"วิษณุ"เผยกม.ลูกยังไม่กลับมาที่รบ. แต่คาด ธ.ค.ทูลเกล้าฯได้ตามไทม์ไลน์เดิม สอนมวย ส.ส. นับวันย้ายพรรคยึดวันกาบัตร ไม่ใช่วันหมดอายุสภาฯ ยอมรับหวาดเสียวหลัง ส.ส.ลาออกเพียบ
เมื่อเวลา 12.30 น.วันที่ 2 ธันวาคม 2565 ที่ทำเนียบรัฐบาล นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์กรณีไทม์ไลน์ของร่าง พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมือง และการเลือกตั้ง ส.ส.ที่ผ่านการวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ ว่า ศาลรัฐธรรมนูญจะส่งคำวินิจฉัยไปให้สภาฯ จากนั้นสภาฯ จะส่งมาให้รัฐบาล ขณะนี้ยังไม่มีการส่งมา เมื่อสภาฯ ส่งมาแล้วจะนำขึ้นทูลเกล้าฯ ถวายภายใน 25 วัน โดย 5 วันแรกเผื่อไว้หากมีผู้ร้องคัดค้านต่อศาลรัฐธรรมนูญอีกหนหนึ่ง ส่วนอีก 20 วันนั้นเป็นกำหนดเวลาในการให้รัฐบาลจัดพิมพ์ให้เรียบร้อย แต่โดยทั่วไปใช้เวลาไม่ถึง 20 วัน เมื่อนำขึ้นทูลเกล้าฯแล้วจากนั้นก็นับหนึ่ง ซึ่งอยู่ในพระราชอำนาจ 90 วันสุด แต่จะทรงลงพระปรมาภิไธยลงมาเมื่อใด ก็ประกาศลงราชกิจจานุเบกษา และจะมีผลใช้บังคับในวันรุ่งขึ้น
"การนำร่างกฎหมายลูกขึ้นทูลเกล้าฯ คงจะเป็นช่วงเดือน ธ.ค.หากนับไปอีก 90 วัน ก็จะอยู่ประมาณเดือน มี.ค.2566 ก็คงใกล้กับวันที่สภาฯจะครบวาระ ซึ่งไทม์ไลน์ยังอยู่ห่วงเดิมที่ผมเคยระบุไว้ไม่มีอะไรผิดพลาด"
เมื่อถามว่า หากนำกฎหมายลูกขึ้นทูลเกล้าฯ แล้วหมายความว่าจะปิดประตูการยุบสภาฯ ได้เลยใช่หรือไม่ นายวิษณุ กล่าวว่า ไม่เกี่ยวกัน เป็นคนละเรื่อง ในอดีตมีการยุบสภาฯ โดยที่มีกฎหมายค้างระหว่างทูลเกล้าฯเป็นจำนวนมาก กฎหมายก็ไม่ได้กำหนดว่ากฎหมายเหล่านั้นจะตกไป ยังคงลงพระปรมาภิไธยได้
เมื่อถามย้ำว่า แต่กฎหมายทั้ง 2 ฉบับ เกี่ยวกับการเลือกตั้งที่จะมีขึ้น ถือเป็นความไม่ควรหรือไม่ นายวิษณุ กล่าวว่า ไม่เกี่ยวกัน เพราะเมื่อยุบสภาฯ มีการลงพระปรมาภิไธย ในกฎหมายนั้นๆ มาก็นำกฎหมายเหล่านั้นไปใช้ในการเลือกตั้งอยู่แล้ว ไม่มีปัญหาเรื่องเงื่อนเวลาหรือใดๆ ไม่เกี่ยวกันเลย
นายวิษณุ กล่าวว่า "ใครที่ไปนับกันว่าการเป็นสมาชิกพรรคการเมืองหากมีการยุบสภาฯต้องเป็นภายใน 30 วันนั้น หรือสภาฯครบวาระ ต้องเป็นสมาชิกภายใน 90 วันนั้นก็ถูก แต่การนับ 90 วันจะนับจนถึงวันเลือกตั้ง ไม่ได้นับจนถึงวันที่สภาฯหมดวาระ ดังนั้น ที่มีการออกมาพูดกันเยอะว่าหลังวันที่ 24 ธ.ค.แล้วจะอย่างนั้นอย่างนี้ก็เป็นเพราะไปนับ 90 วันถึงวันที่ 22 มี.ค.2566 ที่เป็นวันครบวาระของสภาฯ แต่ในความเป็นจริงไม่เกี่ยวกัน"
เมื่อถามย้ำว่า หากจะให้ปลอดภัยสุดนักการเมืองควรย้ายพรรควันที่เท่าไหร่ นายวิษณุ กล่าวว่า "ผมตอบไม่ถูก อยากย้ายกันเมื่อไหร่ก็ย้าย อยากอยู่ก็อยู่ แต่ถ้ายุบสภาฯ ก็ยังมีกำหนดเวลาเลือกตั้ง 45 วัน ถึงอย่างไรก็ไม่สามารถจัดการเลือกตั้งก่อน 45 วันได้ ดังนั้น หากมีการยุบสภาฯ ขึ้นมากระทันหัน พรุ่งนี้ก็ยังย้ายพรรคกันได้ ก็เท่านั้น เพราะมีกรอบ 45 วัน ซึ่งเป็นไปตามระเบียบคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ในการจัดการเลือกตั้งอยู่แล้ว ในความเป็นจริงไม่ได้เป็นปัญหาเพราะไม่ได้เกี่ยวข้องกัน"
เมื่อถามว่า ร่าง พ.ร.บ.กัญชา กัญชง จะเป็นปัญหาทางการเมืองหรือไม่ เพราะในขณะนี้สภาฯเกิดความวุ่นวายเรื่ององค์ประชุมทำให้ล่มบ่อยครั้ง นายวิษณุ กล่าวว่า ตนไม่ทราบ เป็นเรื่องทางการเมือง วิปแต่ละพรรคก็ต้องทำงานประสานกัน ส่วนร่าง พ.ร.บ.กัญชา กัญชง ก็ต้องไปถามทางพรรคภูมิใจไทย อย่างไรก็ตาม หากจะระบุว่าเป็นช่วงท้ายสมัยของสภาฯ นั้น ก็ยังไปได้ถึงวันที่ 28 ก.พ.2566 อีกทั้งหลังจากนั้นยังสามารถขอเปิดสมัยวิสามัญได้ถึงวันที่ 22 มี.ค.เพราะฉนั้นจะเปิดสมัยประชุมก็ปิด เพราะเปิดสมัยวิสามัญได้
เมื่อถามว่า ขณะนี้ประชาชนวิพากษ์วิจารณ์ว่าสภาฯ ไม่ยอมผ่านกฎหมายสำคัญ เพราะมัวแต่จ้องเล่นการเมืองกัน นายวิษณุ กล่าวว่า ผู้สื่อข่าวจะต้องชินกับเหตุการณ์ท้ายสมัย เพราะเป็นมาอย่างนี้ทุกครั้งช่วงท้ายสมัย เพราะสมาชิกอาจเตรียมย้ายพรรค เมื่อรู้ว่าพรรคไม่ส่งตัวเองลงจะเอาคนใหม่ลงก็เกิดปฏิกริยาขึ้น เตรียมไปหาเสียง ไม่มีสมาธิ และทำให้ไม่สามารถเดินทางมาประชุมสภาฯ ได้ หรือในบางครั้งมาประชุมสภาฯ เพื่อตั้งกระทู้ เพราะสามารถใช้หาเสียงได้ แต่อย่างไรก็ตาม หากจะพูดกันถึงเรื่องความรับผิดชอบก็จะเป็นอย่างที่ นายชวน หลีกภัย ประธานรัฐสภา กล่าวเตือนไว้ว่า ยิ่งปลายสมัยประชุมสมาชิกควรจะมีบทบาทที่ทำให้ประชาชนเลื่อมใสศรัทธามากขึ้น การมาประชุมให้ครบองค์ประชุมถือเป็นเรื่องที่ควรทำ
อย่างไรก็ตาม จากที่ตนได้พบกับนายชวน นายชวนได้หารือด้วยความเป็นห่วงเป็นใย ตนก็รับว่าจะนำไปแจ้งให้พรรคร่วมรัฐบาลทราบ ซึ่งได้แจ้งไปแล้ว แต่อย่างไรก็ตาม การจะพูดว่าครบหรือไม่ครบองค์ประชุมนั้น บางครั้งก็พูดยาก บางทีเป็นเทคนิคของสภาฯ เช่น นั่งอยู่แต่ไม่แสดงตน หรือเดินออก ไม่ไปประชุม บางทีใช้เป็นเทคนิคของการทำงานในสภาฯ บางคนก็ติดธุระจริง หลายเหตุประกอบกัน
ผู้สื่อข่าวถามว่า รัฐบาลคิดว่าจะคุมเสียงในสภาฯ ได้หรือไม่ เพราะฝ่ายค้านจะเดินเกมไม่เข้าร่วมเป็นองค์ประชุม นายวิษณุ กล่าวว่า ตนตอบไม่ถูกขอให้ไปถามทางวิป เมื่อถามว่า กรณี ส.ส.จำนวนมากอาจใช้วิธีลาออกเพื่อกดดันให้ยุบสภาฯ นายวิษณุ กล่าวว่า เหตุการณ์เช่นนี้เคยมี แต่ไม่ถึงกับออกหมด ในอดีตสมัย จอมพลถนอม กิตติขจร อดีตนายกฯ เคยมีสมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) ที่มาจากการแต่งตั้ง เขารู้สึกว่าให้นายกฯ คนใหม่ได้แต่งตั้ง สนช.ใหม่ จึงทยอยลาออกครั้งละ 5 - 10 คน จนกระทั่งถึงครึ่งหนึ่ง นายกฯ หลังจากนั้นคือ นายสัญญา ธรรมศักดิ์ จึงยุบสภา และแต่งตั้งสมาชิกใหม่โดยสภาสนามม้า
"ไม่มีกฎหมายใดบอกว่าหากลาออกกันเยอะแล้วจะต้องยุบ แต่โดยวิธีปฏิบัติแล้วก็ไม่รู้จะอยู่ทำไม และหากจะพูดไปแล้วสมาชิกร่อยหรอลง หรือลาออกไปจนเหลือแค่ 200 คน ก็ประชุมได้ เพราะจะเลือกตั้งซ่อมก็ไม่ได้ เนื่องจากอายุสภาฯ เหลือเวลาน้อย และถ้า 200 คนนั้นจะมาประชุมก็ประชุมได้ โดยยึดองค์ประชุมครึ่งหนึ่งของที่มีอยู่ ดีไม่ดีพวกที่คิดจะทยอยลาออกจะทำให้รัฐบาลทำอะไรได้อีกตั้งเยอะ แต่ผมไม่ได้หมายความว่าจะให้ทำอย่างนั้นนะ แต่ต้องการทำให้เห็นว่ากลไกสภาฯ ไม่เวิร์คแล้ว อย่างไรก็ตาม เป็นความชอบธรรมที่รัฐบาลจะอยู่ได้ไม่มีปัญหา ไม่ติดอะไร ผมเองก็ยังเสียวอยู่เลยว่า ลาออกกันเหลือแค่นี้รัฐบาลอาจคิดว่าดีแล้ว เพราะต่อไปนี้กฎหมายอะไรที่ค้างกันก็เอาเข้าสภาฯ ช่วงนี้เสียเลย"
- 006
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี