มารู้จัก "ดร.วรสุดา สุขารมณ์" หรือ "ดร.จุ๊บ" ลูกสาว "หมอเดชา สุขารมณ์" อดีต ส.ส.กาญจนบุรี 6 สมัยว่าที่ผู้สมัครค่ายภูมิใจไทย เขต 1 กาญจนบุรีกับคอนเซ็ป "ผู้คนจะเริ่มศรัทธาจากแนวความคิด ยอมรับในคุณวุฒิ มากกว่า วัยวุฒิ เช่นเดียวกับการศึกษายุคใหม่"
จังหวัดกาญจนบุรี มี 13 อำเภอ แบ่งเขตเลือกตั้งออกเป็น 5 เขต มี ส.ส.ได้ 5 คน ซึ่งการเลือกตั้งครั้งล่าสุดเมื่อปี 2562 ผู้ที่ได้รับการเลือกตั้งเข้ามาเป็น ส.ส.ทั้ง 5 เขต ประกอบด้วย เขต 1.พล.อ.สมชาย วิษณุวงศ์ พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) เขต 2.นายสมเกียรติ วอนเพียร พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) เขต 3.นายยศวัฒน์ มาไพศาลสิน พรรคภูมิใจไทย (ภท.) เขต 4.นายธรรมวิชญ์ โพธิพิพิธ พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) และเขต 5.นายอัฏฐพล โพธิพิพิธ พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.)
สำหรับสถานการณ์ทางด้านการเมือง ณ ปัจจุบัน คาดว่าอาจจะมีการเลือกตั้งครั้งใหม่ในเร็วนี้ ที่ผ่านมาจังหวัดกาญจนบุรีมีพรรคเพื่อไทย (พท.) เพียงพรรคเดียวที่ได้เปิดตัวผู้สมัครอย่างเป็นทางการ 2 คน 2 เขตเลือกตั้ง ประกอบด้วย เขต 1.นายอัครนันท์ กัณณ์กิตตินันท์ และเขต 2.นายชูเกียรติ จีนาภักดิ์ ส่วนที่เหลืออีก 3 เขตเลือกตั้ง ต้องรอลุ้นกันต่อไปว่าพรรคเพื่อไทย จะเปิดตัวว่าที่ผู้สมัครวันไหน แต่ที่แน่ๆ คือ พล.ต.ต.กมลสันติ กลั่นบุศย์ อดีตผู้สมัคร ส.ส.พรรคพลังประชารัฐ เขต 3 ได้สลับขั้วขึ้นป้ายขนาดใหญ่เพื่อประกาศตัวลงสมัคร สส.พรรคเพื่อไทย เขต 3 แล้ว
ในส่วนของพรรคภูมิใจไทย (ภท.) ปัจจุบันมีนายยศวัฒน์ มาไพศาลสิน หรือกุ๊ก เป็น ส.ส.เขต 3 ล่าสุดเมื่อวันที่ 14 ส.ค.65 ที่ผ่านมา นายปรเมศ โพธารากุล หรือกำนันบอย อดีต ส.ส.กาญจนบุรี เขต 3 พรรคประชาธิปัตย์ ได้สลับขั้วด้วยการลาออกจากการเป็นสมาชิกแล้วหับมาซบพรรคภูมิใจไทยอย่างเต็มตัว
สำหรับว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.จังหวัดกาญจนบุรี พรรคภูมิใจไทย ที่น่าจับตามองอีก 1 คนคือ ดร.วรสุดา สุขารมณ์ หรือ "ดร.จุ๊บ" ว่าที่ผู้สมัคร เขต 1 โดย ดร.จุ๊บ เป็นบุตรสาว นาวาโท นายแพทย์ เดชา สุขารมณ์ อดีต ส.ส.กาญจนบุรี 6 สมัย อดีตรัฐมนตรีว่าการทบวงมหาวิทยาลัย และอดีตรัฐมนตรีช่วยกระทรวงสาธารณสุข ซึ่งนาวาโทนายแพทย์เดชา สุขารมณ์ ได้จากไปอย่างสงบเมื่อวันที่ 20 ก.ย.2564 ด้วยอายุ 86 ปี
ตั้งแต่เกิดสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ดร.จุ๊บ ได้ลงพื้นที่พบปะและช่วยเหลือประชาชนในพื้นที่ เขต 1 อ.เมืองกาญจนบุรีและ อ.ศรีสวัสดิ์ มาอย่างต่อเนื่อง ทำให้เป็นที่รู้จักของประชาชนเป็นอย่างดี
ทั้งนี้ ดร.วรสุดา สุขารมณ์ หรือ ดร.จุ๊บ กล่าวว่า จุ๊บเติบโตมาในโรงพยาบาล เนื่องจากคุณพ่อเป็นแพทย์ ชีวิตที่เราเห็นจึงเป็นเรื่องที่เกี่ยวข้องกับการเป็นผู้ให้อยู่ตลอดเวลา ด้วยการเป็นลูกสาวของนักการเมือง ที่มีคุณพ่อเป็นแบบอย่างในการดำเนินชีวิต จุ๊บได้ติดตามคุณพ่อลงพื้นที่ไปทำกิจกรรมการเมืองต่างๆ ทั้งการออกพื้นที่ ไปช่วยเหลือชาวบ้านที่ขาดแคลนในหลายๆจังหวัด ออกหน่วยแพทย์เคลื่อนที่ แล้วก็กลับมาใช้ชีวิตในเมืองหลวง ควบคู่กันมาโดยตลอด
จึงทำให้เห็นความแตกต่าง เหลื่อมล้ำของผู้คน ความไม่เท่ากันในทุกด้าน รวมถึงการขาดโอกาสที่จะสร้างชีวิตที่เสมอภาคเทียบเท่า ทำให้เราเข้าใจสภาพของสังคมในปัจจุบันและสิ่งนี้เอง ที่ทำให้เกิดปัญหาความเหลื่อมล้ำในทุกด้าน สิ่งที่ได้ จากการติดตามคุณพ่อในวัยเด็กนั้น เป็นแรงบันดาลใจในหลายๆ ประการ ที่เป็นแรงผลักดันให้เข้ามาทำงานการเมือง เพื่อที่จะสร้างสังคมที่ดีกว่าเพื่อประชาชน
สำหรับแนวคิดทางการเมือง หลายๆ ท่าน พูดว่า การเมืองเป็นเรื่องของผลประโยชน์ แต่ส่วนตัวจุ๊บคิดว่า การเมืองเป็นเรื่องของการทำประโยชน์มากกว่าสิ่งอื่นใด ชีวิตลูกนักการเมือง จะคุ้มค่าที่สุด ก็ต่อเมื่อได้ทำประโยชน์เพื่อบ้านเมือง คุณพ่อให้ข้อคิดแบบนี้มาตลอดเวลาที่อยู่ด้วยกัน ยิ่งเราได้สัมผัสความเดือดร้อนของผู้คนมากเท่าใด เราก็ยิ่งรู้สึกว่า โอกาสที่จะมอบสิ่งดีดีให้บ้านเมือง คือ ต้องทำนโยบายที่เหมาะสมตั้งแต่ระดับประเทศ ลงมาสู่ประชาชน ความเข้าใจในปัญหาจากการลงพื้นที่ จะนำไปสู่กระบวนการตั้งโจทย์และบูรณาการในการ แก้ปัญหาร่วมกันทั้งภาครัฐ และภาคประชาชน สิ่งนี้หละที่จุ๊บอยากเห็น
ประเทศไทยในมุมมองของการแก้ปัญหาที่ปัญหา ไม่ใช่การนั่งอยู่ในห้องสี่เหลี่ยม แล้วคิดว่าอะไรเป็นปัญหา แล้วทำเป็นนโยบาย มันก็ ไม่ต่างจากจินตนาการแบบไร้แนวทาง แต่การแก้ปัญหาที่ปัญหา คือ ต้องรับฟังเสียงประชาชน ผ่านกระบวนการทางความคิดร่วมกันแล้วจึงวางแนวทางปฏิบัติเพื่อให้ออกจากปัญหานั้นได้
ส่วนอุดมการณ์ทางการเมืองนั้น ถ้าตั้งมั่นในประโยชน์ของประชาชนในพื้นที่แล้ว พรรคการเมือง หรือ แนวคิดทางการเมือง จึงไม่ใช่ประเด็นหลัก แม้ว่าวันนี้ คนๆ เดียว อาจจะไม่สามารถ สร้างสังคมน่าอยู่ในอุดมคติได้ แต่การขับเคลื่อนแบบมีกลไกที่มุ่งเน้นแก้ไขปัญหาเชิงพื้นที่ น่าจะมาก่อน การจับกลุ่มในการทำงานด้านการเมือง และกลไกที่ชัดเจนนี้เอง ที่จะเป็นตัวขับเคลื่อนเป้าประสงค์ของเรา
การแก้ไขปัญหาต่างๆได้ภายใต้การทำงานในด้านนโยบายรวมของประเทศ ด้วยการพัฒนาด้านเทคโนโลยีการสื่อสาร การก้าวย่างเข้าสู่การเป็นสังคมดิจิตอล แทนที่สังคมยุคอะนาล๊อก เราจะเห็นการเมืองยุคใหม่ ที่เปิดเผยแนวทางความคิดของคนรุ่นใหม่ที่เพิ่มมากขึ้น แม้ว่าในทางตรงกันข้าม สังคมไทยกำลังจะก้าวเข้าสู่สังคมผู้สูงวัยก็ตาม
แต่เราจะเห็นคนรุ่นใหม่ ออกมาให้ความคิดเห็น และมีแนวทางการเมืองที่แตกต่างจากคนรุ่นเก่ามากขึ้น โดยแนวคิดของคนรุ่นใหม่ จะเป็นแนวคิดที่แตกต่างจาก คนรุ่นเก่าอย่างสุดขั้ว และผู้คนก็จะยอมรับมากขึ้น หากแนวคิดนั้นตอบโจทย์และมีความเป็นไปได้ในการแก้ปัญหาของผู้คนได้จริง ผู้คนจะเริ่มศรัทธาจากแนวความคิด ยอมรับในคุณวุฒิ มากกว่า วัยวุฒิ เช่นเดียวกับการศึกษายุคใหม่ ที่ใช้ประสบการณ์มากกว่าสิ่งที่อยู่ในตำรา สิ่งนี้ล่ะที่จะปฏิวัติการเมืองไทยได้”ดร.วรสุดา สุขารมณ์ หรือ ดร.จุ๊บ กล่าว
สำหรับประวัติด้านการศึกษาของ ดร.วรสุดา สุขารมณ์ หรือ ดร.จุ๊บ ปี 2527-2528 สำเร็จการศึกษาระดับประถมศึกษาถึงระดับมัธยมศึกษาตอนปลายจากโรงเรียนสาธิต มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ ประสานมิตร ปี 2538-2542 สำเร็จการศึกษาระดับอุดมศึกษา จากมหาวิทยาลัยมหิดล (นานาชาติ)ศิลปศาสตรบัณฑิต สาขาการบริหารอุตสาหกรรมการท่องเที่ยว
ปี 2545-2547 สำเร็จการศึกษาระดับมหาบัณฑิต จากมหาวิทยาลัยรามคำแหง ศิลปศาสตรมหาบัณฑิต (รัฐศาสตร์) หลักสูตรนักบริหาร และ ปี 2551 สำเร็จการศึกษาระดับดุษฎีบัณฑิต สาขาวิชารัฐประศาสนศาสตร์ คณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยรามคำแหง
ปัจจุบัน เป็นที่ปรึกษาประธานคณะกรรมาธิการการท่องเที่ยว สภาผู้แทนราษฎร ผู้ทรงคุณวุฒิประจำคณะอุตสาหกรรมและเทคโนโลยี มหาวิทยาลัยราชภัฎกาญจนบุรี ผู้ทรงคุณวุฒิประจำคณะกรรมการองค์การบริหารส่วนตำบลจังหวัดกาญจนบุรี คณะกรรมการตรวจสอบและติดตามการบริหารงานตำรวจ สถานีตำรวจภูธรเมืองกาญจนบุรี ผู้ทรงคุณวุฒิคณะกรรมการพัฒนาสตรีจังหวัดกาญจนบุรี และคณะอนุกรรมการบริหารกองทุนส่งเสริมการจัดสวัสดิการสังคมจังหวัดกาญจนบุรี
โดย ดร.วรสุดา สุขารมณ์ หรือ ดร.จุ๊บ ปัจจุบันอายุ 45 ปี ส่วนจะฝ่าฟันปัญหาและอุปสรรคเข้าไปเป็น ส.ส.ได้หรือไม่นั้น จะต้องรอฟังผลคะแนนในวันปิดหีบเลือกตั้ง ซึ่งก็ยังไม่ทราบว่าจะเกิดขึ้นเมื่อใด - 003
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี