โพลล์ยำปล่อยม็อบป่วนเอเปก
ตำหนิ‘ชัชชาติ’
ละเลยหน้าที่ในการควบคุม
เชื่อมีกลุ่มการเมืองหนุนหลัง
ทนายอานนท์ปูดถอนประกัน
6แกนนำประท้วงการประชุม
สะดุ้งแล้ว “ชัชชาติ สิทธิพันธุ์” ผู้ว่าฯกทม. โดนผลโพลล์ 97.2% ตำหนิกรณีปล่อยม็อบสามกีบหลุดคอกไปป่วนเอเปก ด้านทนาย “อานนท์” ปูด 6 แกนนำม็อบถูกถอนประกัน จากการชุมนุมที่ ถนนดินสอ แยกอโศกแนะให้ทำใจและสู้ต่อไปด้วยกัน
เมื่อวันที่ 26 พฤศจิกายน 2565 นายนพดล กรรณิกา ผอ.สำนักวิจัยซูเปอร์โพล (SUPER POLL) เปิดเผยผลสำรวจเรื่อง เบื้องหลังม็อบช่วงประชุม เอเปก กรณีศึกษาประชาชนทุกสาขาอาชีพทั่วประเทศ ดำเนินโครงการทั้งการวิจัยเชิงปริมาณ (Quantitative Research) และการวิจัยเชิงคุณภาพ (Qualitative Research) ผ่านกระบวนการวิจัยเชิงทดลอง(Experimental Survey) เพื่อลดความคลาดเคลื่อนแก้ปัญหาแหล่งความคลาดเคลื่อนจากผู้ถามผู้ตอบและเครื่องมือวัด จำนวน 1,448 ตัวอย่าง ระหว่างวันที่ 23 - 25 พฤศจิกายน พ.ศ. 2565 ที่ผ่านมา โดยมีค่าความคลาดเคลื่อนจากการกำหนดขนาดตัวอย่างบวกลบร้อยละ 5 ในช่วงความเชื่อมั่นร้อยละ 95
เมื่อถามถึงประโยชน์ที่ได้รับจากการจัดประชุมเอเปก พบว่า ส่วนใหญ่หรือร้อยละ 78.4 ระบุมีประโยชน์มากถึงมากที่สุดต่อประเทศชาติและประชาชน ฟื้นฟูเศรษฐกิจ หลังวิกฤตโควิด ในขณะที่ร้อยละ 17.7 ระบุมีประโยชน์ปานกลาง และร้อยละ 3.9 มีประโยชน์น้อยถึงไม่มีเลย
ที่น่าสนใจคือ ความคิดเห็นของประชาชนต่อเบื้องหลัง ม็อบ ช่วงประชุม เอเปก พบว่า ส่วนใหญ่หรือร้อยละ 97.9 พอใจต่อ ตำรวจ ในการควบคุม การชุมนุม ช่วงประชุม เอเปก ทำดีกว่า หลายประเทศที่พัฒนาแล้ว เช่น สหรัฐอเมริกา และชาติยุโรปตะวันตก ยิงผู้ชุมนุมเสียชีวิตและบาดเจ็บสาหัสหลายราย
ในขณะที่ ส่วนใหญ่หรือร้อยละ 97.2 ระบุ ผู้ว่า กทม. นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ควรได้รับการตำหนิ จาก ประชาชนในการชุมนุม ช่วงประเทศไทยจัดประชุมเอเปก ที่ละเลยหน้าที่ในการควบคุมห้ามปรามม็อบ
นอกจากนี้ ส่วนใหญ่หรือร้อยละ 95.3 ระบุ การชุมนุม ช่วงประชุม เอเปก ครั้งนี้ ผิดกฎหมาย ยั่วยุให้เกิดความรุนแรง ทำภาพลักษณ์ของประเทศเสียหาย เหมือนเคยเกิดขึ้นในพัทยา เมื่อประมาณ 10 ปีที่แล้ว ในขณะที่ ร้อยละ 94.2 เชื่อว่า มีกลุ่มการเมือง พรรคการเมืองไทย อยู่เบื้องหลัง เหตุรุนแรง ในภาคใต้ ท้าทายอำนาจรัฐ ช่วงประเทศไทยจัดประชุม เอเปก ร้อยละ 93.8 เชื่อว่า มีกลุ่มการเมือง พรรคการเมืองไทย อยู่เบื้องหลัง ม็อบ ช่วงประชุม เอเปก และร้อยละ 93.4 ระบุ การชุมนุม ทำลายภาพลักษณ์ของประเทศ สร้างความเดือดร้อนแก่ประชาชนทั่วไป
ที่น่าพิจารณาคือ ส่วนใหญ่หรือร้อยละ 85.3 พอใจมากถึงมากที่สุด ต่อ รัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีในการเปิดประเทศ ฟื้นฟูเศรษฐกิจ และจัดประชุมเอเปก เกิดประโยชน์ต่อประเทศชาติและประชาชน ในขณะที่ ร้อยละ 9.3 พอใจปานกลาง และร้อยละ 5.4 พอใจน้อยถึงไม่พอใจเลย
ผอ.ซูเปอร์โพล กล่าวว่า ผลโพลชิ้นนี้ชี้ให้เห็นว่าประชาชนส่วนใหญ่เห็นว่า การประชุม APEC เป็นประโยชน์ต่อประเทศชาติและประชาชน สามารถฟื้นความเชื่อมั่นและเป็นโอกาสในการฟื้นฟูเศรษฐกิจหลังวิกฤตโควิด ที่ทุกคนได้รับผลกระทบต่อความยากลำบากต่อวิถีชีวิตและความเป็นอยู่ การจัดประชุมเอเปกจึงเป็นสัญญาณที่ดีต่อการฟื้นฟูความเชื่อมั่นและการนำเสนอภาพลักษณ์และศักยภาพความพร้อมของประเทศ แต่มีความกังวลทุกครั้งเมื่อประเทศไทยร่วมเป็นเจ้าภาพจัดงานใหญ่ จากภาพจำในอดีตที่มีการล้มประชุมที่พัทยา
“การประชุมเอเปกครั้งนี้ ประชาชนส่วนใหญ่พอใจการทำงานของตำรวจ ที่สามารถจัดการดูแลภาพรวมความมั่นคงปลอดภัยได้เรียบร้อย โดยเฉพาะการควบคุมม็อบที่เกิดขึ้น และตำหนิ กทม.โดยเฉพาะ ผู้ว่า กทม. นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ที่ละเลยความรับผิดชอบดูแลควบคุมการชุมนุมของม็อบ จนดูเหมือนการให้ท้าย ให้เกิดการทำผิดกฎหมายและสร้างความเสียหายต่อประเทศชาติและสร้างความเดือดร้อนต่อประชาชนทั่วไป” ผอ.ซูเปอร์โพล กล่าว
ผอ.ซูเปอร์โพล กล่าวต่อว่า ประชาชนส่วนใหญ่ยังเชื่อด้วยว่า มีกลุ่มการเมือง มีพรรคการเมืองอยู่เบื้องหลังสร้างเหตุรุนแรงในภาคใต้ ท้าทายอำนาจรัฐ สร้างความเสียหายต่อประเทศชาติและประชาชนในพื้นที่ภาคใต้ ขณะเดียวกันก็เชื่ออีกว่า มีกลุ่มการเมืองมีพรรคการเมืองอยู่เบื้องหลัง ม็อบในกรุงเทพมหานครช่วงประชุมเอเปก สร้างความเสียหายต่อประเทศชาติและทำให้ประชาชนทั่วไปเดือดร้อน ในทางตรงกันข้าม ประชาชนส่วนใหญ่กลับพอใจรัฐบาลและพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ในการเปิดประเทศฟื้นฟูเศรษฐกิจและร่วมกันเป็นเจ้าภาพจัดประชุมเอเปกผ่านพ้นไปด้วยดี
ผู้สื่อข่าวรายงานว่าจากกรณีกลุ่มราษฎรร่วมกับเครือข่ายองค์กรพัฒนาเอกชนเคลื่อนไหวชุมนุมช่วงการจัดประชุมผู้นำเขตเศรษฐกิจเอเปก ครั้งที่ 29 หรือ APEC 2022 ที่ประเทศไทยเป็นเจ้าภาพ
ล่าสุด นายอานนท์ นำภา ทนายความ จากศูนย์ทนายสิทธิเพื่อมนุษยชน หนึ่งในแกนนำม็อบราษฎร โพสต์เฟซบุ๊ก เตือนแนวร่วมว่า “เท่าที่จะมีการไต่สวนถอนประกันจากกิจกรรมช่วงเอเปก น่าจะมีอย่างน้อย 6 คน เท่าที่ทราบ คือ มาย ใบปอ หนอนบุ้ง ตะวัน เก็ท และ โจเซฟ ในประเทศเผด็จการก็งี้ ขยับอะไรยากหน่อย ต่อให้รัฐธรรมนูญเขียนว่า การชุมนุมคือเสรีภาพ แต่สำนึกคนในชาตินี้ยังไม่เข้าใจและรัฐยังใช้กฎหมายเป็นเครื่องมือ ก็สู้กันต่อไปครับ อนาคตเป็นของพวกเรา และเราจะสู้ไปด้วยกัน”
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากรายชื่อที่ทนายอานนท์แจ้งเตือน พบทั้งหมดอยู่ในช่วงการขอประกันตัวในคดี ม.112 และคดีอื่นๆ ในจำนวนนี้ 5 ราย ถูกให้สวมกำไลติดตามตัวที่ข้อเท้า ประกอบด้วย นายโสภณ สุรฤทธิ์ธำรง หรือ เก็ท น.ส.ณัฐนิช ดวงมุสิทธิ์ หรือ ใบปอ น.ส.เนติพร เสน่ห์สังคม หรือ บุ้ง กลุ่มทะลุวัง น.ส.ทานตะวัน ตัวตุลานนท์ หรือ ตะวัน นายกฤษพล ศิริกิตติกุล หรือ โจเซฟ ทั้งหมดเคลื่อนไหวเรียกร้องยกเลิก ม.112 ช่วงประชุมเอเปก ด้วยการนัดชุมนุม ที่แยกอโศก และเดินรณรงค์ตามศูนย์การค้าต่างๆ ย่านราชประสงค์ ส่วน น.ส.ภัสราวลี ธนกิจวิบูลย์ผล หรือ มายด์ เคลื่อนไหวเป็นแกนนำม็อบหยุดเอเปก จนเกิดเหตุปะทะตำรวจที่ถนนดินสอ
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี