เปิดตัว32ว่าที่ผู้สมัครสส.12จังหวัด
‘สมคิด’รุกอีสาน
ขออาสาเป็นนายกฯซับน้ำตาปชช.
ชูนโยบาย‘สร้างอนาคตไทย’กระหึ่ม
แก้จน-ตั้งกระทรวงน้ำ-ปุ๋ยคนละครึ่ง
‘บิ๊กป้อม’เยือนสกลนคร-นครพนม
ลูกทีม‘พลังประชารัฐ’ต้อนรับแน่น
“สมคิด จาตุศรีพิทักษ์” นำทีมพรรคสร้างอนาคตไทย บุกอีสาน เปิดตัว 32 ว่าที่ผู้สมัคร สส.ใน12 จังหวัด ชาวบ้านตะโกนเชียร์ “นายกฯสมคิด”เจ้าตัวยิ้มเขิน ประกาศชูนโยบายพักต้น-พักดอก 5 ปี ดันปุ๋ยคนละครึ่ง ลั่นไม่แลนด์สไลด์แต่จะสร้างสึนามิเลย มั่นใจเจาะไข่แดงดับแลนด์สไลด์เพื่อไทยได้
เมื่อวันที่ 5 พฤศจิกายน 2565 ที่หอประชุมอาคารเฉลิมพระเกียรติ 7 รอบ พระชนมพรรษา มหาวิทยาลัยอุบลราชธานี อ.วารินชำราบ จ.อุบลราชธานี พรรคสร้างอนาคตไทย(สอท.)นำโดยนายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ ประธานพรรค นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ เลขาธิการพรรค และนายสุพล ฟองงาม รองหัวหน้าพรรคในฐานะประธานภาคอีสาน นายปองพล อดิเรกสาร ที่ปรึกษาพรรค พร้อมผู้บริหารพรรค ได้เปิดตัวว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.ภาคอีสานของพรรคใน12 จังหวัด จำนวน 32 คนมีสมาชิกพรรคเข้าร่วมประมาณ 3,500 คน
ทั้งนี้ เมื่อนายสมคิดและแกนนำพรรคเดินทางมาถึงมีชาวบ้านนำผ้าขาวม้ามาผูกเอวต้อนรับตามธรรมเนียมคนอีสานจำนวนมาก พร้อมกับตะโกนว่า“นายกฯสมคิด นายกฯสมคิด”ทำให้นายสมคิดยิ้มเขินๆ
จากนั้นมีพิธีบายศรีสู่ขวัญโดยพ่อแก่แม่แก่ที่ขึ้นไปทำพิธีผูกข้อต่อแขนนายสมคิด คือ คุณพ่อหมี สาเลศ อายุ 84 ปีชาว อ.บุญฑริก คุณแม่เพ็ญศรี บุญเลิศสว่าง อายุ 75 ปี ชาว อ.วารินชำราบขณะที่พราหมณ์ผู้ประกอบพิธีคือพราหมณ์ พรมมา ธิมาทาซึ่งเป็นผู้ที่ชาวอุบลราชธานีให้ความเคารพนับถือยังมีตัวแทนพี่น้องจากทั่วภาคอีสานจำนวน19คนขึ้นผูกข้อต่อแขนรับขวัญนายสมคิด ด้วยบรรยากาศแบบเป็นกันเอง
เปิดตัว32ผู้สมัครส.ส.อีสาน12จว.
เวลา 09.00น. นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ ประธานพรรค สอท.พร้อมผู้บริหารพรรค และร่วมปราศรัยเปิดนโยบายพรรคสอท.ร่วมเปิดตัวผู้แสดงเจตจำนงเป็นว่าที่ผู้สมัครส.ส.ภาคอีสาน12จังหวัด จำนวน 32 คน
ประกอบด้วย จ.อุบลราชธานีได้แก่ นางสาวโยธากาญจน์ ฟองงาม นายเชิดศักดิ์ โภคกุลกานนท์ นายสุทธิชัย จรูญเนตร น.ส.ตวงทิพย์ จินตะเวช นายเสกสรร กอคูณ นายจำลอง พรมสวัสดิ์ นายวิชัย สวัสดิภาพ, จ.ยโสธร ได้แก่ นายสนุก สิงห์มาตร นายชื่น วงษ์เพ็ญ, จ.ขอนแก่นได้แก่ นายวิเนตร ดอนเส นายจิรายุ โชติศิลา, จ.มุกดาหาร ได้แก่ นายทวีศักดิ์ ปทุมลี นายวิริยะ ทองผา
จ.สกลนคร ได้แก่ นายชัยมงคล ไชยรบ นายเชิดชัย สิงห์มหันต์ นายไพบูลย์ มาตยาคุณ, จ.มหาสารคาม ได้แก่ น.ส.นงลักษณ์ ทุงจันทร์ นายอัษฎา วนาทรัพย์ดำรง นายประวัติ กองเมืองปัก นายประสาทพร สีกงพลี,จ.หนองบัวลำภู คือ นางศรัณยา สุวรรณพรหม,จ.ชัยภูมิ ได้แก่ นายราชัน วรรณจงคำ นายแพทย์ประสิทธิ์ ชัยวิรัตนะ น.ส.สุนทรี ชัยวิรัตนะ, จ.อุดรธานี ได้แก่ นายโกเมนทร์ทีฆธนานนท์ นายชัยฤทธิ์ เขาวงศ์ทอง นายมนตรี พึ่มชัย นายมานิต อินคำคา, จ.กาฬสินธุ์ คือ นายสิทธิศักดิ์ พัฒนชัย นายวิทยา ภูมิเหล่าแจ้ง, จ.สุรินทร์ คือ นางสาวจินตนา กลั่นแก้ว, จ.บุรีรัมย์ คือ นายประกิจ พลเดช
“สนธิรัตน์”ลั่นปักธงยึดอีสาน
จากนั้น นายสนธิรัตน์ ปราศรัยตอนหนึ่งว่าวันนี้เป็นวันยิ่งใหญ่ของพรรคสอท.และพี่น้องชาวอีสาน ที่มีจากทุกอำเภอ เป็นความภูมิใจที่ยิ่งใหญ่เพื่อสร้างโอกาสใหม่ๆ ให้ประเทศไทย ต้องภูมิใจว่าพรรค สอท. และนายสมคิดมาที่นี่เป็นที่แรกของอีสานอย่างยิ่งใหญ่ การตัดสินใจมาที่นี่ ไม่ได้มาแบบเล่นๆ แต่มาครบทีมใหญ่ เพราะจะบอกว่าพรรคสอท.พร้อมแล้วที่จะปักหลักสร้างอนาคตไทย ในอีสานและจ.อุบลราชธานี คนอีสานรักใครรักจริง แห้งแล้งก็อดทน น้ำท่วมก็อดทน ไม่มีจะกินก็อดทน เรียกว่ามนุษย์พันธุ์อดทน ข้างในร้องไห้ยังยิ้มอยู่ได้ รู้ว่าพี่น้องเจ็บปวดใจเหลือเกิน ปลูกข้าวปลูกมัน น้ำท่วมตายหมด จะเอาถุงยังชีพมาแจกมันซับน้ำตาไม่ได้ เพราะกินได้แค่ 2 วัน เราจะยอมอยู่อย่างนี้ไม่ได้
ปลุกย้ำให้เลือกคนไปบริหารปท.
นายสนธิรัตน์ย้ำว่า วันนี้เพื่อชวนพี่น้องว่า ถ้าจะออกจากความลำบากต้องสนับสนุนพรรคสอท. อนาคตและชีวิต ขอพี่น้องจับมือกับพวกเราเพื่อยึดอีสานไปด้วยกัน เวลาเลือกผู้แทนราษฎรแล้วเขาเอาเงิน 300บาทมาให้ ถือเป็นการเอาชีวิตของลูก พ่อและแม่เราฝากไว้กับเงิน 300บาทนั้น ใครให้มากกว่าแล้วไปเลือกเขา เขาให้1,000บาทก็ไปกาให้เขาเพราะเกรงใจแต่เขาเข้าไปแล้ว และไปอยู่เป็นรัฐบาล เขาช่วยพี่น้องไม่ได้ เพราะไม่เอาจริงจัง เขามาแค่ขอเสียง และหายไปเลย พี่น้องจึงต้องยังอยู่กับความยากจน หนึ่งกากบาท คืออำนาจของพี่น้องแล้ว ถ้าไม่กาให้เขามันก็ไม่มีความหมาย แต่ถ้าพี่น้องจะยกให้ใครก็ได้และกลับบ้าน พี่น้องได้ทิ้งสิ่งที่จะยิ่งใหญ่ในการเลือกคนมาดูแลพี่น้อง แต่วันนี้พี่น้องที่มาที่นี้กำลังไปเลือกคนบริหารประเทศ จึงต้องดูว่าเขาจะทำอะไรให้กับพี่น้อง เวลาไปขอลูกสาวใคร หรือรับลูกเขยเข้าบ้าน เราต้องดูว่า เขาเป็นคนเก่ง เป็นคนดีหรือไม่ ถ้ารู้ว่าเป็นคนใช่ไม่ได้เราจะเอาเข้ามาบ้าน และเลือกหรือไม่ เราต้องเลือกคนที่คนจะทำงานจริง และมีนโยบายที่จะแก้จนให้กับพี่น้อง
ชูนโยบายแก้จน-แก้ท่วมแล้ง-แก้หนี้
นายสนธิรัตน์ยังระบุว่าสิ่งแรกที่พรรค สอท. จะทำคือ แก้ปัญหาน้ำแล้ง น้ำท่วม จะทำให้จ.อุบลราชธานีออกจากความยากจน เราจึงประกาศตั้งกระทรวงน้ำที่ผ่านมาอยู่ได้อย่างไร น้ำไม่มีทำมาหากินไม่ได้ พอน้ำมีก็ท่วม รัฐบาลใช้เงินเป็นแสนล้านบาท แต่น้ำก็ท่วมทุกปี ต่อจากนี้ น้ำจะไม่ท่วมอุบลราชธานี ถ้าจะท่วม รอ 3-7วันก็จะหมด สิ่งที่สอง คือ แก้ปัญหาหนี้สิน เราเตรียมเงินไว้ 3 แสนล้านบาทเอาไว้แก้หนี้ แก้ความยากจนให้พี่น้อง สิ่งที่สามคือ แก้ปัญหาราคาข้าว ราคามันตกต่ำ เราจะเอาราคาข้าวหอมมะลิเกิน 15,000 บาท และจะกดราคาปุ๋ยให้เหลือครึ่งเดียว ถ้ากดสองอย่างนี้ไม่ได้ จะยากจนทั้งชีวิต และ สิ่งที่สี่คือ แก้ปัญหาค่าไฟฟ้าแพง ที่เห็นบิลแต่ละเดือนเห็นแล้วจะขาดใจตาย
ย้ำ‘สมคิด’อาสาเป็นนายกฯซับน้ำตา
“ลูกพี่ผมชื่อสมคิด ไม่ได้อยากจะมาเป็นนายกฯเพราะคนมาเป็นจะลำบากบ้านพัง บันใดพังหลังคาก็พัง คนไปซ่อมก็ยาก ประเทศไทยพังไปหมดแล้วแต่นายสมคิดต้องมา เพราะเป็นห่วงพี่น้อง ถ้าผมอายุ 70ปี ก็คงไม่มา ที่ผ่านมาก็ทำงานมาเยอะมากตั้งแต่สมัยพรรคไทยรักไทยทั้งโอท๊อปจนถึงบัตรคนจน คนอย่างนี้ไม่ได้มาเพราะตำแหน่งหรือเล่นการเมืองเพราะอยากเป็นนายกฯแต่วันนี้ต้องมาด้วยหน้าที่”นายสนธิรัตน์ย้ำ
ปลุกจับมือเพื่อสร้างอนาคตไทย
และย้ำว่าวันนี้พรรค สอท.มาที่นี่ เพราะรู้ว่าพี่น้องลำบาก รัฐบาล คสช.ตอนเป็นรัฐบาลไม่มีมือเศรษฐกิจจึงมาเชิญนายสมคิดไปเป็นมือเศรษฐกิจให้ จนทุกอย่างเริ่มดีขึ้นก็เกิดเลือกตั้งปี2562พวกเราจึงตั้งพรรคพลังประชารัฐ(พปชร.)เพื่อให้ประเทศเดินต่อและไม่อยากให้ทะเลาะกันเอง แต่รัฐบาลทำอยู่ได้ปีเดียว เขาก็ลืมสัญญาว่า จะอยู่อีกไม่นาน เขาเอาการเมืองเป็นตัวตั้งและไม่คิดจะให้พี่น้องมีคนทำงานจึงบีบพวกตนออกโดยโทรไปหานายสมคิดบอกว่าพวกตนไม่ใช่นักการเมือง แต่วันนี้พวกเราต้องมา เพราะน้ำตาของพี่น้อง และไม่อยากเห็นลูกหลานไม่มีอนาคตกับประเทศไทย เราจะสำเร็จหรือไม่ อนาคตของพี่น้องและประเทศอยู่ในสองมือของพี่น้องว่าจะจับมือไปด้วยกันหรือไม่ เพื่อสร้างอนาคตไทยไปด้วยกัน
“สุพล’ลั่นพอได้แล้วกับ16ปีที่ขัดแย้ง
ต่อมา นายสุพล ฟองงาม รองหัวหน้าพรรคสอท.และประธานภาคอีสานได้ปราศรัยตอนหนึ่ง ว่า ปลื้มใจที่ชาวบ้านมาร่วมงานถึง3,500คน เมื่อวันที่ 4 พ.ย.ผู้บริหารพรรคสอท.ได้ตั้งวงจับเข่าคุยกับชาวบ้าน เกษตรกรรับฟังถึงปัญหาทั้งราคาผลผลิตเกษตรตกต่ำ ปุ๋ยแพง หนี้สิน จึงอยากจะพูดกับประชาชนว่า“ทำไมบ้านเมืองเป็นอย่างนี้”ซึ่ง 30กว่าปีตั้งแต่ปี 2533ที่ตนเข้าสู่เส้นทางนักการเมือง เป็นสมาชิกสภาจังหวัดต่อมาปี2538ลงสมัคร ส.ส.แต่สอบตกและไปอยู่กับพรรคความหวังใหม่เพราะอยากได้นายกฯคนอีสานก็ได้สมใจ จากนั้น ปี2543มาอยู่กับ นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯจนได้รู้จักนายสมคิด ได้เห็นถึงความสามารถแต่พอถึงปี 2548 นับเป็นจุดเริ่มต้นความขัดแย้ง ตลอดเวลา16ปีที่ผ่านมาถามว่า พอหรือยัง กับความขัดแย้ง และ 8 ปีที่ผ่านมาเราฉิบหายพอหรือยัง
ชู‘สมคิด’นายกฯกู้วิกฤติศก.ชาติ
นายสุพล กล่าวว่า วันนี้ตนตัดสินใจมาอยู่พรรคสอท.จะเล่นการเมืองเที่ยวนี้ เป็นสงครามครั้งสุดท้าย และจะเป็นพรรคสุดท้าย ไม่มีอีกแล้ว เหตุผลที่มาร่วมงานเพราะต้องการคนเก่ง คนดี มืออาชีพ ที่จะทำให้ประเทศไปรอด เพราะวันนี้บ้านเมืองเหมือนคนป่วยเป็นมะเร็งระยะที่สามและสี่ ต้องมีคนมารักษา โดย แคนดิเดตนายกฯที่มายืนรวมกันให้มองว่าใครมีความสามารถ คนที่มีประสบการณ์มีผลงานซึ่งพูดได้เต็มปากว่าเป็นคนดีพิสูจน์แล้ว เป็นรองนายกฯเป็นรมว.คลัง แก้วิกฤตมามากมาย จะมีใครดีกว่านายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ ประธานพรรคสร้างอนาคตไทย และพรรคนี้มีอุดมการณ์จะมาแก้ปัญหาปากท้อง เศรษฐกิจเป็นอันดับแรก และก้าวข้ามความขัดแย้ง เป็นอันดับสอง จึงขอให้ประชาชนเลือกคนดี ใช้เหตุผล อย่าใช้อารมณ์ในการเลือก อย่าดูเลือกที่หน้าตาสวมงาม
ขอโทษ ไม่ได้สั่งเอาบ้านเผาเมือง
“ผมนี่แหละประธานเสื้อแดง แต่ไม่ได้บอกให้เผาบ้าน เผาเมือง แต่ให้ไปเรียกร้องประชาธิปไตย ไล่เผด็จการ ผมขอโทษพี่น้องประชาชน ผิดไปแล้ว ก่อนหน้านี้ที่ใส่เสื้อแดงทั้งภาคเหนือ และอีสาน เป็นสีแดงแจ๋ ภาคกลาง ภาคตะวันออก สีเหลือง แดงแจมส่วนภาคใต้เป็นสีเหลือง ผมเจ็บปวด วันนี้ประเทศจะแบ่งสีไม่ได้ พอได้แล้ว อย่ามามีสี อย่ามาแดง อย่า มาเหลืองทั้งแผ่นดิน พอได้แล้ว อย่าเอาชื่อหัวหน้านปช.มาให้ผม ผมไม่เอา ผมพอแล้ว ส่วนทหารที่อ้างว่า ถ้าไม่เผาเมือง ก็ไม่ปฏิวัติใช้เหตุเพื่อห้ามคนตีกันแล้วจะไป แต่อยู่คนเดียวมา 8 ปี วันนี้เราต้องมาร่วมกันสร้างอนาคตไทย ร่วมกัน”นายสุพล ย้ำ พร้อมถามชาวบ้านว่าจะเอาใครเป็นนายกฯปรากฎชาวบ้านต่างพากันตะโกนเสียงดังลั่นว่า“สมคิด ๆๆ”
‘สมคิด’อ้อนขอให้ชาวอีสานพ้นทุกข์
จากนั้น นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ ประธานพรรค สอท.กล่าวเปิดนโยบายพรรคช่วงหนึ่งว่า ทุกคำพูดของตนมาจากใจ ถ้าพูดคำไหนไม่เคยลืม พยายามทำให้ดีที่สุดในสิ่งที่ได้มีการสัญญาไว้ ตอนทำพิธีบายศรีสู่ขวัญ ผู้หลักผู้ใหญ่อวยพรตนว่าขอให้ตนมีสุขภาพแข็งแรง คิดสิ่งใดขอให้สมความปรารถนา ทราบหรือไม่ว่า3ปีมานี้ เหมือนฟ้าดินเมตตาตน ทำให้สุขภาพฟื้นคืนมา ตอนอยู่ในตำแหน่งจะแย่อยู่แล้วแต่เราอดทนทำให้กับประชาชน พอ3ปีผ่านไปตนสามารถยืนพูดอยู่ได้เกินหนึ่งชั่วโมง ฟ้าดินย่อมมีเหตุผลแน่นอน สิ่งที่ตนอธิษฐานตอนทำพิธีบายศรีสู่ขวัญ ตนไม่ได้บอกว่า จะเป็นนายกฯไม่ต้องขอ แต่ขอให้ประชาชนโดยเฉพาะชาวอีสานพ้นทุกข์ ขอให้ฟ้าดินช่วยให้ประชาชนมีกินมีใช้อยู่อย่างสุขสบาย
และว่าตอนพรรคไทยรักไทยถูกยุบ ตนเป็นหนึ่งในนั้นที่ถูกแบน 5 ปี แต่ในใจรู้สึกว่า6ปีเต็มในรัฐบาลสมัยนั้น เราทำทุกอย่างไม่ได้เพื่อคนใดคนหนึ่ง แต่ทำเพื่อหัวใจของเรา ไม่เป็นไร พรรคมันถูกยุบไปแล้ว แต่สมคิดยังอยู่ แล้วสมคิดทำอะไร ไม่เคยท้อแท้
ชูพักต้น-พักดอก5ปี-ปุ๋ยคนละครึ่ง
นายสมคิด กล่าวว่า การกลับมาครั้งนี้ สิ่งแรกเลย นโยบายใดๆ ที่ในอดีตตนเป็นคนกำกับดูแลและสร้างมันข้นมาจะสานต่อและทำให้ดีขึ้นกว่าเดิมอีก ประชาชนมีหนี้สินทั้งนั้น เราเคยพักหนี้เกษตรกร แต่สิ่งที่จะทำต่อนั้ คือเราจะพักหนี้ทั้งต้น ทั้งดอก 5 ปี และมีมากกว่านั้น สมองของตนเหมือนสมองอิกคิวซัง ที่คิดอยู่เรื่อยๆ การพักดอกต้องเติมเงินใหม่ ต้องมีสินเชื่อใหม่ ที่จะต้องไม่เอาไปหักดอกและต้นเราจะเติมเงินกองทุนหมู่บ้านให้เต็ม นโยบายที่เคยทำงานอย่างโอทอปเราจะสานต่อ เอาการท่องเที่ยวเข้าไปในหมู่บ้าน ขณะเดียวกัน บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ที่เราคิดขึ้นมา เรามีแล้วแต่ยังไม่บอกวันนี้เอาไว้เป็นของขวัญปีใหม่ให้ประชาชน ตนไม่ได้อยู่พรรคพลังประชารัฐ แต่สามารถคิดสิ่งที่ดีกว่าเดิมได้ ส่วนใครคิดแข่งก็ดี ประชาชนจะได้ประโยชน์ วันนี้คนอีสานเกษตรกรทั่วประเทศไม่มีเงินแล้ว เราจะใช้นโยบายปุ๋ยคนละครึ่ง เกษตรกรครึ่ง รัฐบาลครึ่ง อีกหน่อยจะประกาศอุตสาหกรรมเกษตรสีเขียวที่นี่เกษตรแปรรูป ที่จะทำให้คนอีสานอยู่ได้
ลั่นไม่แลนด์สไลด์ แต่จะสร้างสึนามิ
“วันนี้นักการเมืองไหน อย่าไปพูดว่าประชาธิปไตย หรือเผด็จการ เราทุกคนอยู่บนประชาธิปไตยทั้งนั้น อยู่ที่นโยบาย ถามประชาชนเชื่อพรรคไหน ถ้าเชื่อสมคิด มั่นใจพรรค เลือกสร้างอนาคตไทยพรรคเดียว ให้รู้ว่าพรรคที่ไม่ซื้อหัวละ50 จะอยู่ไม่ได้ เราจะสู้ด้วยความซื่อสัตย์ สุจริต ต่อสู้อุดมการณ์ของเรา เราไม่สร้างแลนด์สไลด์ แต่เราจะสร้างสึนามิเลย มา จ.อุบลราชธานีไม่ได้มาพูดเล่นๆ แต่ต้องการให้เสียงของตนไปทั้งอีสานเลย อย่าดูถูกคนอีสาน อย่าคิดว่าเงินซื้อได้ วันนี้ตนจะต่อรองกับเขา ระหว่างเงิน 500 1,000กับอนาคตลูกหลานของคุณจะเลือกอะไร” นายสมคิด ย้ำ
พร้อมกันนี้ นายสมคิดยังกล่าวอีกว่าพรรคสร้างอนาคตไทยถูกปรามาสว่า เป็นพรรคเล็ก กำลังไม่มีแต่รู้หรือไม่ว่า นพ.ประเวศ วะสี ราษฎรอาวุโส บอกพวกตนว่าพยายามทำในสิ่งที่ประชาชนต้องการและมวลชนจะยืนอยู่ข้างหลังตน ซึ่งตนเชื่อคำนั้น
ลั่นเจาะไข่แดงดับแลนด์สไลด์พท.
เวลา12.30 น.นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ประธานพรรค สอท.ให้สัมภาษณ์ถึงการลงพื้นที่ จ.อุบลราชธานีของผู้บริหารพรรคสอท.ว่าเป็นครั้งแรกที่มาพูดกับประชาชนภาคอีสาน ถึงนโยบายที่พรรคสอท.จะทำให้ภาคอีสานและเกษตรกรทั่วประเทศ เมื่อถามว่าการลงจ.อุบลฯพื้นที่ของเพื่อไทยจะสามารถเจาะไข่แดงได้อย่างไรนายสมคิด กล่าวว่า เราจะขายชุดความคิดที่เป็นนโยบาย ส่วนคนตัดสินใจ คือ ประชาชน แต่จะเจาะได้หรือไม่ อยู่ที่สิ่งที่เราเสนอให้ประชาชนโดยเฉพาะชาวอีสานที่ยากจนจริงๆวันนี้ไม่มีจะกินและนโยบายที่ตนประกาศไปแล้ว ใครจะเอาไปใช้ ก็ไม่ได้ว่าอะไร ขอให้ทุกคนร่วมมือร่วมใจกัน
ปมยุบสภาโยนถาม‘นายกฯบิ๊กตู่’
เมื่อถามว่ามองการเมืองหลังการประชุมเอเปกอย่างไร เพราะหลายฝ่ายประเมินว่าจะมีการเปลี่ยนแปลงและเป็นช่วงใกล้เวลาเลือกตั้งนายสมคิด กล่าวว่าทำเอเปคให้ดีที่สุดก่อนเพราะเป็นเรื่องสำคัญ เป็นการประชุมที่เป็นหน้าตาของประเทศ ขอให้ทำให้ดีที่สุด ส่วนการเมืองจะเป็นอย่างไร ให้ปล่อยเป็นไปตามธรรมชาติ หากมีการเลือกตั้งเกิดขึ้น เชื่อว่าทุกพรรคพร้อมหมด แต่ถ้ายังเลือกตั้งไม่ได้ ก็ให้ทำหน้าที่กันต่อไป ไม่มีอะไร เวลานี้ควรคิดช่วยเหลือชาวบ้านดีกว่า และยืนยัน หัวหน้าพรรค และเลขาฯพรรคบอกแล้วว่าพร้อมทุกสถานการณ์
ส่วนจะเป็นไปได้หรือไม่ว่าจะมีการยุบสภาหลังประชุมเอเปคตามที่พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯในฐานะหัวหน้าพรรคพปชร.เคยระบุไว้นายสมคิดกล่าวว่า“นั่นพล.อ.ประวิตร สื่อต้องไปถาม พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม ต้องถามให้ถูกคน”
เชื่อบิ๊กตู่ยุบสภาหลังเอเปค
นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ เลขาธิการพรรค สอท.กล่าวถึงสถานการณ์การเมืองไทยหลังประชุมเอเปกว่าคิดว่ามีความเป็นไปได้สูงที่หลังประชุมเอเปก จะเกิดการเปลี่ยนแปลงในทางการเมือง สิ่งที่สังเกตได้มาตลอด ก็คือหลังเอเปก น่าจะมีการตัดสินใจทางการเมืองหลายเรื่อง และเกิดขึ้นได้หลายลักษณะ อาจจะเกิดขึ้นได้ตั้งแต่การเปลี่ยนแปลงในพรรคการเมืองต่างๆที่มีอยู่แล้วหรือเกิดความชัดเจนทางการเมืองของกลุ่มการเมืองต่างๆและมีโอกาสไปถึงการยุบสภาที่จะคืนอำนาจให้กับประชาชนโดยเฉพาะสิ่งที่คิดว่าน่าจะเกิดได้ก็คือเสียงในสภาที่เริ่มสะท้อนปัญหาถึงความเป็นเอกภาพและปัญหาจากการประชุมสภา สิ่งเหล่านี้มักเกิดขึ้นตอนปลายสมัยของรัฐบาล ดังนั้น คิดว่าหลังเอเปกเป็นสถานการณ์ที่น่าจับตา
เมื่อถามว่าถ้ามีการยุบสภาจริง แต่กฎหมายการเลือกตั้งยังไม่เสร็จจะเป็นอุปสรรคในการเลือกตั้งหรือไม่ นายสนธิรัตน์ กล่าวว่า คิดว่าวันที่23พ.ย.ศาลรัฐธรรมนูญจะวินิจฉัยสิ่งที่ได้มีการยื่นไว้ ตรงนี้ น่าจะมีความชัดเจนถึงความพร้อมในการเลือกตั้ง คงต้องติดตามดูวันที่23 พ.ย.
‘โหร สว.วันชัย’ฟันธง’สิ้นปีสิ้นอำนาจ’
นายวันชัย สอนศิริ สมาชิกวุฒิสภา(ส.ว.)โพสต์ข้อความผ่านเพจเฟซบุ๊กทนายวันชัย สอนศิริ ระบุว่า สิ้นปี... สิ้นอำนาจ ถ้าจะไล่เรียงปฏิทินการเมืองกับการนับถอยหลังแห่งอำนาจ มองดูแล้วเหลือเวลาอีกไม่นานเลย พฤศจิกายนนี้ก็มีประชุมAPEC จากนั้นต้นเดือนธันวาคม ถึงวันที่ 10 ก็เป็นวันชาติ และเป็นวันรัฐธรรมนูญ จากนั้นก็เตรียมส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ เตรียมเที่ยวเตรียมพักผ่อน รัฐบาลและผู้มีอำนาจ ก็อยู่ในภาวะเช่นเดียวกัน สิ้นปีเตรียมสิ้นอำนาจ เพราะใกล้จะเลือกตั้งเต็มที จะมีช้าหรือมีเร็วก็ไม่เกินเดือนมีนาคม 2566 เห็นมั้ยล่ะว่าอำนาจเก่ากำลังจะไปอำนาจใหม่กำลังจะมา และในสถานการณ์ที่เปิดสภาสมัยประชุมนี้ อุบัติเหตุทางการเมืองก็พร้อมที่จะเกิดขึ้นได้เสมอ เลยจากการประชุมAPECไป จะไม่มีใครไว้หน้าใคร แตกเป็นแตกหักเป็นหัก มุ่งหาอำนาจใหม่ นี่คือปัจจัยที่สำคัญที่ทำให้มีเรื่องได้ทุกขณะ
ชี้ชนวนระเบิดในรบ.พร้อมเกิดขึ้น
พร้อมระบุว่า ที่ผ่านมาเรื่องสุราเสรี ก็หวิดไปหวิดมา แต่ชี้ให้เห็นได้ว่าอำนาจมันเปราะบางเต็มที กู้ยืมเพื่อการศึกษาเสรีที่ผ่านมาก็ทุลักทุเล ทั้งกัญชาเสรี ก็จะเปิดศึกรบกันหนักระหว่างพรรคร่วมรัฐบาล ชนวนระเบิดพร้อมที่จะเกิดขึ้น ทั้งเรื่องขายที่ดินขายชาติก็จะพลอยเป็นชนวนระเบิดที่ตามมาเป็นระลอก อาจต้องถอดสลักตีกรรเชียงหนี เรียกว่า สถานการณ์ทางการเมืองในสภาปลายสมัย จะอีรุงตุงนัง ร้อนระอุแรงขึ้น ที่หวังจะยืดอยู่ยาวก็อาจจะต้องยุบเสียก่อนก็เป็นไปได้ ยิ่งตอนนี้แต่ละพรรคกำลังจัดทัพรับศึกเตรียมไพร่พลลงเลือกตั้ง ที่ว่าจะร่วมเป็นร่วมตายกันต่อไปนั้นดูจะไม่ใช่เสียแล้ว ปล่อยให้ตายกันไป แต่กำลังจะมีไพร่พลที่รอจังหวะฉวยโอกาสไปอยู่กับอำนาจใหม่ มิตรแท้และศัตรูถาวรจะมีให้เห็นก็ตอนใกล้เลือกตั้งนี่แหละ...หงายไพ่หรือเปิดถ้วยมาก็จะได้ฮาครืน... ทำไมมันเป็นอย่างนั้น
‘ลุงป้อม’ฮักคนอีสานลงช่วยชาวสกล
วันเดียวกัน พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รอง นายกรัฐมนตรีในฐานะผู้อำนวยการกองอำนวยการน้ำแห่งชาติพร้อมคณะ ดินทางไปตรวจ ติดตามแผนพัฒนาหนองหาร จ.สกลนคร เป็นโครงการสำคัญในการบริหารจัดการน้ำ เพื่อพี่น้องประชาชนในพื้นที่ภาคอีสานโดยได้รับฟังการบรรยายสรุป ภาพรวมการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำ และแผนหลักการพัฒนาหนองหารรวมทั้งหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง
ต่อมา พล.อ.ประวิตรลงพื้นที่ตรวจสภาพรอบบึงหนองหาร ณ สวนเฉลิมพระเกียรติ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเฉลิมพระชนมพรรษา 80 ปีซึ่งได้มีประชาชนในพื้นที่ให้การต้อนรับ โดยพล.อ.ประวิตรได้พบปะทักทายและขอบคุณพร้อมฝากความปรารถนาดีและความห่วงใยจากรัฐบาลและพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ
สั่งเตรียมกักเก็บน้ำไว้ใช้ฤดูแล้ง
โดยพล.อ.ประวิตร ยืนยันจะเร่งแก้ปัญหาน้ำให้ครอบคลุมทุกมิติ ผ่านกลไกการทำงานของภาครัฐ และความร่วมมือจากภาคเอกชนและประชาชนเพื่อให้ชาวหนองหารชาวสกลนคร ลดผลกระทบจากภาวะน้ำท่วม ภัยแล้ง มีน้ำสะอาดใช้อย่างเพียงพอ มีความอยู่ดีกินดี พร้อมจะพยายามพัฒนาบึงหนองหาร ให้กลับมามีความอุดมสมบูรณ์ เป็นแหล่งน้ำจืด ที่มีคุณค่าทางธรรมชาติและเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงของจังหวัด และคนอีสานอีกครั้งหนึ่ง
ทั้งนี้ พล.อ.ประวิตร ได้กำชับให้ทุกหน่วยงานเร่งบูรณาการขับเคลื่อนแผนงาน/โครงการ อย่างเคร่งครัดรวมทั้งขับเคลื่อน 13 มาตรการฤดูฝน และ 10 มาตรการฤดูแล้งโดยเฉพาะการใช้ประโยชน์พื้นที่ในการหน่วงและกักเก็บน้ำสำรองไว้ใช้เพื่อป้องกัน และลดผลกระทบประชาชนในช่วงฤดูแล้งนี้ด้วย
เป็นประธานทอดกฐินที่นครพนม
ต่อมาที่ วัดโฆสมังคลาราม บ้านโคกสว่าง ต.โคกสว่าง อ.ปลาปาก จ.นครพนม พลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ พร้อมด้วย นายวิรัช รัตนเศรษฐ รองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ และคณะสายบุญ ร่วมเป็นประธานในพิธีฐอดถวายกฐินสามัคคี ประจำปี 2565 เพื่อสบทบทุน สร้างพระมหาเจดีย์โฆสปัญโญศรีพนม เพื่อสร้างถวายเป็นพุทธบูชาพระสัมมาสัมพุทธเจ้า รวมถึง ถวายแด่ พระสุนทรธรรมากร หรือ หลวงปู่คำพันธ์ โฆสปัญโญ อดีตเจ้าอาวาสวัดธาตุมหาชัย พระเกจิอาจารย์ชื่อดัง สายวิปัสนากรรมฐาน ซึ่งเป็นพระที่ปฏิบัติดีปฏิบัติชอบ ที่มีศิษยานุศิษย์เคารพศรัทธา และได้ฉายาว่าเทพเจ้าแห่งลุ่มน้ำโขง สำหรับในปีนี้นับเป็นปีที่ 8 ที่ได้ทำบุญทอดถวายกฐินมาต่อเนื่อง ตั้งแต่ปี 2558 ทั้งนี้ พลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ได้มีความศรัทธาต่อ หลวงปู่คำพันธ์ โฆสปัญโญ ในสมัยที่เดินทางมาทำงานในพื้นที่ เมื่อ 20 ปีที่แล้ว ทำให้มีการเชิญชวน ผู้มีจิตศรัทธาร่วมสร้าง มาตั้งแต่ปี 2557 และเป็นที่ฮือฮา เนื่องจากได้ยอดกฐินสูง กว่า 82 ล้านบาท ในปีแรก และมีการร่วมทำบุญสมทบทุนมาต่อเนื่อง คาดว่าจะมีการก่อสร้างแล้วเสร็จสมบูรณ์ ประมาณปี 2566 ในงบประมาณไม่ต่ำกว่า 400 - 500 ล้านบาท สำหรับปีนี้ ได้ปัจจัยในการทำบุญ ทั้งสิ้น 3,602,645 บาท ส่วนในปีที่ผ่านมาได้ปัจจัยทั้งหมดกว่า 3.7 ล้านบาท ในครั้งนี้ มี นายศุภชัย โพธิ์สุ ครูแก้ว ส.ส.นครพนม เขต 1 พรรคภูมิใจไทย ในฐานะรองประธานสภาผู้แทนราษฎรคนที่ 2 นำนักการเมืองสายร่วมรัฐบาลร่วมพิธี นอกจากนี้ยังมี พลตำรวจเอก อดุลย์ แสงสิงแก้ว สมาชิกวุฒิภา นายชาญชัย คงทัน รอง ผวจ.นครพนม นำข้าราชการ ตำรวจทหาร ฝ่ายปกครอง ผู้นำชุมชนท้องถิ่น ให้การต้อนรับ อีกทั้งยัง มี น้องๆ นักเรียน สวมชุดพื้นเมือง มาร่วมมอบดอกไม้ กุหลาบแดง ให้กำลังใจ สร้างสีสัน ภายหลังประกอบพิธีทอดถวายกฐินสามัคคี ทางด้าน พลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ได้ร่วมเปิดป้าย สถาบันพลังจิตตานุภาพ 310 วัดโฆษมังคลาราม ต.โคกสว่าง อ.ปลาปาก จ.นครพนม พร้อมร่วมพิธีอัญเชิญ พระพุทธรูปปางประธานพร ทรงเครื่องมหาจักรพรรดิ จำนวน 2 องค์ เพื่อประดิษฐานบนยอดมณฑป ภายในชั้น 2 ขององค์พระมหาเจดีย์ เป็นที่เคารพบูชาของประชาชน นักท่องเที่ยว ส่วนยอดเจดีย์ได้บรรจุพระบรมสารีริกธาตุไว้ หลังเสร็จพิธีได้ปลูกต้นไม้เป็นต้น พะยอม เพื่อปรับปรุงภูมิทัศน์ ภายในพื้นที่วัด
แต่สำหรับประเด็นการเมือง ที่น่าจับตามองสำหรับ บุคคลสำคัญที่เป็นว่า ที่ผู้สมัคร ส.ส.พลังประชารัฐ ที่ขาดไม่ได้ คือ นางสาวณัฐธ์ภัสส์ ยงใจยุทธ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงยุติธรรม คาดว่าจะเป็นเต็ง 1 ในการวางตัวผู้ สมัคร ส.ส.พลังประชารัฐ เขต 2 นครพนม รวมถึง นางมารวย อุดมเลิศปรีชา หรือเจ๊ฝน อายุ 55 ปี เจ้าของร้านดาวทองเมนูเวียดนามชื่อดัง อ.ธาตุพนม ที่จะร่วมลงสมัคร เป็นว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.เขต 3 นครพนม ส่วนเขตนเลือกตั้งที่ 1 – 4 ยังไม่แสดงตัวชัดเจน ส่วนครั้งนี้ ทางบิ๊กป้อม ไม่ขอพูดถึงการเมือง เนื่องจากเน้นมาทำบุญ
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี