‘ชอบเล่นกอล์ฟ-แต่ไม่ชอบสนามอัลไพน์’
‘ทนายตั้ม’ชนแหลก
‘ยงยุทธ’โต้กลับไม่ใช่ชู้รักอดีตรองนายกฯ
เรียกร้องพท.ขับทนายดังออกจากพรรค
ทนายสวนยังไม่ได้พูดชื่อ-ร้อนตัวทำไม
ใบ้เพิ่ม‘เกี่ยวข้องกับมหาดไทย-อายุมาก’
เผยลูกความถูกข่มขู่-จ่อมอบหลักฐานตร.
“ทนายตั้ม”แถลงร่ายยาวปมลูกความฟ้องแพ่งภรรยามีชู้กับอดีตรองนายกฯ บอกใบ้เพิ่ม “เกี่ยวข้องกับมหาดไทย-ชอบเล่นกอล์ฟแต่ไม่ชอบสนามอัลไพน์-ไม่มียศตำรวจ-อายุมาก-ลาออกจากพรรค ตั้งแต่ปี’61 เผยลูกความถูกชายฉกรรจ์ข่มขู่หลังเป็นคดี เตรียมร้องรอง ผบ.ตร.มอบหลักฐานอีกครั้ง “ยงยุทธ วิชัยดิษฐ” โต้กลับ ลั่นไม่ใช่ตนเอง กำลังจัดการจี้พท.ขับ“ทนายตั้ม”ออกพ้นพรรค ด้าน“ทนายตั้ม”โต้กลับทันควัน ยังไม่ได้ เอ่ยชื่อเลย‘ร้อนตัวหรือเปล่า’ด้าน‘ชลน่าน’ชี้ปมอดีตรองนายกฯ เล่นชู้ แค่คาดเดา ยันไม่เกี่ยว พท. ชี้ ‘ยงยุทธ์’ไม่ได้เป็นสมาชิกพรรคแล้ว
ที่สำนักงาน sittra law firm(ษิทรา ลอว์ เฟิร์ม) อาคารเอ็มไพร์ทาวเวอร์ ถนนสาทรใต้ แขวงยานนาวา เขตสาทร กทม.เมื่อช่วงสายวันที่ 9 มกราคม 2566 นายษิทรา เบี้ยบังเกิด หรือ ทนายตั้ม เลขามูลนิธิทีมงานทนายประชาชน ตั้งโต๊ะเปิดแถลงเกี่ยวกับประเด็นร้อน มีลูกความคนหนึ่งมาขอความช่วยเหลือ หลังพบว่าภรรยาเป็นชู้กับอดีตรองนายกรัฐมนตรีโดยมีหลักฐาน เป็นแชทไลน์ พูดคุยกันในเชิงชู้สาว ระหว่างผู้หญิงกับอดีตรองนายกรัฐมนตรี จนทำให้สังคมต่างวิพากษ์วิจารณ์ว่าอดีตรองนายกฯ ผู้นี้เป็นใครนั้น
‘ทนายตั้ม’ตั้งโต๊ะแถลงร่ายยาว
โดย ทนายตั้ม แถลงร่ายยาวว่า เหตุการณ์นี้เพิ่งเกิดเมื่อเดือนตุลาคม 2565 ลูกความหรือ ผู้เสียหาย นำข้อมูลมาปรึกษา เมื่อเดือนธันวาคมที่ผ่านมา เนื่องจากพบว่าภรรยาที่ทำงานอยู่โรงแรมแห่งหนึ่ง มีพฤติกรรมเปลี่ยนแปลงไป ทำให้เกิดความสงสัย แอบไปเปิดมือถือภรรยาทำให้พบข้อความสนทนาทางไลน์กับผู้ชายคนหนึ่งและยังพบภาพเปลือยของทั้งคู่ถ่ายเก็บไว้ในมือถือ
โดยผู้เสียหายที่นำเรื่องมาปรึกษา รู้สึกเสียใจเนื่องจากผู้ชายที่มีสัมพันธ์กับภรรยา เป็นอดีตรองนายกรัฐมนตรีอักษรย่อ“ย.ยักษ์”คนหนึ่ง แต่ภรรยาไม่ยอมหย่าจึงให้คำปรึกษาว่ากรณีนี้ ไม่ใช่คดีอาญา แต่สามารถฟ้องแพ่งเรื่องชู้สาวเรียกค่าทดแทนได้ ทั้งภรรยาและชู้ซึ่งได้มีการฟ้องหย่า ศาลเยาวชนและครอบครัวกลางคดีแพ่งเรียกค่าเสียหายไป เมื่อวันที่23ธันวาคม2565และจะมีการนัดไต่สวนเดือนมีนาคมปีนี้
ผู้เสียหายถูกข่มขู่ต้องแจ้งสื่อฯ
ทนายตั้มเปิดเผยอีกว่า ระหว่างที่สามีของผู้หญิงทราบเรื่อง อดีตรองนายกรัฐมนตรีจึงพยายามตีตัวออกห่าง พร้อมฟ้องภรรยาของผู้เสียหายว่า หลอกลวงเงินให้คืนทรัพย์สินต่างๆให้
“และทั้ง3คนได้นัดเจรจาคดีความนี้กันที่สน.บางยี่ขัน โดยลูกความอ้างว่ามีกลุ่มชายฉกรรจ์เข้ามาในโรงพัก มีพฤติกรรมข่มขู่ที่โรงพัก และตามมาคุกคามถึงที่บ้าน ผู้เสียหายจึงกังวลในเรื่องของความปลอดภัย นำข้อมูลนี้มาปรึกษา เพื่อให้เปิดเผยเรื่องราวนี้ต่อสื่อมวลชนออกสู่สาธารณะเพื่อป้องกันตัว หากเป็นอะไร และอยากให้ประชาชนได้รู้พฤติกรรมของนักการเมืองใหญ่คนนี้”ทนายตั้มระบุ
นายษิทรากล่าวว่าเรื่องนี้ตนได้ร้องเรียนไปที่รอง ผบ.ตร.แล้วทำให้ลูกความอยากให้เรื่องนี้เผยแพร่ต่อสื่อมวลชนเนื่องจากว่าหากเขาเป็นอะไรขึ้นมาจะได้รู้ว่าใครเป็นคนทำ เพราะเขาไม่มีศัตรูคนอื่น อีกทั้งคนนี้เป็นถึงอดีตรองนายกฯ ควรมีจริยธรรม ไม่ควรมายุ่งกับคนที่มีสามีแล้ว แต่ที่บอกชื่อไปตรงๆไม่ได้รวมถึงไม่ไปเอ่ยถึงพรรค หรือ อยู่ในนายกฯสมัยไหน เพราะเราก็ต้องเซฟตัวเองด้วย
เปิดรายละเอียดยิบอดีตรองนายกฯ
“อดีตรองนายกรัฐมนตรีอักษรย่อ“ย.ยักษ์”บุคคลดังกล่าว เป็นอดีตรองนายกรัฐมนตรี เกี่ยวข้องกับกระทรวงมหาดไทย เป็นผู้ที่ชอบกีฬากอล์ฟ แต่ไม่ชอบสนามกอล์ฟอัลไพน์ รวมถึงไม่มียศทางตำรวจ อายุมากแล้ว ไม่เกี่ยวข้องกับพรรคเพื่อไทย เพราะออกจากพรรคตั้งแต่ปี 2561”พร้อมยืนยันว่าบุคคลคนนี้ ไม่ได้เป็นสมาชิกพรรคเพื่อไทยมานานแล้วกว่า 5 ปีเหตุที่เกิดขึ้น จึงไม่เกี่ยวข้องกับเรื่องการเมือง แต่ถือเป็นคดีความส่วนตัวเท่านั้น
จ่อมอบหลักฐานให้รอง ผบ.ตร.
นายษิทรากล่าวอีกว่า“ส่วนจะเคยมีพฤติกรรมลักษณะชู้สาวกับบุคคลอื่นอีกหรือไม่ คงไม่สามารถตอบได้ แต่กับลูกความตัวเองถือว่ามีหลักฐานข้อความแชท รูปภาพครบถ้วนชัดเจน ดังนั้น การที่บุคคลที่รู้ตัวเองอยู่แล้วออกมาปฏิเสธ ถือว่าไม่มีความรับผิดชอบซึ่งผมจะเข้าไปยื่นหนังสือข้อมูลหลักฐานถึง รอง ผบ.ตร.อีกครั้ง ภายในอาทิตย์นี้”
‘ยงยุทธ’ลั่นไม่ใช่ตน-จี้พท.ขับษิทรา
ด้านนายยงยุทธ วิชัยดิษฐ อดีตรองนายกรัฐมนตรี อดีตรมว.มหาดไทย และอดีตหัวหน้าพรรคเพื่อไทย กล่าวหลังทราบการแถลงข่าวจากนายษิทรา เพิ่มปม อดีตรองนายกฯมีความสัมพันธ์ลึกซึ้งกับภรรยาของคนอื่นโดยบอกคำใบ้ เป็นอดีตรองนายกรัฐมนตรี ที่เกี่ยวข้องกับกระทรวงมหาดไทย ชอบตีกอล์ฟ แต่ไม่ชอบสนามกอล์ฟอัลไพน์ มีอายุมากแล้ว เคยเป็นสมาชิกพรรค พท.เมื่อปี 2551 และพ้นจากสมาชิกเมื่อปี 2561 แล้วมาก่อเหตุปี 2565ว่าเหตุการณ์ทั้งหมดยืนยันไม่ใช่ตัวเองแน่นอน เพราะอดีตรองนายกรัฐมนตรีมีตั้งหลายคน ซึ่งตนทราบเรื่องนี้หมดทุกอย่างแล้ว กำลังจัดการอยู่ อีกทั้ง อยากให้พรรคเพื่อไทยขับนายษิทราออกจากพรรคเพราะนายษิทราเป็นสมาชิกพรรคเพื่อไทย
ทนายตั้มสวนกลับ‘ร้อนตัวหรือเปล่า’
ต่อมา ในเวลา 14.13 น. เฟซบุ๊ก “ษิทรา เบี้ยบังเกิด เลขาธิการมูลนิธิทีมงานทนายประชาชนฯ” ได้โพสต์ข้อความระบุว่า “อ้าว “คุณยงยุทธ ผมยังไม่ได้พูดชื่อคุณเลย ร้อนตัวอะไรหรือเปล่าครับ แล้วจะมาขับผมออกจากพรรคเพื่อไทยทำไม ในเมื่อผมเป็นสมาชิกพรรคเพื่อไทย ที่มีความนิยมชมชอบในพรรคเหมือนประชาชนทั่วไปมาหลายปีแล้ว ผมทำผิดอะไรในการให้คำแนะนำกับลูกความ และช่วยปัดเป่าทำความสะอาดพรรค ไม่ให้พรรคมัวหมอง”พร้อมระบุทิ้งท้ายด้วยว่า”ถ้าจะขับออก ขอเงิน 2,000 บาทคืนด้วยนะ”
‘ชลน่าน’โต้ปมฉาวไม่เกี่ยวกับ‘พท.’
ด้านนพ.ชลน่าน ศรีแก้ว ส.ส.น่าน หัวหน้าพรรคเพื่อไทย (พท.) ให้สัมภาษณ์กรณีทนายตั้ม ษิทรา เบี้ยบังเกิด แถลงเพิ่มปม อดีตรองนายกรัฐมนตรี มีความสัมพันธ์ลึกซึ้งกับภรรยาของคนอื่น บอกคำใบ้เป็นอดีตรองนายกรัฐมนตรี ที่เกี่ยวข้องกับกระทรวงมหาดไทย ชอบตีกอล์ฟ แต่ไม่ชอบสนามกอล์ฟอัลไพน์ มีอายุมากแล้ว เคยเป็นสมาชิกพรรค พท.เมื่อปี 2551 และพ้นจากสมาชิกเมื่อปี 2561มีการเดากันว่าเป็นนายยงยุทธ วิชัยดิษฐ อดีตรองนายกฯอดีต รมว.มหาดไทยและอดีตหัวหน้าพรรคพท.จะมีผลกระทบต่อพรรค พท. หรือไม่ว่า เป็นการคาดเดาของสื่อและของคนที่เกี่ยวข้องว่าบุคคลดังกล่าวมีความเกี่ยวข้องกับพรรค พท. และเรื่องนี้ก็ยังไม่ชัดเจน
ยัน‘ยงยุทธ์’ไม่ได้เป็นสมาชิกพท.
นพ.ชลน่านระบุว่า เมื่อมีการคาดเดาระบุว่าอดีตเคยเป็นสมาชิกพรรค พท.หากอดีตเคยเป็นสมาชิกพรรคพท.ถามว่าจะกระทบต่อพรรค พท.หรือไม่ อย่างไรนั้นก็ต้องดูข้อเท็จจริง ถ้าท่านนั้น ไม่ได้เกี่ยวข้องกับพรรคพท.และปัจจุบันไม่ได้เป็นสมาชิกพรรคเลย ในมุมของข้อกฎหมาย ความรับผิดชอบก็ไม่มี และไม่มีอำนาจ และหน้าที่ที่จะไปต้องคณะกรรมการสอบเรื่องนี้ตามข้อบังคับพรรค ที่สำคัญหากเรื่องเกิดขึ้นในขณะที่เขาไม่ได้เป็นสมาชิกพรรคก็ยิ่งไม่มีความเกี่ยวข้องกับพรรค ในมุมพรรค ก็ไม่มีความเป็นห่วง หรือกังวลอะไร พร้อม ยืนยันว่าขณะนี้นายยงยุทธ ไม่ได้ยังเป็นสมาชิกพรรค พท.แล้ว
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี