วันเสาร์ ที่ 12 กรกฎาคม พ.ศ. 2568
แนวหน้า
  • แนวหน้า
  • หน้าแรก
  • คอลัมน์
    • คอลัมน์วันนี้
    • คอลัมน์ออนไลน์
    • คอลัมน์การเมือง
    • คอลัมน์ลงมือสู้โกง
    • โลกธุรกิจ
    • ผู้หญิง
    • บันเทิง
    • Like สาระ
    • ดูทั้งหมด
  • ข่าวเด่น
  • พระราชสำนัก
  • การเมือง
  • โลกธุรกิจ
  • อาชญากรรม
  • กทม.
  • ในประเทศ
  • เกษตร
  • ต่างประเทศ
  • กีฬา
  • ผู้หญิง
  • บันเทิง
  • ยานยนต์
  • Like สาระ
หน้าแรก / การเมือง
รัฐบาลปลื้มผลประเมินเงินกู้โควิด-19 เกิดความคุ้มค่า 3.24 เท่า

รัฐบาลปลื้มผลประเมินเงินกู้โควิด-19 เกิดความคุ้มค่า 3.24 เท่า

วันพุธ ที่ 28 กันยายน พ.ศ. 2565, 10.56 น.
Tag : ความคุ้มค่า โควิด โควิดวันนี้ รัฐบาล โควิด-19
  •  

คณะกรรมการประเมินการใช้จ่ายเงินกู้ เผย 19 โครงการภายใต้ พ.ร.ก.กู้เงิน สร้างมูลค่าต่อเศรษฐกิจ  2.65 ล้านล้านบาท เกิดความคุ้มค่า 3.24 เท่า

น.ส.ไตรศุลี ไตรสรณกุล รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า รัฐบาลได้มีการวางกลไกติดตามประเมินผลของโครงการ/แผนงานตาม พระราชกำหนด (พ.ร.ก.)ให้อำนาจกระทรวงการคลังกู้เงินเพื่อแก้ไขปัญหา เยียวยาและฟื้นฟูเศรษฐกิจและสังคม ที่ได้รับผลกระทบจากการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ทั้งในแง่ของผลต่อเศรษฐกิจ รวมถึงรวบรวมปัญหาอุปสรรคและข้อเสนอแนะนำเสนอต่อคณะรัฐมนตรี(ครม.) ทุก 6 เดือน โดยมีคณะกรรมการประเมินการใช้จ่ายเงินกู้ตามพระราชกำหนด (คปก.) กระทรวงการคลัง ดำเนินการประเมิน


ในการประชุม ครม. เมื่อวันที่ 27 ก.ย. 65 คปก. ได้รายงานผลประเมินโครงการ/แผนงานภายใต้ พ.ร.ก.ให้อำนาจกระทรวงการคลังกู้เงินฯ  พ.ศ 2563 (พ.ร.ก.กู้เงิน พ.ศ.2563) รอบ 6 เดือน ครั้งที่1 โดยได้คัดเลือกโครงการ/แผนงานเพื่อดำเนินการประเมินจากโครงการที่มีขนาดใหญ่ กระจายทั่วประเทศ วงเงินกู้สูง มีผลกระทบต่อเศรษฐกิจและสังคมอย่างมีนัยสำคัญ จำนวน 19 โครงการ วงเงินดำเนินการรวม 8.05 แสนล้านบาท เทียบกับพ.ร.ก.กู้เงิน พ.ศ.2563 ที่มีวงเงินรวม 1 ล้านล้านบาท

น.ส.ไตรศุลี  กล่าวว่า การประเมินระหว่างเดือนม.ค.-มิ.ย. 65  พบว่าทั้ง 19 โครง มีผลการเบิกจ่ายรวม 7.95 แสนล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 98.84 ของวงเงินทั้ง 19 โครงการ มีผลการดำเนินงานอยู่ในระดับดีมาก และสามารถสร้างมูลค่าและผลกระทบต่อเศรษฐกิจ จำนวน 2.65 ล้านล้านบาท มีรายได้กลับคืนภาครัฐ จำนวน 5.12 แสนล้านบาท เกิดความคุ้มค่าต่อการใช้จ่ายงบประมาณ 3.24 เท่า

ทั้งนี้ มีการประเมินแยกตามแผนงาน 3 แผนงาน ประกอบด้วย 

แผนงานที่1 แผนงาน/โครงการที่มีวัตถุประสงค์ทางการแพทย์และสาธารณสุข เพื่อแก้ไขปัญหาโควิด-19 จำนวน 9 โครงการ อาทิ โครงการค่าตอบแทน เยียวยา ชดเชยและเสี่ยงภัย สำหรับการปฏิบัติงานของ อสม. และ อสส. ในการเฝ้าระวังป้องกันและควบคุมโควิด19 ในชุมชน ระยะที่1-4  โครงการค่าบริการสาธารณสุขภายใต้ระบบหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ โครงการจัดหาเครื่องช่วยหายใจเพื่อรักษาผู้ป่วยโควิด19 เป็นต้น กรอบวงเงินรวม 3.37 หมื่นล้าน

มีการเบิกจ่าย 3.36 หมื่นล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 99.76 ของกรอบวงเงิน มีผลการดำเนินงานอยู่ในระดับดีมาก สามารถสร้างผลกระทบต่อเศรษฐกิจและสังคม โดยการลดภาระค่าใช้จ่ายให้กับประชาชนกลุ่มเสี่ยงและประชาชนที่ติดเชื้อโควิด-19 รวมทั้งประชาชนส่วนใหญ่ได้รับการรักษาอย่างทันท่วงทีและมีความเชื่อมั่นต่อการให้บริการและการรักษาพยาบาล

น.ส.ไตรศุลี กล่าวว่า แผนงานที่ 2 แผนงาน/โครงการที่มีวัตถุประสงค์เพื่อช่วยเหลือ เยียวยาและชดเชยให้กับภาคประชาชน เกษตรกร และผู้ประกอบการ ซึ่งได้รับผลกระทบจากโควิด-19 จำนวน 6 โครงการ อาทิ โครงการเพิ่มกำลังซื้อให้แก่ผู้มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ และโครงการเพื่อช่วยเหลือ เยียวยา และชดเชย ให้แก่ประชาชนซึ่งได้รับผลกระทบจากการระบาดของโควิด-19 โครงการเราชนะ เป็นต้น 
กรอบวงเงินรวม 6.36แสนล้านบาทเบิกจ่ายรวม 6.34 แสนล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 99.69 ของกรอบวงเงิน มีผลการดำเนินงานอยู่ในระดับดีมาก สร้างมูลค่าต่อเศรษฐกิจ จำนวน 2.09 ล้านล้านบาท มีรายได้กลับคืนภาครัฐ จำนวน 4.05 แสนล้านบาท รวมทั้งสามารถชะลอการเกิดหนี้เสียและเกิดการกระจายรายได้สู่ภูมิภาค

น.ส.ไตรศุลี กล่าวว่า ในส่วนของ แผนงานที่ 3 แผนงาน/โครงการที่มีวัตถุประสงค์เพื่อฟื้นฟูเศรษฐกิจและสังคมที่ได้รับผลกระทบจากโควิด-19 จำนวน 4 โครงการ ประกอบด้วย โครงการกำลังใจ และโครงการคนละครึ่ง ระยะที่1-3  วงเงินรวม 1.35 แสนล้านบาท เบิกจ่าย 1.27 แสนล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 94.60 สร้างผลกระทบต่อเศรษฐกิจและสังคม 5.55 แสนล้านบาท มีรายได้กลับคืนภาครัฐ จำนวน 1.07 แสนล้านบาท รวมทั้งลดความตึงเครียดของประชาชน ลดการเลิกการจ้างงาน เพิ่มทักษะการใช้เทคโนโลยีดิจิทัล และส่งเสริมการเป็นสังคมไร้เงินสด

อย่างไรก็ตาม การประเมินด้านประสิทธิภาพและด้านความยั่งยืนของแผนงานที่3 อยู่ในระดับพอใช้ เนื่องจากโครงการกำลังใจไม่ได้รับความสนใจจากกลุ่มเป้าหมายตามที่คาดการณ์ไว้และโครงการกำลังใจและโครงการคนละครึ่งมีลักษณะเป็นการช่วยเหลือหรือมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจในระยะสั้น

เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

  • \'ดร.ดิเรกฤทธิ์\'คาดหวัง\'ศาลฎีกา-ศาล รธน.\' ชี้ชะตาประเทศ \'สันติสุขหรือลุกเป็นไฟ\' 'ดร.ดิเรกฤทธิ์'คาดหวัง'ศาลฎีกา-ศาล รธน.' ชี้ชะตาประเทศ 'สันติสุขหรือลุกเป็นไฟ'
  • \'อ.ยิ่งศักดิ์\'ฟาดยับ \'รัฐบาล\'ทำอะไรกัน? \'ลำไย\' อ.จอมทอง ดิ่งกิโลละ 1 บาท (ชมคลิป) 'อ.ยิ่งศักดิ์'ฟาดยับ 'รัฐบาล'ทำอะไรกัน? 'ลำไย' อ.จอมทอง ดิ่งกิโลละ 1 บาท (ชมคลิป)
  • ‘ธรรมนัส’มั่นใจรัฐบาลไปรอดแม้เสียงปริ่มน้ำ เปรยการเมืองไม่มีมิตรแท้ศัตรูถาวร ‘ธรรมนัส’มั่นใจรัฐบาลไปรอดแม้เสียงปริ่มน้ำ เปรยการเมืองไม่มีมิตรแท้ศัตรูถาวร
  • ทุกวิกฤตย่อมมีโอกาส! \'ไผ่\'เชื่ออายุรัฐบาลที่เหลือ 2 ปี ไม่ถึงทางตัน ทุกวิกฤตย่อมมีโอกาส! 'ไผ่'เชื่ออายุรัฐบาลที่เหลือ 2 ปี ไม่ถึงทางตัน
  • ‘คปท.’แถลงการณ์ 3 ข้อ ฉะรัฐบาลล้มเหลว ปล่อย‘นักโทษ’แทรกแซง จี้‘ครม.’ลาออกยกคณะ ‘คปท.’แถลงการณ์ 3 ข้อ ฉะรัฐบาลล้มเหลว ปล่อย‘นักโทษ’แทรกแซง จี้‘ครม.’ลาออกยกคณะ
  • ‘ปธ.วิปรัฐบาล’ยกเคส‘ยุคบิ๊กตู่’ ปลอบใจ‘เสียงปริ่มน้ำ’ก็ต้องลากกันไป ‘ปธ.วิปรัฐบาล’ยกเคส‘ยุคบิ๊กตู่’ ปลอบใจ‘เสียงปริ่มน้ำ’ก็ต้องลากกันไป
  •  

Breaking News

'หลิงหลิง'ยอมรับผิดขายขนมEgg Rollsไม่มีอย. ลั่นเป็นแม่ค้ามือใหม่ไม่รู้กฎหมายเมืองไทย

(คลิป) เปิดจักรวาล! เซียนพระสีกากอล์ฟ นักล่า! เจ้าคณะ เจ้าอาวาส เบอร์1

(คลิป) 'กกต.'อยู่ไหน! ยุบพรรคเพื่อไทย ด่วน! 12/7/2568

'ปู่เดือนชัย'ชี้ 'พระ'มีเมียไม่ใช่เรื่องใหม่ แนะสึกดีกว่าทำเสื่อม เชื่อบาปมีอยู่จริง

Back to Top

ผู้ดูแลเว็บไซต์ www.naewna.com
webmaster นายปรเมษฐ์ ภู่โต
ดูแลรับผิดชอบข่าว/ภาพ/โฆษณา/ข้อมูลอื่นๆที่เกี่ยวข้องกับเว็บไซต์
กรรมการบริษัทฯ, กรรมการผู้มีอำนาจ ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการนำเสนอข่าว/ภาพ/ข้อมูลใดๆในเว็บไซต์ทั้งสิ้น

Social Media

  • หน้าแรก |
  • เกี่ยวกับแนวหน้า |
  • โฆษณากับเรา |
  • ร่วมงานกับเรา |
  • ติดต่อแนวหน้า |
  • นโยบายข้อตกลง
Copyright © 2025 Naewna.com All right reserved