"ไทยศรีวิไลย์"ร่วมงานปิดทองฝังลูกนิมิต วัดบางจาก อ.ปากเกร็ด พร้อมนำ"งานวัด"เป็นอีกหนึ่งซอฟท์พาวเวอร์ของประเทศไทย เพื่อดึงดูดนักท่องเที่ยวเพื่อสร้างรายได้ประเทศ "มงคลกิตติ์"เผยเตรียมเจรจา"มาดามอ้อ"ลงชิงเก้าอี้ ส.ส.บางซื่อ อ้อนคนกรุง-ปริมณฑล ขอ 1 ล้านคะแนน เพื่อให้ได้ ส.ส.บัญชีรายชื่อ ไว้แก้ปัญหาและผลักดันนโยบายเพื่อสร้างคุณภาพชีวิตให้ดีขึ้น
เมื่อวันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2566 นายมงคลกิตติ์ สุขสินธารานนท์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ และหัวหน้าพรรคไทยศรีวิไลย์ พร้อมด้วย นายสรกฤช จันทรคณา โฆษกพรรค , นางสาวอรศศิพัชร์ มามีเกตุรัตน์ โฆษกประจำตัวหัวหน้าพรรค , นางสาวณัฐปภัสร์ วรธันย์ผาสุข , นางสาวกฤษยากร สรชัย ผู้ช่วยเหรัญญิกพรรค , นายอนุรักษ์ อมรเมตตาจิต ผู้ช่วยเลขาธิการพรรค , นายอดิศร สังค์จันทร์ กรรมการบริหารพรรค และคณะ ได้มาร่วมงานผูกพัทธสีมา ปิดทอง ฝังลูกนิมิต วัดบางจาก ต.คลองพระอุดม อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี
โดย นายมงคลกิตติ์ และคณะ ได้นมัสการสมเด็จพระพุทธมงคลชัย หรือหลวงพ่อโต วัดบางจาก โดยเป็นพระพุทธรูปปางมารวิชัย ขนาดหน้าตักกว้าง 19 เมตร ถือเป็นพระพุทธรูปที่ใหญ่ที่สุดใน จ.นนทบุรี ซึ่งสามารถมองเห็นได้แต่ไกล รวมทั้ง ได้นมัสการ พระโมคคัลลานะ - พระสารีบุตร พระอัครสาวกซ้าย - ขวา ของพระพุทธเจ้า ซึ่งชาวบ้านละแวกนี้ ได้ตั้งชื่อเพื่อให้เข้าใจได้ง่ายว่า "หลวงพ่อหนุนดวง-หลวงพ่อค้ำดวง" เพื่อเป็นสิริมงคล และเสริมสร้างกำลังใจในการสู้ศึกเลือกตั้งที่กำลังจะมาถึงในเร็วๆ นี้
นายมงคลกิตติ์ กล่าวว่า การที่พรรคไทยศรีวิไลย์ได้มาร่วมงานวัดในพื้นที่ต่างๆ นอกจากจะมามนัสการสิ่งศักดิ์สิทธิ์ในพื้นที่ต่างๆ เพื่อขอพรให้ตนได้มีโอกาสเป็นนายกรัฐมนตรีของคนไทย เพื่อแก้ไขปัญหาของประเทศและประชาชนแล้ว ยังจะได้เห็นสภาพวิถีชีวิตของชาวบ้านที่มาเที่ยวงาน และการขับเคลื่อนเศรษฐกิจผ่านการจับจ่ายซื้อของต่างๆ ทั้งนี้ ตนเห็นว่า ในปัจจุบันหลายๆฝ่ายต่างพยายามเดินหน้าเรื่องซอฟท์พาวเวอร์ ดังนั้น หากจะได้นำงานวัดไปผลักดันเพื่อเป็นอีกหนึ่งซอฟท์เพาวเวอร์แล้ว ก็ถือว่าเป็นอาวุธที่ทรงพลังอย่างยิ่ง ต่อการจัดจำภาพลักษณ์ของประเทศไทยของนักท่องเที่ยว และสามารถสร้างรายได้เข้าประเทศได้อีกทางด้วย
นายมงคลกิตติ์ กล่าวอีกว่า ส่วนการดำเนินการคัดเลือกผู้สมัครในนามพรรคไทยศรีวิไลย์ ทั้ง 2 ระบบนั้น ขณะนี้ก็ยังเดินหน้าตามยุทธศาสตร์เดิม คือ "ไม่ยุบ ไม่รวม ไม่ดูด ไม่ซื้อ" เพราะตนต้องการให้พรรคไทยศรีวิไลย์ ทำงานการเมืองตามวิถีทางตามระบอบประชาธิปไตยอย่างแท้จริงตั้งแต่เริ่มต้น โดยเฉพาะผู้สมัคร ส.ส.ที่จะสู้ศึกเลือกตั้งในนามพรรคฯ จะต้องมีจิตใจที่ต้องการดูแลพี่น้องประชาชนอย่างแท้จริง ไม่ใช่มีจิตใจที่คิดจะทำแบบนักธุรกิจที่มีการคืนทุนถอนทุนโดยมีเหยื่อคือประชาชนที่หลงเชื่อตามแรงดึงดูดจากพลังเงินและพลังอำนาจ โดยขณะนี้ผู้สมัคร ส.ส.ของพรรคฯ ที่มีความชัดเจนแล้วก็คือ ตนเองที่จะเป็นผู้สมัคร ส.ส.บัญชีรายชื่อ ลำดับที่ 1 และแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี น.ส.กนิษฐรินทร์ พัชรภักดีโชติ หรือ กุ้งพลอย ว่าที่ ผู้สมัคร ส.ส.จังหวัดอ่างทอง ซึ่งตนอยากจะขอให้คนอ่างทอง เข้ามาสมัครเป็นสมาชิกพรรคเยอะๆ เพื่อจะได้ดำเนินการตามกฎหมายว่าด้วยพรรคการเมือง ในการส่ง น.ส.กนิษฐรินทร์ เป็นผู้สมัคร ส.ส.อ่างทอง อย่างถูกต้องตามกฎหมาย
รวมทั้งยังได้มีการทาบทาม น.ส.พัทธนันท์ ฤทธิ์ชัยเรืองเดช หรือ มาดามอ้อ ลงสนามในการเลือกตั้งที่จะถึงนี้ โดยจะลงสนามในเขตบางซื่อ กรุงเทพมหานคร เพราะเป็นพื้นที่ที่ตน และมาดามอ้อ มีความผูกพัน ในฐานะที่เคยศึกษาในมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าพระนครเหนือ จึงรู้ทุกซอกทุกมุมของเขตบางซื่อเป็นอย่างดี รวมทั้งเขตพื้นที่ที่ติดต่อกันอย่างเขตบางพลัด อ.เมืองนนทบุรี และ อ.บางกรวย ดังนั้น หาก น.ส.พัทธนันท์ ลงสมัคร ส.ส.ในพื้นที่เขตบางซื่อ แล้ว ก็ถือว่าเป็นผู้สมัครที่มีศักยภาพ และสร้างความน่ากลัวให้กับคู่แข่งอย่างแน่นอน
"เดิมในการลงเลือกตั้งที่จะถึงนี้ ผมเองอยากลง ส.ส.กทม.เขตบางซื่อ เพราะเป็นเขตที่ผมได้เรียนหนังสือจบมา ตั้งแต่เตรียมวิศวกรรมไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิค (ปวช) จนถึงระดับ ป.ตรี ภาควิชา วิศวกรรมไฟฟ้ากำลัง คณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าพระนครเหนือ ตั้งแต่ ปี 2540 - 2547 และเป็นผู้ช่วยเลขานุการสมาคมศิษย์เก่า มจพ.ปี 57 - 58 และยังเคยอาศัยอยู่แถบบางซื่อมานาน จึงมีความคุ้นเคย ทราบปัญหาต่างๆ ในพื้นที่พอสมควร แต่ด้วยภารกิจในการลงพื้นที่รับฟังปัญหาแก้ปัญหาประชาชน รวมทั้งกิจกรรมรณรงค์หาเสียงทั้ง 77 จังหวัด เพื่อขอคะแนนสนับสนุนให้ผมเป็นนายกรัฐมนตรี ทำให้ไม่สามารถลงสมัคร ส.ส.กทม.ในระบบเขตได้ ดังนั้น ผมกำลังทาบทาม น.ส.พัทธนันท์ ฤทธิ์ชัยเรืองเดช หรือ คุณอ้อ ภรรยาผมเอง มาลง ส.ส.กทม.เขตบางซื่อ แทน เนื่องจากเคยเรียนจบ ภาควิชา วิศวกรรมเคมีและกระบวนการ คณะวิศวกรรมศาสตร์ มจพ.พ่วงอดีตดาวคณะวิศวกรรมศาสตร์และดาวมหาวิทยาลัย ปี 2543 แต่ไม่รู้ว่าเขาจะตกลงไหม เพราะติดภาระดูแลลูกทั้ง 4 คน แต่อย่างไรก็ตาม หากพี่น้องประชาชนชาวกรุงเทพฯ และปริมณฑล สนับสนุนผมและพรรคไทยศรีวิไลย์ ถึง 1 ล้านคะแนนแล้ว ก็จะได้ผมและผู้สมัคร ส.ส.บัญชีรายชื่อ อีก 2 - 3 คน เพื่อจะได้ทำหน้าที่แก้ไขปัญหาและผลักดันนโยบายต่างๆ ที่สามารถทำให้คนกรุงเทพฯ และปริมณฑลมีคุณภาพชีวิตที่ดียิ่งขึ้นอีกด้วย" นายมงคลกิตติ์ กล่าว
- 006
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี