ครม. ปรับเพิ่มค่าอาหารกลางวันเด็กเล็ก- ป.6 ตามขนาดของรร. ในอัตรา 22 - 36 บาท/คน/วัน ครอบคลุมจำนวนนักเรียนกว่า 5.8 ล้านคน
วันที่ 8 พฤศจิกายน 2565 65 ที่ทำนียบรัฐบาล นายอนุชา บูรพชัยศรี รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง ปฏิบัติหน้าที่โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงมติคณะรัฐมนตรี(ครม.)ว่า ครม. อนุมัติปรับเพิ่มค่าอาหารกลางวันให้แก่นักเรียนระดับชั้นเด็กเล็กถึงระดับชั้น ป.6 เป็น 4 ระดับ ดังนี้
-โรงเรียนที่มีจำนวนนักเรียน 1 - 40 คน ใช้เงินค่าอาหารกลางวัน 36 บาท/คน/วัน
-โรงเรียนที่มีจำนวนนักเรียน 41 - 100 คน ใช้เงินค่าอาหารกลางวัน 27 บาท/คน/วัน
-โรงเรียนที่มีจำนวนนักเรียน 101 - 120 คน ใช้เงินค่าอาหารกลางวัน 24 บาท/คน/วัน
-โรงเรียนที่มีจำนวนนักเรียน 121 - คนขึ้นไป ใช้เงินค่าอาหารกลางวัน 22 บาท/คน/วัน
โดยคณะรัฐมนตรียังอนุมัติหลักการในการใช้งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2566 งบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น พร้อมทั้งอนุมัติหลักการในการตั้งงบประมาณรายจ่ายประจำปี รายการค่าใช้จ่ายค่าอาหารกลางวันของนักเรียนเป็นอัตราดังกล่าว ตั้งแต่ ปีงบประมาณ 2567 เป็นต้นไปด้วย
สำหรับอัตราค่าอาหารกลางวันตามขนาดของโรงเรียน ครอบคลุมนักเรียนระดับชั้นอนุบาล 1 - ป.6 ของ รร.ประถมศึกษา 5 สังกัด จำนวนนักเรียน 5,792,119 คน ได้แก่ (1) โรงเรียนสังกัด สพฐ. (2) โรงเรียนและศูนย์พัฒนาเด็กเล็กสังกัดองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) (รวมทั้งที่จัดตั้งขึ้นเองและรับถ่ายโอน) (3) โรงเรียนสังกัดตำรวจตะเวนชายแดน(4) สถานศึกษาสังกัดการศึกาานอกระบบและ (5) สถานศึกษาสังกัด กรมพัฒนาสังคมและสวัสดิการ
ทั้งนี้ การปรับเพิ่มค่าอาหารกลางวันตามขนาดของโรงเรียนว่า จะช่วยแก้ปัญหาความเหลื่อมล้ำของโรงเรียนขนาดเล็กที่มีนักเรียนน้อยกว่า 120 คน ช่วยให้การบริหารจัดการงบประมาณเป็นไปอย่างเหมาะสม สอดคล้องกับขนาดของโรงเรียนและจำนวนนักเรียน ทำให้โครงการอาหารกลางวันให้มีคุณภาพและเกิดประสิทธิภาพสูงสุด
ขณะที่นางสาวตรีนุช เทียนทอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (รมว.ศธ.) เปิดเผยถึงผลการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ซึ่งมี พล.อ.ประยุทธ์ จันทรโอชา นายกรัฐมนตรี เป็นประธาน ว่า ที่ประชุมได้พิจารณาอนุมัติปรับเพิ่มอัตราค่าอาหารกลางวันของนักเรียนตั้งแต่ระดับชั้นเด็กเล็กถึงชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 (ป.6) ของสถานศึกษาในทุกสังกัด ซึ่งมีจำนวน 51,637 โรงเรียน จากปัจจุบันที่ได้รับในอัตรา 21 บาทต่อคนต่อวัน โดยปรับเพิ่มขึ้นในอัตราตามขนาดของโรงเรียน ตามที่กระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) เสนอ เพื่อให้สอดคล้องกับสภาพเศรษฐกิจและสังคมที่มีการเปลี่ยนแปลง ส่งผลให้ค่าใช้จ่ายและวัตถุดิบในการประกอบอาหารมีราคาสูงขึ้น โดยการจัดอาหารให้กับนักเรียนในแต่ละมื้อต้องคำนึงถึงคุณค่าตามหลักโภชนาการ 5 หมู่ที่นักเรียนควรได้รับ และในปริมาณที่เหมาะสม
นางสาวตรีนุช กล่าวว่า การปรับเพิ่มค่าอาหารกลางวันให้แก่นักเรียนระดับชั้นเด็กเล็กถึงชั้น ป.6 ในอัตราตามขนาดของโรงเรียนครั้งนี้ แบ่งออกเป็น 4 กลุ่ม ได้แก่ โรงเรียนที่มีจำนวนนักเรียน 1-40 คน มีจำนวน 16,691 แห่ง จำนวนนักเรียน 403,768 คน จะได้รับเงินค่าอาหารกลางวัน 36 บาทต่อคนต่อวัน เพิ่มขึ้น 15 บาท หรือคิดเป็นเพิ่มขึ้น 71.43% กลุ่มที่สอง โรงเรียนที่มีจำนวนนักเรียน 41-100 คน จำนวน 17,437 แห่ง จำนวนนักเรียน 1,126,246 คน ได้รับ 27 บาทต่อคนต่อวัน คิดเป็นเพิ่มขึ้น 28.57% กลุ่มที่สามโรงเรียนที่มีจำนวนนักเรียน 101-120 คน มีจำนวน 1,970 แห่ง มีจำนวนนักเรียน 234,949 คน ได้รับ 24 บาทต่อคนต่อวัน เพิ่มขึ้น 14.29% และกลุ่มสุดท้าย โรงเรียนที่มีนักเรียนตั้งแต่ 121 คนขึ้นไป มีจำนวน 15,539 แห่ง จำนวนนักเรียน 4,147,557 คน ได้รับค่าอาหารกลางวัน 22 บาทต่อคนต่อวัน เพิ่มขึ้น 4.76%
“การปรับเพิ่มค่าอาหารกลางวันเป็นอัตราตามขนาดของโรงเรียน นอกจากจะส่งผลให้นักเรียนทุกคนได้รับอาหารกลางวันที่มีคุณภาพ ถูกต้องตามหลักโภชนาการแล้ว ยังเป็นการแก้ปัญหาให้แก่โรงเรียนขนาดเล็กโดยเฉพาะได้เป็นอย่างดี เนื่องจากปัจจุบันมีโรงเรียนขนาดเล็กทุกสังกัดรวมจำนวน 36,098 โรงเรียน คิดเป็นร้อยละ 63.90 ของโรงเรียนทั้งหมดที่รับเงินอุดหนุนค่าอาหารกลางวันนักเรียน ซึ่งมีอยู่จำนวน 51,637 โรงเรียน ขณะที่โรงเรียนขนาดเล็กต้องมีค่าใช้จ่ายโดยเฉลี่ยในการบริหารจัดการประกอบอาหารกลางวัน เช่น ค่าจ้างแม่ครัว ค่าอุปกรณ์ ฯลฯ ที่เป็นต้นทุนคงที่ สูงมากกว่าโรงเรียนขนาดใหญ่ ซึ่งการปรับเพิ่มค่าอาหารกลางวันในอัตราตามขนาดโรงเรียนครั้งนี้ จะช่วยให้โรงเรียนขนาดเล็กสามารถบริหารจัดการและจัดหาอาหารกลางวันให้กับน้อง ๆได้เป็นอย่างดีและเหมาะสม รวมถึงครบถ้วนตามหลักโภชนาการ 5 หมู่ ซึ่งจะส่งผลทางด้านร่างกายและสมองให้เด็ก ๆสามารถสร้างการเรียนรู้ได้เป็นอย่างดีมีประสิทธิภาพ” นางสาวตรีนุช กล่าว
รมว.ศธ.กล่าวต่อว่า สำหรับการปรับเพิ่มค่าอาหารกลางวันเป็นอัตราตามขนาดของโรงเรียนดังกล่าว จะเริ่มใช้ในการจัดทำแผนงบประมาณปี 2567 โดยจะใช้งบประมาณทั้งสิ้น 28,365,864,000 บาท เพิ่มขึ้นจากเดิมที่กำหนดในอัตรา 21 บาทต่อคนต่อวัน เป็นเงิน 3,533,280,000 บาท ทั้งนี้ ครม.ยังมีมติเพิ่มเติมว่า สำหรับปีงบประมาณ 2566 ให้ทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเจียดจ่ายงบประมาณที่มีมาเป็นค่าอาหารกลางวันตามอัตราใหม่ หากไม่เพียงพอให้ขอรับการสนับสนุนตามระเบียบสำนักงบประมาณ ทาง ศธ. จะหารือร่วมกับสำนักงบประมาณ และทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อหาแนวทางให้นักเรียนได้รับค่าอาหารกลางวันตามอัตราใหม่ โดยเร็วที่สุด
รมว.ศธ.กล่าวอีกว่า ทั้งนี้ โรงเรียนที่ได้รับเพิ่มอัตราค่าอาหารกลางวัน จำนวน 51,637 โรงเรียน ประกอบด้วย โรงเรียนในสังกัดกระทรวงศึกษาธิการ ได้แก่ สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการศึกษาเอกชน (สช.) สำนักงานส่งเสริมการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัย (กศน.), โรงเรียนสังกัดกระทรวงมหาดไทย กรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น โรงเรียนตำรวจตระเวนชายแดน, สังกัดกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์, สังกัดกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัย และนวัตกรรม, สังกัดกรุงเทพมหานคร และ สังกัดเมืองพัทยา
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี