เมื่อเวลา 09.00 น.วันที่ 1 ธันวาคม 2565 ที่ศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก ศาลนัดฟังคำพิพากษาศาลอุทธรณ์คดีนปช.ก่อการร้าย หมายเลขดำ อ.2542/2553 ที่อัยการสำนักงานคดีพิเศษ 1 เป็นโจทก์ยื่นฟ้อง นายวีระกานต์ มุสิกพงศ์ อายุ 74 ปี อดีตประธาน นปช. , นายจตุพร หรือตู่ พรหมพันธุ์ อายุ 57 ปี ประธาน นปช. , นายณัฐวุฒิ หรือเต้น ใสยเกื้อ อายุ 47 ปี เลขาธิการ นปช. , นพ.เหวง โตจิราการ อายุ 71 ปี , นายก่อแก้ว พิกุลทอง อายุ 57 ปี , นายยศวริศ ชูกล่อม หรือเจ๋ง ดอกจิก อายุ 64 ปี , นายอริสมันต์ หรือกี้ พงษ์เรืองรอง อายุ 58 ปี แกนนำและแนวร่วม นปช.ร่วมกันเป็นจำเลยที่ 1 - 24 ในความผิดฐานร่วมกันก่อการร้าย ตามประมวลกฏหมายอาญา มาตรา 135/1 , 135/2 ร่วมกันมั่วสุมตั้งแต่ 10 คนขึ้นไป ทำให้ปรากฏแก่ประชาชนด้วยวาจา ให้ล่วงละเมิดกฎหมายแผ่นดินเพื่อให้เกิดความวุ่นวายในบ้านเมือง ตามมาตรา 116 , 215 , 216 และร่วมกันชุมนุมฝ่าฝืน พ.ร.ก.บริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ.2548 รวม 6 ข้อหา
กรณีพวกจำเลยได้ยุยงปลุกปั่นประชาชนให้เข้าร่วมชุมนุมกับกลุ่ม นปช.ต่อเนื่อง ตั้งแต่วันที่ 28 ก.พ. - 20 พ.ค.2553 เพื่อกดดัน ต่อต้านรัฐบาล และบังคับขู่เข็ญ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ขณะนั้น ประกาศยุบสภา ซึ่งจำเลยทั้งหมดให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา
คดีศาลชั้นต้นมีคำพิพากษาเมื่อวันที่ 14 ส.ค.62 ให้ยกฟ้องจำเลยคนทุกข้อหา โดยศาลว่า เป็นการต่อสู้ทางการเมือง ไม่ใช่เป็นการก่อการร้าย
โดยวันนี้จำเลยทยอยเดินทางมาศาล อาทิเช่น นายณัฐวุฒิ , นพ.เหวง
นายณัฐวุฒิ กล่าวกับสื่อมวลชนว่า ในกระบวนการต่อสู้คดีเราก็ได้รวบรวมพยานหลักฐานและข้อเท็จจริงทั้งหลาย เรายืนยันในความบริสุทธิ์ และปฏิเสธข้อกล่าวหาก่อการร้ายมาโดยตลอดตั้งแต่ยังปักหลักชุมนุมจนถึงวันนี้ ดังนั้น ข้อเท็จจริงเหล่านี้หากปรากฏต่อสาธารณชนก็เป็นวิจารณญาณในแต่ละบุคคลของแต่ละรุ่นแต่ละช่วงเวลาที่จะพิจารณา เพราะว่าข้อเท็จจริงย่อมมีเพียงหนึ่งเดียว ไม่ว่าจะมีการเห็นแตกต่าง ฝักฝ่ายกันอย่างไรก็ตามถึงที่สุดเวลาจะเป็นเครื่องพิสูจน์ หรือแม้กระทั่งคำพิพากษาของศาลก็จะเป็นองค์ประกอบสำคัญอย่างหนึ่ง ที่จะทำให้คนรุ่นต่อไปได้ศึกษาและพิจารณา
ด้าน นพ.เหวง กล่าวว่า เราเคารพในคำพิพากษาของศาลไม่ว่าจะออกมาแบบไหนก็ตาม ไม่ว่าท่านจะคำวินิจฉัยว่าพวกผมมีความผิดหรือต้องเข้าเรือนจำอีกพวกเราก็ยินดีเคารพ หรือสมมุติท่านให้ความเมตตาพิพากษายกฟ้อง พวกผมก็ให้ความเคารพ
นายวิญญัติ ชาติมนตรี ทนายความ กล่าวว่า ตนได้รับรายงานว่าวันนี้อาจจะมีการเลื่อนฟังคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ไป หรือไม่โดยมีปัจจัยที่เกิดขึ้นเนื่องจากตัวจำเลยมาไม่ครบ ศาลอาจต้องให้เวลาเเละออกหมายจับถ้าหากศาลเขื่อว่าได้รับหมายเเล้วไม่มาตามนัด
ต่อมาศาลได้มีคำสั่งให้เลื่อนนัดอ่านคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ เป็นวันที่ 9 ม.ค.66
ขณะที่ นางธิดา ถาวรเศรษฐ ให้สัมภาษณ์ภายหลังว่า ศาลให้เลื่อนนัดเนื่องจำเลยมาไม่ครบ และหากจำเลยคนไหนไม่มาก็จะมีการออกหมายจับ แต่ศาลจะอ่านให้เร็วที่สุด เพื่อให้จำเลยบางคนที่จะเล่นการเมืองต่อ จะไม่ต้องถูกคดีจำกัดช่วงเวลาหาเสียงด้วย
- 006