เจาะสนามนครพนม!‘หมอสงค์’ลาเสรีรวมไทยซบรังเก่าเพื่อไทย ฟุ้งชนเผด็จการ
1 กุมภาพันธ์ 2566 ความเคลื่อนไหวทางการเมืองในพื้นที่จังหวัดนครพนม ซึ่งยังมีการเปลี่ยนแปลงต่อเนื่อง ทั้งการวางตัวผู้สมัคร ส.ส. ทั้ง 4 เขต แม้พรรคภูมิใจไทย (ภท.) จะเปิดตัวว่าที่ผู้สมัครก่อนใคร แต่ล่าสุดการวางตัวยังไม่นิ่ง อาจมีการเปลี่ยนแปลงในบางเขต รวมถึงการย้ายพรรคของ ส.ส. เพื่อเตรียมพร้อมเข้าสู่โหมดการเลือกตั้ง กรณีสภาผู้แทนราษฎรครบวาระในวันที่ 23 มีนาคม 2566 ซึ่งตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 102 กำหนดให้มีการเลือกตั้งภายใน 45 วัน นับแต่วันที่สภาผู้แทนราษฎรสิ้นอายุ หากไม่เกิดอุบัติเหตุเสียก่อน คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ได้กำหนดให้วันที่ 7 พฤษภาคม 2566 เป็นวันเลือกตั้งทั่วไป
ทั้งนี้ นายแพทย์ประสงค์ บูรณ์พงศ์ อายุ 86 ปี ส.ส.อาวุโสรุ่นใหญ่ ปัจจุบันเป็น ส.ส.บัญชีรายชื่อพรรคเสรีรวมไทย อดีตผู้ก่อตั้งพรรคความหวังใหม่ ภายหลังยุบควบรวมกับพรรคไทยรักไทย และมาเป็นพรรคพลังประชาชน อีกทั้งยังเคยเป็นรัฐมนตรีหลายสมัย ก่อนถูกตัดสิทธิ์ทางการเมืองเป็นเวลา 5 ปี หลังพรรคพลังประชาชนถูกยุบ
ภายหลังได้กลับลงมาสนามการเมืองอีกครั้ง ในการเลือกตั้ง 2562 ที่ผ่านมา โดยได้ร่วมงานกับพรรคเสรีรวมไทย นำโดย พลตำรวจเอก เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส หัวหน้าพรรค ซึ่งนายแพทย์ ประสงค์ บูรณ์พงศ์ มีรายชื่อปาร์ตี้ลิสต์ลำดับที่ 5 ของพรรคเสรีรวมไทย หลังจากทางพรรคได้คะแนน ส.ส.บัญชีรายชื่อ ทั้งหมด 10 ที่นั่ง จึงเดินเข้าสภาผู้แทนราษฎรอีกครั้ง
ล่าสุด นายแพทย์ ประสงค์ ออกมาแถลงประกาศจุดยืนลาออกจากพรรคเสรีรวมไทย เพื่อไปสังกัดพรรคเพื่อไทย มีผลวันที่ 4 กุมภาพันธ์ 2566 ที่จะถึงนี้ เพื่อร่วมอุดมการณ์การเมืองกับฝ่ายประชาธิปไตย เดินหน้าล้มล้างระบอบเผด็จการ โดยยืนยันไม่มีความขัดแย้งกับเสรีรวมไทย แต่เป็นการเปลี่ยนแปลง เพื่อให้เป็นไปตามการเปลี่ยนแปลงของกฎหมายเลือกตั้ง ที่มีการเลือกตั้งบัตร 2 ใบ คือแยกบัตรเลือกพรรคและเลือกคน ซึ่งจากการเลือกตั้งที่ผ่านมาเป็นการเลือกตั้งแบบบัตรใบเดียว ทำให้ต้องแยกตัวออกไปร่วมงานกับเสรีรวมไทย เพื่อลดการแข่งขันกันเองในพรรคเพื่อไทย เป็นการรวมพลังของฝ่ายประชาธิปไตย
นายแพทย์ ประสงค์ บูรณ์พงศ์ หรือหมอสงค์ คนสร้าง ปัจจุบันอายุ 86 ปี เป็นผู้แทนอาวุโสที่ทำงานการเมืองมายาวนานกว่า 30 ปี เคยนั่งตำแหน่งรัฐมนตรีมาหลายสมัย ในยุคพรรคความหวังใหม่ พรรคไทยรักไทย และพรรคพลังประชาชน เปิดเผยว่าการเลือกตั้ง ส.ส. ครั้งนี้ ตนมีความจำเป็นที่จะต้องประกาศลาออกจากพรรคเสรีรวมไทย ก่อนเคยทำงานร่วมกับ พลตำรวจเอก เสรีพิศุทธิ์ เตมียเวส หัวหน้าพรรคฯ มานานเกือบ 4 ปี ยืนยันไม่มีความขัดแย้งส่วนตัว รวมถึงไม่มีปัญหาทางการเมือง ต้องขอขอบคุณพรรคเสรีรวมไทยที่ให้โอกาส แต่จะต้องมีการเปลี่ยนแปลงในการลงสมัครรับเลือกตั้ง ส.ส. โดยมาร่วมงานลงสมัครเป็น ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย ที่ผ่านมาพรรคเสรีรวมไทยทำงานต่อสู้กับฝ่ายเผด็จการ และสนับสนุนฝ่ายประชาธิปไตยมาตลอด
อย่างไรก็ตาม การเลือกตั้งครั้งนี้ มีการเปลี่ยนแปลงกฎหมายเลือกตั้ง ให้มีการเลือกตั้งแบบบัตร 2 ใบ เลือกคนกับเลือกพรรค ดังนั้น ตนมีความจำเป็นที่จะต้องกลับมาสนับสนุนพรรคเพื่อไทย ที่เป็นฝ่ายประชาธิปไตยด้วยกัน ในการเดินหน้าล้มล้างระบอบเผด็จการ ส่วนการเลือกตั้งที่ผ่านมาตนต้องไปสังกัดพรรคเสรีรวมไทย เนื่องจากเป็นการเลือกตั้งที่ผ่านมา เมื่อปี 2562 เป็นการเลือกตั้งแบบบัตรใบเดียว จึงเกิดปัญหาในการวางตัวผู้สมัคร หากมารวมกันลงสมัครในนาม ส.ส.พรรคเพื่อไทย จะเกิดปัญหาชิงพื้นที่เลือกตั้ง และเป็นการแข่งขันกันเอง จึงต้องแตกออกไปร่วมกับฝ่ายประชาธิปไตย เพื่อรวมพลังสู้กับเผด็จการ โดยไม่มีความขัดแย้งใดๆทั้งสิ้น
“การเลือกตั้ง ส.ส.ครั้งที่จะมาถึงฝากทำความเข้าใจว่า เป็นการเลือกตั้งชี้อนาคตประเทศไทย พี่น้องประชาชนทุกคนจะต้องแยกให้ออกชัดเจน ระหว่างพรรคการเมืองฝ่ายประชาธิปไตย และฝ่ายเผด็จการ และจะต้องเทคะแนนให้ฝ่ายประชาธิปไตยทั้งหมด ถึงแม้จะเลือกตั้งแบบบัตร 2 ใบ จะต้องเลือกทั้งคนทั้งพรรค เพราะจะเป็นทางเดียวที่พรรคเพื่อไทย จะชนะการเลือกตั้งแบบแลนด์สไลด์ เป็นการปิดสวิตช์ สว. ไม่ให้มีส่วนในการโหวตนายกรัฐมนตรี หลังจากฝ่ายเผด็จการมีการผลักดันออกกฎหมายเอื้อตัวเองเพื่อสืบอำนาจ มาถึงการเลือกตั้งครั้งนี้ถือเป็นการชี้ชะตาประเทศไทย ประชาชนทุกคนต้องแสดงพลัง ประกาศจุดยืนในการเลือกข้างฝ่ายประชาธิปไตยให้ชนะการเลือกตั้งถล่มทลาย เชื่อว่าพรรคเพื่อไทยจะชนะการเลือกตั้งแบบแลนด์สไลด์” หมอสงค์ กล่าว
-005
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี