แซะมหัศจรรย์ 8 ปีได้ทุกอย่าง! "โรม"ตะเพิด"บิ๊กตู่"ลาออก เปิดทางเลือก"นายกฯคนใหม่" เหน็บ"มีชัย 2 ร่าง"ซัดตีความ 8 ปีแย้งรธน.
เมื่อเวลา 09.00 น.วันที่ 7 กันยายน 2565 ที่รัฐสภา นายรังสิมันต์ โรม ส.ส.บัญชีรายชื่อ และโฆษกพรรคก้าวไกล กล่าวถึงกรณีที่มีการเผยแพร่เอกสารอ้างว่าเป็นความเห็นของ นายมีชัย ฤชุพันธุ์ อดีตประธานกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ (กรธ.) ชี้แจงศาลรัฐธรรมนูญระบุว่าการนับวาระนายกฯ ของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นับตั้งแต่วันที่ 6 เม.ย.60 หลังรัฐธรรมนูญ ปี 2560 บังคับใช้นั้นว่า หากเอกสารนั้นเป็นฉบับจริง หมายความว่าจะมีนายมีชัย 2 คนในเวลานี้ ซึ่งคนเก่าคือนายมีชัย ในฐานะประธาน กรธ.มีความเห็นต่อกรณี 8 ปีอีกแบบหนึ่ง แต่คนใหม่วันนี้ให้เป็นอดีตประธาน กรธ.และให้ความเห็นทางกฎหมายต่อกรณี 8 ปีตรงกันข้าม ซึ่งตนมีความเห็นด้วยกับนายมีชัยคนเก่า และขอยืนยันว่าหากจะนับในเรื่อง 8 ปี พล.อ.ประยุทธ์ มีความจำเป็นที่จะต้องนับต่อเนื่องกัน โดยตัวบทเฉพาะกาลได้เขียนเอาไว้อย่างชัดเจนว่าการนับระยะเวลาก่อนที่รัฐธรรมนูญ 60 บังคับใช้นั้นหมายความว่าจะต้องนับคณะรัฐมนตรีก่อนรัฐธรรมนูญปี 60 ต่อเนื่องกันมาจนถึงปัจจุบัน
"ดังนั้น ไม่มีเหตุผลอะไรที่จะตีความว่าการดำรงตำแหน่งของ พล.อ.ประยุทธ์ จะไม่ครบ 8 ปี ทั้งนี้ เมื่อวาน (6 ก.ย.) ได้มีเอกสารหลุดมาอีก 1 ฉบับ ซึ่งเป็นบันทึกการประชุมของ กรธ.ครั้งที่ 501 ซึ่งมีความชัดเจนว่า ทาง กรธ.ได้รับรองเอกสารการประชุมครั้งที่ 500 นั้น หมายความว่าสิ่งที่คุณมีชัย ถ้าเป็นไปตามที่เอกสารหลุดออกมาเป็นความจริงที่ยื่นต่อศาลรัฐธรรมนูญ ก็เป็นการแสดงให้เห็นว่า ถ้อยคำที่ส่งไปยังศาลรัฐธรรมนูญ ที่บอกว่าการจดชวเลขคลาดเคลื่อน หรือแม้กระทั่งบอกว่าเป็นการจดที่ไม่ครบ ก็จะโต้แย้งประโยคเหล่านี้ และทำให้เห็นว่าน้ำหนักของเอกสาร หากยื่นไปที่ศาลรัฐธรรมนูญมีน้ำหนักไม่มาก ถึงที่สุดความเห็นตามเจตนารมณ์ของกฎหมายมีความชัดเจน และคำพูดใดๆที่มีการสนทนาในการประชุม ได้เป็นนายไปแล้ว" นายรังสิมันต์ กล่าว
นายรังสิมันต์ กล่าวต่อว่า การตีความอื่นๆของนายมีชัย ก็ไม่สามารถฟังได้ตามหลักการ และต้องยืนยันอีกครั้งว่า ถ้าเจตนารมณ์ของความมุ่งหมายของรัฐธรรมนูญคือการป้องกันการผูกขาดอำนาจ และการป้องกันไม่ให้มีนายกรัฐมนตรีดำรงตำแหน่งที่ยาวนานเกินไปอันจะนำไปสู่วิกฤตทางการเมือง ถ้าเราตีความให้ พล.อ.ประยุทธ์ ต้องนับวันแรกของการเป็นนายกรัฐมนตรี คือ 6 เม.ย.60 เรากำลังตีความขัดแย้งต่อเจตนารมณ์ของรัฐธรรมนูญ ซึ่งตนคิดว่าวิกฤตทางการเมืองต่อไปจะเกิดขึ้นจากตรงนี้ ไม่ใช่เกิดขึ้นจากการตีความว่า พล.อ.ประยุทธ์ ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี มาตั้งแต่ปี 57 และหวังว่าการให้ความเห็นนี้จะเป็นประโยชน์ และผู้มีอำนาจที่วินิจฉัยในเรื่องนี้จะรับฟังและนำไปสู่การตีความที่สอดคล้องกับรัฐธรรมนูญทั้งหมด
เมื่อถามว่า การปล่อยเอกสารดังกล่าวมีการจงใจให้เห็นว่า อาจจะต้องเป็นไปตามนั้นเลยหรือไม่ นายรังสิมันต์ กล่าว ตนคิดว่า 1.อาจจะเป็นการโยนหินถามทางว่าหากโยนออกมาเป็นแบบนี้สังคมไทยจะตีความเรื่องนี้ว่าอย่างไร 2.อาจจะต้องมองมิติทางการเมือง คือระหว่างความสัมพันธ์ภายในรัฐบาลหลังจากที่ พล.อ.ประยุทธ์ ดูแล้วมีโอกาสไม่ได้กลับมาเป็นนายกรัฐมนตรีหรือไม่ ซึ่งนั้นอาจจะทำให้องคาพยพ เริ่มสูญเสียความเชื่อมั่น และเริ่มจะตีตัวออกห่างจาก พล.อ.ประยุทธ์ ได้ ซึ่งการที่ส่งเอกสารแบบนี้ และอ้างว่าเป็นเอกสารที่มาจากนายมีชัย มีจุดมุ่งหมายเพื่อให้กำลังใจ และความมั่นใจกับองคาพยพ ที่อาจจะมีความรู้สึกว่าต้องรอ พล.อ.ประยุทธ์ แต่อย่างไรก็ตาม ต้องเน้นย้ำว่าเรายังไม่มั่นใจร้อยเปอร์เซ็นต์ ว่าเอกสารฉบับนั้นจะเป็นเอกสารของนายมีชัย จริงหรือไม่ ซึ่งอาจจะเป็นเอกสารที่ใครทำมาก็ได้
เมื่อถามว่า หากเอกสารดังกล่าวเป็นเอกสารจริง นายรังสิมันต์ กล่าวว่า อาจเป็นการชี้นำได้ ซึ่งตอนนี้ต้องยอมรับว่าด้วยสัดส่วน 5 ต่อ 4 หากพลิกแค่คนเดียวการตีความกฎหมายก็อาจจะเป็นอีกแบบหนึ่งได้เลย และการวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญก็อาจจะออกมาอีกแบบหนึ่งเช่นกัน และหลังจากที่เอกสารดังกล่าวหลุดออกมาตนกังวลใจว่า แนวทางการตีความของศาลรัฐธรรมนูญจะเปลี่ยนไป เพราะในตอนแรกตนเชื่อว่าเป็นเรื่องที่ไม่ได้ซับซ้อน และเป็นเรื่องที่วินิจฉัยบนข้อกฎหมาย แต่เมื่อมีความเห็นของนายมีชัย จึงทำให้เกิดความรู้สึกว่ามีโอกาสที่ธงจะเปลี่ยนไป ดังนั้นหากการวินิจฉัยออกมาแตกต่างจากคำสั่งชั่วคราวที่ให้หยุดปฏิบัติหน้าที่ ตนคิดว่าศาลรัฐธรรมนูญต้องมีคำอธิบายที่หนักแน่นต่อเรื่องดังกล่าว
นายรังสิมันต์ กล่าวต่อว่า ทั้งนี้สิ่งที่สังคมอยากเห็น พล.อ.ประยุทธ์ ลาออก และจากนั้นเปิดทางให้สภาผู้แทนราษฎรเลือกนายกรัฐมนตรีคนใหม่ ซึ่งอยู่บนเงื่อนไขของการประชุมร่วมกันของรัฐสภา เพื่อพิจารณาร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญ ที่จะปิดสวิตช์สมาชิกวุฒิสภา (ส.ว.) เลือกนายกรัฐมนตรี รวมถึงการคืนอำนาจเลือกนายกรัฐมนตรีกลับสู่ประชาชนผ่านสภาผู้แทนราษฎร เตรียมสู่การเลือกตั้งต่อไป
"พล.อ.ประยุทธ์ ลาออกดีกว่า ท่านอยู่มานานพอแล้ว ท่านเป็นนายกรัฐมนตรีท่านได้มาทุกอย่างแล้ว 8 ปี เป็นเรื่องมหัศจรรย์แล้ว ดังนั้นถึงเวลา พอได้แล้ว เพื่อเปิดทางให้สภาเลือกนายกรัฐมนตรีที่มีความเหมาะสมที่ยึดโยงกับประชาชน" นายรังสิมันต์ กล่าว
- 006
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี