"อนุทิน"ยันไม่มีขัดแย้งกับใคร ขอรอผลเลือกตั้งชัดค่อยตัดสินใจ"จับขั้ว"กับใคร ไม่ขัดร่วมงานต่อกับ"บิ๊กตู่" ลั่นพร้อมเป็นนายกฯ หากภูมิใจไทยได้คะแนนมาเป็นอันดับ 1
เมื่อเวลา 17.10 น.วันที่ 29 มกราคม 2566 ที่บริเวณใต้ทางด่วนชุมชนวัดมะกอก เขตราชเทวี กทม. นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรมว.สาธารณสุข ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย (ภท.) พร้อมด้วยคณะผู้บริหารพรรคภูมิใจไทย นายพุทธิพงษ์ ปุณณกันต์ สมาชิกพรรคภูมิใจไทย ในฐานะทีม กทม.พรรคภูมิใจไทย น.ส.ภาดาท์ วรกานนท์ ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.กทม.พรรคภูมิใจไทย ลงพื้นที่พบปะประชาชนชุมชนวัดมะกอก เขตราชเทวี กทม.
โดย นายอนุทิน กล่าวก่อนขึ้นเวทีปราศรัยว่า ตนมาลงพื้นที่ที่เกี่ยวข้องทั้งกับตัวผู้สมัคร ส.ส.ที่พรรคภูมิใจไทยจะส่งลงเลือกตั้งในเขต กทม.รวมถึงงานที่ตนรับผิดชอบในฐานะรองนายกฯ โดยจะพบปะประชาชนเพื่อศึกษา และแก้ไขปัญหาต่างๆ เพราะพรรคภูมิใจไทยเพิ่งจะเสนอตัวเป็นทางเลือกประชาชนในพื้นที่ กทม.ตนคิดว่าประชาชน กทม.ถ้ารู้จักพรรคภูมิใจไทยแล้ว น่าจะชอบในสไตล์ที่กล้าตัดสินใจเป็นประโยชน์ นโยบายต่างๆ ที่เราได้ให้สัญญาไว้ก่อนการเลือกตั้งรอบที่แล้วก็เกิดขึ้น ในพื้นที่ กทม.พรรคภูมิใจไทยก็พัฒนา เช่น แกร๊บถูกกฎหมาย พัฒนาระบบขนส่งคมนาคม การจัดตั้งศูนย์ให้บริการฉีดวัคซีนที่สถานีกลางบางซื่อ เป็นต้น
นายอนุทิน กล่าวต่อว่า ขณะนี้เรามีของ มีน้ำมีเนื้อ ไม่ใช่เอาใครมาก็ไม่รู้ที่ไม่รู้จักกัน แล้วมาบอกว่าจะเสนอให้คนกรุงเทพ เราเอาคนที่เคยเป็น ส.ส.กทม.ใกล้ชิดประชาชน เข้าใจปัญหา กทม.มาเสนอให้คนกรุงเทพฯ จะได้ทำงานอย่างต่อเนื่องให้กับพรรคภูมิใจไทยที่กล้าทำ กล้าตัดสินใจ พูดแล้วทำ มันไม่ใช่ป่าล้อมเมืองอีกต่อไป เป็นเรื่องของคนที่ตั้งใจทำงานให้กับประเทศ มีความคุ้นเคยกับ กทม.ก่อนหน้านี้พรรคภูมิใจไทยไม่คุ้นเคย กทม.แต่ตอนนี้เรามีทีมที่จับต้องได้แล้ว
เมื่อถามว่า ปักธงคว้า ส.ส.กทม.กี่ที่นั่ง นายอนุทิน กล่าวว่า การเข้ามาใน กทม.ของพรรคภูมิใจไทยในช่วงนี้ ถือว่าเป็นสิ่งที่ดี เราไม่มีความขัดแย้งกับใคร พรรคภูมิใจไทยแสดงให้ประชาชนเห็นแล้วว่าความรุนแรงไม่ช่วยแก้ปัญหาใดๆ ได้ เราเข้ามาสร้างงาน สร้างโอกาสให้ประชาชนทั่วประเทศ เมื่อเขามีคุณภาพชีวิตที่ดี มีงานทำ ทำมาหากินสะดวก เขาก็ไม่ทะเลาะเบาะแว้งกับใคร สำหรับใน กทม.เราก็เข้ามาเป็นทางเลือกให้รู้ว่ามันยังอีกพรรคหนึ่งที่ไม่มีความขัดแย้งกับใคร สามารถที่จะเชื่อว่าหลังการเลือกตั้งจะสามารถควบรวมความสามัคคีแล้วแก้ปัญหาให้ประชาชนในระบบรัฐสภา ไม่ต้องไปชุมนุม ไม่ต้องไปปิดถนน ไม่ต้องไปตีรันฟันแทงกับใคร
"ก็อาจเป็นจุดที่ประชาชนพิจารณาว่าพอหรือยัง ความขัดแย้ง ทะเลาะกัน เอะอะอะไรก็ปิดถนนชุมนุม ทำให้ภาพลักษณ์ของกทม.ดูไม่ดี ภาพลักษณ์คนไทยดูไม่ดี ที่สำคัญโอกาสทำมาหากินของประชาชนก็โดนกระทบไปด้วย พรรคภูมิใจไทยไม่เชื่อในสิ่งนี้ และจะทำทุกอย่างให้ปัญหาทั้งหลายได้รับการแก้ไขด้วยเหตุผล" นายอนุทิน กล่าว
เมื่อถามว่า มีบางพรรคออกมาประกาศแล้วว่าไม่จับมือกับใครบ้าง นายอนุทิน กล่าวว่า ก็นี่ไง เราต้องไม่พยายามที่จะเป็นขั้วเป็นฝักเป็นฝ่าย พรรคใดก็ตามที่ได้รับเลือกจากประชาชนเข้ามาเป็น ส.ส.และทำงาน ต้องให้เกียรติประชาชน ส.ส.ไม่ได้เป็นของพรรค เป็นในนามพรรคเท่านั้น ส.ส.เป็นของประชาชน เพราะฉะนั้นเราให้ผลการเลือกตั้งเป็นตัวตัดสินไม่ดีกว่าหรือ ก่อนที่จะไปบอกว่าคนนี้ไปด้วยได้ คนนี้ไปด้วยไม่ได้ ถ้าเราไปบอกอันนี้เราไม่ร่วมกับเขาแน่ๆ เชาก็จะทำทุกอย่างที่จะทำลาย ดิสเครดิตต่างๆ เราก็ต้องแก้ตัว แก้ตัวเสร็จก็ทำลายเขาไป ความขัดแย้งแทนที่จะลดลงก็กลับทวีคูณมากขึ้น พรรคภูมิใจไทยเชื่อในคะแนนที่ประชาชนตัดสิน นั่นคือความต้องการของประชาชน แล้วพรรคการเมืองระดับนำๆต้องแปรความต้องการประชาชนออกมาให้มากที่สุด พรรคภูมิใจไทยแปรได้ร้อยเปอร์เซ็นต์
เมื่อถามว่า จับได้ทุกขั้วใช่หรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า เราให้ประชาชนตัดสิน ผลการเลือกตั้งจะกำหนดว่าทิศทางพรรคภูมิใจไทยจะเป็นแบบใด ส่วนกรณีที่ นายวันชัย สอนศิริ สมาชิกวุฒิสภา (ส.ว.) ออกมาวิเคราะห์การเมืองว่า มีความเป็นไปได้พรรคภูมิใจไทย อาจจะจับขั้วกับพรรคเพื่อไทย และพรรคพลังประชารัฐ เพื่อตั้งรัฐบาล ทำให้พรรคอื่นๆ ที่เหลือจะเป็นฝ่ายค้านนั้น ตนขอบคุณในความหวังดีของทุกฝ่าย นายวันชัย ตนก็รู้จักกันมาเป็นอย่างดี เป็นนักกฎหมาย ตนก็เชื่อถือนายวันชัย เพราะมีความรู้ด้านกฎหมายมากมาย แต่เรื่องการจับขั้ว ขอให้พรรคภูมิใจไทยได้ตัดสินใจด้วยตัวเอง โดยนำคะแนน หรือจำนวน ส.ส.ที่ประชาชนมอบให้มาเป็นตัวกำหนดทิศทาง
เมื่อถามว่า ถ้าคะแนนมาเป็นลำดับ 1 ควรต้องเป็นนายกรัฐมนตรีหรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า ถ้าพรรคภูมิใจไทยได้คะแนนลำดับ 1 มี ส.ส.มากที่สุด ตนก็ต้องเป็นนายกฯ เพราะตนเป็นแคนดิเดตนายกฯ คนเดียวของพรรคภูมิใจไทย และตนทำงานหนักลงพื้นที่ตลอด หากชาวบ้านเชื่อถือแล้วเลือกเราเข้ามาเป็นลำดับ 1 ตนที่เป็นหัวหน้าพรรค เป็นแคนดิเดตนายกฯ คนเดียวของพรรค ก็ต้องเป็นนายกฯ มันเป็นอย่างอื่นไม่ได้
เมื่อถามว่า ในการโหวตเลือกนายกฯ ครั้งหน้า ยังมีเสียง ส.ว.อยู่ด้วย นายอนุทิน กล่าวว่า ประชาชนเลือกเรามาเยอะขนาดนี้ เรากลัวประชาชนอย่างเดียว พรรคภูมิใจไทยทุกคนตนสอนฝึกปรือป้อนใส่สมองว่า ต้องไม่กลัวอะไรทั้งสิ้น ยกเว้นประชาชน
เมื่อถามว่า สมัยหน้าถ้าเกิดได้ทำงานกับ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา อีกรอบ ก็ไม่ได้มีปัญหาอะไรใช่หรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า ตนไม่มีปัญหาในการทำงานกับใครทั้งสิ้น เพราะเมื่อเราเข้าไปทำงาน เราต้องรู้บทบาทหน้าที่ของเราและทำให้ดีที่สุด และไม่ว่าใครจะเลือกหรือไม่เลือกพรรคภูมิใจไทย เราก็ทำงาให้ทั้งหมด ไม่ใช่บอกว่าใครไม่เลือกเรา แล้วเราจะไม่ทำงานให้
- 006
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี