กว่าสองสัปดาห์แล้ว นับจากวันที่ “ศาลรัฐธรรมนูญ” มีคำสั่งให้ “พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา” หยุดปฏิบัติหน้าที่ “นายกรัฐมนตรี” เมื่อวันที่ 24 สิงหาคม เพื่อรอคำวินิจฉัยวาระดำรงตำแหน่ง 8 ปี ตามที่ “ฝ่ายค้าน” ยื่นคำร้อง
ตามกระบวนการเมื่อศาลรัฐธรรมนูญรับคำร้องและมีคำสั่งให้หยุดปฏิบัติหน้าที่ ผู้ถูกร้องสามารถส่งคำชี้แจงภายใน 15 วัน โดยล่าสุด “ทีมกฎหมาย” ของ “บิ๊กตู่” ได้ยื่นเอกสารคำชี้แจงกว่า 20 หน้าต่อศาลรัฐธรรมนูญแล้วเมื่อวันที่ 1 กันยายนที่ผ่านมา
ทีมกฎหมาย นำโดย “พล.ต.วิระ โรจนวาศ” ที่ปรึกษานายกรัฐมนตรี ใช้เวลาเพียง 7 วัน รวบรวมคำชี้แจงกว่า 20 หน้า รายละเอียดเอกสารเป็น “ความลับ”ไม่อาจเปิดเผย แต่ตัวอักษรทุกบรรทัดผ่านสายตา “วิษณุ เครืองาม” รองนายกฯ ฝ่ายกฎหมาย สแกนตรวจทานคัดกรองหมดจด
พร้อมคอมเม้นท์การันตีว่า เนื้อหาคำชี้แจง "ฟังขึ้น" ตอบชัดทุกประเด็น ประมาณว่าทุกถ้อยคำ ทุกประโยคในคำชี้แจง ตอบโต้ และ แก้ต่าง "คำร้อง" ของฝ่ายค้านได้ทุกหมัด
ถือเป็นสัญญาณบวก จาก "เนติบริกร" ส่งตรงถึง “กองเชียร์ลุงตู่” กระตุ้นอารมณ์ให้ "ใจชื้น"ขึ้นมาบ้าง หลังจากต้องทนเห็นลุงตู่ ระเห็จระเหินจากทำเนียบ ปล่อยให้ “ตึกไทยคู่ฟ้า” ต้องเงียบเหงาอยู่เป็นสัปดาห์
เป็นอันว่านับถอยหลังรอวันศาลอ่านคำวินิจฉัย คำนวณทิศทางลมแล้ววางอัตราต่อกันได้เลย เปอร์เซ็นต์ "ไปต่อ" สูงกว่า "พอแค่นี้" เกินครึ่ง
ช่วงเวลา 7 วันที่ผ่านมา ระหว่างที่ทีมกฎหมายรวบรวมเอกสารคำชี้แจงเพื่อ "ปลดล็อค" ให้บิ๊กตู่พ้นจาก “บ่วงกรรม” วาระ 8 ปี
ในวันที่ทำเนียบรัฐบาลไร้ “สร.1” เมื่ออำนาจบริหารราชการแผ่นดินถูกถ่ายโอนโดยอัตโนมัติไปยัง "สร.2" บิ๊กป้อม “พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ”
สมใจบรรดา "คนรอบกาย" ลุงป้อม โดยเฉพาะก๊กก๊วนส.ส.ใน “พรรคพลังประชารัฐ” เมื่อหมากการเมืองเข้าช่วง "นาทีทอง" ในห้วง "สุญญากาศ" พล.อ.ประวิตร รักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี กุม “อำนาจพิเศษ” ไว้ในมือ
"ปรับครม. -ยุบสภา" ป้อมทำได้
แม้กระแสเรียกร้อง “ปรับคณะรัฐมนตรี” จากภายในพลังประชารัฐจะก่อหวอดมาเป็นระยะ โดยเฉพาะ “2 เก้าอี้รัฐมนตรีช่วย” ในโควตาที่ยังคงถูกแขวนเป็น “ชิ้นปลามัน” ให้เฝ้าจ้อง แต่ภาวะก่อหวอด ก็อยู่ในอาการ ผุบๆโผล่ๆเป็นช่วงๆ ด้วยประกาศิตบิ๊กตู่ว่า "ยังไม่คิดเรื่องปรับครม."
ในช่วงสุญญากาศนี้ จึงเป็น "โอกาสทอง" ที่ต้องส่งสัญญาณ "กระทุ้ง" ไปยัง "ลุงป้อม" และก็เป็นกลุ่ม “ส.ส.ภาคใต้” ที่รับบท “หน่วยกล้าตาย” โดย "สัณหพจน์ สุขศรีเมือง” ส.ส.นครศรีธรรมราช พปชร. ออกมาส่งเสียงเรียกร้องให้มีการปรับครม.
แต่หินถามทางที่โยนออกไป "ตกน้ำดังต๋อม"
ตามหลัก "รักษาการนายกฯ" มีอำนาจปรับครม.ได้ แต่ทางปฏิบัติอาจไม่ง่ายเหมือนดีดนิ้ว แต่ "ไม่ง่าย" ไม่ใช่ "ทำไม่ได้" เพราะมีขั้นตอน กระบวนการ อยู่ในระบบ แต่ที่ยากกว่าคือ "ทำใจ"
แม้อำนาจมีแต่ "พี่ป้อม" จะทำใจใช้มันได้ลงหรือ? คำถามถูกเฉลยแล้วใน 7 วันที่ผ่านมา
"พล.อ.ประยุทธ์" ให้ความเคารพศาลรัฐธรรมนูญ โดยการไม่เข้าทำเนียบในวันที่มีการยื่นคำร้อง เมื่อศาลมีคำสั่งให้หยุดปฏิบัติหน้าที่ จึงเข้าทำงานที่ "กระทรวงกลาโหม" ในตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการที่ยังคงมี ขณะเดียวกัน พล.อ.ประวิตรในฐานะรักษาการราชการแทนนายกฯ สามารถนั่งใน "ตึกไทยคู่ฟ้า" ได้
แต่ "พี่ป้อม" เลือกที่จะให้เกียรติ "น้องตู่" ด้วยการใช้ “มูลนิธิป่ารอยต่อฯ” กับ “ตึกบัญชาการ 1 ทำเนียบฯ” เป็นที่ทำงานเหมือนเช่นเคย
ในวันที่ "อำนาจ" เบอร์หนึ่งฝ่ายบริหารอยู่ที่บิ๊กป้อม ชายชาติทหาร “พี่ใหญ่แห่งบูรพาพยัคฆ์” จึงต้องแสดงให้เห็น "ภาวะผู้นำ" ให้น้องตู่เห็น
ก็เลยเป็นที่ฮือฮาเมื่อปรากฎภาพพล.อ.ประวิตร เดินเข้าตึกสันติไมตรีเพื่อเป็นประธานประชุมครม.โดยไม่ต้องให้คนติดตามคอยพยุงเหมือนที่ผ่านมา
องอาจสง่าผ่าเผยสม "ชายชาติทหาร"
ย้ำชัดอีกครั้งกับปรากฎการณ์วันประชุมครม. 30 สิงหาคมที่ผ่าน แม้ "บิ๊กป้อม" จะเป็นประธานประชุมโดยตำแหน่ง แต่เลือกที่จะนั่งเก้าอี้ของรองนายกฯตัวเดิมทำหน้าที่ประธานประชุม ขณะที่ "เก้าอี้ประธาน" ตัวกลางหัวโต๊ะยังวางอยู่ "ที่เดิม" แต่ปล่อย "ว่าง"
แม้เก้าอี้ประธานจะว่าง แต่สิ่งที่ "วาง" อยู่คือ "การให้เกียรติ" และ "ความเชื่อใจ"
ตอกย้ำว่า "เลือดข้นกว่าน้ำ" 3 ป. ยังกระชับอำนาจแน่นเหนียว
เสียงที่ "ไม่มีเสียง" จาก "พี่ป้อม" ส่งถึง "น้องตู่" เป็นนัยว่า "เชื่อใจพี่ได้" ในตำแหน่งนายกฯ
แปลไทยเป็นไทย วันนี้แค่ "ซ้อม" รักษาราชการแทน แต่วันหน้าถ้าจะส่งไม้ต่อให้เป็น "ตัวจริง"
พี่ป้อมก็ "พร้อม"
ทีมข่าวการเมือง รายงาน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี