาโหม ที่ถูกศาลรัฐธรรมนูญสั่งหยุดปฏิบัติหน้าที่นายกรัฐมนตรี ระหว่างรอคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญกรณีการดำรงตำแหน่ง 8 ปีนายกรัฐมนตรีนั้น
ยื่นคำชี้แจงปม 8ปีต่อศาลรธน.
ล่าสุด ทีมกฎหมายของพล.อ.ประยุทธ์ที่ได้รับมอบหมายให้จัดทำคำชี้แจง ตามที่มีคำร้องพล.อ.ประยุทธ์ ว่าดำรงตำแหน่งนายกฯ ครบ 8 ปี ในวันที่ 24 สิงหาคม 2565หรือไม่นั้น เสร็จสิ้นแล้ว โดยจะมีการยื่นเอกสารคำชี้แจง ต่อศาลรัฐธรรมนูญให้พิจารณาในช่วงบ่ายนี้(1ก.ย.)
ทั้งนี้ เอกสารคำชี้แจงของพล.อ.ประยุทธ์ ที่จะยื่นต่อศาลรัฐธรรมนูญนั้น มีความยาวกว่า 20 หน้ากระดาษ เป็นการชี้แจงในทุกประเด็นที่ถูกร้องออกเป็นข้อๆ เน้นแก้ข้อกล่าวหาว่า รัฐธรรมนูญปี 2560 ชี้ถึงที่ไปที่มาของการดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี พร้อมกับยกข้อมูล และเหตุผลมาสนับสนุน
สำหรับเอกสารชี้แจงต่อศาลรัฐธรรมนูญใช้มือกฎหมาย 3 คน คือ พล.ต.วิระ โรจนวาศ ที่ปรึกษานายกรัฐมนตรีและอดีตผู้อำนวยการ สำนักพระธรรมนูญทหารบก หนึ่งในทีมเขียนคำสั่ง คสช.และเป็นหนึ่งใน 21 คณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ หรือ กรธ.,นายดิสทัต โหตระกิตย์ เลขาธิการนายกรัฐมนตรีและอดีตเลขาธิการคณะกรรมการกฤษฎีกา และ นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี ฝ่ายกฎหมาย
คำชี้แจงบิ๊กตู่ถึงศาลฯแล้วยาว30หน้า
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ตามที่ศาลรัฐธรรมนูญมีคำสั่งรับคำร้องของสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรพรรคร่วมฝ่ายค้านที่ขอให้วินิจฉัยวาระการดำรงตำแหน่ง 8 ปีของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ว่าสิ้นสุดลงของตำแหน่งนายกรัฐมนตรี ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 170 วรรคสองและมาตรา 158 วรรคสี่ หรือไม่ รวมทั้งมีคำสั่งให้ พล.อ.ประยุทธ์ หยุดปฏิบัติหน้าที่จนกว่าจะมีคำวินิจฉัยและให้ยื่นคำชี้แจงแก้ข้อกล่าวหาต่อศาลรัฐธรรมนูญภายใน 15วัน มีรายงานว่า ขณะนี้ฝ่ายกฎหมายของพล.อ.ประยุทธ์ ได้ส่งคำชี้แจงแก้ข้อกล่าวหาต่อศาลรัฐธรรมนูญและศาลได้รับเอกสารดังกล่าวเรียบร้อยแล้วเป็นเอกสารที่มีเนื้อหาสาระเหตุผลประกอบคำร้องรวม 30 กว่าแผ่น ทั้งนี้ เนื้อหาที่ยื่นชี้แจงไปนั้นเชื่อว่าครบถ้วนทุกประเด็นตามคำร้องที่ถูกร้องเรียนมา เพราะชี้ให้เห็นถึงที่มาไปของการดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี โดยยกข้อมูลทางกฎหมายประกอบ จึงมีความมั่นใจในเนื้อหาที่ได้ชี้แจงไป
‘ธนกร’ยันนายกฯกำลังใจดีมาก
นายธนกร วังบุญคงชนะ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.)และอดีตโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี โพสต์เฟซบุ๊ก ดร.ธนกร วังบุญคงชนะ พร้อมรูปถ่ายกับ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระรทรวงกลาโหม โดยระบุว่า “คิดถึงจึงมาหา… ท่านนายกฯ กำลังใจดีมากครับ ฝากขอบคุณพี่น้องคนไทยทุกคนครับ ท่านก็ทำงานในฐานะรมว.กลาโหมเต็มที่สั่งการให้กองทัพเร่งช่วยเหลือประชาชนทุกเรื่อง โดยเฉพาะน้ำท่วมและจะมีลงพื้นที่ด้วยครับ”
ชาวแปดริ้วแห่รับ‘บิ๊กป้อม’คึกคัก
เวลา11.25น.พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี รักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี พร้อมกับคณะเดินทางมายังบริเวณร้านอาหารบลูม ฉะเชิงเทรา เพื่อพบปะกับประชาชนพร้อมใจกันใส่เสื้อสีเหลืองมาต้อนรับประมาณ 3,000คน โดยชาวบ้านได้เตรียมของฝากทั้งขนุน มะพร้าว มะม่วง ลูกจาก กล้วยน้ำว้า น้ำปลาแท้รวมทั้งกุหลาบสีแดง พร้อมป้ายสนับสนุนให้กำลังใจ อาทิ“ที่สุดของเรา” “เรารักลุงป้อม” “สู้ๆ ค่ะลุงป้อม” “ใครไม่รู้ ลุงป้อมรู้ๆ” “รักสุดหัวใจ จากใจชาวแปดริ้ว” “พวกกัน สำคัญเสมอ#แปดริ้ว” “สู้ๆ ค่ะ ลุงป้อม”อีกทั้ง ยังมีกลองยาวยกขบวนตีต้อนรับกันอย่างคึกคัก
หอมแก้ม-อวยพรให้อายุยืน150ปี
ทันทีที่ พล.อ.ประวิตร เดินทางมาถึงได้เดินทักทายประชาชนที่มาต้อนรับ มีเสียงประชาชนตะโกนว่า“เรารักลุงป้อม รักลุงป้อมมากๆ”ซึ่งช่วงหนึ่งได้มีสุภาพสตรีวัยกลางคน เข้าไปหอมแก้มพล.อ.ประวิตร พร้อมเสียงกรี๊ดทำเอารักษาราชการนายกรัฐมนตรีถึงกับยิ้มเขินๆขณะที่ประชาชนบางส่วนได้อวยพรขอให้ พล.อ.ประวิตร อายุยืนถึง150ปี
ลั่นทุกคนเป็นพวกเดียวกัน
อย่างไรก็ดี พล.อ.ประวิตร ได้กล่าวทักทายประชาชนที่มาต้อนรับว่า สวัสดีทุกคน ประชาชนชาวฉะเชิงเทรา ขอบคุณที่มาต้อนรับตน และคณะ เห็นแล้วชื่นใจ เราทำงานไปด้วยกัน ทั้งประชาชนและข้าราชการ เราคือพวกเดียวกันทำงานไปด้วยกัน ร่วมมือกัน เพื่อให้ประชาชนอยู่ดีกินได้ สิ่งสำคัญอยู่ที่ข้าราชการ หากประชาชนต้องการอะไร ต้องรีบดำเนินการทันทีและต้องขอฝากข้าราชการไว้กับประชาชน
และย้ำว่ารัฐบาลห่วงใยประชาชน ไม่ใช่แค่ปัญหาเรื่องน้ำ แต่ยังรวมถึงสุขภาพความเป็นอยู่ของประชาชน รัฐบาลต้องการให้ประชาชนมีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น พร้อมการพัฒนาประเทศให้มั่นคงมั่งคั่งตลอดไป
ขณะเดียวกัน ในการลงพื้นที่ครั้งนี้ ของ พล.อ.ประวิตร เป็นไปอย่างคึกคัก ถือเป็นการปฏิบัติหน้าที่ในการรักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี แบบเต็มรูปแบบ โดยบรรดาข้าราชการตำรวจ ทหาร ฝ่ายปกครอง นักการเมือง ทั้งระดับชาติและระดับท้องถิ่นแห่มาต้อนรับจำนวนมาก ทำให้พล.อ.ประวิตร มีหน้าตาสดชื่น ยิ้มแย้มแจ่มใส กระปรี้กระเปร่ากระฉับกระเฉงอย่างเห็นได้ชัด
‘บิ๊กป้อม’ชูปชต.มีพระมหากษัตริย์
เวลา13.30 น. พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ รักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรีเปิดการสัมมนาและปาฐกถาในหัวข้อ”แนวทางส่งเสริมการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข” ที่ห้องประชุมชั้น 5 อาคารราชนครินทร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏราชนครินทร์ ต.หน้าเมือง อ.เมือง จ.ฉะเชิงเทรา
โดยพล.อ.ประวิตร กล่าวปาฐกถาว่าการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุขเป็นอัตลักษณ์อันโดดเด่นของประเทศไทยประกอบด้วยชาติ ศาสนา และสถาบันพระมหากษัตริย์ซึ่งเป็นรากฐานที่สำคัญ การหล่อหลอมวิถีชีวิตประเพณีและวัฒนธรรมของชาติไทยจากรุ่นสู่รุ่น ปัจจุบันสังคมไทยมีความสลับซับซ้อนมากขึ้นและยังเผชิญกับความเปลี่ยนแปลงจากโลก สังคมโลก และสังคมประเทศ ในประเทศ ส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจและสังคม เหตุปัจจัยเหล่านี้ล้วนมีอิทธิพลต่อการเมืองการปกครองของประเทศอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้
รู้รักสามัคคีรอดพ้นวิกฤตได้ตลอด
“แม้ในอดีตที่ผ่านมาบ้านเมืองของเราจะเคยวิกฤต แต่ประเทศไทยก็รอดพ้นได้เสมอมา เพราะเรามีสถาบันพระมหากษัตริย์เป็นศูนย์กลางยึดเหนี่ยวจิตใจของคนในชาติให้มีความรู้รักสามัคคี เข้มแข็ง ทำให้ประเทศมีความมั่นคงจนบัดนี้การส่งเสริมการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข สามารถทำได้หลากหลายวิธี ซึ่งทุกท่านในนี้สามารถเป็นผู้นำทางความคิดในการถ่ายทอดความเป็นแบบอย่างของพลเมืองที่มีวิถีชีวิตประชาธิปไตยให้กับคนทั่วไป โดยเฉพาะการปลูกฝังให้เด็กเยาวชนเปรียบเสมือนเมล็ดพันธุ์และพร้อมที่จะเติบโตได้อย่างแข็งแรง วันนี้ถือเป็นโอกาสอันดีที่มีการเสริมสร้างความรู้ ขยายความเข้าใจ และความเปลี่ยนแปลงความคิดจากทุกภาคส่วนภายใต้สังคมประชาธิปไตย”พล.อ.ประวิตร ย้ำ
จับตา’สุวัจน์-กรณ์’แถลงรวมพรรคฯ
วันเดียวกัน น.ส.เยาวภา บุรพลชัย โฆษกพรรคชาติพัฒนาได้แจ้งข่าวกับสื่อมวลชนว่า พรรคชาติพัฒนาขอเรียนให้ทราบว่านายสุวัจน์ ลิปตพัลลภ ประธานพรรคชาติพัฒนาและนายกรณ์ จาติกวณิช หัวหน้าพรรคกล้าจะร่วมกันแถลงข่าวทางการเมืองที่บ้านเลขที่ 333 ราชวิถี 20 ดุสิต กทม. เวลา 10.30 น. ในวันที่ 2 ก.ย.นี้ ขณะที่นายแสนยากรณ์ สิงห์วีรธรรม โฆษกพรรคกล้า ได้แจ้งต่อสื่อมวลชนเช่นกันว่าในวันที่2 ก.ย.นี้เวลา10.30น.นายสุวัจน์ ลิปตพัลลภ ประธานพรรคชาติพัฒนาและนายกรณ์ จาติกวณิช หัวหน้าพรรรคกล้า จะร่วมกันแถลงข่าวทางการเมือง ที่บ้านเลขที่ 333 ราชวิถี20 ดุสิต กทม.ขอเรียนเชิญสื่อมวลชน ฟังการแถลงข่าวในครั้งนี้ครับ”
รายงานข่าวแจ้งว่า ในการแถลงข่าว จะเป็นการเปิดตัวเพื่อทำงานทางการเมืองร่วมกัน หลังแกนนำทั้ง 2 พรรค ต่างฝ่ายมองเห็นถึงจุดแข็งร่วมกันโดยก่อนหน้านี้ได้มีหลายพรรคการเมืองได้พูดคุยกันถึงแนวทางการร่วมพรรคแต่ไม่ประสบความสำเร็จ
‘ไทยสร้างไทย’ประชุมใหญ่9ก.ย.
นายโภคิน พลกุล ประธานยุทธศาสตร์ ขับเคลื่อนประเทศพรรคไทยสร้างไทย (ทสท.) กล่าวว่าเราการเตรียมความพร้อมการประชุมใหญ่ของพรรคในวันที่ 9 ก.ย.65 ที่โรงละครเคแบงก์สยามพิฆเนศ อาคารสยามสแควร์วัน ชั้น 7 ตั้งแต่เวลา 09.00 – 14.00 น. ซึ่ง 90 ปีที่ผ่านมาตั้งแต่การเปลี่ยนแปลงการปกครอง เมื่อปี 2475 ทั้งที่รัฐธรรมนูญทุกฉบับไม่ว่าจะเกิดจากเผด็จการหรือกึ่งเผด็จการหรือโดยตัวแทนประชาชนได้กำหนดไว้อย่างชัดเจนว่า “อำนาจอธิปไตยเป็นของปวงชนชาวไทย” แต่ที่พี่น้องคนไทยได้สัมผัสคือการวนเวียนระหว่างการรัฐประหาร การเลือกตั้ง การสืบทอดอำนาจ การบั่นทอน และคุกคามสิทธิเสรีภาพอันพึงมีของประชาชน การด้อยค่าประชาธิปไตย การละเลยต่อหลักนิติรัฐ นิติธรรม อันนำมาซึ่งความขัดแย้ง การคอร์รัปชั่น และความเหลื่อมล้ำในทุกมิติ
‘จตุพร’นัดม็อบ3-4ก.ย.หยุด 3ป.
ขณะที่ คณะหลอมรวมประชาชน นำโดย นายจตุพร พรหมพันธุ์ และ นายนิติธร ล้ำเหลือ หรือ ทนายนกเขา ร่วมแถลงข่าว ยกระดับจัดกิจกรรมกลางเมือง”หยุดอำนาจ 3ป.เพื่อนับหนึ่งประเทศไทย โดยนายจตุพร กล่าวว่าในสัปดาห์นี้ จะมีการยกระดับการชุมนุม แจ้งกำหนดในวันเสาร์ที่ 3 ก.ย.ตั้งแต่เวลา 17.00น.เป็นต้นไปบริเวณสกายวอล์ก สี่แยกปทุมวัน จะมีนิสิตนักศึกษาจำนวนมากร่วมกิจกรรม เพื่อเชิญชวนประชาชนในเขตพื้นที่ชั้นในเข้าร่วมชุมนุม และวันอาทิตย์ที่ 4 ก.ย. เวลา17.00 น.เป็นต้นไป จะมีการปราศรัย ที่แยกราชประสงค์ โดยคณะหลอมรวมฯได้พูดคุยกับเจ้าหน้าที่ตำรวจเพื่อประสานงานกับห้างเซ็นทรัลเวิลด์เพื่อขอใช้พื้นที่ลานกว้างหน้าห้างในการทำกิจกรรม เพื่อลดผลกระทบต่อจราจรให้มากที่สุด หลังจากนั้นจะเข้าไปตามรั้วมหาวิทยาลัย และต่างจังหวัดเพื่อรอสถานการณ์ที่สุกงอม เพราะการต่อสู้พิสูจน์ว่าจุดชี้ขาดไม่ได้อยู่ที่คนเต็มท้องถนน แต่จุดชี้ขาด คือ ความชอบธรรม เราจะไม่รีบ ถ้าประชาชนเข้าใจตกผลึกในวันที่สถานการณ์สุกงอมซึ่งใกล้เต็มที
เชื่อ3ป.ยังอยู่-เลือกตั้งไม่เกิด
นายจตุพรกล่าวย้ำว่าวันนี้คณะ 3ป.ไม่มีท่าทีว่า จะยุติการดำรงตำแหน่ง แม้ว่าวันที่ 24ส.ค.ประเทศไทยขาดพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชาได้ แต่การคงไว้ ซึ่งอำนาจ 3ป.นั้น จะนำพาไปสู่การไม่มีการเลือกตั้งเกิดขึ้น เพราะกลยุทธ์ลับลวงพรางเราก็เคยเห็น ความจริงวิชามารไม่เคยคิดที่จะเปลี่ยนรูปแบบ จึงมีการยืดเวลาทุกครั้ง ซึ่งทฤษฎีของคณะ 3 ป.คืออยู่ในอำนาจที่ละนิด ให้คนไทยตายใจ เช่นบอกว่าไม่ยึดอำนาจก็มายึดอำนาจอ้างเรื่องรักษาความสงบและอยู่ไม่นาน บอกว่าคืนอำนาจให้กับประชาชน โดยการร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ ครั้งนี้ก็เช่นเดียวกันกฎหมายลูกพรรคการเมือง และการเลือกตั้ง ส.ส.ได้ถูกยื่นให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยว่าขัดรัฐธรรมนูญหรือไม่ เพราะการแก้ไขกฎหมายเลือกตั้ง ดูเสมือนว่าคณะ 3ป.ยอมให้กับพรรคเพื่อไทย ทำให้เกิดการตายใจ แต่การแก้ไขมาตรา 91 แต่ไม่ยอมให้แก้มาตรา 93 และ 94ซึ่งเป็นหัวใจหลักของบัตรใบเดียว ผู้แทนพึงมี เห็นว่าคณะ 3 ป.ได้วางเกมเพื่อสร้างความดีใจให้กับพรรคการเมืองลืมคิดไปว่าที่ผ่านมา ก็เกิดรักแท้ในคืนหลอกลวงมาโดยตลอด
“เพราะสภาปิดสมัยประชุมในเดือนนี้กว่าจะเปิดอีกทีตอนปลายปีเหลือระยะเวลา 3 เดือน สภาก็สิ้นอายุไขในวันที่ 24 มี.ค.2566 เพราะกว่าจะวินิจฉัยกฎหมาย ถ้าวินิจฉัยว่าขัดรัฐธรรมนูญ กฎหมายลูกดังกล่าว ก็เป็นโมฆะ ต้องเริ่มตั้งต้นใหม่ จะต้องใช้ระยะเวลาและมีการดึงเกมจนสภาหมดอายุ นี่เป็นการหลอกอย่าง น่าละอายมากที่สุด แต่การหลอกมันได้สำหรับคนที่มีความอยาก อยากมากเท่าไหร่ยิ่งหลอกง่ายมากขึ้นเท่านั้น เพราะฉะนั้นคณะหลอมรวมประชาชนมองว่าการเลือกตั้งจะไม่มีตราบใดที่ไม่หยุดอำนาจ 3ป.มีความคาดหวังว่า คณะ3ป.จะได้ใช้ชีวิตอยู่ในประเทศไทยไม่ต้องลี้ภัย”นายจตุพรย้ำ
กมธ.เค้นปมสตท.หญิงเชิญแจง8ก.ย.
นายธีรัจชัย พันธุมาศ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล ในฐานะโฆษกคณะกรรมาธิการ(กมธ.)ป้องกันและปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ(ป.ป.ช.) สภาผู้แทนราษฎร กล่าวถึงการเชิญนายธานี อ่อนละเอียด พล.ร.อ.ศิษฐวัชร วงษ์สุวรรณ สมาชิกวุฒิสภา(ส.ว.) และพล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ อดีตผบ.ตร. อดีตสนช. มาให้ข้อมูลต่อกมธ.กรณีมีส่วนเกี่ยวข้องแต่งตั้งส.ต.ท.หญิงกรศศิร์ บัวแย้ม เป็นที่ปรึกษากิตติมศักดิ์กมธ.กฎหมาย และกระบวนการยุติธรรม สภานิติบัญญัติแห่งชาติ ในสมัยที่ทั้ง 3คน เป็นกมธ.กฎหมายฯ สนช.ว่า ยังไม่กำหนดวันชัดเจนจะเรียกทั้ง 3คน มาให้ข้อมูลต่อกมธ.วันใด แต่ในวันที่ 8ก.ย.นี้ จะเชิญผู้เสียหายที่เป็นทหารรับใช้หญิงซึ่งถูกส.ต.ท.หญิงทำร้าย และทนายความ มาให้ข้อมูลต่อกมธ.ก่อน จากนั้นจะกำหนดต่อไปจะเรียกใครมาให้ข้อมูลในวันใด
“เบื้องต้นมีผู้เกี่ยวต้องที่กมธ.จะเชิญมาชี้แจงมากกว่า 20คน มีทั้งคนที่เกี่ยวข้องโดยตำแหน่งและเกี่ยวข้องโดยตัวบุคคลเบื้องต้น จะเรียกผู้เกี่ยวข้องทั้ง 3คน มาให้ข้อมูลถึงการตั้ง ส.ต.ท.หญิงมาเป็นที่ปรึกษากิตติมศักดิ์กมธ.กฎหมายฯ และประเด็นที่เกี่ยวข้องอื่นๆ จะใช้เวลาสอบให้เร็วที่สุด” นายธีรัจชัย กล่าว
โฆษก กมธ.ป.ป.ช.กล่าวว่าส่วนกรณีที่นายธานี ออกมายอมรับ เคยมีความสนิทสนมกับส.ต.ท.หญิง แต่ปัจจุบัน ไม่ได้ติดต่อกันมานานแล้ว ถือเป็นการยอมรับในระดับหนึ่งว่ารู้จักกันจริงแต่ความสัมพันธ์จะเป็นแบบใดยังไม่รู้ ต้องดูรายละเอียดก่อนเพื่อหาความเชื่อมโยงจะไปช่วยเหลือให้เข้ารับราชการตำรวจได้หรือไม่ ขณะนี้ยังบอกไม่ได้ จะมีการใช้สิทธิส่วนตัวช่วยเหลือกันหรือไม่ ต้องมีข้อมูลมากกว่านี้
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี