อบอุ่นคึกคัก! "จุรินทร์"แห่ขนแกนนำต้อนรับ"มาดามเดียร์"ซบปชป.สุดอบอุ่น ชูคนรุ่นใหม่มีศักยภาพ เสริมทัพหวังฟื้นฐานกทม.คืน ด้าน"วทันยา"ลั่นทำการเมืองสุจริตถูกต้อง เผยตัดสินใจ 1 เดือนเลือกปชป.เพราะเป็นประชาธิปไตย ไม่มีใครเป็นเจ้าของ หวังช่วยต่อเติมช่องว่างระหว่างรุ่น ลั่นไร้ปัญหาครองสื่อ เหตุเคลียร์จบแล้ว ยันยังเคารพ"บิ๊กป้อม"เหมือนเดิม มิตรภาพกับการทำงานต้องแยกกัน
เมื่อเวลา 10.09 น.วันที่ 22 กันยายน 2565 ที่พรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรี และรมว.พาณิชย์ ในฐานะหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) พร้อมแกนนำพรรคประชาธิปัตย์ อาทิ นายองอาจ คล้ามไพบูลย์ รองหัวหน้าพรรค ดูแลพื้นที่ กทม. นายนิพนธ์ บุญญามณี รองหัวหน้าพรรค นายสุชัชวีร์ สุวรรณสวัสดิ์ ประธานคณะกรรมการการศึกษาทันสมัย พรรคประชาธิปัตย์ และอดีตผู้สมัครผู้ว่าฯ กทม.พร้อมด้วยอดีตผู้สมัคร ส.ก.ให้การต้อนรับ น.ส.วทันยา บุนนาค หรือ มาดามเดียร์ อดีต ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ได้เข้ามาสมัครสมาชิกพรรคประชาธิปัตย์อย่างเป็นทางการอย่างอบอุ่น
จากนั้นนายจุรินทร์ ได้นำ น.ส.วทันยา มายังลานพระแม่ธรณีบีบมวยผม เพื่อสักการะองค์พระแม่ธรณีบีบมวยผม ซึ่งเป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์ประจำพรรคประชาธิปัตย์ จากนั้นนายจุรินทร์ได้มอบบัตรสมาชิกพรรคประชาธิปัตย์ตลอดชีพให้กับ น.ส.วทันยา ด้วย
โดย นายจุรินทร์ กล่าวว่า วันนี้ถือเป็นวาระพิเศษของพรรคประชาธิปัตย์ ที่ถือเป็นเกียรติ และเป็นโอกาสสำคัญที่พรรคประชาธิปัตย์ได้มีโอกาสต้อนรับนักการเมืองรุ่นใหม่ที่มีศักยภาพ ชื่อว่า น.ส.วทันยา บุนนาค โดย น.ส.วทันยา เป็นผู้หญิงที่มีศักยภาพคนหนึ่งของประเทศ เคยเป็นผู้บริหารสื่อ Digital และยังเป็นอดีตผู้จัดการทีมฟุตบอล ทีมชาติไทยรุ่นอายุไม่เกิน 23 ปี ซึ่งประสบความสำเร็จอย่างล้นหลาม เมื่อ น.ส.วทันยา ได้เข้าสู่แวดวงทางการเมืองถือว่าเป็นดาวเด่นคนหนึ่งของสภาฯ วันนี้จึงถือว่าเป็นเกียรติสำหรับพรรคประชาธิปัตย์ที่ได้มีโอกาสต้อนรับนักการเมืองที่มีศักยภาพมาร่วมงาน และอุดมการณ์กับพรรคประชาธิปัตย์ และที่สำคัญจะมาช่วยเสริมความแข็งแกร่งให้ทีม กทม.โดยจะมาช่วยงานภาพรวมในด้านอื่นด้วย และ น.ส.วทันยา จะมาร่วมขับเคลื่อนร่วมกับนายองอาจ และนายสุชัชวีร์ เพื่อร่วมทำให้พรรคประชาธิปัตย์ได้รับเสียงสนับสนุนที่มากขึ้นในพื้นที่ กทม.
นายจุรินทร์ กล่าวว่า นอกจากนี้ น.ส.วทันยา ได้แสดงความจำนงที่จะลงสมัคร ส.ส.บัญชีรายชื่อของพรรคประชาธิปัตย์ด้วย ซึ่งตนในฐานะหัวหน้าพรรคยินดีต้อนรับ และจากนี้ไป น.ส.วทันยา จะร่วมเป็นกำลังสำคัญในการขับเคลื่อนพรรคประชาธิปัตย์ นำความสำเร็จมาสู่พรรคประชาธิปัตย์ ในการเลือกตั้งครั้งหน้า
ด้าน น.ส.วทันยา กล่าวว่า วันนี้เป็นก้าวย่างในชีวิตที่สำคัญในการตัดสินใจเล่นการเมือง เหตุผลที่เลือกพรรคนี้เพราะความเป็นสถาบันของพรรคตลอด 76 ปี พรรคได้เติบโตเคียงข้างกับสังคมไทยและเป็นที่พึ่งของประชาชน เป็นพรรคที่เห็นว่าสมาชิกมีความอิสระทางความคิด และที่สำคัญไม่มีใครเป็นเจ้าของพรรคการเมืองนี้ ส่วนการลงมติใดๆ ในสภาก็จะต้องเป็นมติของพรรคก่อน ซึ่งเป็นจุดที่ตนเห็นว่าหากต้องทำงานการเมืองในระบอบประชาธิปไตย พรรคการเมืองถือเป็นสถาบันที่สำคัญในการขับเคลื่อนในระบอบประชาธิปไตย ตัวตนของพรรคการเมืองจะเป็นการสะท้อนถึงสัญลักษณ์ประชาธิปไตยตั้งแต่ภายในพรรค
"สิ่งที่เดียร์อยากให้คำมั่นสัญญาก็คือตั้งใจที่จะทำงานโดยยึดมั่นในความสุจริตและความถูกต้อง" น.ส.วทันยา ระบุ (ข่าวที่เกี่ยวข้อง : ต้อนรับ'มาดามเดียร์' เจ้าตัวแย้ม'ส.ส.หญิง'จ่อไหลเข้าประชาธิปัตย์อีกเพียบ)
จากนั้นเวลา 10.30 น.ผู้สื่อข่าวรายงานว่า น.ส.วทันยา ให้สัมภาษณ์หลังเข้าสมัครเป็นสมาชิกพรรคประชาธิปัตย์ ว่า การเข้ามาพรรคประชาธิปัตย์ครั้งนี้ตนต้องการจะนำแนวคิดนโยบายเข้ามาแก้ไขปัญหาประเทศหลายด้าน ดังนั้น ตนขอลงสมัคร ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อ เพื่อจะได้มีเวลาโฟกัสขับเคลื่อนนโยบายอย่างเต็มที่ แต่ขึ้นอยู่กับพรรคที่จะพิจารณาให้ลงสมัคร ส.ส.แบบไหนจึงจะเหมาะสม
เมื่อถามว่า ใช้เวลาตัดสินใจนานแค่ไหนที่เข้ามาเป็นสมาชิกพรรคประชาธิปัตย์ น.ส.วทันยา กล่าวว่า ตนใช้เวลาตัดสินใจประมาณ 1 เดือน เพราะตนลาออกจากพรรคพลังประชารัฐอย่างกระทันหัน ทั้งนี้ ต้องขอขอบคุณผู้บริหารพรรคประชาธิปัตย์ ที่เปิดโอกาสให้ตนเข้าไปพูดคุยและตอบข้อซักถาม เพราะการร่วมทำงานกับพรรคการเมืองใดพรรคการเมืองหนึ่ง สิ่งที่ทำให้ต้องตัดสินใจคือการจะขับเคลื่อนงานการเมืองจะต้องกลัดกระดุมเม็ดแรกเสียก่อน คือต้องดูว่าพรรคนั้นมีสัญลักษณ์ของความเป็นประชาธิปไตยภายในพรรคหรือไม่
"เดียร์หวังว่าการทำงานกับพรรคประชาธิปัตย์ที่มีประสบการณ์ยาวนานมากว่า 76 ปี จะเป็นส่วนหนึ่งที่จะช่วยนำประสบการณ์มาช่วยสอนให้เดียร์ และในฐานะที่เป็นคนรุ่นใหม่ หวังว่าจะเป็นส่วนหนึ่งที่จะเข้าไปช่วยต่อเติมช่องว่างระหว่างรุ่น ที่ทุกวันนี้เราเห็นปัญหาหลายอย่าง แต่ยังไม่ทราบว่าพรรคฯจะมอบภารกิจอะไรให้" น.ส.วทันยา กล่าว
เมื่อถามว่า จะมี ส.ส.จากพรรคพลังประชารัฐ ตามมาอยู่ด้วยหรือไม่ น.ส.วทันยา กล่าวว่า ยังไม่ได้มีการพูดคุยกัน คงต้องขอให้เป็นการตัดสนใจของเพื่อน ส.ส.ตนเชื่อว่าทุกคนมีวิจารณาญาณของตนเองในการที่จะไปอยู่พรรคไหน
เมื่อถามว่า การย้ายจากพรรคพลังประชารัฐมาประชาธิปัตย์ มีความแตกต่างกัอย่างไร น.ส.วทันยา กล่าวว่า สิ่งที่แตกต่างกันคือพรรคพลังประชารัฐ เป็นพรรคที่เพิ่มก่อตั้งขึ้นมาในการเลือกตั้งปี 62 ขณะที่พรรคประชาธิปัตย์ก่อตั้งตั้งแตปี 2489 มาถึงวันนี้ 76 ปีแล้ว สิ่งที่เห็นได้ชัดเจนคือประชาธิปัตย์ได้พิสูจน์ ต่อหน้าประชาชนให้เห็นถึงความเป็นสถาบันพรรคการเมืองที่เป็นตัวแทนและพึ่งพาของประชาชน เติบโตขึ้นมาพร้อมกับคนทุกยุคทุกสมัย ตนหวังว่าจะได้เข้ามาร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการสานกับต่อในฐานะที่เป็นคนรุ่นใหม่ ส่วนหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐนั้นตนก็ยังให้ความเคารพนับถือเช่นเดิม ไม่มีปัญหาอะไรติดใจ แต่การทำงานก็อาจจะต้องมีการเปลี่ยนสภาพแวดล้อมเท่านั้น แต่ในแง่ของมิตรภาพเป็นคนละเรื่องกับบริบทและการทำงาน
ผู้สื่อข่าวถามว่า มองอย่างไรที่มีการจับตาเรื่องสื่อของครอบครัว น.ส.วทันยา กล่าวว่า ตนไม่ได้กังวลเพราะการถือหุ้นในสื่อมวลชน ตนและครอบครัวได้เคลียร์ให้ชัดเจนไปแล้ว และได้ปฎิบัติตามกฎหมายทุกอย่าง ตั้งแต่ก่อนวันแรกที่เข้ามาสมัครในพรรคพลังประชารัฐ
เมื่อถามว่า ที่บอกว่าพรรคประชาธิปัตย์ไม่มีเจ้าของ หมายความว่าพรรคพลังประชารัฐ มีฝ่ายที่พยายามจะผูกขาดอำนาจใช่หรือไม่ น.ส.วทันยา กล่าวว่า ไม่ใช่แบบนั้น และไม่พาดพิงถึงพรรคการเมืองอื่น ตนถือว่าเป็นก้าวที่สำคัญในการทำหน้าที่ฐานะนักการเมือง เมื่อมีโอกาสก้าวเข้ามาแล้วก็พยายามตัดสินใจด้วยความรอบครอบ บนหลักของเหตุและผลที่ดีที่สุด จึงเป็นเหตุผลที่ทำให้ตนเลือกพรรคประชาธิปัตย์ ที่พรรคฯได้พิสูจน์ไม่มีอำนาจผูกขาด ไม่มีความเป็นเจ้าของ และที่สำคัญสมาชิกพรรคฯทุกคนมีสิทธิ์และเสียงเท่ากันและเคารพในความเห็นส่วนใหญ่เมื่อมีการโหวตเรื่องใดๆ ก็มีการเคารพมติพรรค
ด้าน นายจุรินทร์ กล่าวว่า พรรครับ น.ส.วทันยา ในมาลงสมัคร ส.ส.บัญชีรายชื่อ ส่วนจะอยู่ลำดับที่เท่าไหร่ เป็นหน้าที่ของกรรมการบริการพรรคฯจะพิจารณาต่อไป ส่วนภารกิจที่จะมอบหมายให้เบื้องต้น น.ส.วทัยยา จะเป็นกำลังสำคัญให้กับพรรคในพื้นที่ กทม.โดยมีภารกิจหลักร่วมมกับนายองอาจ คล้ามไพบูลย์ รองหัวหน้าพรรคดูแล กทม.และนายสุชัชวีร์ สุวรรณสวัสดิ์ หัวหน้าทีมการศึกษาพรรค
"เราทำงานเป็นทีม โดยนายองอาจ ยังคงเป็นหน้าหน้าทีมหาเสียงใน กทม.ร่วมกับนายนิพนธ์ รองหัวหน้าพรรค และผอ.เลือกตั้งพรรคฯ ที่ต้องรับผิดชอบสนาม กทม.มี ดร.เอ้ เป็นกำลังสำคัญอีกคน ยิ่งได้คนรุ่นใหม่อย่างมาดามเดียร์ มาร่วมด้วย ก็ทำให้การขับเคลื่อนในกทม.แข็งแกร่งและมีพลังขึ้น พวกเราทุกคนจะจับมือกันทำงาน โดยผมจะเป็นหลักให้อีกคน ในการทำงานเราประสบควาามสำเร็จยิ่งขึ้นในการเลือกตั้งในพื้นที่ กทม." นายจุรินทร์ กล่าว
เมื่อถามว่า การปรับทีมครั้งนี้จะทำให้ ส.ส.กทม.อยู่ในมือประชาธิปัตย์อีกหรือไม่ และมีการตั้งเป้าไว้อย่างไร หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า ขึ้นอยู่กับประชาชน แต่จากการลงสมัครเลือกตั้งท้องถิ่นที่ผ่านมา ทั้งผู้ว่าฯ กทม.และ ส.ก.ก็พิสูจน์ว่า คน กทม.ตอบรับพรรคประชาธิปัตย์ดีขึ้น และยังยินดีต้อนรับเรา เมื่อได้ทีมคนรุนใหม่เข้ามาและร่วมประสานกับทุกคนในพรรค ตนมั่นใจว่าเราจะได้เสียงตอบรับมากขึ้น
- 006
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี