กมธ.พัฒนาสังคมฯ จัดเสวนา “แนวทางป้องกันและลดความรุนแรงในสังคม” เตรียมความพร้อมหาแนวทางป้องกันระยะสั้น ระยะยาว
เมื่อเวลา 11 ตุลาคม 2565 วันที่ 11 ตุลาคม 2565 ที่ห้องประชุม 406-407 ชั้น 4 อาคารรัฐสภา (ฝั่งวุฒิสภา) คณะกรรมาธิการการพัฒนาสังคมและกิจการเด็ก เยาวชน สตรี ผู้สูงอายุ คนพิการ และผู้ด้อยโอกาส วุฒิสภา โดยคณะอนุกรรมาธิการกิจการเด็ก เยาวชน และผู้ด้อยโอกาส จัดเสวนา เรื่อง “แนวทางป้องกันและลดความรุนแรงในสังคม” โดยมี นายวัลลภ ตังคณานุรักษ์ ประธานคณะกรรมาธิการ เป็นประธานในพิธี นายเนาวรัตน์ พงษ์ไพบูลย์ ที่ปรึกษาคณะกรรมาธิการ อ่านบทกวี พร้อมด้วย คณะกรรมาธิการฯ และ สมาชิกวุฒิสภา ประกอบด้วย นายมณเฑียร บุญตัน นางผานิต นิติทัณฑ์ประภาศ นางเพ็ญพักตร์ ศรีทอง นายแพทย์ อำพน จินดาวัฒนะ นางสาว ปิยฉัฎฐ์ วันเฉลิม พลตำรวจโท สมหมาย กองวิสัยสุข นาง สุนี จึงวิโรจน์ นาย ยุทธนา ทัพเจริญ ผู้แทนจากภาคส่วนเกี่ยวข้อง ทั้งภาครัฐ และเอกชน ตลอดจนภาคประชาสังคม เข้าร่วมการเสวนา โอกาสนี้ ผู้เข้าร่วมได้ยืนสงบนิ่งไว้อาลัยผู้เสียชีวิตจากเหตุรุนแรงที่ศูนย์พัฒนาเด็กเล็ก องค์การบริหารส่วนตำบลอุทัยสวรรค์ จังหวัดหนองบัวลำภู
นายวัลลภ ตังคณานุรักษ์ ประธานคณะกรรมาธิการ กล่าวว่า จากเหตุการณ์ความรุนแรงที่เกิดขึ้น คณะกรรมาธิการฯ ซึ่งมีอำนาจหน้าที่ในการพิจารณากลั่นกรองกฎหมาย ควบคุมการบริหารราชการแผ่นดิน รวมทั้งการเสนอแนะแนวทางต่าง ๆ ไปสู่ภาคนโยบายให้รัฐบาลดำเนินการในเรื่องต่าง ๆ ซึ่งการเสวนาในวันนี้เป็นการระดมความคิด เสนอแนวทาง เพื่อให้ได้ข้อเสนอแนะที่เป็นรูปธรรมในระยะสั้นและระยะยาวที่จะนำเสนอสู่สังคม และส่วนราชการแผ่นดินในลำดับต่อไป
สำหรับการเสวนาในวันนี้ได้เปิดเวทีรับฟังความคิดเห็นจากผู้เข้าร่วมเสวนาเพื่อร่วมหาแนวทางการป้องกันและลดความรุนแรงในสังคมไทย โดยเฉพาะการเตรียมความพร้อมในการหาแนวทางป้องกัน ซึ่งมีผู้ร่วมแสดงความคิดเห็น อาทิ นายมณเฑียร บุญตัน กรรมาธิการ ได้เสนอแนวทางดังนี้ 1.พิจารณากฎหมายควบคุมการมีอาวุธปืนอย่างเร่งด่วน จำกัดการเข้าถึงอาวุธปืนอย่างเข้มงวด 2.แก้พระราชบัญญัติระเบียบบริหารราชการแผ่นดิน ลดระบบโครงสร้างที่เปิดโอกาสให้ใช้ระบบกดทับ 3.การบริการทางจิตสังคมต้องเป็นบริการที่ถึงทุกระดับชุมชน 4. ตามที่คณะรัฐมนตรี เห็นชอบแก้กฎ ก.พ. เพิ่มโรคจิตหรือโรคอารมณ์ผิดปกติเป็นลักษณะต้องห้ามของผู้ที่จะรับราชการพลเรือน จะทำให้เพิ่มจำนวนคนปฏิเสธการรักษาเพิ่มมากขึ้น
นายอำพล จินดาวัฒนะ กรรมาธิการ ได้เสนอ 4 มาตรการป้องกัน ได้แก่ 1.ส่งเสริม 2.ป้องกัน 3.รักษา 4.ฟื้นฟู และมาตรการที่ต้องเร่งดำเนินการ ได้แก่ 1.มาตรการทางด้านกฎหมาย 2.มาตรการด้านความรู้ 3.มาตรการทางสังคม 4.มาตรการบริการ 5.มาตรการการสื่อสาร และขอให้รัฐบาลแก้ปัญหาให้ตรงจุด
ทั้งนี้ จากการเสวนาดังกล่าวจะทำให้ทุกภาคส่วนได้มีความพร้อม มีความเข้าใจต่อผลกระทบที่เกิดขึ้นต่อสังคมในอนาคต และเข้าใจบทบาทของการเปลี่ยนแปลงในยุคปัจจุบันโดยเฉพาะต่อเด็กและเยาวชน โดยคณะกรรมาธิการฯ จะรวบรวมและจัดทำข้อเสนอแนะเสนอต่อหน่วยงานที่เกี่ยวข้องต่อไป
-001
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี