ชาวเคหะคลองจั่นเฮ หลัง บอร์ดการเคหะฯ เตรียมมีมติยุติโครงการมิกซ์ยูส “พีระพันธุ์” เล็งแก้ กม. ให้ ปชช.มีส่วนร่วมดูแลและออกแบบชุมชนของตัวเอง
นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค ที่ปรึกษานายกรัฐมนตรีในฐานะประธานคณะกรรมการอำนวยความเป็นธรรมและเร่งรัดการปฏิบัติราชการ เป็นประธานการประชุมหาข้อสรุป กรณีประชาชนชุมชนเคหะคลองจั่น กรุงเทพฯ ลงนามจำนวน 2,278 รายชื่อคัดค้านการก่อสร้างโครงการอาคารสูงสำหรับผู้พักอาศัย The Lake และThe park ของการเคหะแห่งชาติ เนื่องจากเกรงผลกระทบที่จะเกิดขึ้นต่อชีวิตความเป็นอยู่และสภาพแวดล้อมของชุมชน หากมีการก่อสร้างจริง โดยเฉพาะ ปัญหาน้ำท่วม และปัญหาความแออัดของผู้อยู่อาศัย
ทั้งนี้เมื่อวันที่ 28 ตุลาคมที่ผ่านมา นายพีระพันธุ์ และคณะผู้บริหารการเคหะแห่งชาติ ได้ลงพื้นที่บริเวณที่อยู่อาศัยของประชาชน บริเวณการเคหะคลองจั่น เพื่อสำรวจจุดสำคัญที่อาจจะได้รับผลกระทบจากโครงการดังกล่าวร่วมกับผู้นำชุมชน เช่น บริเวณสนามฟุตบอลคลองจั่น สระน้ำสวนนวมินทร์ภิรมย์ และบึงพังพวย ซึ่งเป็นแก้มลิงเพื่อแก้ปัญหาน้ำท่วมในเขตบางกะปิ บึงกุ่ม และพื้นที่ใกล้เคียง รวมทั้งจุดที่ประชาชนขอให้การเคหะฯปรับปรุงบริเวณสาธารณะหลายจุด เช่น สนามฟุตบอล เพื่อให้ประชาชนมีส่วนร่วมในการใช้พื้นที่ ผลังจากนั้นได้เข้าร่วมเวทีประชาชน พร้อมรับหนังสือการลงนามจำนวน 2,278 รายชื่อคัดค้านการก่อสร้างโครงการดังกล่าว กระทั่งล่าสุดได้เชิญทั้งสองฝ่ายมาประชุมร่วมกันอีกครั้ง
นายพีระพันธุ์ กล่าวระหว่างการประชุมว่า จากที่ตนได้ลงพื้นที่ไปตรวจสอบรายละเอียดทั้งหมด เบื้องต้นได้รับรายงานข้อเท็จจริงจากการเคหะฯ ว่า โครงการดังกล่าวเป็นเพียงการศึกษาในภาพรวมไม่ได้เจาะจงเฉพาะพื้นที่ เนื่องจากการเคหะฯ ต้องการศึกษาทรัพย์สินทั้งหมดว่าสามารถพัฒนาต่อไปได้หรือไม่ ส่วนของพื้นที่เคหะคลองจั่นเป็นหนึ่งในหลายแห่งที่ได้ทำการศึกษา อย่างไรก็ตาม บริษัทที่ปรึกษาที่รับจ้างจากการเคหะฯ ลงไปศึกษาพื้นที่ต่างๆ ได้ดำเนินการไปตามภารกิจหน้าที่โดยมุ่งเป้าเรื่องการพัฒนาที่ดิน โดยไม่ได้มองเรื่องของมวลชน หรือผลกระทบต่อประชาชนเชิงสังคมในภาพรวมทำให้เกิดความไม่เช้าใจกันดังกล่าว ซึ่งเป็นจุดอ่อนของบริษัทที่ปรึกษา เรื่องนี้ผู้บริหารการเคหะฯ ไม่ได้ทราบในรายละเอียดมาก่อนแต่เมื่อทราบแล้วก็ไม่ได้นิ่งนอนใจ ได้นำปัญหามาหาแนวทางแก้ไขอย่างรวดเร็ว
นายพีระพันธุ์ กล่าวด้วยว่า ในส่วนของความเห็นของตนจากที่ได้ลงพื้นที่ และได้รับรายงานข้อเท็จจริงต่างๆ เห็นว่าโครงการนี้เป็นโครงการใหญ่ที่ต้องใช้งบประมาณหลักหมื่นล้านบาทซึ่งไม่ใช่เรื่องง่ายในการหางบประมาณมาดำเนินการ เพราะการศึกษาโครงการสามารถเขียนได้ง่าย แต่การทำจริงไม่ได้ง่ายเหมือนเขียนรายงาน
“จากกรณีนี้ ผมคิดว่ากฎหมายการเคหะควรต้องปรับใหม่ทั้งหมด เพราะกฎหมายที่ใช้อยู่ทุกวันนี้ใช้มานานมาก ถ้าใครเคยไปที่สิงคโปร์จะเห็นว่าเมื่อเข้าใกล้เขตเมืองจะเห็นอาคารรูปแบบเป็นแท่งๆ ของการเคหะสิงคโปร์ ของเราเรียก กคช. ของเขาเรียก HDB ซึ่งพัฒนาไปไกลกว่าเรามาก ทั้งๆ ที่เขามาดูงานอาคารสงเคราะห์ของเราที่จอมพล ป. ริเริ่มไว้มาตั้งแต่สมัยที่ลีกวนยู เป็นนายกฯ สมัยแรก เขาต้องการพัฒนาที่อยู่อาศัยจากสลัม โดยเข้ามาดูที่ดินแดง หลังจากที่ดูงานเขากลับไปพัฒนาปรับปรุงตั้งหน่วยงานของเขาขึ้นมา การทำงานของเขาไม่ได้ทำงานคนเดียว เรื่องการจัดที่อยู่อาศัยของเขาทำงานเป็นทีม หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น ธนาคารอาคารสงเคราะห์ กองทุนบำเหน็จบำนาญ ต้องมีส่วนร่วมโดยกำหนดเป็นกฎหมายว่าจะต้องร่วมกับการเคหะฯดูแลประชาชนด้วย
ด้านพล.ต.เจียรนัย วงศ์สะอาด ประธานคณะกรรมการการเคหะแห่งชาติ กล่าวว่า เนื่องจากการศึกษาของโครงการเป็นแผนแม่บทของการเคหะฯ ที่จะต้องดำเนินการ แต่หากส่งผลกระทบต่อประชาชน และประชาชนคัดค้าน บริษัทที่ปรึกษาก็จะต้องรายงานการศึกษาอย่างถูกต้องชัดเจน ดังนั้นเมื่อมีประชาชนคัดค้าน บอร์ดการเคหะฯ สามารถออกเป็นมติยกเลิกหรือยุติโครงการนี้ไปก่อน ยืนยันว่าจะไม่มีนโยบายการดำเนินการต่อจนกว่าชาวบ้านจะให้มีการก่อสร้างในพื้นที่นี้ และหากชาวบ้านไม่ยินยอมโครงการก็ไม่สามารถเกิดขึ้นได้อยู่แล้ว และขอให้ไปศึกษาในพื้นที่อื่นๆ ของการเคหะฯ ที่ไม่ส่งผลกระทบต่อประชาชนแทน รวมทั้งจะได้เสนอไปยังสภาพัฒน์ฯ เพื่อนำโครงการนี้ออกจากแผนแม่บทของการเคหะฯ ซึ่งจะทำให้เป็นการยุติโครงการได้อย่างถาวร ไม่สามารถดึงกลับมาทำได้อีกไปโดยปริยาย
“นอกจากนี้ การเคหะฯ จะร่วมกับชุมชนเคหะคลองจั่น จัดตั้งคณะกรรมการขึ้นมา โดยมีตัวแทนจากคนในชุมชนเข้ามาร่วมเป็นกรรมการด้วย เพื่อมาทำงานร่วมกัน ทั้งในเรื่องของการดูแลพื้นที่ พัฒนาชุมชน เพื่อให้เกิดการมีส่วนร่วมที่แท้จริง และต้องการสร้างให้เกิดชุมชนที่มีความสุข โดยคณะกรรมการชุดนี้จะทำงานประสานกันระหว่างผู้อยู่อาศัยกับ การเคหะแห่งชาติ หากมีปัญหาก็สามารถแจ้งมาเพื่อร่วมกันหาแนวทางแก้ไข หรือหากมีข้อเสนอแนะในการพัฒนาพื้นที่และชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชน เช่น กรณีการฟื้นฟูวิถีชุมชน รวมไปถึงการนำพื้นที่ส่วนรวมเช่น สนามฟุตบอลกลับมาให้ประชาชนได้ใช้ต่อไป ก็สามารถนำมาหารือร่วมกันได้” พล.ต.ดร.เจียรนัย กล่าว
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี