มวยถูกคู่! ‘มัลลิกา’ ซัดกลับ ‘อุ๊งอิ๊ง’ ยังไม่ทันเริ่มก็ลอกนโยบาย ‘เซลล์แมนประเทศ-Soft Power’ แล้ว ชี้‘จุรินทร์’ทำมา 3 ปี ช่วยประเทศฝ่าวิกฤต
11 กันยายน 2565 นางมัลลิกา บุญมีตระกูล มหาสุข ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) ในฐานะอดีตที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ กล่าวว่า กรณีนางแพรทองธาร ชินวัตร หัวหน้าครอบครัวพรรคเพื่อไทย ประกาศนโยบายหาเสียงที่จังหวัดเชียงใหม่ล่าสุดนั้น ติดใจอยู่เรื่องหนึ่งคือประกาศเต็มปากเต็มคำว่าจะทำนโยบายเซลล์แมนประเทศ และ Soft Power จึงขอแจ้งให้ทราบว่าถ้ามีโอกาสมาทำเพื่อเป็นประโยชน์ต่อประชาชนก็เป็นเรื่องดี
อย่างไรก็ตาม ต้องรู้ด้วยว่านโยบายนี้รัฐบาลปัจจุบันทำมา 3 ปีขับเคลื่อนโดยนายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ รองนายกรัฐมนตรี และรมว.พาณิชย์ แถลงประกาศตัวเลขไปตั้งหลายครั้งแต่ละครั้งก็มีมูลค่าที่สร้างรายได้ให้ประเทศจนภาคเอกชนขานรับกันทุกสมาคมและวันที่ 14 กันยายน นี้ จะเป็นการประชุมทูตพาณิชย์ 58 ประเทศ ซึ่งประจำอยู่ทั่วโลก แจ้งกำหนดการล่วงหน้าไปนานแล้ว
ทั้งนี้ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ผลักดันอุตสาหกรรมดิจิทัลคอนเทนท์ของไทยนำซอฟพาวเวอร์ มาผสมผสานเพื่อสะท้อนความเป็นอัตลักษณ์ของความเป็นไทยลงไปในเนื้อหาของดิจิทัลคอนเทนท์ไม่ว่าจะเป็นภาพยนตร์ซีรีย์ต่างๆ รายการโทรทัศน์ เกมส์หรืออื่นๆรวมทั้งอนิเมชั่นหรือคาแรคเตอร์ศิลปิน นอกจากขายศักยภาพของภาคธุรกิจด้านนี้ของไทยแล้วให้ขายความเป็นไทยเข้าไปด้วยจะได้สองต่อเพิ่มมูลค่าทางเศรษฐกิจและศิลปะวัฒนธรรมวิถีชีวิตของความเป็นเราคู่ขนานกันไปพร้อมพร้อมกันทั้งนี้เพื่อรองรับอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวหลังวิกฤติโควิด-19 ด้วย
นางมัลลิกา กล่าวต่อว่า ขณะนี้กระทรวงพาณิชย์เขาทำกิจกรรม 2 กิจกรรมหลัก 1.กิจกรรมจับคู่ธุรกิจออนไลน์ระหว่างผู้ประกอบการของไทยและต่างประเทศที่เข้ามาซื้อเบื้องต้นที่ประสานต่อเนื่องก็ 40-50 รายรวมทั้ง Netflix และกิจกรรมที่2 พิชชิ่ง(Pitching )ให้ 5 บริษัทของไทยนำเสนอผลงานให้บริษัทต่างประเทศเพื่อซื้อขายหรือเจรจา และรัฐบาลมี 3 ส่วนในการสนับสนุนด้านนี้ คือ 1.ในส่วนกองทุนอยู่ที่กระทรวงวัฒนธรรมเรียกว่ากองทุนสื่อสร้างสรรค์เป็นผู้พิจารณางบประมาณสนับสนุนการผลิตสามารถไปยื่นเรื่องได้ 2.กระทรวงอุตสาหกรรมมีหน้าที่สนับสนุนในระดับนโยบายและอุตสาหกรรม 3.กระทรวงพาณิชย์ส่งเสริมการค้าและการเจรจาการพบปะแลกเปลี่ยนซื้อขายดังนั้นถ้าเกิดจะประสานงานด้านใดต่างก็มีช่องทางในการติดต่อ
นางมัลลิกา กล่าวอีกว่า นโยบายนี้นายจุรินทร์ เพิ่งจัดงาน MOVE 2022 ดัน Soft Power ไทยเป็นฮับด้านอุตสาหกรรมดิจิทัลคอนเทนต์ของเอเชียสร้างรายได้งานเดียว 604 ล้านบาท จัดไปเมื่อวันที่ 1 สิงหาคม 2565 อันนี้ข่าวล่าสุดของรัฐบาลไทยโดยเป็นประธานในพิธีเปิดโครงการ Multimedia Online Virtual Exhibition 2022 หรือ มูฟ MOVE ที่สตูดิโอกันตนาร่วมกับเครือข่ายวงการอุตสาหกรรมนี้ทุกเจนเนอเรชั่นทั้งหมดขณะนี้เนื้อหาด้าน Soft Power ตื่นตัวกันมาตลอด 3 ปีและงานมูฟ MOVE คือโครงการเจรจาการค้าระหว่างผู้ประกอบธุรกิจดิจิทัลคอนเทนท์ของไทยกับผู้ประกอบการหรือผู้ซื้อในต่างประเทศผ่านแพลตฟอร์มออนไลน์ ซึ่งจัดขึ้นอย่างต่อเนื่องเป็นครั้งที่ 3 แล้วนับตั้งแต่ปี 62 ถึงปัจจุบัน
นอกจากนี้ในเรื่องของเซลล์แมนประเทศเซลล์แมนจังหวัดนายจุรินทร์ประกาศตั้งแต่วันแรกที่เข้ามารับงานที่กระทรวงพาณิชย์และมีการจัดประชุมมอบหมายงานรวมทั้งนำเอาทูตพาณิชย์ที่ถูกมอบหมายให้อยู่แต่ละสำนักงานในต่างประเทศมาดูงานเกษตรกรที่ปลูกพืชหลักของประเทศในแต่ละภาคของไทย พร้อมวัดผลด้วยการ ส่งออกสินค้าเกษตรสินค้าอุตสาหกรรมการเกษตรและทุกประเภทสินค้าในแต่ละภูมิภาคของโลกเซลล์แมนประเทศร่วมมือกันกับผู้ประกอบการภาคเอกชนเป็นทีมเวิร์คนี่บานนี้บรรจุมาตั้งแต่ปี 2562 และสร้างมูลค่าการค้าประกาศตัวเลขส่งออกทุกเดือนจนเป็นที่จดจำว่าการส่งออกกลายเป็นรายได้ขาหลักช่วยค้ำจุนประเทศมาในภาวะที่เราเจอวิกฤตโควิด-19 เพราะภาคการท่องเที่ยวที่เคยเป็นรายได้หลักมีปัญหานาน 3 ปี
“ทำไมถึงถนัดลอกเสียจริงกี่เรื่องมาแล้วและถ้าจะประกาศเป็นนโยบายหาเสียงหลักขนาดนั้นควรประกาศขอบคุณรัฐบาลชุดปัจจุบันนี้ด้วยที่ได้เริ่มต้นมาให้คุณถึงจะเอาไปต่อยอด จะขอบคุณหรือชื่นชมคนอื่นกันบ้างก็ไม่น่าจะเป็นปัญหาก่อนที่จะนำไปประกาศเป็นนโยบายหลักของครอบครัวตนเอง” นางมัลลิกา กล่าว
-005
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี