ทนถูกใส่ร้าย-ด่าฟรีมานานแล้ว! ‘ภท.’ ของขึ้นลั่นยื่น ’กกต’ เอาผิด ‘3 พรรคร่วมฝ่ายค้าน’ เพื่อป้องศักดิ์ศรี จะถึงขั้นยุบพรรคหรือไม่อยู่ที่ตัดสินใจ

10 ม.ค.2566 นายศุภชัย ใจสมุทร ส.ส.บัญชีรายชื่อ นายทะเบียน พรรคภูมิใจไทย กล่าวถึงการยื่นต่อคณะกรรมการการเลือกตั้ง(กกต.) เพื่อเอาผิดพรรคเพื่อไทย พรรคก้าวไกล และพรรคเสรีรวมไทย กรณีให้ข้อมูลบิดเบือนใส่ร้ายด้วยข้อมูลอันเป็นเท็จทำให้หลงผิดต่อคะแนนนิยมว่า พรรคภูมิใจไทยอดทนกับการถูกใส่ร้าย ด่าฟรีมานานแล้ว ทั้งเรื่องการกล่าวหาว่าเราใช้เงินดูดนักการเมือง เป็นพรรคการเมืองที่มีแต่การทุจริต อันนี้มาจากพรรคเพื่อไทย และพรรคเสรีรวมไทย  ล่าสุดก็มาบอกว่าการตัดสินใจของหัวหน้าพรรค ซึ่งท่านเป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ทำให้คนไทยเสี่ยงติดเชื้อ HIV ที่มาจากพรรคก้าวไกล ซึ่งทั้งหมดที่พูดมา เน้นเอาสะใจ ได้อารมณ์กองเชียร์ แต่หลักฐานอยู่ไหน ข้อเท็จจริงอยู่ไหนที่แน่ๆคือ พรรคภูมิใจไทย เสียชื่อเสียง เรื่องดูด เป็นการใส่ร้ายและหมิ่นประมาททั้งต่อพรรคและส.ส ผู้ย้ายพรรค ถ้ามีจริงป่านนี้ มีหลักฐานออกมาแล้ว  

"ท่านเอง ก็รู้ว่าความจริง พรรคภูมิใจไทย เราไม่ทำแบบนั้น แต่ที่คนมาร่วมงานกับพรรคเรามาก เพราะล้วนแล้วแต่เบื่อหน่ายกับความขัดแย้ง และต้องการโอกาสในการทำงานรับใช้ประชาชน ซึ่งพรรคภูมิใจไทย สามารถมอบสิ่งเหล่านี้ได้"นายศุภชัย กล่าว

 ส่วนที่พรรคก้าวไกลบอกว่าที่นายอนุทิน ไม่เซ็นงบส่งเสริมสุขภาพป้องกันโรค เนื่องจากติดขัดเรื่องกฎหมายที่ยังไม่ชัดเจน ทำให้ประชาชนเข้าถึงยาเอชไอวีลำบาก ไปเขียนในเว็บพรรคว่า  รู้หรือไม่? 2 เดือนแล้วที่สังคมไทยเสี่ยงเชื้อ HIV เพราะ รมว.สาธารณสุข ไม่ยอมเซ็นงบป้องกันโรคของกองทุน สปสช. ทำให้สังคมตื่นตระหนก ทั้งที่ ความจริง นพ.พงศ์เกษม ไข่มุกด์ รองปลัดกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) ได้ออกมาอธิบายแล้วว่า การให้บริการในเรื่องนี้ยังเหมือนเดิมทุกประการ ไม่มีข้อติดขัด แต่ท่านก็ยังปล่อยให้ข้อความบิดเบือนนั้น เวียนว่ายอยู่ในโลกออนไลน์ ทำให้คนเข้าใจผิด

“มันควรจะเลิกได้แล้วการเมืองที่สาดโคลนใส่กันแบบนี้ มาสู้กันด้วยนโยบาย การเข้าถึงประชาชนกันดีกว่า การที่เรายื่นคำร้องต่อ กกต. เราทำตามกฎหมาย ใช้สิทธิ์อันพึงมีปกป้องตัวเอง เพราะถ้าไม่ทำอะไรเลย อีกฝ่ายก็จะโจมตีเราแบบนี้ไปเรื่อยๆ และเรานิ่งเฉย ประชาชนส่วนหนึ่งอาจหลงเชื่อ มีผลต่อคะแนนนิยมซึ่งความเสียหายย่อมเกิดขึ้นกับพรรคภูมิใจไทยแน่นอน ส่วนจะยุบพรรคหรือไม่เป็นเรื่องของการพิจารณาของผู้มีอำนาจ ให้เป็นเรื่องของ กกต.หรือศาลตัดสิน เราเพียงแต่ต้องการปกป้องตัวเองเท่านั้น” นายศุภชัย กล่าว

-001