ศาลฎีกาพิพากษา สั่ง “อนุรักษ์ ตั้งปณิธานนท์” สส.มุกดาหาร พรรคเพื่อไทย พ้นเก้าอี้ สส. คดีตบทรัพย์ เรียกรับเงิน 5 ล้านบาท แลกผ่านงบประมาณกรมทรัพยากรน้ำบาดาลและกรมทรัพยากรน้ำ ชี้จงใจฝ่าฝืนมาตรฐานจริยธรรมอย่างร้ายแรง ห้ามลงสมัครทางการเมืองและเพิกถอนสิทธิเลือกตั้ง 10 ปี
เมื่อเวลา 09.30 น.วันที่ 6 มกราคม 2566 ที่ห้องพิจารณา 1 ศาลฎีกา สนามหลวง ศาลนัดฟังคำพิพากษาหรือคำสั่งคดีหมายเลขดำที่ คมจ.4/2565ที่คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ปปช.) ยื่นคำร้องว่า นายอนุรักษ์ ตั้งปณิธานนท์ ส.ส.มุกดาหาร พรรคเพื่อไทย ผู้คัดค้าน ฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามมาตรฐานทางจริยธรรมอย่างร้ายแรง กรณีการเรียกรับเงินจำนวน 5 ล้านบาท จากนายศักดิ์ดา วิเชียรศิลป์ อธิบดีกรมทรัพยากรน้ำบาดาล เพื่อแลกกับการผ่านงบประมาณให้กรมทรัพยากรน้ำบาดาล
คดีนี้ป.ป.ช.มีมติชี้มูลความผิดและยื่นคำร้องขอให้ศาลฎีกามีคำพิพากษาหรือคำสั่งว่า นายอนุรักษ์ ผู้คัดค้านฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามมาตรฐานทางจริยธรรมอย่างร้ายแรง และขอให้ศาลมีคำสั่งให้ผู้คัดค้านหยุดปฏิบัติหน้าที่นับแต่วันที่ศาลฎีการับคำร้อง จนกว่าจะมีคำพิพากษาและให้พ้นจากตำแหน่งนับแต่วันหยุดปฏิบัติหน้าที่ รวมทั้งเพิกถอนสิทธิสมัครรับเลือกตั้งและสิทธิเลือกตั้งไม่เกิน 10 ปี ตามรัฐธรรมนูญ 2560 มาตรา 235 พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต 2561 มาตรา 87 และมาตรฐานทางจริยธรรมของตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ และผู้ดำรงตำแหน่งในองค์กรอิสระ รวมทั้งผู้ว่าการตรวจเงินแผ่นดิน และหัวหน้าหน่วยงานธุรการของศาลรัฐธรรมนูญและองค์กรอิสระ 2561ข้อ 7, 8, 9และ27
คดีนี้ ภายหลังจากศาลฎีกามีคำสั่งรับคำร้องไว้พิจารณาและมีคำสั่งให้นายอนุรักษ์หยุดปฏิบัติหน้าที่จนกว่าจะมีคำพิพากษา
โดยในวันนี้นายอนุรักษ์ได้เดินทางมาศาล พร้อมครอบครัวที่มาให้กำลังใจ โดยปฎิเสธที่จะแสดงความเห็นใดๆโดยระบุขอให้รอฟังคำตัดสินของศาลก่อน
ศาลฎีกาวินิจฉัยพยานหลักฐานที่มีการไต่สวนแล้วเห็นว่านายอนุรักษ์ ในฐานะรองประธานคณะอนุกรรมาธิการแผนงานบูรณาการ 2 มีพฤติกรรมเรียกรับผลประโยชน์จริง จำนวน 5 ล้านบาท โดยมีหลักฐานและพยานบุคคลยืนว่านายอนุรักษ์ ติดต่อกับนายศักดิ์ดา วิเชียรศิลป์ อธิบดีกรมทรัพยากรน้ำบาดาลและนายภาดล ถาวรกฤชรัตน์ อธิบดีกรมทรัพยากรน้ำ หลายครั้งเพื่อเรียกเงินหรือผลประโยชน์จากโครงการในการจัดทำคำของบประมาณ และมีการใช้คำพูดข่มขู่ ทั้งเห็นว่านายอนุรักษ์ ไม่มีหน้าที่ในการขอเอกสาร หรือ การจัดทำประมาณจากหน่วยงานโดยตรงซึ่งเป็นการใช้อำนาจหน้าที่ในการแสวงหาผลประโยชน์โดยมิชอบ
ศาลฎีกาจึงมีคำพิพากษาว่านายอนุรักษ์ ผู้คัดค้านจงใจฝ่าฝืน ไม่ปฏิบัติตามมาตรฐานจริยธรรมอย่างร้ายแรงโดยให้พ้นจากตำแหน่งส.ส.มุกดาหาร พรรคเพื่อไทย นับตั้งแต่วันที่15ธ.ค.2564 ซึ่งเป็นวันที่ศาลฎีกามีคำสั่งให้หยุดปฎิบัติหน้าที่ ให้เพิกถอนสิทธิ์สมัครรับเลือกตั้ง ตำแหน่งทางการเมืองใดๆและเพิกถอนสิทธิ์เลือกตั้งเป็นเวลา10ปีนับตั้งแต่วันที่ศาลฎีกามีคำพิพากษาและแจ้งให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องรับทราบต่อไป
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับกรณีดังกล่าว เกิดขึ้นหลังจากนายศักดิ์ดา วิเชียรศิลป์ อธิบดีกรมทรัพยากรน้ำบาดาล กล่าวในที่ประชุมอนุกรรมาธิการแผนบูรณาการ 2 ในคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2564 ที่มีการประชุมพิจารณางบประมาณแผนบูรณาการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำ ในส่วนของกรมทรัพยากรน้ำบาดาลและกรมทรัพยากรน้ำว่า มีอนุกรรมาธิการ างคนโทรศัพท์เรียกเงิน5ล้านบาท แลกกับการผ่านงบประมาณ โดย ป.ป.ช.ตั้งอนุกรรมการไต่สวนซึ่งนายศักดิ์ดาให้ข้อมูลว่านายอนุรักษ์ได้เรียกรับเงินทางโทรศัพท์ จากการไต่สวนและการเช็คข้อมูลจากโทรศัพท์ ช่วงระยะเวลาที่มีการโทร จึงเชื่อได้ว่า นายอนุรักษ์ได้มีการเรียกรับเงินจากนายศักดิ์ดาจริง .