หลายกลุ่มจ่อย้ายหนี‘ธรรมนัส’
พปชร.ระสํ่าหนัก
‘สามมิตร’ยังแทงกั๊กรอดูท่าที2ป.
‘บิ๊กตู่’ชี้ทิศทางการเมืองปีหน้าชัด
แย้มกำลังพิจารณาเข้า‘รทสช.’
เมินตอบปมแยกทาง‘บิ๊กป้อม’
‘อนุทิน’เผยนายกฯขอให้ลุยทำงาน
สภาล่มซ้ำซากบี้เปิดชื่อประจาน
“บิ๊กตู่”รอเคาะสมัครสมาชิกพรรค“รทสช.”ยันเฟคนิวส์สมัครแล้ว 21 พฤศจิกายน “วิษณุ” แจง“บิ๊กตู่” สมัครสมาชิกพรรคการเมืองได้ แม้เป็นแคนดิเดต นายกฯพปชร.ชี้เป็นบัญชีเก่าเว้นยุบสภาต้องล้างใหม่ “พปชร.” กระเพื่อมหนัก พิษก๊วน “ธรรมนัส” รีเทิร์น หลายมุ้งกังวลหาเสียงยาก ส่อย้ายหนี “สามมิตร” รอ 2 ลุงชัดเจนแยกทางการ ค่อยเคาะอนาคต เชื่อ 1-2 สัปดาห์น่าจะชัด ส่วน 2 สส.เมืองกาญจน์เบี้ยว“เฮ้ง”ไม่ตามไป “รทสช.” จ่อซบพรรคภท.“อนุทิน”ชี้ท่าที“บิ๊กตู่”ขอให้อยู่ทำงานกันไป ไม่ยุบสภาฯเร็วๆ นี้ปัดไม่มีดีล
แบ่งนั่งเก้าอี้นายกฯคนละครึ่ง ลั่น ภท.พร้อมลต.ไว้แล้ว’สมศักดิ์’ปัดไม่รู้’บิ๊กตู่’บอกอยู่ยาวมี.ค.66 อ้าง จะไปกับ’ประยุทธ์’หรือ’ประวิตร’ต้องดูดินฟ้าอากาศ เหตุผลทางการเมือง ข้อมูลต่างๆ มติศาลรธน.เอกฉันท์ ผ่านฉลุยร่างพรป.พรรคการเมือง ไม่ขัดรธน.-รอลุ้น30พ.ย.วินิจฉัยร่างพรป.เลือกตั้งสส.ขัดหรือไม่
เมื่อวันที่ 23 พฤศจิกายน2565 ที่โรงแรมเซ็นทารา แกรนด์ แอท เซ็นทรัลพลาซา ลาดพร้าว กรุงเทพฯ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม ตอบคำถามผู้สื่อข่าวที่สอบถามว่า สรุปแล้วยังไม่ได้ยื่นใบสมัครเข้าเป็นสมาชิกพรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) ใช่หรือไม่ ซึ่งพล.อ.ประยุทธ์ กล่าวเพียงสั้นๆว่า“พิจารณาอยู่”
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ก่อนหน้านี้มีกระแสลือว่าพล.อ.ประยุทธ์ สมัครสมาชิกพรรครทสช.แล้วเมื่อวันที่ 21พ.ย.ที่ผ่านมา ซึ่ง นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค หัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) ออกมายืนยันแล้วว่า ข่าวดังกล่าวเป็นเฟคนิวส์และไม่เป็นความจริง
‘บิ๊กตู่’ตอบสื่อการเมืองชัดเจนปี2566
เวลา 14.40น.ที่สโมสรทหารบก ถนนวิภาวดีรังสิต พล.อ.ประยุทธ์ ปฏิเสธตอบคำถามกรณีเกิดเหตุคาร์บอมแฟลตตำรวจที่ จ.นราธิวาส ว่า จะมีการกวดขันป้องกันอย่างไรและปฏิเสธการตอบคำถามถึงความชัดเจนทางการเมือง หลังมีกระแสข่าวแยกทางทางการเมืองกับ พล.อ.ประวิตร วงศ์สุวรรณ รองนายกฯในฐานะหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) เพื่อร่วมงานกับพรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) เมื่อถามย้ำว่า การเมืองจะมีความชัดเจนเมื่อใด เนื่องจากก่อนหน้านี้นายกฯระบุว่า จะมีความชัดเจนหลังประชุมเอเปคแล้วเสร็จ นายกฯได้หันมามอง พร้อมยกมือชี้นิ้ว พร้อมระบุเพียงสั้นๆว่า หลังเอเปค ก็ปีหน้าโน้นแหละ
‘วิษณุ’ยันเสนอชื่อ’บิ๊กตู่’นั่งนายกฯได้
ด้าน นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์กรณีที่มีกระแสข่าวว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม กล่าวในที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ว่า ขอให้ครม.ช่วยกันทำงานไปจนถึงเดือนมี.ค.2566ว่า ไม่ได้ยิน เห็นแต่ข่าวที่ลงหนังสือพิมพ์ โดยช่วงเที่ยงหลังประชุม ครม.นายกฯนั่งรับประทานอาหารกลางวันกับรัฐมนตรีบางคน ซึ่งมีคนพูดขึ้นมา แต่ไม่ทราบว่าใครและมีการตอบโต้กัน ส่วนตนนั่งกินข้าวอีกโต๊ะ จึงไม่รู้ว่าพูดอะไรกัน ผู้สื่อข่าวถามว่า คิดว่ารัฐบาลจะมีอำนาจบริหารประเทศเพื่อผลักดันงานต่างๆไปจนถึงเดือนมี.ค.2566หรือไม่ นายวิษณุ กล่าวว่า แล้วแต่เขา เป็นประเด็นทางการเมือง ไม่ใช่เรื่องที่ว่าควรหรือไม่ควร
เมื่อถามว่า หาก พล.อ.ประยุทธ์ จะไปสมัครเข้าเป็นสมาชิกการเมือง โดยมีชื่อเป็นแคนดิเดต นายกฯพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.)สามารถทำได้หรือไม่ นายวิษณุ กล่าวว่า ไม่ทราบว่า นายกฯเป็นสมาชิกพรรคการเมืองใดแล้ว แต่ตอนนี้นายกฯสามารถสมัครสมาชิกพรรคการเมืองได้ แม้จะมีชื่อในบัญชีแคนดิเดตนายกฯในการเลือกตั้งปี2562 แต่หากมีการยุบสภา บัญชีแคนดิเดตนายกฯเก่าจะหายไป เพราะต้องเลือกนายกฯ คนใหม่ ส่วนตอนนี้ยังไม่มีเหตุที่ต้องหานายกฯ ดังนั้นการมีชื่อในบัญชีเก่า จึงไม่ส่งผลกระทบอะไร แต่ถ้าเกิดเหตุจำเป็นต้องหานายกฯใหม่ บุคคลนั้นจะต้องจัดการตัวเอง โดยหาพรรคการเมืองใหม่แค่พรรคเดียว โดยจะกลับไปอยู่พรรคการเมืองเดิม หรือจะไปสมัครพรรคการเมืองอื่นก็ได้
เมื่อถามย้ำว่า พล.อ.ประยุทธ์ เป็นนายกฯที่มาจากพรรค พปชร.จะยังไปสมัครพรรคการเมืองอื่นได้ใช่หรือไม่ รองนายกฯ กล่าวว่า ทำได้ เพราะจะไม่ดูคุณสมบัติในระหว่างที่ยังไม่มีความจำเป็นต้องเลือกนายกฯ ตัวอย่างกรณี นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ ที่เคยมีชื่อเป็นแคนดิเดตของพรรคเพื่อไทย แต่ตอนนี้คุณหญิงสุดารัตน์ มีชื่อเป็นหัวหน้าพรรคไทยสร้างไทย แต่ถ้าจากนี้จำเป็นต้องหานายกฯคนใหม่ คนที่จะเป็นแคนดิเดตนายกฯจะต้องทำตัวเองให้ถูกต้อง ทำให้มีคุณสมบัติถูกต้องครบถ้วน
‘อนุทิน’เผยนายกฯให้ทำงานต่อไป
นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกฯและรมว.สาธารณสุข ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย (ภท.) ให้สัมภาษณ์ถึงกระแสข่าว พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯและรมว.กลาโหม ระบุจะอยู่ถึงเดือนมี.ค.66 ในที่ประชุมครม.ว่า ในการประชุมครม.พล.อ.ประยุทธ์ ขอบคุณพรรคร่วมรัฐบาลและนึกไม่ถึงว่าจะอยู่กันมาจนแทบครบวาระและในการประชุมมีการเปิดวิดีทัศน์ผลงานรัฐบาล ซึ่งนายกฯมีท่าทีอารมณ์ดีและยังได้แจ้งว่าให้อยู่เช่นนี้กันไป ยังไม่มีอะไรต้องกังวล ไม่ได้พูดว่าจะอยู่ถึงมี.ค.หรือเม.ย.ปี 66 แต่ขอให้อยู่ทำงานกันไป เมื่อถามว่า วางใจได้หรือไม่ว่าจะไม่มีการยุบสภาฯช่วงนี้ นายอนุทิน กล่าวว่า“หากดูท่าทางนายกฯก็ยังไม่มี ท่านบอกทำงานกันไป อยู่กัน สามัคคีกัน ก็อยู่ยาว ไม่สามัคคีก็อยู่สั้น ถ้าถามผม ผมก็อยู่ไปเรื่อยๆจนกว่าท่านจะไปเจออุปสรรคขวากหนามอะไรใดๆก็ตามในอนาคต ทั้งเรื่องการเมือง หรือเรื่องในสภาฯซึ่งเราก็ไม่รู้ ส่วนเราต้องเตรียมความพร้อมตั้งมั่นอยู่ในความไม่ประมาทเท่านั้นเอง อยู่ได้ก็อยู่ ทำงานทุกวัน ผลิตผลงานให้มาก ถ้าอยู่ไม่ได้ก็มีความพร้อมต่อการเลือกตั้ง”
เมื่อถามว่าจากที่ทำงานกับนายกฯคิดว่านายกฯจะไปอยู่กับพรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) ตามกระแสข่าวหรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า ท่านยังสู้อยู่ ทำงานปกติ ส่วนจะไป รทสช.หรือไม่ตนไม่รู้ ไม่กล้าถาม เมื่อถามอีกว่า มีกระแสข่าวว่า นายอนุทิน ตกลงกับนายกฯว่า เป็นนายกฯคนละ2ปีในการเลือกตั้งสมัยหน้าเป็นไปได้หรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า “ผมหรือ ไม่จริงๆ ไม่มีดีลนี้ ตำแหน่งนายกฯแบบนี้ยกกันไม่ได้ มันมีองค์ประกอบหลายอย่าง สำคัญที่สุดคือต้องได้รับความไว้วางใจจากประชาชนและจะทำให้มั่นคง”
เมื่อถามอีกว่าในใจยังคิดว่าจะมีอุบัติเหตุยุบสภาฯหรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า ถ้าถามในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย เราบอกกับตัวเองว่า มาถึงขนาดนี้ก็ถือว่าครบเทอมแล้ว เวลาที่เหลือจากนี้ไปเราต้องเตรียมความพร้อม เราจะไปรอให้ถึงมี.ค.ก็คงไม่ได้ เพราะการเมืองต้องมีความพร้อมเต็มที่ตลอดเวลา ซึ่งภูมิใจไทยมีความพร้อมต่อการเลือกตั้งเต็มที่ ทั้งนโยบาย ทั้งผู้สมัคร
รับคุยสส.เชียงราย-บ้านใหญ่กาญจน์
นายอนุทิน ให้สัมภาษณ์กรณีมีกระแสข่าว นายรังสรรค์ วันไชยธนวงศ์ ส.ส.เชียงรายพรรคเพื่อไทย นายธรรมวิชญ์ โพธิพิพิธ สส.กาญจนบุรี นายอัฏฐพล โพธิพิพิธ ส.ส.กาญจนบุรี พรรคพลังประชารัฐ น.ส.อนุสรี ทับสุวรรณ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรครวมพลัง จะย้ายมาร่วมพรรคภูมิใจไทย ในการเลือกตั้งครั้งต่อไป ว่า มีการพูดคุยกันกับทั้ง 4รายชื่อที่มีกระแสข่าวและยังมีมากกว่าที่เป็นข่าว เมื่อถามว่าทั้ง 4คน มีแนวโน้มมาร่วมงานกับพรรคภูมิใจไทยหรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า ทุกคนต่างมีท่าทีของตัวเอง เขาต้องดูว่าในช่วงโค้งสุดท้ายพรรคที่เขาอยากไปสังกัดจะมีนโยบายอย่างไร ขณะนี้ยังไม่จับไม้จับมือกันขนาดนั้น
แห่ชิ่งหนี‘ธรรมนัส’กลับพปชร.
ผู้สื่อข่าวรายงานความเคลื่อนไหวภายในพรรคพลังประชารัฐ(พปชร.)ภายหลังมีความชัดเจนว่า ส.ส.พรรคเศรษฐกิจไทยหลายคน ในกลุ่ม ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า สส.พะเยา จะกลับมาอยู่กับ พปชร.ในการเลือกตั้งครั้งหน้า ปรากฏว่ามีปฏิกิริยาของ สส.หลายกลุ่มในพรรคต่อกรณีดังกล่าว ไม่ว่าจะเป็น สส.ในกลุ่มเพชรบูรณ์ภายใต้การนำของ นายสันติ พร้อมพัฒน์ รมช.คลังและเลขาธิการพรรค พปชร.รวมถึง สส.ในกลุ่มสามมิตรด้วย โดย สส.หลายคนรู้สึกอึดอัดและลำบากใจว่า หาก ร.อ.ธรรมนัส กลับมาจะทำให้พรรคหาเสียงลำบาก เนื่องจากภาพลักษณ์ด้านลบในอดีต ตลอดจนความขัดแย้งระหว่าง ร.อ.ธรรมนัส กับกลุ่มต่างๆ ของพรรคเมื่อครั้งยังอยู่กับ พปชร.ซึ่งสส.บางคนถึงขั้นเอ่ยปากว่า หาก ร.อ.ธรรมนัส กลับมาจะย้ายออกไป แต่ทั้งนี้ สส.หลายคนไม่กล้านำเรื่องนี้ไปพูดกับ พล.อ.ประวิตร รองนายกฯและหัวหน้าพรรค พปชร.เพราะเกรงว่า จะสร้างความลำบากใจให้กับ พล.อ.ประวิตร
กลุ่ม3มิตรยังกั๊กดูท่าทีชัดเจน2ลุง
อย่างไรก็ตาม ในส่วนความเคลื่อนไหวกลุ่มสามมิตร ขณะนี้ยังไม่ตัดสินใจจะดำเนินการอย่างไร เพราะ ต้องการรอดูความชัดเจนระหว่าง พล.อ.ประวิตรกับพล.อ.ประยุทธ์ ก่อนว่า แยกทางกันอย่างเป็นทางการแน่นอนแล้ว จากนั้นค่อยมากำหนดแนวทางของกลุ่มต่อไป โดยเชื่อว่าไม่เกิน 1-2สัปดาห์จะมีความชัดเจนกว่านี้ว่า พล.อ.ประวิตรและพล.อ.ประยุทธ์ จะแยกกันแน่นอนหรือไม่ จากนั้นจึงจะตัดสินใจว่าจะเอาอย่างไร ซึ่งเงื่อนไขหลักๆของกลุ่มสามมิตรคือ ต้องเป็นพรรคขนาดใหญ่ที่มีโอกาสจะเป็นรัฐบาลเท่านั้น โดยขณะนี้มี 3ทางเลือก คือ อยู่กับ พปชร.ย้ายไปอยู่พรรค รทสช.หรือย้ายกลับไปอยู่พรรคเพื่อไทย(พท.)
ก่อนหน้านี้ไม่กี่วันคนสนิทของ พล.อ.ประวิตร ได้โทรศัพท์หา สส.หลายคนในพรรค ให้ไปพบ พล.อ.ประวิตรและพล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา อดีต ผบ.ตร.ที่รับผิดชอบพื้นที่อีสานตอนบน เพื่อพูดคุยเรื่องความชัดเจนว่า จะอยู่พรรคต่อหรือไม่ แต่หลายคนยังดึงเวลาในการเข้าพบออกไปอีก 1สัปดาห์ เพื่อรอดูว่า ร.อ.ธรรมนัส กลับมาแน่นอนหรือไม่ หรือมาเฉพาะสส.บางคนเท่านั้น
2สส.กาญจน์ไม่ย้ายมุ้งตาม’สุชาติ’
ขณะที่ความเคลื่อนไหวของ สส.ในกลุ่ม นายสุชาติ ชมกลิ่น รมว.แรงงาน และผู้อำนวยการพรรค พปชร.ที่มีข่าวจะพาสส.12คนย้ายไปอยู่กับ รทสช.นั้น ปรากฏว่า บางคนไม่ได้ตาม นายสุชาติ ไปด้วย โดยเฉพาะ2พี่น้องตระกูลโพธิพิพิธ จ.กาญจนบุรี คือ นายอัฏฐพล โพธิพิพิธ สส.กาญจนบุรี นายธรรมวิชญ์ โพธิพิพิธ สส.กาญจนบุรี ที่ล่าสุดมีแนวโน้มสูงว่า เลือกที่จะไปอยู่กับพรรคภูมิใจไทยและอาจจะเปิดตัวในช่วงปลายเดือนพ.ย.นี้หากตัดสินใจในขั้นสุดท้ายแล้ว
‘สายัณห์’ขอร่วมตามไปกับ‘บิ๊กตู่’
นายสายัณห์ ยุติธรรม ส.ส.นครศรีธรรมราช พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) กล่าวถึงการตัดสินใจเลือกอยู่กับพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ของ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ หรือย้ายไปพรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) ที่ พล.อ.ประยุทธ์ อยู่ระหว่างตัดสินใจที่จะเข้าร่วมกับพรรครวมไทยสร้างชาติว่า ยอมรับว่าเป็นทาง2แพร่ง ส่วนตัวหลังจากเลือกตั้งมาเกือบ4ปี ก็ผูกพันกับพรรคพลังประชารัฐ โดยเฉพาะพล.อ.ประวิตร ที่ดูแลสมาชิกเป็นอย่างดี เราในฐานะสส.ภาคใต้ ยอมรับตั้งแต่ต้นว่า ที่ได้เข้ามาเป็นสส.ก็เพราะกระแส พล.อ.ประยุทธ์ ครั้งแรกได้ สส.13คนและอีกครั้งจากการเลือกตั้งซ่อมอีก 1คน เป็น14คน ถ้า พล.อ.ประยุทธ์ ไปอยู่รวมไทยสร้างชาติจริง ก็คงไปกับ พล.อ.ประยุทธ์ ไม่ต้องอ้อมค้อม ตนกับน้องชายที่เป็นสมาชิกพรรคพลังประชารัฐก็จะไปด้วยและได้โทรไปถามสส.สงขลาอีก3คนก็พร้อมที่จะไปทำงานกับ พล.อ.ประยุทธ์ ที่พรรครวมไทยสร้างชาติ
“ผมยังรักและเคารพ พล.อ.ประวิตร เหมือนเดิม รักเหมือนพ่อคนหนึ่งที่ได้ดูแลผมมาและได้ดูแลสส.ภาคใต้ทุกคน ผมขอหยิบยกคำกล่าว พล.อ.ประวิตร ที่เคยระบุว่า ชาตินี้จะไม่แยกจากกัน (กับ พล.อ.ประยุทธ์) จึงเชื่อว่าทั้งคู่ก็ไม่ได้แยกจากกัน เพียงแต่มองการทำงานทางการเมืองแตกต่างกันและทั้ง 3ป.อาจคิดว่าทางเลือกนี้น่าจะดีที่สุด หลังจากบริหารประเทศมา7-8 ปี” นายสายัณห์ กล่าว
‘สมศักดิ์’ยังกั๊กตาม’บิ๊กตู่’หรือ’บิ๊กป้อม’
นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รมว.ยุติธรรม ในฐานะประธานยุทธศาสตร์พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) กล่าวถึงกรณีที่ พล.อ.ประยุทธ์ ระบุจะอยู่ด้วยกันจนถึงเดือนมี.ค.2566ว่า “เรื่องนี้ผมไม่ทราบ และไม่ได้ยิน”
เมื่อถามถึงกรณี นายสุชาติ ชมกลิ่น รมว.แรงงาน ในฐานะผู้อำนวยการพรรค พปชร.ประกาศจุดยืนทางการเมืองจะย้ายตาม พล.อ.ประยุทธ์ ในส่วน นายสมศักดิ์ จะเลือกอยู่กับ พล.อ.ประยุทธ์ หรือพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯในฐานะหัวหน้าพรรค พปชร.นายสมศักดิ์ กล่าวว่า ตนได้แถลงถึงประเด็นดังกล่าวไปแล้ว เมื่อถามว่ากลุ่มสามมิตรจะประกาศจุดยืนทางการเมืองเมื่อใด นายสมศักดิ์ กล่าวว่า ตนไม่ทราบ เมื่อถามย้ำว่า จะชัดเจนในช่วงเดือนมกราคม2566หรือไม่ นายสมศักดิ์ กล่าวว่า ไม่ทราบ
เมื่อถามว่า มีเหตุผลอะไรในการพิจารณา นายสมศักดิ์ กล่าวว่า เหตุผลทางการเมือง และข้อมูลต่างๆ ก็ต้องดูให้เรียบร้อย ดินฟ้าอากาศค่อยว่ากัน เมื่อถามอีกว่า ขณะนี้ดินฟ้าอากาศทางการเมืองเป็นอย่างไร นายสมศักดิ์ กล่าวว่า ก็ยังไม่ครบถ้วน
ศาลเคาะผ่านพรป.พรรคการเมือง
วันเดียวกัน ศาลรัฐธรรมนูญมีมติเอกฉันท์ 9เสียงว่า ร่างพรป.ว่าด้วยพรรคการเมืองขัดรัฐธรรมนูญ มาตรา 3 มาตรา 4 มาตรา 5 มาตรา 6 มาตรา 7 มาตรา 9 และมาตรา 10 ไม่มีข้อความขัดหรือแย้งต่อรัฐธรรมนูญ มาตรา 45 มาตรา 83 มาตรา 86 มาตรา 90 มาตรา 91และมาตรา 258 ก.ด้านการเมือง (2) หรือไม่ ทั้งนี้ กรณีดังกล่าวสมาชิกวุฒิสภาจำนวน 77คน เข้าชื่อยื่นผ่านประธานรัฐสภา ขอให้ส่งศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัย โดยประธานรัฐสภา ส่งคำร้องให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัย เมื่อวันที่ 29ส.ค.ที่ผ่านมา ต่อมาศาลรัฐธรรมนูญ มีคำสั่งรับคำร้องเมื่อวันที่ 21ก.ย.พร้อมมีคำสั่งแจ้งผู้ร้องและผู้ถูกร้องให้ยื่นคำชี้แจงแก้ข้อกล่าวหา สำหรับขั้นตอนหลังจากนี้ ศาลรัฐธรรมนูญจะแจ้งผลการวินิจฉัยให้ประธานรัฐสภาได้รับทราบ และประธานรัฐสภาจะส่งร่างฯให้นายกรัฐมนตรีเพื่อนำขึ้นทูลเกล้าฯตามขั้นตอนต่อไป
อย่างไรก็ตาม ยังเหลือร่างพรป.ว่าด้วยการเลือกตั้งส.ส.ที่ประธานรัฐสภา ส่งความเห็นของสมาชิกวุฒิสภา (ส.ว.) 105คน ขอให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยตามรัฐธรรมนูญ มาตรา148 วรรคหนึ่ง(1) ประกอบมาตรา132 ว่าร่างพรป.ว่าด้วยการเลือกตั้งสส.มาตรา25และมาตรา 26มีข้อความขัดหรือแย้งต่อรัฐธรรมนูญ มาตรา 93มาตรา 94หรือไม่และตราขึ้นโดยไม่ถูกต้องตามบทบัญญัติแห่งรัฐธรรมนูญหรือไม่โดยศารรัฐธรรมนูญนัดวินิจฉัยในวันที่30พ.ย.เวลา 09.30น.
สภาฯล่มร่างพรบ.เข้าชื่อถอดถอนฯ
เวลา 11.00น.ที่รัฐสภา ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร ที่มี นายชวน หลีกภัย ประธานสภาผู้แทนราษฎร ทำหน้าที่ประธานที่ประชุม ได้เข้าสู่วาระการพิจารณาร่าง พรบ.การเข้าชื่อเพื่อถอดถอนสมาชิกสภาท้องถิ่น หรือผู้บริหารท้องถิ่น วาระ2-3 ตามที่คณะกรรมาธิการฯพิจารณาเสร็จแล้ว โดยเริ่มต้นที่การลงมติมาตรา7 จำนวนผู้เข้าชื่อในการถอดถอนสมาชิกสภาท้องถิ่นหรือผู้บริหารท้องถิ่น ที่ตกค้างมาจากการพิจารณาสัปดาห์ที่แล้ว ทันทีที่เริ่มลงมติก็เกิดปัญหาติดขัดเพราะสมาชิกอยู่กันบางตา นายชวน ต้องเสียเวลารอสมาชิกมาแสดงตนเป็นองค์ประชุมนานกว่า 15นาที จึงมีสมาชิกแสดงตน 244เสียง เกินกึ่งหนึ่งมาแค่ 7เสียง จากจำนวนสส.ที่ปฏิบัติหน้าที่ได้ 474คน
จากนั้นในการลงมติมาตรา9/1ที่กมธ.เสียงข้างน้อยขอสงวนความเห็น ก็เกิดปัญหาอีกครั้ง เมื่อนายชวน ถามว่า จะเห็นด้วยกับความเห็นกมธ.เสียงข้างน้อยหรือไม่ ที่ประชุมลงมติเห็นด้วยกับกมธ.เสียงข้างน้อย 163ต่อ75 คะแนน ทำให้ นายชินวรณ์ บุณยเกียรติ สส.นครศรีธรรมราช พรรคประชาธิปัตย์ ประท้วงขอให้ถามคำถามใหม่ เนื่องจากสส.หลายคนเข้าใจผิดคิดว่า ประธานฯถามว่า เห็นด้วยกับ กมธ.เสียงข้างมากหรือไม่ เหมือนตามปกติที่เคยถามมา ทำให้คะแนนคลาดเคลื่อน แต่สส.ฝ่ายค้านไม่ยอม ระบุไม่สามารถลงมติใหม่ได้ ในที่สุด นายชวน จึงขอมติที่ประชุมจะอนุญาตให้ตั้งคำถามและลงมติใหม่หรือไม่ ทำให้ส.ส.ฝ่ายค้านเล่นแง่ไม่ยอมแสดงตนเป็นองค์ประชุม เสียเวลารอนานกว่า 30นาที องค์ประชุมก็ยังไม่ครบ กระทั่งเวลา 12.50น.นายชวน สั่งพักประชุม เพื่อไปหารือแนวทางแก้ปัญหา
ขอเปิดชื่อประจานให้ชาวบ้านไปไล่บี้
ต่อมา เวลา 13.30น.กลับมาเปิดประชุมใหม่อีกครั้ง ที่ประชุมยังคงถกเถียงกันเรื่องจะให้ลงมติมาตรา9/1ใหม่หรือไม่ ในที่สุดที่ประชุมลงมติให้ลงมติใหม่ด้วยคะแนน202ต่อ16 งดออกเสียง10 ไม่ลงคะแนน14 ทำให้ นายจุลพันธุ์ อมรวิวัฒน์ ส.ส.เชียงใหม่ พรรคเพื่อไทย แสดงความไม่พอใจระบุว่า การให้ลงมติใหม่จะเป็นบรรทัดฐาน สร้างประเพณีปฏิบัติที่ผิด พอโหวตแพ้ก็อ้างเข้าใจผิด อนาคตจะเกิดปัญหา ถ้าแพ้อ้างเข้าใจผิดอยู่เรื่อยๆ ขณะที่ นายชวน ชี้แจงยืนยันว่า เมื่อมีความเข้าใจผิดในการลงมติ ก็ลงมติใหม่ได้ เป็นเรื่องที่มีโอกาสผิดพลาดเกิดขึ้นได้ ไม่เกี่ยวกับคะแนน ยืนยันไม่เคยทำอะไรล่วงละเมิดหรือเอาเปรียบคนอื่น ไม่คิดทำ เหตุเช่นนี้คงไม่เกิดขึ้นอีก 4ปีอาจเกิดครั้งนี้ครั้งเดียว สำหรับตนแล้วโกง1คะแนนหรือทุจริต1บาทก็ไม่ทำ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากที่ประชุมโหวตให้ลงมติมาตรา9/1 ก็ยังเกิดปัญหาขึ้น เมื่อสส.ในห้องประชุมอยู่กันบางตา นายชวนจึงแจ้งว่า เที่ยวนี้ไม่รอนาน เพราะถ้าไม่ครบก็คือไม่ครบ หลังจากที่รอองค์ประชุม 5นาทีแล้ว ก็ยังไม่มีทีท่าจะมีสมาชิกครบองค์ประชุม นายชวน กล่าวว่า ดูด้วยตาแล้วคงยากที่จะครบองค์ประชุม ขอบคุณคนที่มา ส่วนใครที่ไม่มาจะขอเปิดชื่อ ให้ชาวบ้านไปถามกันเองว่า ทำไมไม่มาประชุม เนื่องจากองค์ประชุมไม่ครบ ขอปิดประชุม
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี