‘จูรี’ ดาวติ๊กต๊อกภาคใต้ เปิดใจ เป็นคนเลือก ‘ชาติพัฒนากล้า’ เพราะเป็นพรรคการเมืองสร้างสรรค์ ยึดแก้ปัญหาปากท้อง ก้าวข้ามความขัดแย้ง ประกาศเป็น ‘ร่างทรงชาวบ้าน’ เปลี่ยนเศรษฐกิจสงขลา  

18 ธันวาคม 2565 ที่มหาวิทยาลัยราชภัฎสุราษฎร์ธานี จูรี นุ่มแก้ว ดาวติ๊กต๊อกภาคใต้ ที่มีแฟนคลับนับล้านคน ที่ตัดสินใจใส่เสื้อพรรคชาติพัฒนากล้า เข้าลงชิงชัยในพื้นที่เขต 2 สงขลา กล่าวก่อนร่วมเวทีเสวนาปลุกเป้าหมายสร้างไฟในชีวิตในโครงการ “My life My Goal” ให้กับนักศึกษา โดยระบุถึงเหตุผลของการตัดสินใจเข้าร่วมงานกับพรรคชาติพัฒนากล้า ว่า ตนเป็นคนเลือกที่จะเดินเข้ามาเอง ทั้งที่มีหลายพรรคติดต่อเข้ามามากมาย บางพรรคเสนอค่าตอบแทนให้ถึง 50 ล้านบาท แต่ตนเลือกที่จะเข้าพรรคที่มีอุดมการณ์ตรงกัน ยึดปัญหาปากท้อง และเศรษฐกิจของชาวบ้านเป็นหัวใจหลัก มีเป้าหมายในการทำงานการเมืองแบบสร้างสรรค์ มองข้ามความขัดแย้ง และลบล้างการเมืองแบบเก่าที่ต้องเป็นทายาทนักการเมือง ใช้เงินซื้อเสียงเพื่อให้ได้เป็นผู้แทน 

“ฉันยืนยันตรงนี้เลย ถ้าฉันซื้อเสียงแม้แต่เสียงเดียวฉันไม่เป็นหรอก ส.ส. อายคน ให้ไปเลี้ยงวัวเลี้ยงควายดีกว่า และชาวบ้านก็จะถูกทอดทิ้งหลังจากทำหน้าที่กาเบอร์ให้เขาแล้ว เพราะถือว่าเขาใช้เงินซื้อขาด พอได้เป็น ส.ส.แล้ว ก็ไม่จำเป็นต้องมาทำงานให้ แต่ถ้าเธอเลือกคนที่อยากให้เข้าไปเป็นปากเป็นเสียง เป็นผู้แทนของราษฎรจริง ๆ เมื่อนั้นเธอจะได้คนที่เหมาะสมเป็นผู้แทนในพื้นที่ของเธอ ที่ฉันพูดไม่ได้บังคับว่าเธอต้องเลือกฉันนะ  เธอมีสิทธิที่จะเลือกคนที่เหมาะสม เพราะฉันเชื่อว่า ยุคนี้เป็นยุคที่คนฉลาด มาร่วมกันสร้างประวัติศาสตร์หน้าใหม่ให้กับสงขลา และประเทศไทย” จูรี กล่าว

ดาวติ๊กต๊อกภาคใต้ กล่าวยอมรับว่า หลังจากมีข่าวว่าจะลง ส.ส. ก็มีเสียงพูดตามมาว่า พอมีชื่อเสียงก็อยากจะเข้าไปเป็นนักการเมือง ซึ่งขอบอกเลยว่า การเป็นนักการเมืองเป็นเป้าหมายที่ตนได้ตั้งไว้เมื่อ 17 ปี ที่แล้ว ตั้งแต่อยู่ชั้น ม.5 ไม่ใช่แค่ 5-6 เดือนที่ตนเริ่มมีชื่อเสียง กว่าจะมาถึงวันนี้ ตนทำมาแล้วทุกอย่าง ทั้งจับกัง พนักงานร้านสะดวกซื้อ ลูกจ้าง ข้าราชการ เป็นนักข่าว และอีกหลายอย่าง ต้องสู้ในทุกอาชีพ ไม่ได้มาง่าย ๆ เพราะฉะนั้นจึงจึงเข้าใจชาวบ้านว่าเขาต้องการอะไร มันถึงไม่แปลกที่พอตนทำคลิปจึงโดนใจชาวบ้าน และได้รับการยอมรับในเวลาอันรวดเร็ว ซึ่งตนก็พร้อมที่จะเป็นร่างทรงให้กับชาวสงขลา และพร้อมจะเปลี่ยนชีวิตให้ทุกคนกลายเป็นคนรวยได้ ตนทำได้ ท่านก็ต้องทำได้

จูรี กล่าวด้วยว่า ตนนามสกุล “นุ่มแก้ว” เป็นครอบครัวที่มีฐานะยากจนมาก เห็นชาวบ้านถูกเอารัดเอาเปรียบ ณ เวลานั้นตนก็ไม่ได้มีพื้นฐานใด ๆ ที่จะปูทางไปสู่การเป็นนักการเมืองที่จะมาเปลี่ยนแปลงอะไรได้ นั่นจึงเป็นแรงบันดาลใจให้ตั้งใจว่าจะต้องเรียนกฎหมาย และดิ้นรนตามฝันซึ่งตนก็ทำได้ เมื่อวันที่มีโอกาสก็พร้อมที่จะเสนอตัวเองเพื่อให้ประชาชนเลือก เพราะคิดว่าทุกคนควรจะมีสิทธิที่จะทำหน้าที่ ส.ส.ได้ มันไม่ควรสงวนภาระหน้าที่ให้คนกลุ่มใดกลุ่มหนึ่ง หรือกลุ่มอิทธิพลใดอิทธิพลหนึ่ง ภายใต้รัฐธรรมนูญเดียวกัน ทุกคนควรได้ทำหน้าที่นี้

“ฉันมีความสุขที่ทำงานกับชาวบ้าน ใช้ความรู้ด้านกฎหมายที่เตรียมพร้อมมาหลายปี ถ้าเอาความรู้ในตำรา ใครก็ทำได้ แต่สิ่งที่ทำไม่ได้คือความรู้ที่อยู่นอกตำรา คือเราทำหน้าที่แทนชาวบ้าน เราพูดในสิ่งที่เขาพูดไม่ได้ เราพูดแทนใจ ฉันก็ลูกชาวบ้าน ฉันมีแม่ชื่อ อุไร พ่อชื่อนายโชติ นุ่มแก้ว สมัยก่อน ถ้าระบบการเมืองแบบเก่า ฉันหมดสิทธิ แต่ฉันโชคดี ที่มีพ่อแม่มีฐานะยากจน มีแต่คนบอกเราแพ้แน่นอน แต่ฉันอยากบอก ฉันไม่ซีเรียสผลแพ้ชนะ แต่สิ่งที่ฉันภูมิใจ ฉันได้ยืนอยู่ในฝั่งที่ถูกต้อง หัวคะแนนก็ไม่มี แต่สิ่งที่ฉันเห็นคือโอกาส ว่ามันเป็นไปได้ จึงขอเป็นตัวเลือกให้กับชาวสงขลา ที่พร้อมท้าชนกับ ความเหลื่อมล้ำ ทั้งทางด้านการศึกษา การทำมาหากิน” จูรี กล่าว

ด้านนายวรวุฒิ อุ่นใจ รองหัวหน้าพรรคชาติพัฒนากล้า กล่าวว่า จูรี เป็นผู้แทนในอุดมคติของพรรคชาติพัฒนากล้า เพราะมาจากคนธรรมดา เป็นลูกชาวบ้านทั่วไปที่สร้างตัวตนมาจนเป็นที่รู้จัก และเป็นคนที่มีดีเอ็นเอเดียวกับพรรค ที่มีคนต่างสาขาอาชีพที่มีของมารวมกัน ในส่วนของจูรี เขาสามารถถ่ายทอดแนวความคิดของเขาให้ประชาชนได้เข้าใจการเมือง เข้าใจการเลือกตั้งในระบอบประชาธิปไตยที่ถูกต้องเป็นอย่างไร จุดยืนของจูรี คือไม่ใช้เงินในการเลือกตั้งซึ่งทางการเมืองไทย ถือว่าเป็นเรื่องเพ้อฝันเป็นไปไม่ได้ แต่เขามีความเชื่อมั่นสูง ว่ามันเป็นไปได้ แต่ทุกอย่างก็อยู่ที่ประชาชน

“หลายคน พยายามที่จะทำการเมืองด้วยจิตใจที่มุ่งมั่นพัฒนาประเทศ ถ้าเขาล้มเหลว มันก็จะยิ่งทำให้คนดี ๆ ไม่อยากเข้ามา จูรีจึงเป็นตัวอย่างที่น่าจับตามอง และยังเป็นต้นแบบให้คนตัวเล็กที่สามารถพัฒนาให้เติบโตได้ วันนี้จูรีอยู่ในจุดที่รายได้ดีมาก และอายุก็ยังน้อย สามารถสร้างรายได้อีกมหาศาล แต่เขาตัดสินใจเสนอตัวเข้ามาทำงานการเมือง นั่นแสดงว่าเป็นคนเสียสละ นี่คือผู้แทนต้นแบบที่ประเทศไทยควรจะมาเป็นตัวเลือกให้พี่น้องชาวสงขลา” รองหัวหน้าพรรคชาติพัฒนากล้า กล่าว