‘สมชัย’แนะ ‘กกต.’ทำงานเชิงรุก จับตา ‘รมต.’ใช้งบหลวง หากเสียงนอกเวลาราชการ
27 ก.ย.2565 นายสมชัย ศรีสุทธิยากร ประธานยุทธศาสตร์ขับเคลื่อนนโยบายพรรคเสรีรวมไทย ฐานะอดีตกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ออกแนวทางการปฏิบัติและข้อควรระวังในช่วงระยะเวลาหาเสียงเลือกตั้ง ส.ส. ของผู้สมัครและพรรคการเมือง ผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง และหน่วยงานของรัฐ ว่า เป็นความพยายามของ กกต.ที่จะทำให้เกิดความชัดเจน ว่า ผู้สมัคร พรรคการเมือง หรือหน่วยราชการ รวมถึงผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองต่างๆ สามารถนำไปเป็นแนวทางปฏิบัติในช่วงระยะเวลาหาเสียงเลือกตั้งได้ดีพอสมควร แต่ตนเข้าใจว่าแนวทางดังกล่าวเป็นการปฏิบัติภายในของสำนักกฎหมายและคดี สำนักงาน กกต. ไม่ใช่ประกาศของกกต.ที่ต้องลงในราชกิจจานุเบกษาเพื่อให้มีผลใช้บังคับทั่วไป อีกทั้งแนวทางดังกล่าวไม่ระบุว่าหากมีผู้ไม่ปฏิบัติตามหรือฝ่าฝืนจะมีบทลงโทษ หรือถูกลงโทษอย่างไร
เมื่อถามว่าในกรณีที่แนวปฏิบัติของกกต.ระบุห้ามแจกสิ่งของหรือจูงใจ หากพบว่านักการเมืองหรือพรรคการเมืองตั้งโรงทานจะทำได้หรือไม่ นายสมชัย กล่าวว่า ในนาม ส.ส.หรือพรรคการเมืองทำไม่ได้ แต่หากทำในนามมูลนิธิ หรือสมาคมสามารถทำได้ แต่หากมีการตรวจสอบว่าสมาคมหรือมูลนิธินั้นยุ่งเกี่ยวการเมือง ความผิดจะตกที่มูลนิธิหรือสมาคม หรือกรณีที่มีมูลนิธิ
เมื่อถามว่า หากมีกรณีที่มูลนิธิ ม.ร.ว.เสนีย์ ปราโมช ดำเนินการทำโรงทานหรือช่วยผู้ประสบภัยถือว่าทำได้หรือไม่ นายสมชัย กล่าวว่า ในนามมูลนิธิทำได้ แต่ต้องไม่มีกรณีที่พบว่าคนที่ช่วยแจกของช่วยน้ำท่วม ใส่เสื้อพรรคประชาธิปัตย์ มีคำขวัญหาเสียง เพราะจะถูกมองว่ามีเจตนาที่แฝงการหาเสียง
เมื่อถามว่ากรณีที่ส.ส.ซึ่งเป็นกรรมาธิการฯ ใช้งบสภาฯทำเวทีสัมมนาและเชิญส.สหรือผู้ที่คาดว่าจะลงสมัครรับเลือกตั้งมาร่วม โดยพบการพูดในเชิงการเมืองทำได้หรือไม่นายสมชัย กล่าวว่า ส.ส.ในฐานะกมธ.มีบทบาทและหน้าที่สามารถดำเนินการได้ ทั้งการจัดเวทีเพื่อรับฟังความคิดเห็นเพื่อนำไปสู่การแก้ปัญหาประชาชน แต่การพูดบนเวทีที่อาจจะถูกมองว่าเข้าข่ายหาเสียงเลือกตั้งต้องระมัดระวัง เช่นเดียวกับกรณีที่รัฐมนตรีใช้ทรัพยากรของราชการไปลงพื้นที่ ที่แม้จะลงพื้นที่เพื่อตรวจเยี่ยมราชการ ช่วยชาวบ้านต้องระวัง
“ผมขอตั้งข้อสังเกตว่า รัฐมนตรีที่แม้จะใช้เวลาราชการลงพื้นที่ ซึ่งพบว่าใช้เงินหลวง จ่ายค่าที่พัก ค่าเดินทาง และในเวลานอกเวลาราชการไปหาเสียง อาจจะถือว่าใช้งบหลวงหรือทรัพยากรของราชการเอื้อประโยชน์หาเสียงได้ เช่น เวลาราชการไปงานในราชการ แต่นอกเวลาราชการกลับไปเดินสายหาเสียงในพื้นที่ที่ไปตรวจราชการหรือลงพื้นที่ ทั้งนี้กกต.ในพื้นที่ต้องมีหน้าที่จับตาดูเพื่อส่งข้อมูลรายงานกกต.ส่วนกลาง อย่าให้ประชาชนหรือพรรคการเมืองคู่แข่งเป็นฝ่ายต้องร้องกกต.เท่านั้น เพื่อให้ กกต.ดูแลการเลือกตั้งไม่ให้ฝ่ายใดได้เปรียบหรือเสียเปรียบช่วงเลือกตั้ง” นายสมชัย กล่าว
-001
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี