ตัวจริงริเริ่มบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ

รทสช.ยกย่อง‘บิ๊กตู่’

พร้อมต่อยอดหากกลับมาเป็นนายกฯ

ไม่สน‘พปชร.’ชูนโยบายหาเสียง

‘อุ๊งอิ๊ง’ชี้เร็วไปจับมือ‘บิ๊กป้อม’

ลั่นเดินหน้าเลือกตั้งแลนด์สไลด์

สภาล่ม!ทุบสถิติหลังถก25นาที

แฉ4พรรคจ้องสกัดพรบ.กัญชา

“บิ๊กป้อม”หอบคณะปาดหน้า“น้องตู่”ชิงลงพื้นที่สี่แคว20 มกราคม ก่อนนายกฯลงปลายเดือนมกราคม“ธนกร”ย้ำ“บิ๊กตู่”ตัวจริงคนริเริ่มโครงการ“บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ”มุ่งยกระดับประสิทธิภาพการจัดสรรสวัสดิการของไทยในรอบหลาย 10 ปี หากกลับมาเป็นนายกฯทุกนโยบายจะถูกต่อยอดและพัฒนาให้ดีขึ้นกว่าเดิม บนพื้นฐานประชาชนได้ประโยชน์สูงสุด “อุ๊งอิ๊ง” นำเพื่อไทยลุยตลาดนนทบุรี ชี้เร็วไปรับไมตรี “บิ๊กป้อม” ขอทำแลนด์สไลด์ก่อน เมินพปชร.ให้บัตรคนจนเพิ่ม 700 บาท เย้ยนโยบายค่าแรงพท.ทำได้จริง“ชลน่าน”

ยัน3แคนดิเดตนายกฯสร้างความเชื่อมั่นให้ปชช.คาดก.พ.เปิดผู้สมัครส.ส.ครบทุกเขต สภาล่มทุบสถิติเร็วสุด25นาที ร่างกม‘กัญชา’ติดหล่มอีกแล้ว เช็คองค์ประชุมครบ ลงมติหายเป็นแถบ เปิดปุ๊บล่มปั๊บตั้งแต่11โมง‘ร่างกม.กัญชา’ชะงักอีกแล้วที่มาตรา11

เมื่อวันที่ 18มกราคม ผู้สื่อข่าวรายงานความเคลื่อนไหวของ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ( พปชร) ที่เริ่มลงพื้นที่ตรวจราชการถี่มากขึ้น โดยวันที่ 20มกราคม จะลงพื้นที่ จ.พิษณุโลกและจ.นครสวรรค์ โดยช่วงเช้าเดินทางไปกราบสักการะพระพุทธชินราช วัดพระศรีรัตนมหาธาตุวรมหาวิหาร อ.เมืองพิษณุโลกและติดตามผลการดำเนินงานก่อสร้างประตูระบายน้ำท่านางงาม อ.บางระกำ จากนั้นเดินทางไปยังโครงการเขื่อนป้องกันตลิ่งริมแม่น้ําน่าน (ช่วงที่1) ต.วัดจันทร์อ.เมืองพิษณุโลก เพื่อรับฟังความคืบหน้าผลการดำเนินโครงการเขื่อนป้องกันตลิ่งริมแม่น้ําน่านและพบปะประชาชน จากนั้นช่วงบ่าย พล.อ.ประวิตรและคณะ เดินทางไปที่เขตห้ามล่าสัตว์ป่าบึงบอระเพ็ด ต.พระนอน จ.นครสวรรค์ เพื่อติดตามผลการดำเนินงานตามโครงการรัฐบาล อาทิ โครงการเพิ่มประสิทธิภาพพื้นที่หน่วงน้ําในช่วงฤดูน้ำหลาก“สี่แควโมเดล” ที่ห้องประชุมศูนย์ศึกษาธรรมชาติและสัตว์ป่าบึงบอระเพ็ด เพื่อมอบนโยบายและแนวทางการพัฒนาบึงบอระเพ็ด ให้กับผู้ว่าฯนครสวรรค์ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง

ก่อนเดินทางไปที่โครงการแก้มลิงบ้านแหลมทอง รับฟังบรรยายสรุปการดําเนินโครงการในพื้นที่ และเยี่ยมชมผลิตภัณฑ์จากบึงบอระเพ็ด ปลารสเด็ดปากน้ำโพและปล่อยปลาหน้าอาคารสํานักงานที่ทําการเขตห้ามล่าสัตว์ป่าฯและพบประชาชนที่ได้รับประโยชน์จากการบริหารจัดการน้ำในพื้นที่บึงบอระเพ็ดและ แก้มลิงบ้านแหลมทอง และเดินทางกลับกทม.ในช่วงเย็นวันเดียวกัน

‘บิ๊กป้อม’แย่งซีน’ลุงตู่’ทัวร์ภาคเหนือ

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การลงพื้นที่ จ.นครสวรรค์ ครั้งนี้ ถูกจับตามองว่า เกิดขึ้นหลัง สส.นครสวรรค์ พรรค พปชร.ลาออกไปอยู่พรรคภูมิใจไทย (ภท.) และพรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) ขณะที่บางส่วนยังไม่ตัดสินใจชัดเจนและยังเป็นที่น่าสังเกตว่า เป็นการเดินทางไปล่วงหน้า ก่อนที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม จะลงพื้นที่ จ.พิจิตร และจ.นครสวรรค์ในช่วงปลายเดือนมกราคม ซึ่งถือเป็นอีกครั้ง ที่ พล.อ.ประวิตร ลงพื้นที่ก่อน พล.อ.ประยุทธ์ จะไป หลังจากวันที่ 18มกราคม พล.อ.ประวิตร ได้ลาประชุม ครม.เพื่อเดินทางไป จ.ราชบุรี ก่อนที่ พล.อ.ประยุทธ์ จะลงไปไม่กี่วัน

‘เอกนัฏ’รับใบสมัคร’เขตรัฐ’ เข้ารทสช.

ที่พรรครวมไทยสร้างชาติ นายเอกนัฏ พร้อมพันธุ์ เลขาธิการพรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) ได้รับใบสมัครของ นายเขตรัฐ เหล่าธรรมทัศน์ อดีตสส.บัญชีรายชื่อ พรรครวมพลัง โดย นายเอกนัฏ กล่าวว่า จะไม่ส่งผลกระทบต่อการทำหน้าที่ในสภาผู้แทนราษฎร เพราะขณะนี้มี สส.ทยอยเดินทางมาสมัครกัน แต่ตนเองอยากให้ทำหน้าที่ในสภาให้เต็มที่ก่อน อย่างไรก็ตาม นายเขตรัฐ จะลงสมัครสส.แบบแบ่งเขต กรุงเทพมหานครและพรรคจะเปิดตัวผู้สมัครเขตกทม.ในเร็วๆนี้และวันที่ 19ม.ค.จะนัดประชุมว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.กทม.30คน แต่ขณะนี้รอความชัดเจนในการแบ่งเขตจาก กกต.ก่อน ซึ่งพรรคจะเร่งทำงาน และแนะนำตัวผู้สมัครในพื้นที่ คาดว่าจะเปิดตัวว่าที่ผู้สมัคร สส.และนโยบายของพรรคภายในเดือนกุมภาพันธ์นี้

เตรียมนำทีม’ลุงตู่’เยือนต่างจังหวัด

ผู้สื่อข่าวถามถึงกรณีที่พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) เปิดนโยบายเพิ่มเงินบัตรสวัสดิการแห่งรัฐเป็น 700บาทและค่าแรงขั้นต่ำภายในปี2570 จำนวน 600บาท นายเอกนัฏ กล่าวว่า พรรค รทสช.มองว่าการดำเนินการด้านเศรษฐกิจต้องดูสถานะของประเทศ โดยพรรคจะต่อยอดรัฐบาลชุดนี้ใน2ส่วนคือ โครงสร้างพื้นฐานและสวัสดิการที่จะสร้างความเท่าเทียมกันในสังคมครอบครัวโดยจะดูไปถึงครอบครัวแต่จะไม่ส่งผลเสียหายต่อระบบเศรษฐกิจ เราต้องมีความรับผิดชอบในฐานะพรรคการเมือง เพราะหลังจากนี้เชื่อว่า พรรครวมไทยสร้างชาติจะได้รับความสนใจจากนักการเมือง หรือแม้กระทั่งคนรุ่นใหม่ที่สนใจจะขับเคลื่อนทางการเมืองและขับเคลื่อนให้พรรครทสช.เป็นสถาบันทางการเมือง พร้อมสู้ศึกเลือกตั้งให้เป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาล เพื่อผลักดันนโยบายให้ได้

นายเอกนัฏ กล่าวอีกว่า สำหรับแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี1ใน 3คนของพรรค เต็งหนึ่งคือ พล.อ.ประยุทธ์ สวมหมวกสองใบ เป็นทั้งนายกรัฐมนตรีและสมาชิกพรรครทสช.ซึ่งหลังเปิดตัววันที่ 9มกราคม ก็มีเสียงจากสมาชิกและแฟนคลับจากต่างจังหวัด เรียกร้องให้ พล.อ.ประยุทธ์ ลงพื้นที่พบปะประชาชนในทั่วทุกภาค และพยายามจะไปให้ครบทุกภาคและไปในจุดที่ง่ายต่อการเดินทาง

‘อุ๊งอิงค์’นำทีมพท.ลุยตลาดนนทบุรี

ที่ตลาดสดนนทบุรี นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว สส.น่าน หัวหน้าพรรคเพื่อไทย (พท.) นายประเสริฐ จันทรรวงทอง สส.นครราชสีมา เลขาธิการพท.,น.สใแพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย และประธานคณะที่ปรึกษาด้านการมีส่วนร่วมและนวัตกรรม พรรค พท.,นางพวงเพ็ชร ชุนละเอียด ประธานคณะกรรมการประสานงานด้านการเมืองพื้นที่กรุงเทพมหานคร นายดนุพร ปุณณกันต์ สมาชิกพรรคเพื่อไทย น.ส.ขัตติยา สวัสดิผล สมาชิกพรรคเพื่อไทย พร้อมด้วย ส.ส.นนทบุรี และผู้ซึ่งประสงค์สมัครรับเลือกตั้ง สส.นนทบุรี พรรคเพื่อไทย ได้แก่ นายจิรพงษ์ ทรงวัชราภรณ์, นายมนตรี ตั้งเจริญถาวร, นายนพดล แก้วสุทัศน์,นายมานะศักดิ์ จันทร์ประสงค์, นายนิยม ประสงค์ชัยกุล, นายนิทัศน์ ศรีนนท์, น.ส.ปณรัศม์ วันชาญเวช, นายจำลอง ขำสา ร่วมลงพื้นที่จังหวัดนนทบุ โดยมีพี่น้องประชาชน พ่อค้า แม่ค้า ในตลาดสดนนทบุรี ให้กำลังใจต้อนรับเป็นอย่างดี

อวยพรพ่อค้าแม่ค้าให้ทำมาค้าขายดีขึ้น

โดยจุดแรก นพ.ชลน่าน น.ส.แพทองธาร นายประเสริฐ ส.ส.นนทบุรี และผู้ซึ่งประสงค์สมัครสมัครรับเลือกตั้ง สส.นนทบุรี เข้าสักการะศาลเจ้าพ่อเสือ ที่พุทธสถานเชิงท่า-หน้าโบสถ์ เพื่อความเป็นศิริมงคล โดยมีนายสมนึก ธนเดชากุล นายกเทศมนตรีนครนนทบุรี ให้การต้อนรับและพาชมสถาปัตยกรรมบริเวณโดยรอบ จากนั้นเดินทางมาที่ตลาดกรมชลประทาน พบปะพี่น้องประชาชนพ่อค้าแม่ค้าที่ทำมาค้าขายภายในพื้นที่ โดย น.ส.แพทองธาร พร้อมคณะ ได้สอบถามถึงการค้าขายและภาวะเศรษฐกิจกับแม่ค้าร้านขนมครก ปาท่องโก๋ ร้านขายไข่ไก่และผักสด โดย น.ส.แพทองธาร ได้ให้กำลังใจอวยพรให้ค้าขายดี ซึ่งนายมนัส พ่อค้าเจ้าของแผงผัก กล่าวว่า 8ปีที่ผ่านมา คนจนไม่เคยได้อะไรเลย คนรวยมีแต่รวยเอา ขอฝากให้พรรคเพื่อไทยได้ช่วยแก้ไขปัญหานี้ด้วย ปีนี้รับรองได้เลยว่า พรรคพท.จะแลนด์สไลด์แน่นอน ด้าน น.ส.แพทองธารกล่าวรับปากพ่อค้ารายดังกล่าว พร้อมนำเสนอนโยบายที่จะช่วยยกระดับชีวิตให้ประชาชน

แห่มอบช่อดอกไม้-ขอถ่ายรูปคึกคัก

จากนั้นน.ส.แพทองธาร พร้อมด้วยแกนนำพรรค เดินพบปะพูดคุยพี่น้องประชาชนและพ่อค้าแม่ค้าที่ตลาดประชานิเวศน์3 เพื่อสอบถามปัญหาราคาสินค้าในปัจจุบัน โดย น.ส.แพทองธาร ได้สอบถามและให้กำลังใจพ่อค้าแม่ค้าในตลาดเกี่ยวกับราคาสินค้าและยอดขาย ผู้สื่อข่าวรายงานว่า บรรยากาศมีพ่อค้าแม่ค้า และประชาชนได้เดินทางมามอบดอกไม้ให้กำลังใจและขอถ่ายภาพเป็นที่ระลึกด้วย

พท.มุ่งเปลี่ยนแปลงให้เป็นอยู่ดีขึ้น

น.ส แพทองธาร กล่าวว่า จากการลงพื้นที่ ทั้ง 2ตลาดพบว่า ได้รับการต้อนรับจากพี่น้องประชาชนอย่างอบอุ่น พี่น้องประชาชนรู้สึกทนไม่ไหว อยากเลือกตั้ง ถือเป็นกำลังใจให้พรรค พท.อยากเดินสายพบปะพี่น้องประชาชนต่อไป เพื่อยืนยันว่า พรรคมีความพร้อมที่จะเปลี่ยนแปลงให้พี่น้องประชาชนให้มีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น โดยตลอดการลงพื้นที่วันนี้พบว่า ประชาชนให้การตอบรับกับนโยบายของเราเป็นอย่างดี โดยสองข้างทางมีป้ายประชาสัมพันธ์นโยบายของพรรค โดยเฉพาะข้อความที่ว่า“นโยบายดีๆใครก็พูดได้ แต่คนที่ทำได้คือพรรคเพื่อไทย”รวมถึงมีพี่น้องประชาชนนำบัตรสมาชิกพรรคไทยรักไทยที่มีลายเซนต์ ดร.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ซึ่งตนรู้สึกชื่นใจที่พี่น้องประชาชนไว้ใจเรามาอย่างยาวนาน ขณะนี้กว่า 20 ปี แน่นอนว่าเราจะไม่ทำให้พี่น้องประชาชนผิดหวัง

มั่นใจพท.ได้สส.นนทบุรีครบ8เขต

เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า จะรักษาเก้าอี้และได้พื้นที่เพิ่มขึ้นในจ.นนทบุรีไว้ได้หรือไม่ เพราะมีสส.ที่ย้ายออกจากเพื่อไทยและมีเพิ่มเขตใหม่อีก2เขต นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว หัวหน้าพรรค พท.กล่าวว่า ที่นนทบุรีมีทั้งหมด 8เขต เราคัดเลือกผู้สมัครแล้วเรียบร้อยและมีความมั่นใจในพื้นที่มาตลอด เรามั่นใจว่าพี่น้องประชาชนจะสนับสนุนพรรคเพื่อไทยทั้ง 8เขต ในเขตนี้เราได้ผู้สมัคร นายนพดล มาทดแทน เรามั่นใจผู้สมัครมีความแน่นแฟ้นในพื้นที่ ทำให้เรามั่นใจกว่าเดิม

‘อุ๊งอิ๊ง’บอกเร็วไปรับไมตรี’บิ๊กป้อม’

น.ส.แพทองธาร กล่าวถึงนโยบายล่าสุดพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ที่เปิดนโยบายเพิ่มวงเงินในบัตรสวัสดิการแห่งรัฐเป็น 700บาท เป็นการบลัฟพรรคเพื่อไทย (พท.) ในนโยบายค่าแรง 600บาทหรือไม่ ว่า เราพูดและเราสัญญาในสิ่งที่มั่นใจว่า เราทำได้ ส่วนพรรคอื่นก็เป็นเรื่องของพรรคนั้นที่พิจารณากันเอง ซึ่งพรรค พท.พิจารณาว่า ภายในปี70 จะทำให้ได้ตามที่บอกประชาชน ส่วนนโนบายพรรค พปชร.เป็นวิธีที่ไม่เหมือนกัน ส่วนกรณีที่ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ์ รองนายกรัฐมนตรีและหัวหน้าพรรค พปชร.พร้อมที่จะทอดไมตรี พร้อมที่จะจับมือกับทุกพรรคเพื่อก้าวข้ามความขัดแย้งนั้น การก้าวข้ามความขัดแย้งเป็นเรื่องดี แต่เรายึดหลักประชาธิปไตยและเราหาเสียงแบบแลนสไลด์ เพราะต้องการที่จะทำให้นโยบายของพรรค พท. เกิดขึ้นจริงให้ประชาชน ถ้าต้องจับมือพรรคร่วมอย่างที่บอกนโยบาย หรือแนวคิดต้องเป็นในแนวทางเดียวกัน เพราะเป็นทิศทางที่ประชาชนผ่านแล้วถึงเลือกเรา เรายึดสิ่งนั้นเป็นหลัก

อ้อนขอทุกคะแนนเสียงเพื่อแลนด์สไลด์

เมื่อถามย้ำว่า ถ้าพรรค พปชร.ทอดไมตรีมาหาพรรค พท.ก่อน มีความเป็นไปได้ที่จะเห็น 2พรรคนี้จับมือกันหรือไม่ น.ส.แพทองธาร กล่าวว่า ยังเร็วเกินไปที่จะตอบ เราอยากให้เกิดแลนด์สไลด์ ทุกคะแนนเสียงอย่าปันใจให้พรรคอื่น ขอให้เลือกทั้งคนทั้งพรรค เพราะประเทศไม่ไหวแล้ว ต้องใช้นโยบายที่จะทำให้ชีวิตประชาชนดีขึ้น เกมการเมืองคือการเลือกตั้งเท่านั้น ส่วนเกมการเมืองอย่างอื่นที่เป็นดราม่านั้น ไม่สำคัญและไม่จำเป็น สิ่งสำคัญคือปากท้องพี่น้องประชาชน

ฟุ้ง3แคนดิเดตนายกฯปลุกปชช.เชื่อมั่น

ด้าน นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว สส.น่าน และหัวหน้าพรรคเพื่อไทย (พท.) กล่าวถึงนโยบายล่าสุดพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ที่เปิดนโยบายเพิ่มวงเงินในบัตรสวัสดิการแห่งรัฐเป็น 700บาท ถือเป็นการบลัฟพรรคเพื่อไทย (พท.) ในนโยบายค่าแรง 600บาทหรือไม่ ว่า เรามั่นใจว่านโยบายที่เราพูดไป เราทำได้จริง ฉะนั้นการพูดของเราจะพูดบนพื้นฐานของการทำได้จริง แต่เราไม่ทราบว่า พรรคอื่นจะมีแนวทางอย่างไร ก็ให้เป็นเรื่องของพรรคอื่นไป แต่ของเรามั่นใจว่า สิ่งที่เราพูดคือ สิ่งที่เราทำได้จริง เมื่อถามย้ำว่า แล้วมองว่านโยบายของพรรค พปชร.เป็นอย่างไร นพ.ชลน่าน กล่าวว่า“ไม่มองอย่างไร ก็เป็นนโยบาย”

เมินเพิ่มเงินคนจน-ขอทำนโยบายได้จริง

นพ.ชลน่าน กล่าวถึงเหตุผลที่ทำให้คนเลือกพรรค พท.มากกว่าพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) หรือรวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) ว่า เหตุที่ทำให้พี่น้องประชาชนเชื่อมั่นและเลือกพรรค พท.มากกว่าเป็นผลงานที่เราเคยทำให้พี่น้องประชาชนมาตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน ประชาชนเห็นว่า สิ่งที่เราพูด เราทำได้ เป็นประชาธิปไตยที่กินได้ ฉะนั้นจุดเด่นของพรรค พท.คือ นโยบายที่ทำให้เป็นจริง นอกจากนี้ ยังมีเรื่องของบุคลากรที่เราทำงานกับพี่น้องอย่างจริงจัง โดยเฉพาะสส.ของเราที่ทำงานในพื้นที่อย่างจริงจัง สามารถเข้าถึงพี่น้องประชาชนได้ รวมถึงความเชื่อมั่นที่หากเขาเลือกแล้ว คนที่เขาเลือกจะนำพานโยบาย นำพาทุกสิ่งทุกอย่างกลับคืนสู่พี่น้องประชาชน ตนคิดว่าสิ่งนี้จะเป็นปัจจัยชี้ขาดที่ทำให้เขาเลือก พท.

เปิดชื่อเมื่อยุบสภา-หรือต้นมีนาคม

เมื่อถามถึงแคนดิเดตนายกฯของพรรค พท.นั้น นพ.ชลน่าน กล่าวว่า เรื่องแคนดิเดตนายกฯของพรรค เราใช้หลักการว่า เราจะเปิดทั้งหมด 3รายชื่อ แต่จะจัดลำดับการหรือไม่นั้นในส่วนนี้ไม่ใช่ประเด็น แต่ 3รายชื่อแคนดิเดตนายกฯของพรรคเรา จะสร้างความเชื่อมั่นให้ประชาชน ส่วนจะเปิดเมื่อไรนั้น หากยุบสภาเราจะประกาศทันที แต่หากสภาอยู่ครบวาระเราก็จะดูเวลาที่เหมาะสม ก็อาจจะเป็นระยะเวลาใกล้ๆนั้น โดยอาจจะเป็นประมาณต้นเดือนมีนาคม

ยังไม่จับมือใคร-รอผลหลังเลือกตั้งก่อน

ด้าน นายประเสริฐ จันทรรวงทอง สส.นครราชสีมา และเลขาธิการพรรค พท. กล่าวว่า การเปิดตัวว่าที่ผู้สมัคร สส.ทั้งหมดนั้น คาดว่าประมาณต้นเดือนก.พ.นี้ จะประกาศครบทั้งหมด ส่วนกรณีที่ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะหัวหน้าพรรค พปชร.ประกาศพร้อมที่จะจับมือกับทุกพรรค เพื่อก้าวข้ามความขัดแย้งนั้น เรื่องนี้ตนไม่ทราบและจริงๆแล้ว ระหว่างการเลือกตั้ง เราต้องเคารพการตัดสินใจของพี่น้องประชาชนก่อน

‘ไพบูลย์’ถาม’โรม’เหิมไม่ร่วมสังฆกรรม

ที่รัฐสภา นายไพบูลย์ นิติตะวัน สส.บัญชีรายชื่อ และรองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) กล่าวถึงกรณีที่ นายรังสิมันต์ โรม สส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล (ก.ก.) ประกาศไม่จับกับพรรค พปชร. หลังพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและหัวหน้าพรรค พปชร. ยืนยันว่าสามารถร่วมงานได้กับทุกพรรคการเมือง ว่า สิ่งที่หัวหน้าพรรคพูด เป็นธรรมดาที่จะต้องเปิดกว้าง ใครที่จะพูดคุยกับหัวหน้าพรรคก็ยินดี แต่ส่วนตัวสำหรับพรรค ก.ก.ตราบใดที่มีนโยบายจะแก้ไขมาตรา112 ไม่มีวันคุยด้วยและส่วนตัวเชื่อว่าในพรรค พปชร.ส่วนใหญ่เห็นตรงกัน เรารับเรื่องนี้ไม่ได้จริงๆ ส่วนที่ นายรังสิมันต์ ออกมาประกาศไม่จับมือกับพรรค พปชร.ถือเป็นความเห็นของเขา แต่ พปชร.ทุกอย่างต้องเกิดขึ้นหลังเลือกตั้ง

ยังดึงดันแก้ม.112ระวังเจอทีเด็ดอีกรอบ

นายไพบูลย์ กล่าต่อว่า ส่วนประเด็นที่ นายรังสิมันต์ ระบุว่า การลาประชุม ครม.ของ พล.อ.ประวิตร เพื่อไปแถลงนโยบาย เป็นเรื่องไม่เหมาะสมไม่ให้ราคานั้น ขอย้อนถามว่า นายรังสิมันต์ เป็นใคร เป็นความเห็นแค่คนเดียว ไม่ต้องสนใจ ยืนยันได้ว่า การทำงานของพรรค พปชร.ยึดกฎหมายทั้งสิ้น ไม่ทำอะไรที่นอกเหนือกฎหมาย ต่างจากบางพรรคที่ไปเสนอแก้ไขมาตรา112 ไปอ่านคำวินิจฉัยศาลรัฐธรรมนูญให้ดี เพราะตนเป็นคนยื่นกรณีเกี่ยวกับการยุบพรรคไทยรักษาชาติ ในคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญนั้น มีความชัดเจนว่า ถ้าไปกระทำใดๆก็ตาม อันอาจเป็นปฏิปักษ์ทำให้เสียหายต่อสถาบัน ก็จะมีปัญหาทั้งสิ้น ขอเตือนไว้ก่อน การจะแก้มาตรา112 ความเห็นตนในฐานะเป็นฝ่ายกฎหมายไม่ควรไปแตะอย่างยิ่ง แต่ถ้าจะทำจริงๆ อาจเห็นตนทำอะไรบางอย่างอีกครั้งหนึ่ง ฝากบอกด้วยครับ” นายไพบูลย์ กล่าว

พปชร.เปิดกว้างพูดคุยตั้งรบ.หลังลต.

เมื่อถามถึง ความเป็นไปได้กับการจับมือกับพรรค พท.นายไพบูลย์ กล่าวว่า พล.อ.ประวิตรกล่าวชัดเจนว่าหลังการเลือกตั้งพร้อมที่จะพูดคุยกับทุกพรรคที่ติดต่อมา แต่ไม่ใช่ พล.อ.ประวิตร เสนอตัวไปพูดกับเขาเอง แต่พรรคการเมืองไหนโทรไปหลังเลือกตั้งก็พร้อมที่จะพูดคุยด้วยทั้งสิ้น

เมื่อถามว่า น.ส.แพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย ให้สัมภาษณ์ไม่พร้อมจับมือกับพรรค พปชร.นายไพบูลย์ กล่าวว่า ก็ถูกแล้ว เพราะยังไม่มีการเลือกตั้ง ทุกพรรคเมื่อถึงเวลาก็ต้องแข่งขันกันในสนามเลือกตั้ง อย่าเพิ่งพูดว่าใครเป็นใคร หรือใครผูกมิตรกับใคร แต่หลังเลือกตั้งทุกพรรคการเมืองก็จะพูดคุยกัน ให้รอดู อย่างไรก็ตาม ตนมั่นใจว่า พล.อ.ประวิตร จะเป็นผู้นำในการจัดตั้งรัฐบาล ในบรรดาแคนดิเดตนายกฯทั้งหมด ขอย้ำเลยว่า พล.อ.ประวิตร เป็นคนเดียวที่มีโอกาสเป็นนายกฯคนที่30มากที่สุด

เลื่อนจัดประชุมใหญ่วิสามัญเป็น27ม.ค.

ผู้สื่อข่าวรายงานจากพรรคพลังประชารัฐ ว่า พรรค พปชร.เตรียมจัดประชุมใหญ่วิสามัญในวันที่ 27 มกราคม เวลา 10.00น.ที่ห้องประชุมพรรคพลังประชารัฐ โดยระเบียบวาระการประชุมประกอบด้วย เรื่องที่ประธานจะแจ้งต่อที่ประชุม รับรองรายงานการประชุม แก้ไขเปลี่ยนแปลงข้อบังคับพรรคพลังประชารัฐ เลือกตั้งกรรมการบริหารพรรคแทนตำแหน่งที่ว่าง เลือกตั้งกรรมการสรรหาแทนตำแหน่งที่ว่าง และเรื่องอื่นๆ ทั้งนี้ เดิมกำหนดประชุมวันเสาร์ที่ 21 ม.ค.แต่เนื่องจากตรงกับเทศกาลตรุษจีน สมาชิกที่มีเชื้อสายจีนอาจไม่สะดวก จึงได้เลื่อนการประชุมออกไป

‘ไทยภักดี’ยังแทงกั๊กเลือกอยู่กับใคร

ขณะที่ นพ.วรงค์ เดชวิกรม หัวหน้าพรรคไทยภักดี กล่าวถึงความชัดเจนว่าทางพรรคไทยภักดี จะร่วมงานกับ พล.อ.ประยุทธ์ หรือ พล.อ.ประวิตร ว่า เราร่วมได้ทั้งหมด แต่เรายึดในจุดยืนของเราคือ ใครหรือพรรคไหนที่มีเจตนาล้มล้างสถาบัน เราไม่ร่วม พรรคไหนมีเจตนาโกงเราก็ไม่ร่วม อย่างไรก็ตาม เราพร้อมทำหน้าที่ไม่ว่าจะเป็นรัฐบาลหรือฝ่ายค้าน ถ้าประชาชนให้โอกาสเราเข้ามาทำหน้าที่ในสภาเราก็พร้อม ซึ่งเราเคยพิสูจน์ให้เห็นแล้วว่า เราเคยปกป้องผลประโยชน์ชาติ 7-8แสนล้านบาท

เมื่อถามว่าหากมองสถานการณ์ทางการเมืองในขณะนี้มองว่าพล.อ.ประยุทธ์ จะไปต่อไปได้หรือไม่ นพ.วรงค์กล่าวว่าหากถามเจ้าตัวก็ต้องคิดว่าตนเองไปต่อได้ เหมือนกันตนคิดว่าพรรคไทยภักดีก็ไปได้ ซึ่งตรงนี้เราก็ไม่สบประมาทกันต้องบอกกับพรรคการเมืองที่บอกว่าตนเองเป็นพรรคใหญ่ พรรคการเมืองที่บอกว่าตนเองจะชนะแบบแลนด์สไลด์ อย่าดูถูกประชาชน การเลือกตั้งทุกครั้งประชาชนได้ตัดสินอะไรใหม่ทุกครั้ง วันนี้ประชาชนทุกภาคส่วนติดตามข่าวสาร เขารับรู้ ฉะนั้นทุกพรรคการเมืองเขามีความหวังหมด

‘บิ๊กตู่’ตัวจริงคิดบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ

นายธนกร วังบุญคงชนะ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีมีสื่อมวลชนสอบถามถึงการที่พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) เปิดนโยบายเพิ่มเงินบัตรสวัสดิการ 700ต่อเดือน ซึ่งเกทับพรรคเพื่อไทย (พท.) กรณีนโยบายค่าแรง 600บาท ว่า โครงการลงทะเบียนเพื่อสวัสดิการแห่งรัฐ เริ่มดำเนินการครั้งแรกเมื่อปี 2559 จนถึงปัจจุบัน ซึ่ง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ และรมว.กลาโหม เป็นผู้ให้แนวคิดเพื่อยกระดับประสิทธิภาพการจัดสรรสวัสดิการของประเทศไทยในรอบหลายสิบปี โดยให้เงินช่วยเหลือของภาครัฐตรงไปยังกลุ่มเป้าหมาย จนสามารถระบุตัวตนผู้มีรายได้น้อยได้อย่างแท้จริง ซึ่งผู้รับสิทธิโครงการสวัสดิการแห่งรัฐ ปี2559 จำนวน7.7ล้านราย อย่างไรก็ตาม ล่าสุด ข้อมูลผู้มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐปัจจุบัน (ณ วันที่ 1 มกราคม 2566) มีจำนวน 13.22ล้านราย

ช่วยคนจน-กลุ่มเปราะบาง-ตรงเป้ายั่งยืน

นายธนกร ระบุว่า ที่ผ่านมา รัฐบาลในอดีตไม่สามารถจัดสวัสดิการสังคม หรือให้เงินช่วยเหลือของภาครัฐได้อย่างตรงกลุ่มเป้าหมาย เนื่องจากข้อมูลผู้มีรายได้ระดับรายบุคคลกระจายอยู่ตามหน่วยงานหลายแห่ง ทั้งนี้ โครงการบัตรสวัสดิการแห่งรัฐถือเป็นครั้งแรกที่มีการออกแบบโครงการฯระดับประเทศ สามารถจัดสวัสดิการรัฐให้เข้าถึงประชาชนผู้มีรายได้น้อยได้แบบรายบุคคล อีกทั้งยังเก็บตกกลุ่มเปราะบางของสังคม ทั้งผู้พิการ ผู้สูงอายุ ผู้ป่วยติดเตียง ที่เคยถูกละเลยในอดีตให้เข้าถึงสวัสดิการรัฐที่จำเป็น ด้วยการใช้จ่ายวงเงินผ่านบัตรสวัสดิการฯ ทั้งการซื้อสินค้า อาหาร ช่วยค่าน้ำ ค่าไฟและค่าใช้จ่ายการเดินทาง รวมทั้งการใช้จ่ายผ่านร้านค้าธงฟ้าประชารัฐ ร้านประชารัฐของกองทุนหมู่บ้าน ร้านถุงเงินประชารัฐ ซึ่งช่วยกระจายรายได้สู่ชุมชนและเศรษฐกิจฐานราก

กลับมาเป็นนายกฯสานงานต่อแน่นอน

“การจัดสวัสดิการสังคมและให้เงินช่วยเหลือในยุค พล.อ.ประยุทธ์ ช่วยแก้ปัญหาความยากจนในสังคมไทยและส่งต่อคุณภาพชีวิตที่ดีสำหรับประชาชนผู้มีรายได้น้อยและกลุ่มเปราะบางได้อย่างยั่งยืน หากการเลือกตั้งสมัยหน้า ท่านนายกฯได้กลับมาบริหารประเทศอีกครั้ง ผมเชื่อว่าทุกนโยบายจะถูกนำมาคิดเพื่อต่อยอดและพัฒนาให้ดีขึ้นกว่าปัจจุบันอย่างแน่นอน เพราะท่านนายกฯ ลุยงานหนักทุกวัน ย่อมทราบถึงข้อดีในทุกนโยบาย สิ่งที่ดีท่านนายกฯพร้อมสานต่อและเพิ่มเติมให้โดนใจประชาชนมากขึ้น สิ่งที่ต้องปรับปรุงก็พร้อมที่จะอุดช่องโหว่ บนพื้นฐานประชาชนต้องได้ประโยชน์สูงสุด” นายธนกร กล่าว

สภาล่มทุบสถิติ25นาที-สกัดกม.กัญชา

ที่รัฐสภา ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎรที่มี นายสุชาติ ตันเจริญ รองประธานสภาฯคนที่สอง ทำหน้าที่เป็นประธานการประชุม ได้แจ้งให้ที่ประชุมทราบว่า นายณัฐวุฒิ กองจันทร์ดี สส.หนองบัวลำภู พรรคเพื่อไทย ได้แจ้งต่อนายทะเบียน เมื่อวันที่ 12ม.ค.ลาออกจากสส.เช่นเดียวกัน นายเขตรัฐ เหล่าธรรมทัศน์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรครวมพลัง ได้แจ้งต่อนายทะเบียน เมื่อวันที่ 17ม.ค.ทำให้สมาชิกภาพความเป็น สส.นั้นสิ้นสุดลงตามรัฐธรรรมนูญ ทั้งนี้ จำนวน สส.ที่ปฏิบัติหน้าที่ได้จนถึงปัจจุบัน คือ 432คน

จากนั้น ที่ประชุม10.45น.ได้พิจารณาร่างพรบ.กัญชา กัญชง พ.ศ....วาระ2 มาตรา11 ต่อจากการประชุมเมื่อคราวที่แล้วที่สภาล่ม โดย นายสุชาติ สั่งให้ลงมติทันที เนื่องจากได้มีการอภิปรายครบไปแล้วตั้งแต่คราวก่อน ปรากฎว่าเมื่อกดออดเพื่อเช็คองค์ประชุมก่อนลงมติก็ต้องใช้เวลาถึง 20นาที กว่าองค์ประชุมจะครบ ต่อมา นายสุชาติ ดำเนินการให้ที่ประชุมลงมติมาตราดังกล่าวและประกาศผลการลงมติว่า มีจำนวนผู้ลงมติ 203คน แบ่งเป็นเห็นด้วย174 ไม่เห็นด้วย4 งดออกเสียง24ไม่ลงคะแนน1เสียง ถือว่าจำนวนผู้ลงมติไม่ถึง 216คน ซึ่งศาลฏีกาเคยมีคำพิพากษาว่า การลงมตินั้น องค์ประชุมจะต้องครบด้วย เพราะฉะนั้นการลงมติครั้งนี้ถือว่าไม่ครบองค์ประชุม จึงขอปิดการประชุมในเวลา 11.12น.ทั้งนี้ เป็นการประชุมสภาฯที่ใช้เวลาน้อยที่สุด ประมาณ 25นาทีเท่านั้น

‘ปานเทพ’ตะเพิดสส.ไม่ทำงานลาออก

นายปานเทพ พัวพงษ์พันธ์ คณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) กัญชา กัญชง พ.ศ......กล่าวถึงกรณีเหตุการณ์สภาล่มในการพิจารณาร่างพ.ร.บ.กัญชา กัญชง พ.ศ... ว่า กมธ.ไม่สามารถทำอะไรได้ เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นสะท้อนถึงการเล่นเกมการเมืองมากกว่าผลประโยชน์ประชาชนในเรื่องกัญชา มีนักการเมืองบางกลุ่มไม่อยากให้มีกฎหมาย หวังนำไปใช้การหาเสียงเลือกตั้ง ขอให้ประธานเปิดรายชื่อ ส.ส.ที่ไม่ลงมติในที่ประชุมสภาว่า มีพรรคใดบ้าง จะได้รู้ว่า ส.ส.ไม่ได้ทำหน้าที่ตัวเอง กินภาษีประชาชนในกฎหมายสำคัญ ทั้งนี้ หากปิดสมัยประชุมแล้ว ร่างกฎหมายฉบับนี้ไม่ผ่านจะไม่ส่งผลต่อประกาศกระทรวงสาธารณสุข เรื่องการปลดล็อกกัญชาจากยาเสพติด คนที่มีอำนาจลงนามในการให้กัญชากลับไปเป็นยาเสพติดคือ นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรมว.สาธารณสุข ช่วงเวลาที่เหลืออยู่ หากต้องการพิจารณาร่างกฎหมายกัญชาให้ทัน ถ้าจะประชุมเพียง 3ครั้ง ก็ทำได้ ต้องอภิปรายให้น้อย โหวตให้มาก ขณะนี้เพิ่งพิจารณาได้ 11มาตรา เหลืออีกกว่า 80มาตรา แม้สภาล่มเป็นเกมการเมือง แต่กมธ.ยังไม่หมดหวัง หากสมาชิกไม่เห็นด้วยกับเนื้อหา ก็โหวตแก้ไขได้ ในการพิจารณายังไม่มีใครไม่เห็นด้วยกับกมธ.เสียงข้างมาก ส่วนส.ส.ที่ไม่พร้อมทำหน้าที่ ควรละอายต่อตัวเอง และประชาชน ควรลาออกจากส.ส. ไม่ใช่กินภาษีประชาชนแล้วไม่มาประชุมสภา

‘พิเชษฐ’ปูด4พรรครวมหัวคว่ำกม.กัญชา

ด้าน นายพิเชษฐ สถิรชวาล สส.บัญชีรายชื่อ พรรคพลังประชารัฐ กล่าวว่า ดูแนวโน้มแล้วคิดว่า ร่างพ.ร.บ.กัญชาไม่ผ่านการพิจารณาในสมัยประชุมนี้แน่ จะเกิดเหตุการณ์สภาล่ม จากองค์ประชุมไม่ประชุมจากการแสดงตน หรือล่มตอนโหวตลงคะแนน วนเวียนเช่นนี้ไปเรื่อยๆทุกวันพุธ จนหมดสมัยประชุมสภาในวันที่ 28ก.พ.2566 ดูแล้วคงยากจะแก้ไข เพราะพรรคหลักอย่าง พรรคเพื่อไทย พรรคประชาธิปัตย์ พรรคก้าวไกล ต่างไม่เอาด้วย ส่วนพรรคพลังประชารัฐ แม้จะให้ฟรีโหวต แต่สส.หลายคนก็ไม่เอาด้วย เพราะกระแสประชาชนต่อต้านหนักทั้งจากกลุ่มผู้ปกครองและกลุ่มชาวมุสลิม ส่วนตัวอยากให้พิจารณาวาระ2 จนครบทุกมาตรา แล้วไปโหวตคว่ำตอนวาระ3 จะเป็นทางออกที่เหมาะสมที่สุด แล้วค่อยไปว่าต่อในรัฐบาลชุดหน้า จะเสนอร่างพรบ.กัญชา กัญชง เข้ามาอีกหรือไม่

‘วิษณุ’ชี้ตั้งใจให้ล่ม*แต่ยังทำงานต่อได้

นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี ตอบคำถามมองอย่างไรหลังที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎรล่มอีกครั้งว่า ไม่รู้จะมองอย่างไรเพราะการที่สภาล่มมีทั้งล่มโดยตั้งใจ ซึ่งเป็นเทคนิคทางการเมืองที่ไม่อยากให้กฎหมายผ่าน เมื่อถามว่า หลายฝ่ายมองว่า ถ้าล่มบ่อยขณะนี้ รัฐบาลไม่ควรถูลู่ถูกังอยู่ต่อ นายวิษณุ กล่าวว่า ไม่เกี่ยวกัน ขณะนี้ยังไม่ถึงขนาดถูลู่ถูกัง เพราะยังมีกระทู้ถาม ยังมีญัตติและเรื่องอื่นที่สภาต้องทำ เมื่อถามว่า หากสภาล่มบ่อยจะเป็นเหตุให้ร่าง พรบ.กัญชาและร่างพรบ.คู่ชีวิต ถูกแขวนไปสมัยหน้าหรือไม่ นายวิษณุ กล่าวว่า เป็นไปได้ แต่จะทำอย่างไรได้หากเขาตั้งใจ เมื่อถามถึงการอภิปรายทั่วไปโดยไม่ลงมติตามรัฐธรรมนูญ มาตรา152 รัฐบาลมีโจทย์หรือไม่ว่าจะให้พิจารณาวันใด นายวิษณุ กล่าวว่า มี คือ ตั้งแต่วันที่ 15ก.พ.เป็นต้นไป แต่ไมได้กำหนดกรอบเวลาไว้ ขอให้วิปไปตกลงกันในเรื่องนี้ จะยาวถึงวันที่ 28ก.พ.ก็ยังได้

เปิด3เงื่อนไขวางไทม์ไลน์เลือกตั้ง

นายวิษณุ ยังกล่าวถึงกรณีรัฐบาลหารือกับคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) เพื่อวางไทม์ไลน์เลือกตั้งแล้วหรือยังว่า ยังไม่มี เพราะมีเงื่อนไขอยู่3อย่างคือ ยุบสภาก่อนหมดสมัยประชุม ยุบสภาหลังปิดสมัยประชุม และไม่ยุบสภา ปล่อยให้สภาหมดวาระวันที่ 23 มี.ค.โดยทั้ง 3อย่างจะมีวิธีการต่างกัน จึงยังไม่รู้จะเชิญ กกต.มาหารืออย่างไร วันนี้ที่ กกต.วางไทม์ไลน์ไว้คือ รัฐบาลอยู่ครบวาระ อย่างไรก็ตาม หากรู้แนวทางที่ชัดเจน จะเชิญ กกต.มาหารือทันที ไม่ใช่เราจะไม่หารือ เพียงแต่ยังหารือตอนนี้ไม่ได้ ยืนยันว่าดำเนินการทัน ส่วนเรื่องงบประมาณนั้น ตนได้สอบถาม กกต.ไปแล้ว คาดว่าจะใช้ประมาณ 5พันล้านบาท ซึ่ง กกต.มีงบประมาณที่เหลือจากปีก่อนๆ และรัฐบาลเพิ่มไปอีกจำนวนหนึ่ง