วันอังคาร ที่ 13 พฤษภาคม พ.ศ. 2568
แนวหน้า
  • แนวหน้า
  • หน้าแรก
  • คอลัมน์
    • คอลัมน์วันนี้
    • คอลัมน์ออนไลน์
    • คอลัมน์การเมือง
    • คอลัมน์ลงมือสู้โกง
    • โลกธุรกิจ
    • ผู้หญิง
    • บันเทิง
    • Like สาระ
    • ดูทั้งหมด
  • ข่าวเด่น
  • พระราชสำนัก
  • การเมือง
  • โลกธุรกิจ
  • อาชญากรรม
  • กทม.
  • ในประเทศ
  • เกษตร
  • ต่างประเทศ
  • กีฬา
  • ผู้หญิง
  • บันเทิง
  • ยานยนต์
  • Like สาระ
หน้าแรก / การเมือง
ปราศรัยบ้านเกิดโคราช18ก.พ. ‘บิ๊กตู่’บุกอีสาน สักการะ‘ย่าโม’เอาชัยสู้เลือกตั้ง

ปราศรัยบ้านเกิดโคราช18ก.พ. ‘บิ๊กตู่’บุกอีสาน สักการะ‘ย่าโม’เอาชัยสู้เลือกตั้ง

วันพฤหัสบดี ที่ 2 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2566, 06.00 น.
Tag : บิ๊กตู่
  •  

ปราศรัยบ้านเกิดโคราช18ก.พ.

‘บิ๊กตู่’บุกอีสาน

สักการะ‘ย่าโม’เอาชัยสู้เลือกตั้ง

โพลล์หนุนนั่งนายกฯอีกสมัย

ทิ้งห่าง‘อุ๊งอิ๊ง-พิธา-ประวิตร’

แรมโบ้การันตีนำปท.เดินหน้า

‘อนุทิน’ลั่นพร้อมเป็นนายกฯ

ประสานทุกฝ่าย/สลายขัดแย้ง

“บิ๊กตู่”ปราศรัยใหญ่ ครั้งที่ 2 ที่บ้านเกิดโคราช 18 กุมภาพันธ์ สักการะย่าโมเอาฤกษ์เอาชัย เปิดประตูสู่อีสานสู้ศึกเลือกตั้ง โพลล์ LINE TODAY “บิ๊กตู่”มาแรง ชี้คนอยากให้นั่งนายกฯ ต่อ ทิ้งห่าง “อุ๊งอิ๊ง-พิธา”ขณะที่“ประวิตร”เรตติ้งยังไม่ปัง“แรมโบ้”ชูโพลล์ไลน์ทูเดย์หนุน“บิ๊กตู่”ขอบคุณปชช.ขอให้มั่นใจหากกลับมาทำหน้าที่อีก จะทำให้ดีที่สุดเพื่อประเทศชาติบ้านเมือง ต่างกับบางพรรคที่ประกาศหากชนะเลือกตั้งจะพาคนในตระกูลกลับประเทศ “อนุทิน” เปิดอก!เป้าหมาย“ภูมิใจไทย” ลั่นพร้อมเป็นนายกฯ ขอเป็นผู้เลือกประสานทุกฝ่าย มุ่งสลายขัดแย้ง

เมื่อวันที่ 1กุมภาพันธ์ 2566 ผู้สื่อข่าวรายงานจากพรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.)ว่า ภายหลังพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม ประเดิมขึ้นเวทีปราศรัยแรกที่ จ.ชุมพร ในฐานะสมาชิกพรรค รทสช.โดยมีรายข่าวว่า พล.อ.ประยุทธ์ เตรียมจะปราศรัยที่ จ.เพชรบุรี นั้น ล่าสุดได้มีการเปลี่ยนเป็นที่ จ.นครราชสีมา โดยจะให้เป็นเวทีรวมไทยสร้างชาติสู่อีสาน จากครั้งแรกใช้เวที จ.ชุมพร เป็นประตูรวมไทยสร้างชาติสู่ภาคใต้ รวมถึงที่สำคัญจ.นครราชสีมาถือเป็นบ้านเกิดของพล.อ.ประยุทธ์ด้วย


ทั้งนี้ กำหนดการเบื้องต้น พล.อ. ประยุทธ์ แกนนำ ผู้บริหารพรรค ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.นครราชสีมา และในพื้นที่ภาคอีสาน จะเดินทางไปสักการะอนุสาวรีย์ท้าวสุรนารี (ย่าโม) สิ่งศักดิ์สิทธิ์คู่บ้านคู่เมืองจ.นครราชสีมา ก่อนขึ้นเวทีปราศรัยใหญ่ วันที่ 18ก.พ.สำหรับว่าที่ผู้สมัครสส.นครราชสีมา เบื้องต้น มีรายงานข่าวว่า พ.ต.ท. สมชาย เพศประเสริฐ จะลงเขต5 อ.ปากช่อง ขณะที่ เขต11 อ.ครบุรี อ.เสิงสาง นายชยุต พงศ์ธนทรัพย์ สมาชิก อบจ.อ.ครบุรี เขต1 อาจลงแทน นายเสกสกล อัตถาวงศ์ สมาชิกพรรค ที่อาจจะไปที่ลงส.ส.แบบบัญชีรายชื่อ ขณะที่เขต12วังน้ำเขียว นายประนอม โพธิ์คำ อดีต ส.ส. ส่วนเขต 13 อ.ปักธงชัย นายภาณุ ยนต์สุข สมาชิกอบจ.อ.ปักธงชัยเขต1 นายนวกิจ พลวิเศษ บุตรชายของนายภิรมย์ พลวิเศษ อดีตส.ส. นครราชสีมา ลงเขต14 อ.คง เขต15 อ.สีคิ้วพล.ต.ต.ภูมิรา วัฒนปาณี เขต16 อ.ด่านขุนทด นายไกรฤกษ์ เสียนขุดทด หรืออาจารย์น้อยลงแทนนายจำลอง ครุฑขุนทด ที่จะขอขึ้นบัญชีรายชื่อ

‘แรมโบ้’ขอบคุณหนุน’ประยุทธ์’นายกฯ

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ฟีเจอร์ LINE TODAY (ไลน์ ทูเดย์) ของแอปพลิเคชัน LINE (ไลน์) ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มสนทนาสื่อสารยอดนิยมในประเทศไทย ได้สำรวจความคิดเห็น (โพล) ในหัวข้อ“ใกล้เลือกตั้งปี 2566 ชาว LINE TODAY อยากได้ใครมาบริหารประเทศคนต่อไป”โดยทำการสำรวจช่วงระหว่างวันที่ 11-30 ม.ค.66 ที่ผ่านมา มีผู้ร่วมโหวตถึง 1.03 แสนคน ปรากฎว่าพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ในฐานะสมาชิก และว่าที่แคนดิเดตนายกฯพรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) ได้รับการโหวตมาเป็นอันดับ 1 ด้วย 24,394คะแนน คิดเป็น23.55% เหนืออันดับ2 น.ส.แพทองธาร ชินวัตร ประธานด้านการมีส่วนร่วมและนวัตกรรมพรรคเพื่อไทย(พท.)และหัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย ที่ได้ 17,163 คะแนน คิดเป็น 16.57% ใกล้เคียงกับอันดับ 3 นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล ที่ได้ 17,062 คะแนน คิดเป็น 16.47% อันดับ 4 พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส หัวหน้าพรรคเสรีรวมไทย ได้ 13,192 คะแนน คิดเป็น 12.73% ใกล้เคียงกับอันดับ

5 คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ หัวหน้าพรรคไทยสร้างไทย ที่ได้ 12,799 คะแนน คิดเป็น 12.35%, อันดับ 6 ยังหาคนที่เหมาะสมไม่ได้ 7,679คะแนน คิดเป็น 7.41%, อันดับ 7 นายเศรษฐา ทวีสิน กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัทแสนสิริ จำกัด (มหาชน)และสมาชิกพรรคเพื่อไทย ได้ 4,066 คะแนน คิดเป็น 3.92% อันดับ 8 นายกรณ์ จาติกวณิช หัวหน้าพรรคชาติพัฒนากล้า ได้ 2,277 คะแนน คิดเป็น 2.2%, อันดับ 9 นายสมคิด จาตึศรีพิทักษ์ ประธานพรรคสร้างอนาคตไทย ได้ 1,930 คะแนน คิดเป็น 1.86%,

อันดับ 10 นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกฯ และ รมว.สาธารณสุข ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย ได้ 1,317 คะแนน คิดเป็น 1.27% อันดับ 11 นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกฯ และ รมว.พาณิชย์ ในฐานะหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ได้ 1,106 คะแนน คิดเป็น 1.07% และอะนดับ 12 พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ ในฐานะหัวหน้าพรรพลังประชารัฐ ได้ 612 คะแนน คิดเป็น 0.59%

‘แรมโบ้’ขอบคุณหนุน’บิ๊กตู่’นั่งนายกฯต่อ

ด้าน นายเสกสกล อัตถาวงศ์ ที่ปรึกษาของนายกรัฐมนตรี กล่าวถึง ผลสำรวจความคิดเห็นไลน์ทูเดย์ ของแอปพลิเคชันไลน์ หัวข้อ ใกล้เลือกตั้งปี 2566 ชาวไลน์ ทูเดย์ อยากได้ใครมาบริหารประเทศ พบว่าประชาชนส่วนใหญ่ หรือ ร้อยละ23.55 ให้พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯและว่าที่แคนดิเดตนายกฯพรรครวมไทยสร้างชาติ ดังนั้นแสดงให้เห็นแล้วว่าประชาชนส่วนใหญ่ในประเทศยังให้การสนับสนุนพล.อ.ประยุทธ์ และไว้ใจที่อยากจะให้ทำหน้าที่นายกฯต่อไป

นายเสกสกลยังระบุว่า ที่ผ่านมาพล.อ.ประยุทธ์ได้ทำหน้าที่ได้เป็นอย่างดี มีความจริงใจที่จะพัฒนาประเทศ และแก้ไขปัญหาให้กับพี่น้องประชาชนมาโดยตลอด อีกทั้งไม่มีประวัติเสียหาย โดยเฉพาะเรื่องการทุจริตคอร์รัปชันและสิ่งสำคัญคือปกป้องสถาบัน ด้วยเหตุนี้เองจึงทำให้ประชาชนไว้วางใจให้มาทำงานต่อไปอีก ขอให้ประชาชนให้โอกาส พล.อ.ประยุทธ์ เข้ามาทำหน้าที่ต่อไปเพื่อสานงานต่อให้สำเร็จ ซึ่งพล.อ.ประยุทธ์ ได้ยืนยันแล้วว่า จะทำให้ดีที่สุดเพื่อพี่น้องประชาชน

“ผมขอขอบคุณประชาชนที่ยังรัก และให้การสนับสนุนพล.อ.ประยุทธ์มาโดยตลอด ทั้งนี้ก็ขออย่าห่วง เพราะหากพล.อ.ประยุทธ์ได้กลับมาทำหน้าที่เป็นนายกฯอีก มั่นใจว่าจะสามารถนำพาประเทศชาติ เดินหน้าไปได้เป็นอย่างดี ต่างจากบางพรรคการเมืองที่อยากจะชนะการเลือกตั้ง เพียงเพราะอยากให้คนในตระกูลที่หนีคดีกลับประเทศ สุดท้ายประชาชนไม่ได้ประโยชน์อะไรเลย” นายเสกสกลกล่าว

‘อนุทิน’พร้อมเป็นนายกฯประสานทุกฝ่าย

นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรมว.สาธารณสุข ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย (ภท.) กล่าวถึงเป้าหมายการเมืองของพรรคภูมิใจไทยในการสู้ศึกการเลือกตั้งว่า พรรคภูมิใจไททำเต็มที่แน่นอนและหลังเลือกตั้งเราพร้อมทำงานในทุกบทบาท ขึ้นกับความไว้วางใจของประชาชน ถ้าประชาชนเลือกเข้ามามาก ตนก็พร้อมเป็นนายกรัฐมนตรี ซึ่งบทบาทนายกฯ ของตนคือการประสานทุกฝ่ายช่วยกันทำงาน เรื่องข้าง เรื่องสี ขอให้พอ ประเทศไทยถูกความขัดแย้งเหนี่ยวรั้งมานานเกินไปแล้ว เมื่อถามว่า จากนี้พรรคภท.จะเปลี่ยนจากพรรคผู้ถูกเลือกเป็นพรรคที่เป็นผู้เลือกใช่หรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า เราเป็นผู้เลือกอยู่ตลอด ครั้งที่แล้วถ้าไม่ได้พรรค ภท.จะตั้งรัฐบาลกันได้หรือไม่ ย้อนกลับไปมีการเสนอสิ่งต่างๆ มาให้ตนและพรรคมากมาย ตำแหน่งสูงกว่ารัฐมนตรีก็ให้ แต่ถามว่า รับไปแล้ว บ้านเมืองไปต่อได้ไหม ถ้าไม่ได้ ถึงเป็นนายกฯ ก็ไม่มีประโยชน์ คราวที่แล้ว เมื่อเราเลือก อำนาจ คสช.ก็หมดไปทันที แต่ถ้าไม่เลือก ตามรัฐธรรมนูญ คือ รัฐบาลรักษาการอยู่ต่อไปจนถึงการที่ ครม.ใหม่เข้าเฝ้าถวายสัตย์ แต่สิ่งเหล่านั้นไม่เกิด เพราะการเลือกของภูมิใจไทย เราทำให้การเมืองเข้าสู่ระบบใหม่ และประเทศไทย ก็ยังไปข้างหน้าได้ด้วย

“การเลือกของเราเป็นไปตามที่เราบอกไว้ว่า จะไม่ให้ สว.มาชี้ขาดนายกฯ เพราะจะเห็นว่านายกฯก็ได้มาจากเสียง สส.เกินครึ่ง ครั้งนี้ก็เหมือนกัน ผมยังยึดมั่นในหลักการเดิมและเชื่อว่า สว.จะไม่ฝืนเสียงประชาชนตั้งนายกฯที่มาจาก สส.เสียงข้างน้อย เราไม่เอาด้วยแน่ ถ้ารวมเสียง สส.ได้ 240เสียง แล้วไปเอาเสียง สว.มาเติมให้ครบ 375เสียง สิ่งที่ต้องคิดในฐานะนักการเมืองคือโจทย์ที่ว่า จะทำอย่างไรให้การเมืองมันเข้มแข็ง เรื่องนี้สำคัญมาก ผมมองว่าการเมืองไทยมีวิวัฒนาการ ถ้า สส.ร่วมกันได้ รวมเสียงเลือกนายกฯ ให้ได้เกินกึ่งหนึ่ง สว.ท่านก็น่าจะเทตามเสียงตัวแทนประชาชนผมเชื่อแบบนั้น”หัวหน้าพรรค ภท.กล่าว

ราชกิจจาประกาศกม.สำคัญกกต.2ฉบับ

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ช่วงค่ำวันที่ 31มกราคมที่ผ่านมา ราชกิจจานุเบกษาเผยแพร่ ประกาศของคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) สำคัญ 2ฉบับ ที่เป็นกลไกสู่การจัดเลือกตั้ง ประกาศฉบับแรกคือ ประกาศคณะกรรมการการเลือกตั้งเรื่อง จำนวนสส.แบบแบ่งเขตเลือกตั้งและเขตเลือกตั้งของแต่ละจังหวัด สำหรับการเลือกตั้งสส.เป็นการทั่วไปครั้งแรก ภายหลังประกาศใช้รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทยแก้ไขเพิ่มเติม เมื่อปี 2564 ที่มีการแก้ไขเปลี่ยนแปลงจำนวนส.ส.เขต จากเดิม350เขต เป็น400เขต ทำให้จำนวนสส.แบบแบ่งเขตเลือกตั้งและเขตเลือกตั้งของแต่ละจังหวัดตามที่คณะกรรมการการเลือกตั้งได้ประกาศกำหนดไว้เดิมในการเลือกตั้งเมื่อปี2562 เปลี่ยนแปลงไป ทำให้ต้องมีการออกประกาศฉบับนี้ ประกาศดังกล่าวระบุถึง จำนวนราษฎรหรือประชาชนโดยเฉลี่ย165,226คน ต่อสส.1คนและแจ้งจำนวนสส.และเขตเลือกตั้งของแต่ละจังหวัด ประกาศฉบับที่สอง คือ ประกาศกกต.เรื่องการแบ่งเขตเลือกตั้งสส.พ.ศ.2566 มีสาระสำคัญคือการให้ ผู้อำนวยการเลือกตั้งประจำจังหวัด จัดทำรูปแบบการแบ่งเขตเลือกตั้งภายในสามวัน โดยต้องแบ่งพื้นที่ของเขตเลือกตั้งแต่ละเขตให้ติดต่อกันและต้องจัดให้มีจำนวนราษฎรในแต่ละเขตเลือกตั้งใกล้เคียงกันแล้วประกาศรูปแบบการแบ่งเขตเลือกตั้งอย่างน้อยสามรูปแบบเพื่อรับฟังความคิดเห็นของพรรคการเมืองและประชาชนในจังหวัดเป็นเวลาสิบวันนับแต่วันปิดประกาศ เป็นต้น

‘3ป.’พักเบรกประชุมครม.นั่งถก

ก่อนหน้านี้ เมื่อวันที่ 31มกราคม ที่ผ่านมาที่ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม เป็นประธานการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) บรรดารองนายกฯ รัฐมนตรี และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องต่างเดินทางเข้ามาประชุมกันอย่างพร้อมเพรียง นอกจากนี้ยังต้องจับตาท่าทีทางการเมืองของพรรคร่วมรัฐบาล ต่อการเตรียมรับมืออภิปรายทั่วไปรวมถึงการเตรียมความพร้อมเลือกตั้งใหญ่ หลัง กฎหมายลูก 2 ฉบับ มีผลใช้บังคับเป็นที่เรียบร้อยแล้ว

รายงานข่าวจากทำเนียบรัฐบาลแจ้งว่าระหว่างการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) พล.อ.ประยุทธ์ ได้หันมาพูดคุยกับ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ เป็นระยะตามปกติ เช่นเดียวกับช่วงพักเบรกการประชุม ที่ พล.อ.ประยุทธ์ พล.อ.ประวิตร และพล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทย ได้เข้าไปนั่งพูดคุยกันในห้องรับรอง

‘บิ๊กตู่’กวักมือเรียก รมต.ทุกพรรค

ทั้งนี้ มีอยู่ช่วงหนึ่ง พล.อ.ประยุทธ์ ได้เดินออกมานอกห้อง พร้อมกับแจ้งรัฐมนตรีคนอื่นๆว่า “ใครจะเข้ามาคุยก็ได้ รัฐมนตรีทุกคนเชิญไปนั่งคุยกันได้ ผมไม่ได้ปิดห้องประชุมลับหรืออะไรกัน สามารถไปนั่งได้ทั้งหมด ไม่ว่าพรรคไหน คุยกันได้”

นายกฯ ไม่ก้าวล่วงกกต.ปมไทม์ไลน์ลต.

เวลา 13.25น. พล.อ.ประยุทธ์ให้สัมภาษณ์ภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี(ครม.)ว่าวันนี้ครม.มีหลายเรื่องสำคัญ ขอให้ติดตามการแถลงข่าวของทีมโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรีมีทั้งเรื่องนโยบายของแต่ละกระทรวงที่หลายอย่างมีการอนุมัติกลั่นกรอง เห็นชอบ เรื่องกฎหมายต่างๆผู้สื่อข่าวถามว่านายกฯมองพันธมิตรทางการเมืองภายหลังการเลือกตั้งไว้แล้วหรือไม่พล.อ.ประยุทธ์ปฏิเสธที่จะตอบโดยบอกผู้สื่อข่าวด้วยน้ำเสียงอันเข้มว่าขอคำถามอื่น

เมื่อถามถึงกรณีนายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี รายงานในที่ประชุม ครม.ถึงไทม์ไลน์การเลือกตั้ง พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า เป็นเรื่องของคณะกรรมการเลือกตั้ง (กกต.) ที่นายวิษณุนำมาถ่ายทอดต่อเท่านั้นเอง ซึ่งตนไม่มีสิทธิ์ จะไปก้าวล่วง กกต.ใดๆ ทั้งสิ้น หน้าที่ของรัฐบาลก็หมดแล้ว ในเรื่องของ พ.ร.บ.การเลือกตั้งก็ออกมาเรียบร้อยแล้ว โปรดเกล้าฯแล้ว หน้าที่ของรัฐบาลก็มีเท่านั้น

ลั่นเวลาที่เหลือจะทำงานให้ดีที่สุด

เมื่อถามว่าช่วง2เดือนสุดท้ายของรัฐบาลมีสิ่งใดที่เร่งด่วนที่กำชับ ครม.หรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า เป็นการทำงานปกติ ไม่มีว่าจะเหลือเวลาเท่าไหร่ ก็ทำให้ดีที่สุด เหมือนที่ทำมาหลายปีแล้ว เรื่องใดสำคัญ เรื่องใดเร่งด่วนก็ทำไป เพียงแต่ขอให้ระมัดระวังเรื่องการจ่ายงบประมาณ ให้ระมัดระวังอย่างที่สุด เพราะในช่วงการเลือกตั้งไม่ว่าจะเกิดขึ้นเมื่อใดก็ตาม รัฐบาลยังคงรักษาการอยู่ ก็ต้องชี้แจงเรื่องงบประมาณให้คุ้มค่า และโปร่งใส มีประสิทธิภาพ ตรวจสอบได้ ตนได้กำชับเช่นนี้มาตลอดหลายปีที่ผ่านมา ดังนั้น หากมีการทุจริตก็ต้องไปตรวจสอบผู้รับผิดชอบในการที่จะชี้แจงว่าการใช้จ่ายงบประมาณถูกต้อง หรือไม่ถูกต้อง และลงโทษไปตามกระบวนการยุติธรรม ะเมื่อถามอีกว่าตอนนี้มีรัฐบาลมีไทม์ไลน์ไว้อยู่ในใจแล้ว หรือยัง พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า ไม่มี ยังไม่มี

‘วิษณุ’เข้าพบนายกฯยันไม่เกี่ยวลต.

เวลา 13.30น.ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรีได้ขึ้นไปหารือกับพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม ที่ตึกไทยคู่ฟ้า จากนั้น นายวิษณุให้สัมภาษณ์ว่าเรื่องที่ตนได้พบกับนายกฯนั้น เล่าไม่ได้ เป็นเรื่องราชการและไม่ใช่เรื่องแปลกประหลาดที่รองนายกฯจะคุยกับนายกฯยืนยันว่าไม่เกี่ยวกับการเลือกตั้ง

แจงครม.กกต.ขอ1เดือน-อย่ายุบสภา

รองนายกฯกล่าวด้วยว่า สำหรับในเรื่องการเลือกตั้ง ตนได้พูดในที่ประชุมครม. หมดแล้ว โดยตนได้พูดไปเหมือนกับที่ให้สัมภาษณ์ผู้สื่อข่าวเมื่อวันที่30ม.ค.ซึ่งนายกฯก็รับทราบ เพราะเป็นปัญหาของทุกพรรค เป็นอันว่าภายในเดือนกุมภาพันธ์ ไม่สามารถยุบสภาฯได้ ตามที่คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ได้แจ้ง

“ไม่ใช่ว่าตื๊อ ไม่ใช่ว่ายื้อ ไม่ใช่ว่าถ่วงเวลาอะไรทั้งสิ้น แต่หาก กกต.สามารถแบ่งเขตได้เร็วกว่านั้นก็จะเป็นอิสระได้เร็วกว่านั้น ขณะนี้กกต.ขอเวลา ประมาณ1 เดือนหรือ 28กุมภาพันธ์ ส่วนเวลาที่ กกต.ขอ 45 วันนั้น 15 วัน หลังได้ให้เวลาพรรคเล็ก ทำไพรมารีโหวตและจัดตั้งสาขาพรรค” นายวิษณุ กล่าว

แจงไทม์ไลน์ร่างลต.4ฉบับเสร็จก.พ.

นายวิษณุ กล่าวอีกว่าขณะนี้ กกต.ได้จัดทำร่างระเบียบเกี่ยวกับการเลือกตั้ง จำนวน 4 ฉบับ ซึ่งได้ส่งมาให้ทางครม.พิจารณาแล้ว 2ฉบับ โดยฉบับที่ 1ว่าด้วยหลักเกณฑ์วิธีการแบ่งเขตเลือกตั้ง ,ฉบับที่ 2 เป็นเรื่องของการทำไพรมารีโหวต,ฉบับที่ 3 การตั้งสาขาพรรคการเมือง และ และฉบับที่ 4 เป็นเรื่องเกี่ยวกับการรับฟังความคิดเห็น โดย 3 ฉบับจะจัดทำเสร็จภายในสัปดาห์นี้ ส่วนอีก 1 ฉบับซึ่งเป็นประกาศใหญ่จะเสร็จภายในสัปดาห์หน้า หลังจากนี้ตั้งแต่วันที่ 1 กุมภาพันธ์ กกต.จะส่งเรื่องไปให้ผู้ว่าราชการจังหวัดและคณะกรรมการการเลือกตั้งจังหวัด เปิดรับฟังความคิดเห็น คาดว่าต้องใช้เวลาจนถึงวันที่ 28 กุมภาพันธ์จากนั้นจึงจะเริ่มกระบวนการการเลือกตั้งได้

ให้โอกาสพรรคเล็ก บวกเพิ่ม15วัน

เมื่อถามถึงมีกระแสข่าวว่าจะยุบสภาในวันที่ 15 มีนาคม นายวิษณุ กล่าวว่า เป็นสมมติฐานที่กกต. ใช้เตรียมพร้อมการเลือกตั้งภายใน45วัน แต่อย่างที่พูด หากแบ่งเขตการเลือกตั้งเสร็จแล้ว จะยุบช้า ยุบเร็วก็แล้วแต่ถ้าพูดเอาให้เขาสะดวกและทุกฝ่ายสะดวก ซึ่งรวมถึงพรรคเล็ก ก็ต้องบวกอีก15วันจึงกลายเป็น 45วัน แต่ถ้าไม่เอาสะดวก 30วัน ก็ยุบได้ แต่จะยุ่งหน่อย เขาก็โยนหินถามทางเหมือนกันเพื่อที่จะดูว่าพรรคเล็กว่าอย่างไร ส่วนพรรคใหญ่ ไม่เดือดร้อน เพราะซุ่มทำไพรมารีโหวตไว้อยู่แล้ว แต่พรรคเล็กยังไม่ทำผ่านไพรมารีและยังไม่พร้อม เพราะไม่รู้ว่าเขตอยู่ตรงไหน ดังนั้น พรรคเล็กจึงต้องเริ่มต้นตั้งแต่วันที่ 1 มีนาคม สมมติว่าหากยุบสภาวันที่3 มี.ค.เขาก็แย่ เพราะวันที่ 5 มี.ค.กกต.จะออกประกาศวันเลือกตั้ง และวันรับสมัครก็จะสมัครไม่ได้และไม่ทัน เพื่อให้เกียรติและโอกาสแก่พรรคเล็ก กกต.จึงช่วยบวกไปอีก15วันถ้าไม่คิดไม่เอื้อไม่เฟื้อกัน เอาเลย ทำเลยก็ได้ แต่30วัน อย่าทำเลยเด็ดขาด ตนจึงบอกว่า ยกเดือนกุมภาพันธ์ ให้เขาไปทั้งเดือน

ยันไม่ยื้อ บอกอยากไปเร็วจะตาย

รองนายกฯยังระบุว่าพรรคเล็ก คือ พรรคที่ยุ่งเกี่ยวกับสูตรการหาร 100หรือ500หรือพรรคที่ปัจจุบันมีส.ส.1-2คน เพราะครั้งที่แล้ว ไม่ได้เข้ามาจากส.ส.เขตเลย คราวนี้ไม่ได้แล้วจึงต้องให้โอกาสเขาหน่อยว่าจะส่งส.ส.เขต หรือส.ส.บัญชีรายชื่อหรือไม่ จึงต้องให้เวลาเขา15วัน แต่ถ้าไม่นึกถึงหัวอกเขา1มีนาคมก็ยุบสภาฯได้ แต่ถ้าพรรคเกิดใหม่ คือ พรรคใหญ่ทั้งนั้น เพราะในยามอย่างนี้ ยังอุตส่าห์เกิดพรรคอีก ต้องแน่ใจว่า ตัวเองเป็นพรรคใหญ่ สรุปไม่ได้ตื๊อ ไม่ได้ยื้อ อยากให้ไปเร็วจะตาย”

นายกฯขอบคุณครม.ลุยร่วมทำงาน

เวลา14.00 น.นายอนุชา บูรพชัยศรี รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรี ปฏิบัติหน้าที่โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงหลังประชุมคณะรัฐมนตรี(ครม.) ถึงข้อสั่งการนายกรัฐมนตรี ว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯและรมว.กลาโหม มอบหมายให้ นายวิษณุ เครืองาม รองนายกฯชี้แจงครม.ถึงกรณีประกาศราชกิจจานุเบกษากฎหมายลูก 2 ฉบับ คือ ร่างพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญ (พ.ร.ป.) ว่าด้วยเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ฉบับที่ 2) พ.ศ.2566 และ พ.ร.ป.ว่าด้วยพรรคการเมือง (ฉบับที่ 2) พ.ศ.2566 ที่ประกาศไปเมื่อวันที่ 28 มกราคม ที่ผ่านมา

ทั้งนี้ ในที่ประชุม ครม. นายกฯ ขอบคุณ ครม.ที่ทำงานร่วมกันมาตลอด ซึ่งจากนี้ไปก็คงต้องทำงานอย่างเข็มแข็ง และแข็งขันต่อเนื่องไป โดยหลังจากที่มีการประกาศการเลือกตั้งแล้ว รัฐบาลก็ยังคงต้องรักษาการอยู่ และ ขอให้ยึดหลักการปฏิบัติตามนโยบายด้วยความโปร่งใส ตรวจสอบได้

กกต.สั่งทุกจว.เตรียมแบ่งเขตสส.

ในขณะที่ แหล่งข่าวจากสำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.)เปิดเผยถึงเรื่องการแบ่งเขตเลือกตั้งว่า จะต้องดำเนินการทุกครั้งเมื่อมีการเลือกตั้งส.ส.เป็นการทั่วไปซึ่งการเลือกตั้งครั้งนี้เปลี่ยนจาก 350 เขตมาเป็น 400 เขต ทันทีที่ร่างระเบียบกกต.ว่าด้วยการแบ่งเขตเลือกตั้งมีผลใช้บังคับ กกต.จังหวัดทุกจังหวัดรวมถึง กกต.กทม.ต้องนำรูปแบบการแบ่งเขตเลือกตั้งที่เตรียมไว้อย่างน้อย 3 รูปแบบ ปิดประกาศ เพื่อรับฟังความคิดเห็นจากผู้ที่มีส่วนได้เสีย คือ พรรคการเมืองและประชาชนในจังหวัด เป็นเวลา 10 วัน นับแต่วันปิดประกาศซึ่งแต่ละรูปแบบจะต้องประกอบด้วยรายละเอียดเกี่ยวกับอำเภอหรือตำบลหรือเขตพื้นที่อยู่ในเขตเลือกตั้งแต่ละเขต จำนวนราษฎรของแต่ละเขตเลือกตั้ง ผลต่างของจำนวนราษฎรในแต่ละเขตเลือกตั้ง จากจำนวนเฉลี่ยราษฎรต่อส.ส.หนึ่งคนในจังหวัดนั้น เหตุผลประกอบการเสนอแนะการแบ่งเขตเลือกต้ัง และแผนที่แสดงรายละเอียดของพื้นที่ที่ประกอบเป็นเขตเลือกตั้งแต่ละเขตเลือกต้ัง

คาดกระบวนการจว.ใช้เวลาไม่เกิน20วัน

แหล่งข่าวระบุต่อว่าเมื่อครบกำหนดระยะเวลา ทางกกต.แต่ละจังหวัดจะต้องนำความคิดเห็นของประชาชนทุกคนและทุกพรรคการเมืองที่เสนอ มาประมวลเพื่อวิเคราะห์ข้อดี ข้อเสียให้เรียบร้อยภายใน 3 วัน จากนั้นจึงนำเสนอสรุปรายงานเสนอเข้าที่ประชุม กกต.ผ่านทางเลขาธิการกกต.เพื่อพิจารณาตามขั้นตอน เบื้องต้น คาดว่ากระบวนการของจังหวัดจะใช้ระยะเวลาไม่เกิน 20วัน ขั้นตอนหลังจากนั้น ที่ประชุมกกต.ต้องพิจารณาเลือกรูปแบบใดรูปแบบหนึ่งที่เหมาะสมและตรงตามหลักเกณฑ์มากที่สุด คำนึงถึงพื้นที่ที่ติดต่อใกล้ชิดกัน ความสะดวกการคมนาคมระหว่างกัน และการเคยอยู่ในเขตเลือกตั้งเดียวกัน และเมื่อคณะกรรมการดำเนินการแบ่งเขตเลือกตั้งได้ข้อสรุปครบถ้วนทุกจังหวัดทั้ง 400 เขตแล้ว ให้ประกาศการแบ่งเขตเลือกตั้งในราชกิจจานุเบกษาต่อไป

‘แรมโบ้’ซุ่มคัดตัวผู้สมัครรทสช.อีสาน

มีรายงานจากพรรครวมไทยสร้างชาติว่าหลังจากกระแสตอบรับในตัวของพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม ในฐานะสมาชิกพรรครวมไทยสร้างชาติ(รทสช.)ขึ้นปราศรัยทางการเมืองเวทีแรก ที่ จ.ชุมพร เมื่อสุดสัปดาห์นั้น ปรากฎว่านายเสกสกล อัตถาวงศ์ ที่ปรึกษาฯได้ซุ่มทำงานหนักด้วยการคัดเลือกตัว ผู้สมัครส.ส.ภาคอีสานซึ่งเป็นงานใหญ่ที่ได้รับมอบหมาย ที่สำคัญมีบรรดาผู้สมัครเกรดเอ พาเหรดเข้าพรรค รทสช.เป็นจำนวนมาก สะท้อนให้เห็นว่าคนอีสานมีความนิยมในตัวพล.อ.ประยุทธ์และชื่นชอบในผลงานของรัฐบาล

“ใครปรามาสว่ารทสช.เป็นพรรคเฉพาะกิจ ตั้งมาโดยคนที่ไม่มีประสบการณ์ทางการเมืองนั้น บอกเลยว่า ไม่ใช่ เพราะแต่ละคนที่เข้ามารับผิดชอบในแต่ละภาค เป็นคนเชี่ยวชาญการเมืองทั้งสิ้นจึงเชื่อมั่นว่า รทสช.จะได้ สส.ตามเป้าที่วางเอาไว้เพื่อให้ พล.อ.ประยุทธ์ เป็นนายกฯสมัยที่3”แหล่งข่าว ระบุ

เย้ย”อุ๊งอิ๊ง”แลนด์สไลด์ของปลอม

แหล่งข่าวคนเดิม ยังระบุว่า นายเสกสกลที่เดินสายในภาคอีสาน ได้บอกว่า ไม่พบว่ามีกระแส น.ส.แพทองธาร ชินวัตร ฉะนั้นการที่พรรคเพื่อไทย อ้างว่า จะแลนด์สไลด์ น่าจะเป็นแค่ความฝัน หรือการสร้างวาทะกรรม เหมือนที่นายทักษิณ ชินวัตร ฝันว่าได้กลับประเทศมาเลี้ยงหลาน ก็คงเป็นความฝัน พ่อไม่ได้กลับ ลูกไม่ได้เป็นนายกฯ”แหล่งข่าวจากพรรค รทสช.กล่าว

เปิดรายชื่ออดีต9สส.อีสานแห่ซบ

มีรายงานว่า สำหรับอดีต สส.อีสานเกรดเอที่ย้ายเข้าพรรค รทสช.9คน ประกอบด้วย จ.นครราชสีมา 1.นายจำลอง ครุฑขุนทด 2.พ.ต.ท.สมชาย เพศประเสริฐ 3.นายประนอม โพธิ์คำ จ.มหาสารคาม 1.นายทองหล่อ พลโคตร 2.นางกุมาวตี ศิโกมุท จ.ขอนแก่น 1.นายธนิก มาศรีพิทักษ์ จ.อำนาจเจริญ 1.นายธีระชัย ศิริขันข์ จ.ศรีษะเกษ 1.นายพรศักดิ์ เจริญประเสริฐ จ.กาฬสินธ์ 1.นายวิทยา ภูมิเหล่าแจ้ง แหล่งข่าวยังระบุว่า ยังมีนักการเมืองระดับท้องถิ่นบ้านใหญ่อีกหลายจังหวัดที่ได้มีการเจรจาลงตัวสมัครในนามพรรค รทสช.อาทิ ขอนแก่น หนองบัวลำภู นครพนม สกลนคร มหาสารคาม เป็นต้น

‘สุดารัตน์’ตั้ง‘อนุดิษฐ์’ผอ.สำนักปราบโกง

วันเดียวกัน คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ หัวหน้าพรรคไทยสร้างไทย (ทสท.)เป็นตัวแทนพรรคสวมเสื้อ ผู้อำนวยการสำนักงานปราบโกง(สปก.)ให้น.อ.อนุดิษฐ์ นาครทรรพ อดีต ส.ส.กทม.อดีต รมว.เทคโนโลยีสารสนเทศ และการสื่อสารและอดีตที่ปรึกษาคณะกรรมาธิการการป้องกันและปราบปรามการทุจริตประพฤติมิชอบ สภาผู้แทนราษฎร หลังเข้าสมัครเป็นสมาชิกพรรคไทยสร้างไทย

โดยได้กล่าวขอแสดงความยินดีที่ทุกคนช่วยกันตั้งศูนย์ปราบคอร์รัปชั่น Corruption Eradication Commission หรือCEOแห่งนี้พร้อมชี้ให้เห็นว่าการคอร์รัปชั่นของประเทศเริ่มจากประชาธิปไตยที่ถูกคลุมด้วยเสื้อเผด็จการ ไทยสร้างไทยจึงสร้างรัฐธรรมนูญที่แก้ไขให้ประเทศเป็นประชาธิปไตยซึ่งศูนย์ปราบโกงแห่งนี้ เปิดมาในเวลาที่เหมาะสม เพราะทุกวันนี้ข่าวเกี่ยวกับการโกง การคอร์รัปชั่น ปรากฏให้เห็นทุกวันทั้งทุนจีนสีเทา การรีดไถนักท่องเที่ยว หรือการทุจริตของข้าราชการและนักการเมือง

ประกาศสงครามปราบโกงทุกรูปแบบ

“ไทยสร้างไทยจึงประกาศสงครามปราบคอร์รัปชั่น เป็นนโยบายพรรค เราจะลากคนโกงตัวใหญ่ มารับโทษมาขึ้นศาลเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม โดยเฉพาะการคอร์รัปชั่นเชิงนโยบาย เช่น ค่าไฟฟ้าที่ถูกเอารัดเอาเปรียบจนประชาชนต้องใช้ไฟฟ้าแพง ประชาชนต้องจ่ายเงินเพิ่มรวมถึงค่าน้ำมัน ค่าก๊าซที่พี่น้องชาวไทยถูกเอารัดเอาเปรียบมาโดยตลอดและหวังเป็นอย่างยิ่งว่าหลังเลือกตั้งจะได้นายกฯได้ผู้นำที่ตั้งใจจริงที่จะปราบคอร์รัปชั่นพวกเรามั่นใจว่าถ้านำเอายุทธศาสตร์ปราบโกงของไทยสร้างไทยไปใช้และมีการเปลี่ยนกรอบความคิดให้เน้นที่การปราบคอร์รัปชั่นมาก่อนสิ่งอื่นใด ประเทศไทยของเราจะสามารถหลุดพ้นคอร์รัปชั่นที่ฝังรากลึก เป็นประเทศที่โปร่งใสไร้คอร์รัปชั่นได้แน่นอน”คุณหญิงสุดารัตน์ ย้ำ

ผู้การป๊อปลั่นเดินหน้าลุยปราบโกง

น.อ.อนุดิษฐ์กล่าวว่าขอบคุณคุณหญิงสุดารัตน์หัวหน้าพรรค ทสท.ที่ได้มอบโอกาสดีๆในชีวิตมาตลอดเส้นทางการเมือง ในครั้งนี้ได้มาเป็นสมาชิกพรรค ทสท.ยังได้รับความไว้วางใจจากพรรคให้เป็น ผอ.สำนักงานปราบโกงต่อจากนี้จะเดินหน้าสานต่ออุดมการณ์ 3 เรื่องคือ รณรงค์เพื่อรัฐธรรมนูญฉบับประชาชน, ทำให้คนไทยกินดีอยู่ดีตั้งแต่เกิดจนแก่,และปราบการคอร์รัปชั่น ทั้งหมด คงเกิดขึ้นไม่ได้ หากผมไม่มี‘ทีมที่ดี-คนที่ใช่-พรรคที่มีอุดมการณ์และเจตจำนงเดียวกันกับผม’ผมโชคดีที่มีเพื่อนรัก มีทั้งผู้มีพระคุณทางการเมือง มีทั้งอดีตผู้แทนหลายท่านที่มีจุดยืนเดียวกันกับผม เพื่อขับเคลื่อนพรรคไทยสร้างไทยอยู่ทั่วประเทศ ให้ไปสู่จุดหมายเดียวกัน นั่นคือได้รัฐธรรมนูญฉบับประชาชน มีสวัสดิการที่ดีดูแลประชาชนตั้งแต่เกิดจนแก่ และ ภารกิจที่ยากที่สุดคือเป็น ผอ.สำนักงานปราบโกง ผมไม่ได้มาเล่นๆ ครับ” น.อ.อนุดิษฐ์กล่าว

เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

  •  

Breaking News

'บิ๊กอ๊อบ'เปิดตัวนักบินหญิงคนแรก บินภารกิจพิเศษ ผบ.ทสส.สู่'เลย'

ไฟไหม้บ้านเรือนไทย 'ธีระชัย แสนแก้ว'ฉายาอีโต้อีสานกลางดึก

อธิบดีกรมอุทยานฯ สั่งเร่งคลี่ปมยิง จนท.เขานันดับ! ชี้ผู้ต้องสงสัยเคยมีประวัติล่าสัตว์มาก่อน

'ไชยา มิตรชัย' ควงลูกสาว 'แป้ง มิตรชัย' เปิดตัวแฟนหนุ่มครั้งแรก หลังคบกันมา 10 ปี

Back to Top

ผู้ดูแลเว็บไซต์ www.naewna.com
webmaster นางสาวอัญชะลี ไพรีรัก
ดูแลรับผิดชอบข่าว/ภาพ/โฆษณา/ข้อมูลอื่นที่เกียวข้องกับเว็บไซต์
กรรมการบริษัทฯ, กรรมการผู้มีอำนาจ ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการนำเสนอข่าว/ภาพ/ข้อมูลใดๆในเว็บไซต์ทั้งสิ้น

Social Media

  • หน้าแรก |
  • เกี่ยวกับแนวหน้า |
  • โฆษณากับเรา |
  • ร่วมงานกับเรา |
  • ติดต่อแนวหน้า |
  • นโยบายข้อตกลง
Copyright © 2017 Naewna.com All right reserved