'ส.ส.เต้'กลับบ้านเกิดพิษณุโลก อ้อนขอโอกาสนั่งนายกฯ

'ส.ส.เต้'กลับบ้านเกิดพิษณุโลก อ้อนขอโอกาสนั่งนายกฯ

วันศุกร์ ที่ 27 มกราคม พ.ศ. 2566, 21.56 น.

‘ไทยศรีวิไลย์’ บุกบ้านเกิด ‘ส.ส.เต้’ ร่วมงานสมโภชพระพุทธชินราช - ‘มงคลกิตติ์’ ย้ำ ‘เกิด – เรียนถึง ม.ต้น’ ที่พิษณุโลก พร้อมขอบคุณที่ทำให้คนธรรมดาได้เป็น ส.ส. ดูแลคนไทยและสร้างความภาคภูมิใจให้กับชาวสองแคว  เผยลงส่ง ส.ส. ครบ 5 เขต อ้อนขอโอกาสประชาชนให้เป็นนายกรัฐมนตรีจากจังหวัดพิษณุโลกคนแรก 

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายมงคลกิตติ์  สุขสินธารานนท์  ส.ส.บัญชีรายชื่อและหัวหน้าพรรคไทยศรีวิไลย์ พร้อมด้วย นางสาวภคอร จันทรคณา-นายวิวัฒน์  เจริญพาณิชย์ศิริ  รองหัวหน้าพรรค,นายศยุน ชัยปัญญา เลขาธิการพรรค,นายสรกฤช จันทรคณา  โฆษกพรรค,นางสาวอริณรดา สาระชัย นายทะเบียนพรรค, นางสาวกฤษยากร สรชัย ผู้ช่วยเหรัญญิกพรรค,นายอนุรักษ์  อมรเมตตาจิตต์  ผู้ช่วยเลขาธิการพรรค,นายอดิศร สังค์จันทร์ กรรมการบริหารพรรค และนางสาวกนิษฐรินทร์ พัชรภักดีโชติ หรือ กุ้งพลอย   ว่าที่ ผู้สมัคร ส.ส.จังหวัดอ่างทอง เดินทางไปยังวัดพระศรีรัตนมหาธาตุวรมหาวิหาร (วัดหลวงพ่อพระพุทธชินราช)  เพื่อร่วมงานสมโภชพระพุทธชินราช  โดยได้ไหว้พระขอพรเพื่อเสริมสิริมงคล  ซึ่งงานดังกล่าว จะมีไปจนถึงวันที่ 2 กุมภาพันธ์นี้  โดยมีประชาชนให้การต้อนรับอย่างคึกคัก


 

นายมงคลกิตติ์ กล่าวว่า การกลับมาบ้านเกิดของตนในคราวนี้ นอกจากจะพาคณะกรรมการบริหารพรรคฯ มาไหว้องค์พระพุทธชินราช พระพุทธศักดิ์สิทธิ์ที่เป็นศูนย์รวมใจของชาวพิษณุโลกและคนไทยทั่วประเทศ เพื่อขอพรให้พรรคไทยศรีวิไลย์ประสบความสำเร็จตามเป้าหมายในการเลือกตั้งครั้งต่อไปแล้ว ยังได้มาพูดคุยสอบถามถึงสารทุกข์สุขดิบของประชาชนที่มามาร่วมงานสมโภชพระพุทธชินราช เพื่อนำไปคิดเป็นนโยบายเพิ่มเติมของพรรคฯ เพราะจากการที่พรรคฯ ได้มีการประกาศนโยบายเพื่อใช้ในการหาเสียง ในการจัดงานระดมทุนพรรคฯ เมื่อวันที่ 14 มกราคมที่ผ่านมา ปรากฏว่า มีเสียงตอบรับเป็นอย่างดีจากประชาชน เพราะเป็นพรรคการเมืองไม่กี่พรรค ที่กล้าเอาเงินที่สกปรกและรั่วไหลจากระบบ มาทำให้เป็นเงินสะอาดที่นำมาพัฒนาประเทศ จะเห็นได้จากการจับกุมผู้อยู่เบื้องหลังเว็บการพนันรายใหญ่ จะมีทรัพย์สินราคาสูงจำนวนมากที่ได้มาจากการฟอกเงิน ซึ่งควรที่จะเป็นเงินสำหรับสร้างสาธารณูปโภค และดูแลชีวิตคนไทยทั้งประเทศ  ดังนั้น ตนต้องการให้มีการนำผลประโยชน์มหาศาลที่เคลื่อนไหวในการพนันมาแปรผันเป็นเงินที่ดูแลประชาชนตามหลักของรัฐสวัสดิการ เช่น  ค่าบำรุงการศึกษาฟรี ตั้งแต่ ระดับ อนุบาล-ประถมศึกษา-มัธยมศึกษา-ปวช . จำนวน 9 ล้านคน วงเงิน 45,000 ล้านบาท/ปี  บำนาญคนชรา 3,000 บาท/เดือน 36,000 บาท/ปี  จำนวน 12.8 ล้านคน วงเงิน 460,800 ล้านบาท/ปี  เงินผดุงเกียรติสำหรับทหารผ่านศึก ทหารผ่านศึก 2.66 แสนคน  3,000 บาท/เดือน 36,000 บาท/ปี จนเสียชีวิต วงเงิน 9,576 ล้านบาท/ปี โดยพร้อมออกเป็น พ.ร.บ.เงินผดุงเกียรติทหารผ่านศึก พ.ศ....  เป็นต้น ดังนั้น นโยบายของพรรคฯ ที่เข้ามาเพิ่มเติมอีกก็คือ การสนับสนุนให้คนไทยออกกำลังกาย เพื่อสุขภาพและลดค่าใช้จ่ายในการนำเข้ายาเพื่อรักษา โดยเฉพาะโรคไม่ติดต่อเรื้อรัง หรือพวกโรคเบาหวาน ความดัน ไขมัน หัวใจ และการทำนุบำรุงวัดวาอารามต่างๆ ให้ครอบคลุมทั้งการบูรณปฏิสังขรณ์ การดูแลสุขภาพพระสงฆ์ และการส่งเสริมให้ประชาชนมีส่วนร่วมในการพัฒนาวัดมากยิ่งขึ้นด้วย 

 

“ผมเกิด พิษณุโลก  เรียน อนุบาล ประถม มัธยมต้น ที่ พิษณุโลก และได้มีโอกาสเข้าไปเรียนในสถานศึกษาที่มีความเชี่ยวชาญด้านเทคโนโลยีเป็นอันดับต้นๆ  จนผมได้รับฉายาว่า ‘เต้ พระราม 7 ’ อย่างไรก็ตาม การที่ผมได้รับโอกาสเป็น ส.ส.บัญชีรายชื่อ เพื่อดูแลคนไทยทั้งประเทศ ผมก็ได้ทำงานให้กับประชาชนอย่างแท้จริง ซึ่งผมก็ต้องขอบคุณทุกคะแนนเสียงของชาวพิษณุโลกที่มอบให้คนธรรมดาที่ไม่มีเงินทุนหรือกระสุนทั้งใต้ดินบนดิน ได้มาเป็น ส.ส. ถือเป็นความภาคภูมิใจของผมที่ทำให้กับบ้านเกิด ซึ่งการมาพิษณุโลกซึ่งของผมในครั้งนี้ ถือเป็นโอกาสอันดีในการประกาศตัวกับชาวพิษณุโลกว่า ตนขอโอกาสเป็นนายกรัฐมนตรีที่เป็นคนจังหวัดพิษณุโลก เพราะที่ผ่านมา มีรัฐมนตรีหลายคนที่เป็นคนจังหวัดพิษณุโลก แต่ยังไม่เคยก้าวไปถึงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี ในวันนี้ผมจึงขออาสานำพรรคไทยศรีวิไลย์ ที่มีปณิธานอย่างชัดเจนว่า ‘เป็นพรรคการเมืองของประชาชน โดยประชาชน เพื่อประชาชน อย่างแท้จริง’ พร้อมเดินหน้าลงเลือกตั้งตามกติกา โดยยึดมั่น ‘4 ไม่’ คือ ‘ไม่ยุบ ไม่รวม ไม่ดูด ไม่ซื้อ’ มาให้ชาวพิษณุโลกได้พิจารณา

โดยทางพรรคฯ จะได้ส่งสมาชิกที่มีศักยภาพและมีอุดมการณ์แน่วแน่ลงสมัคร ส.ส. ครบทั้ง 5 เขต เพื่อที่จะได้เป็น ส.ส. มาดูแลทุกข์สุขพี่น้องชาวพิษณุโลกอย่างใกล้ชิด และเป็นเสียงสนับสนุนที่สำคัญที่ผมจะได้เป็นนายกรัฐมนตรีที่มาจากจังหวัดพิษณุโลกคนแรกของประเทศไทย” นายมงคลกิตติ์กล่าว

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

Back to Top