เปิดเกมรุกถล่ม “รัฐบาลไทยในเอเปค2022” เหลว ไปไม่ถึงฝั่ง เจอ “ไม้แข็ง” ชะงักงัน กับ “โค้งสุดท้ายการเมืองไทย” ปัดกวาดบ้าน! ก่อนเปลี่ยนผ่าน
ช่วงของการประชุม “สัปดาห์ผู้นำเขตเศรษฐกิจเอเปค” (APEC 2022) ระหว่างวันที่14-19พ.ย.2565 ที่ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ กรุงเทพฯ และวันนี้(19พ.ย.) ถือเป็นวันสุดท้ายของการประชุม
กำลังจะได้ข้อสรุปที่ไทยเราผลักดัน “การเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจ และการพัฒนาที่ยั่งยืน” ผ่านโมเดลแนวคิด “เศรษฐกิจ BCG” เพื่อให้บรรดาผู้นำต่างชาติยอมรับ และเกิดการลงทุนตามมา ในการ “กระตุ้นเศรษฐกิจ” ให้ดีขึ้น อีกไม่นานก็คงจะรับทราบกัน
แต่นอกเหนือจากห้วงสัปดาห์ที่ต้องหลีกทางให้การประชุมเอเปค 2022 นั่นคือการเป็น “เจ้าบ้านที่ดี” ในความเป็น “วัฒนธรรมไทย” ที่จะนำเสนอ ถือเป็นสิ่งที่ไม่ใช่แค่ “รัฐบาลไทย” ต้องทำ
แต่ “ประชาชนพลเมืองไทย” ทุกคนต้องร่วมกันเป็นเจ้าภาพที่ดี ในฐานะเจ้าของบ้าน เพราะนี่ถือเป็น “โอกาสทอง” ครั้งสำคัญอีกครั้ง ที่จะ “เสริมเขี้ยวเล็บ” ประเทศไทย ไปสู่การพัฒนา โดยเฉพาะด้านเศรษฐกิจ ที่อาจจะสร้างรายได้ให้เรามหาศาลในอนาคต
จะว่าไปแล้ว “20ปีผ่าน” พอดี จาก “พ.ศ.2545” ครั้งนั้น ที่ไทยเราเป็นเจ้าภาพเอเปค ในสมัย “รัฐบาลทักษิณ ชินวัตร” ที่ได้มีโอกาสเริ่มแสดงศักยภาพต่อสายตาชาวโลก
ส่งต่อมาปีปัจจุบัน ในสมัยรัฐบาล “พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา” กำลังทำเช่นนั้น แต่ทว่าบริบทกลับ “ต่างออกไป” ในความเป็นเจ้าบ้านที่ดีนั้น? กลับมี “กลุ่มบุคคลบางกลุ่ม” ออกมาเรียกร้องบางอย่าง
เมื่อห้วง2-3วันที่ผ่านมา เกิดการรวมตัวกันของเครือข่ายผู้ชุมนุม จนเกิดเป็นกลุ่ม “ราษฎรหยุดเอเปค2022” ที่เมื่อมองดูแล้ว ต้องยอมรับว่า ปฏิเสธไม่ได้จริงๆ ว่าเป็นเนื้อในเดียวกันกับ “ม็อบ3นิ้ว” ที่ชุมนุมเรียกร้องมาตลอด2เข้า3ปีที่ผ่านมา
งานนี้นำมาโดย “มายด์ ภัสราวลี ธนกิจวิบูลย์ผล” ที่ออกตัวเป็น “แกนนำหญิง” นำขบวนมาปักหลักอยู่ที่ “ลานคนเมือง หน้าศาลาว่าการกรุงเทพมหานคร” ย่านเสาชิงช้า กทม. ตั้งแต่15พ.ย.ที่ผ่านมา
มาผนวกกับ “สารพัด” เครือข่ายเอ็นจีโอภาคประชาชนแขนงต่างๆ วางแพลน “เคลื่อนขบวนใหญ่” หลักร้อย!! ในวันที่18พ.ย.ที่ผ่านมา เตรียมบุกไปยังศูนย์ฯสิริกิติ์ อันเป็นที่ประชุมของเหล่าผู้นำฯเอเปค พ่วงมาด้วย3ข้อเรียกร้อง ดังนี้
1.ยกเลิกโมเดล BCG ที่รัฐบาลไทยชูธงในครั้งนี้ 2.พล.อ.ประยุทธ์ ไม่มีความชอบธรรมใดๆในการลงนามในข้อตกลงใดๆ ทั้งสิ้นกับผู้นำเอเปก และ3.พล.อ.ประยุทธ์ ต้องยุบสภาเพื่อให้เกิดการเลือกตั้งโดยเร็ว
เจตนาในครั้งนี้ของม็อบหยุดเอเปค2022 คงต้องการจะสื่อผ่านในลักษณะ “ฟ้องโลก-ฟ้องฝรั่งต่างชาติ” ประณาม “รัฐบาลไทย” ว่าในสายตาของพวกเขา “หมดความชอบธรรม” แล้ว หวังใช้โลกกดดันไทยให้ “จนมุม”
เมื่อนัดเช้า8โมง 18พ.ย.65 เคลื่อนขบวนไปศูนย์ฯสิริกิติ์ หลังปักหลักค้างคืนลานคนเมืองฯ แต่พอเคลื่อนม็อบออกมาได้ไม่กี่ร้อยเมตร บริเวณถนนดินสอ ใกล้กับอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย ก็ต้องเจอกับแนวสกัดกั้นจาก “เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดควบคุมฝูงชน หรือคฝ.”
มีการเจรจาขอผ่านทางตลอดทั้งวัน แต่ “ไม่เป็นผล” ในเมื่อฝั่งหนึ่งต้องการเดินหน้าไปยังจุดหมาย กับอีกฝ่ายที่ต้องทำทุกทางเพื่อหยุดสกัดกั้นป้องกันเหตุวุ่นวายในภายหน้า พร้อมชี้แจงปรามเตือนเป็นขั้นตอนว่าเป็นการกระทำที่ “ผิดกฎหมาย” จึงหลีกเลี่ยงไม่ได้ที่จะเกิดการเผชิญหน้า-ปะทะ
ก็เป็นไปตามนั้น ตุ้บตั้บๆ กันอยู่ประมาณ2-3ช่วง ฟากเจ้าหน้าที่จำเป็นต้องงัด “กระสุนยาง-แก๊สน้ำตา” ออกมาสกัด หลังม็อบพยายามใช้เครื่องทุ่นแรงอย่างสลิงดึงรถเจ้าหน้าที่ที่ขวางอยู่
บรรดาแกนนำม็อบจึงได้ที โวยว่าทำไมต้องใช้กำลังกับประชาชนมือเปล่า ที่กำลังไปเรียกร้องสิ่งที่เขากำลังเดือดร้อน และบางทีอาจถือโอกาสใช้ภาพ “การกระทำรุนแรง” ฟ้องโลกไปด้วยเลย เพราะหลีกเลี่ยงไม่ได้ที่จะต้องถึงเนื้อถึงตัวจนมีบาดเจ็บ เลือกตกยางออกกันไป
ผลสรุปสุดท้ายเมื่อเจ้าหน้าที่ “ยืนกราน” ไม่ให้ผ่าน ด้วยเพราะเกรงจะเกิดวุ่นวายภายหน้า ดังบทเรียนการเมืองไทยที่มีให้เห็นในรอบห้วงเกือบ20ปีที่ผ่านมา “ม็อบราษฎรหยุดเอเปค” จึงไปไหนไม่ได้ ประกอบกับมีการปะทะกันเป็นระยะๆ สุดท้ายต้องแตกถอยร่นกลับเข้าไปในลานคนเมือง
แล้วค่อยๆเก็บฉาก เก็บเวที ทยอยแยกย้ายกันไปในช่วงเย็น แม้จะมีบางส่วน หรืออาจเป็นส่วนใหญ่ ทยอยกันไปที่สน.ทุ่งสองห้อง กับสน.สำราญราษฎร์ หลังเจ้าหน้าที่ได้จับกุมผู้ชุมนุมที่ฝ่าฝืนกฎหมายรวมล่าสุด “25ราย” ไปไว้ที่2สน.นี้
บรรดาส.ส.โดยเฉพาะจาก “พรรคก้าวไกล” จึงทยอยเปิดหน้าออกมาตามอีหรอบ หวังใช้ตำแหน่งผู้แทนฯประกันตัว “ปล่อยเพื่อนเรา” ออกมา พร้อมให้สัมภาษณ์ “กดดัน-เรียกร้อง-ประณาม” รัฐบาล สื่อไปยังบรรดา “ผู้นำเอเปค”
มองดูแล้วไม่ต่างอะไรจากที่เคยชุมนุมเรียกร้อง “แก้มาตรา112 - ปล่อยเพื่อนเรา” และอีกมากมาย ในห้วงที่เป็น “ม็อบ3นิ้ว” เลย เพียงแต่รอบนี้เอเปค มีบรรดาผู้นำต่างชาติมาเยือนไทย เลยหวัง “ฟ้อง” เผื่อ “ฟลุ๊ค”
แต่เป็นที่น่าสังเกตว่า บรรดา “บิ๊กแกนนำ” อย่าง “รุ้ง ปนัสยา - เพนกวิน พริษฐ์ - ทนายอานนท์” ต่างซุ่มตัวเงียบอยู่ในที่ตั้ง ทำได้เพียง “เรียกร้อง-กดดัน” ผ่านโซเชียล ด้วยเพราะ “ข้อเท้าไม่ว่าง” มีอุปกรณ์บางอย่างเกาะอยู่ “แน่นหนึ่บ”
นั่นคือ “กำไลEM” จากวีรกรรมที่ผ่านมา ส่งผ่านเป็นคดีอัน “สาหัสสากรรจ์” จนยากลำบากใจที่จะออกมานำม็อบเองแบบขึงขังเหมือนที่ผ่านมา ภาระจึงตกไปอยู่กับ “สาวรุ่น” อย่างมายด์ ที่ก็มีคดีติดตัวเช่นกัน แต่อาจไม่หนักเท่า 3 บิ๊กแกนนำที่กล่าวไป
สิ่งเหล่านี้สะท้อนให้เห็นว่า “ม็อบหยุดเอเปคเนื้อใน3นิ้ว” แผ่วกำลังลงไปพอสมควร ถึงแม้จะมี “ผู้อยู่เบื้องหลัง” ที่หนุนผลักดันอยู่ พลางกำหนดทิศทางสั่ง “ซ้ายหันขวาหัน” แต่ในเมื่อไม่ได้มีประเด็นที่เป็น “ฉันทามติ” แบบพร้อมใจของประชาชนส่วนใหญ่ในประเทศ ก็ยากที่จะสร้างกระเพื่อม
ในอีกมุมกระแสดัน “สวิงกลับ” ไม่น้อย โดยเฉพาะในโลกโซเชียลฯ ที่มีมุมมองว่า จะออกมาทำไม? ในเมื่อไทยกำลังจะได้ประโยชน์จากเอเปค ที่อาจทำให้เศรษฐกิจฟื้นตัว หลังจากพิษ “โควิด-19” ได้ “เกาะกุมกัดกิน” จน “ลืมตาอ้าปากไม่ขึ้น” โอกาสทองรอบนี้ ปล่อยให้หลุดลอยไปคงเสียดาย
ต่อจากนี้คงต้องมาติดตามว่า ในแง่ของคดีความฝ่าฝืนกฎหมายของม็อบฯที่จะตามมาเป็นหางว่าวอีกระลอก จะมาในทันทีหรือไม่ เพราะถือว่าหลังจากนี้ “เข้าโค้งสุดท้าย” ของรัฐบาลแล้ว
ไม่ว่าจะ “ยุบสภา” เสียก่อน หรืออยู่จน “ครบวาระ” อีกไม่นานเกินรอก็จะมีการเลือกตั้งใหม่แน่นอนไม่เกินกลางปี2566 ดังนั้น “การปัดกวาดบ้านครั้งใหญ่” ให้สะอาดเอี่ยม เพื่อรอรับการเปลี่ยนแปลงทางการเมืองอีกครั้งใหม่ ยอมเป็นสิ่งหลีกเลี่ยงไม่ได้ที่จะต้องดำเนินการ
สำหรับบรรดา “แกนนำม็อบ” ที่ยังเป็นวัยสร้างอนาคต ดีไม่ดี อาจจะมารู้ตัวเมื่อ “สายไปแล้ว” ก็ได้ อันมาจากน้ำมือของ “ผู้ใหญ่” ที่คอย “บงการ ยุยง ปลุกปั่น” และคอย “หลบอยู่ข้างหลัง” ก็มักจะพาตัวรอดออกมาได้เสมอ
ปิดฉากประชุมเอเปคผ่านพ้นไปแล้ว จึงน่าติดตามอย่างยิ่งกับสถานการณ์การเมืองที่ร้อนแรงยิ่งขึ้น กลุ่มม็อบที่มี “รอยแค้น” สุมอยู่ภายใน จะออกมาอีกในรูปแบบใดหรือไม่
สถานการณ์รัฐบาลที่งวดเข้ามา ช่างเป็นเวลาที่มาประดังกันเหมาะเจาะจริงๆ ชวนให้ติดตามแบบเกาะติดอย่างยิ่ง..!!
ทีมข่าวการเมือง รายงาน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี