นั่งรถไฟชมตลาดร่มหุบ-ปชช.แห่เชียร์
‘บิ๊กตู่’สดปลื้ม
คนตะโกนลั่น‘อยู่ต่อ2ปีก็มีความหมาย’
รทสช.ตั้งปธ.คุมนโยบายพรรค
จวกสภาล่ม!เพราะสส.เล่นเกม
‘วิษณุ’ชี้สภาล่มไม่ใช่เหตุยุบสภา
‘วราวุธ’โวยยุบตอนนี้โกลาหลแน่
พปชร.โวกระแส‘ลุงป้อมฟีเวอร์’
“พีระพันธุ์” หน.พรรครวมไทยสร้างชาติ ตั้งคณะกรรมการกำหนดนโยบายและยุทธศาสตร์พรรค “บิ๊กตู่” นั่งประธานฯประชุมสัปดาห์ละครั้ง อำนาจครอบคลุมทั้งพรรครังสิมา-สส.พปชร. “พรึ่บ!รับนายกฯ” นั่งรถไฟชมตลาดร่มหุบ ชาวบ้านตะโกน เชียร์ “อยู่ต่อ 2 ปีก็มีความหมาย” ชาวสวนผลไม้ฝากบอก ถ้าแก้ปัญหาได้ จะเลือกเป็นนายกฯต่ออีก 2 ปี ลั่นพร้อมเป็นนายกฯของคนทั้งปท.ต้องดูแลให้มีความสุข ชี้สภาล่มเพราะสส.เล่นเกมการเมือง “รองฯวิษณุ” เชื่อศึกซักฟอก สภาไม่ล่ม มั่นใจรบ.ไม่เล่นเกม หลัง “บิ๊กตู่” ขอความร่วมมือหัวหน้าพรรคร่วมใน ครม.หวังสร้างเกียรติประวัติ “วราวุธ” ชี้ยุบสภาตอนนี้โกลาหลแน่ ชี้ต้องให้เวลากกต.แบ่ง 400 เขต ให้รอบคอบสมบูรณ์ก่อน พร้อมขอโอกาส ชทพ. ปักธงใน กทม.
เมื่อวันที่ 3กุมภาพันธ์ นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค หัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่มีข่าวแต่งตั้งให้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรวมกลาโหม สมาชิกพรรค รทสช.เป็นประธานคณะกรรมการกำหนดแนวทางและยุทธศาสตร์พรรคการเมืองของพรรคว่า เป็นการตั้งตามมติของที่ประชุมใหญ่วิสามัญเมื่อวันที่ 9มกราคมที่ผ่านมา ซึ่งไม่ได้ติดใจว่าใครจะเรียกคณะกรรมการชุดนี้ว่าอย่างไร ถือเป็นเรื่องภายในพรรคที่สามารถทำได้ ทั้งนี้ ได้กำหนดไว้ว่า คณะกรรมการชุดดังกล่าวจะประชุมสัปดาห์ละ1ครั้ง หรือถ้า พล.อ.ประยุทธ์ ติดงานอาจใช้วิธีประชุมผ่านทางซูม
’บิ๊กตู่’ปธ.กรรมการกำหนดนโยบายพรรค
สำหรับรายชื่อคณะกรรมการกำหนดแนวทางและยุทธศาสตร์พรรคการเมืองประกอบด้วย 1.พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็นประธาน 2.นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค เป็นรองประธาน และมีกรรมการประกอบด้วย 3.นายไตรรงค์ สุวรรณคีรี 4.พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง 5.นายชัชวาลล์ คงอุดม 6.นายชุมพล กาญจนะ 7.นายวิทยา แก้วภราดัย 8.นายสุชาติ ชมกลิ่น 9.นายธนกร วังบุญคงชนะ 10.นายเสกสกล อัตถาวงศ์ 11.นายอนุชา บูรพชัยศรี 12.นายวิสุทธิ์ ธรรมเพชร 13.นายพงษ์ศักดิ์ จ่าแก้ว และ 14.นายเอกณัฏ พร้อมพันธุ์ เป็นกรรมการและเลขานุการ 15.นางพิชชารัตน์ เลาหพงศ์ชนะ เป็นกรรมการและผู้ช่วยเลขานุการ
คณะกรรมการดังกล่าวจะมีอำนาจหน้าที่ 1.กำหนดแนวทางการทำงานและยุทธศาสตร์พรรค 2.เสนอแนะ แนะนำ และให้ความเห็นต่อคณะกรรมการบริหารพรรคเกี่ยวกับการดำเนินการและการดำเนินกิจกรรมทางการเมืองของพรรค 3.เสนอแนะ แนะนำ และให้ความเห็นต่อหัวหน้าพรรค กรรมการบริหารพรรค คณะกรรมการต่างๆ ของพรรค และสมาชิกพรรค เกี่ยวกับการดำเนินการ และการดำเนินกิจกรรมทางการเมืองของพรรค และสมาชิกพรรค 4.ดำเนินการอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องกับอำนาจหน้าที่ของคณะกรรมการ
โดยรายชื่อคณะกรรมการชุดนี้ นายพีระพันธุ์ได้ลงนามตั้งแต่วันที่ 28 มกราคม 2566
‘บิ๊กตู่นั่ง’รถไฟทัวร์สมุทรสงคราม
เวลา 10.00น.พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม พร้อมคณะ อาทิ พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทย,นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค เลขาธิการนายกรัฐมนตรี,นายธนกร วังบุญคงชนะ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เป็นต้น เดินทางด้วยเฮลิคอปเตอร์ จากพล.ม.2รอ.เขตพญาไท กรุงเทพฯ ไปยังสนามกีฬาจังหวัดสมุทรสงคราม ต.แม่กลอง อ.เมืองสมุทรสงคราม จ.สมุทรสงคราม จากนั้นเวลา 11.15น.นายกฯและคณะได้ขึ้นรถไฟขบวนที่ 4383 ที่สถานีลาดใหญ่ ต.ลาดใหญ่ อ.เมืองสมุทรสงคราม จ.สมุทรสงคราม ไปยังสถานีรถไฟแม่กลอง (ตลาดร่มหุบ) เพื่อตรวจติดตามแนวทางการพัฒนาเศรษฐกิจฐานรากและการพัฒนาชุมชนอย่างยั่งยืน
‘รังสิมา-สส.พปชร.’รอรับคึกคัก
โดย น.ส.รังสิมา รอดรัศมี สส.สมุทรสงคราม พรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) นำประชาชนมาต้อนรับด้วย ภายหลังมีกระแสข่าวจะย้ายมาอยู่พรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) นอกจากนี้ ยังมีสส.พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.)มารอต้อนรับและร่วมนั่งรถไฟไปกับนายกฯด้วย อาทิ นายจารึก ศรีอ่อน ส.ส.จันทบุรี ,นายอัครเดช วงพิทักษ์โรจน์ ส.ส.ราชบุรี, นายสินธพ แก้วพิจิตร ส.ส.นครปฐม , น.ส.ฐิติภัสร์ โชติเดชาชัยนันต์ ส.ส.กทม. , น.ส.ไพรินทร์ เทียนสุวรรณ ส.ส.สมุทรปราการ และ น.ส.กวินนาถ ตาคีย์ ส.ส.ชลบุรี พรรคพลังท้องถิ่นไท เป็นต้น
ตะโกนเชียร์‘อยู่ต่อ2ปีก็มีความหมาย
ทันทีที่นายกฯ เดินทางถึงสถานีรถไฟแม่กลองได้เดินโบกมือทักทายนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทย ชาวต่างชาติ พร้อมพูดคุยอย่างเป็นกันเอง ทักทายพ่อค้าและแม่ค้าริมทางรถไฟทั้งสองฝั่ง และทำมือสัญลักษณ์ไอเลิฟยู ซึ่งประชาชนที่มารอต้อนรับ บางคนสวมเสื้อยืดสีน้ำเงินซึ่งมีโลโก้ของพรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) พร้อมตะโกนว่า “นายกฯสู้ๆ,รักลุงตู่,รักพีระพันธุ์,ลุงตู่อยู่ต่อ2ปีก็มีความหมาย” เป็นต้น
ทั้งนี้ ขณะอยู่บนขบวนรถไฟนายกฯ กล่าวว่า“ดีใจที่ได้มาเจอชาวบ้านและมีความสุข ถึงตนไม่มานักท่องเที่ยวก็ตื่นเต้นและมาเยอะอยู่แล้ว วันนี้มีความสุข ขอบคุณทุกคนที่มาต้อนรับ”
จากนั้น 11.30น.นายกฯรับฟังรายงานสรุปเกี่ยวกับแนวทางการพัฒนาโครงข่ายระบบรถไฟเชื่อมต่อสมุทรสงครามและรับฟังรายงานสรุปเกี่ยวกับโครงการก่อสร้างระบบระบายน้ำหลัก และระบบป้องกันน้ำท่วม ชุมชนเมืองสมุทรสงคราม อำเภอเมืองสมุทรสงคราม ระยะที่ 1 พร้อมตรวจเยี่ยมวิถีเศรษฐกิจชุมชนสถานีรถไฟแม่กลอง เวลา 11.48น.นายกฯและคณะ เดินไปยังวัดเพชรสมุทรวรวิหาร เพื่อสักการะหลวงพ่อบ้านแหลม และนมัสการพระสมุทรวชิรโสภณ ที่ปรึกษาเจ้าคณะจังหวัดสมุทรสงคราม และพระสมุทรวชิรโสภณ เจ้าอาวาสวัดเพชรสมุทรวรวิหาร พระอารามหลวง ณ พระอุโบสถวัดเพชรสมุทรวิหาร นายกฯ กล่าวว่า เจ้าอาวาสได้ให้พร ว่าให้ทำงานเพื่อบ้านเมือง ให้สำเร็จทุกประการ และขอให้ทุกคนมีความสุข
จากนั้น นายกฯ พูดคุยกับเจ้าอาวาสวัดบ้านแหลม ก่อนขึ้นรถ ถึงการพัฒนาในพื้นที่ว่า วันนี้จะต้องเร่งรัดพัฒนาการท่องเที่ยวเมืองหลัก เมืองรอง ซึ่งส่วนใหญ่คนจะไปเมืองหลักเยอะและค่อยมาต่อเมืองรอง ฉะนั้นเราต้องรักกัน เพื่อสร้างเครือข่ายการคมนาคมด้านการท่องเที่ยว ซึ่งตนก็จะสร้างความร่วมมือเพิ่มเติม พร้อมเปรียบว่า เหมือนครอบครัวเราใหญ่ที่มีลูกเยอะๆ และกล่าวขอบคุณที่ได้อวยพรให้ตน
ชาวสวนตั้งแง่แก้ปัญหาได้ให้อยู่อีก2ปี
เวลา 13.20น.ที่วิทยาลัยเทคนิคสมุทรสงคราม พล.อ.ประยุทธ์ พร้อมคณะ เดินทางมายังวิทยาลัยเทคสมุทรสงคราม เพื่อหารือแนวทางการส่งเสริมเศรษฐกิจ สร้างมูลค่า และยกระดับรายได้ของประชาชน จ.สมุทรสงคราม พร้อมรับฟังปัญหาต่างๆของกลุ่มเกษตรกร ทั้งเรื่องประมง เรื่องปัญหานาเกลือ เรื่องปัญหาสวนมะพร้าวและผลไม้ทั้งส้มโอและลิ้นจี่ โดยช่วงหนึ่งมีตัวแทนชาวสวนผลไม้ระบุว่า ถ้าหากนายกฯแก้ไขปัญหาได้ ก็จะเลือกให้เป็นนายกฯต่ออีก2ปี
นายกฯพร้อมนำทุกปัญหาไปแก้ไข
นายกฯ กล่าวต่อว่า วันนี้มารับฟังปัญหาเพิ่ม แต่ยอมรับว่าก็มีปัญหาเดิมอยู่บ้าง แต่จะรับไปดำเนินการพิจารณาให้เร็วที่สุด“ผมเข้าใจ แต่เมื่อกี้ไม่ชอบอยู่อย่างหนึ่งคือ ที่พวกท่านพูดว่า จะยินดีให้ผมเป็นนายกฯอีก 2ปี หากสามารถแก้ปัญหาให้ได้ ไม่จำเป็นหรอก ไม่จำเป็น ผมต้องการทำงานให้กับประชาชนทุกคน ทุกกลุ่มอาชีพ ทุกจังหวัด ทุกพื้นที่ ผมเป็นนายกฯที่คิดถึงคนทั้งประเทศทั้งประเทศ ผมบอกได้แค่นี้แล้วกัน ซึ่งหลายอย่างเราได้แก้ไปบ้างแล้วทั้ง การสร้างถนนรถไฟฟ้าเยอะมากมาย วันนี้ต้องมาแก้ปัญหารายกลุ่มก็ต้องแก้กันไป แต่วันนี้สิ่งที่ผมรับคือ ปัญหาที่พวกท่านได้นำเสนอ ก็จะไปดูแลและแก้ปัญหาให้ได้โดยเร็ว แต่ทั้งหมดต้องอยู่บนพื้นฐานความถูกต้อง ความชอบธรรม ทั้งหลักกฎหมาย นิติศาสตร์ และรัฐศาสตร์ ในทุกเรื่องเพื่อให้ทุกคนมีความสบายใจและเกิดความเข้าใจซึ่งกันและกัน ไม่เช่นนั้นจะมีผลกระทบเช่นนี้”
นายกฯ กล่าวว่า กระทรวงที่เกี่ยวข้องในทุกปัญหาจะต้องดำเนินการ แม้จะมาจากคนละที่ ก็ถือเป็นรัฐบาลร่วมกันจะต้องรับผิดชอบร่วมกัน ความบกพร่องและความเสียหาย จะต้องช่วยกันไม่อย่างนั้นจะมีปัญหาอยู่แบบนี้ ตนอยากให้บ้านเมืองเราอยู่ในความสงบสุข ไม่มีปัญหาจากกฎหมาย เป็นสิ่งที่นายกฯใช้มาตลอดคือความเท่าเทียมของโอกาสที่เท่าเทียม ทั้งถนนหนทางต่างๆจะต้องได้ใช้อย่างเท่าเทียม โดยพัฒนาตัวเองให้เข้ามาใช้ประโยชน์ ส่วนเรื่องความเป็นธรรมจะต้องดูแลผู้มีรายได้น้อยทั้งรายบุคคลรายครัวเรือน เพราะเงินทองได้มาจากรายได้ของประชาชน แต่จะทำอย่างไรให้เรามีรายได้มากขึ้น พวกเราทุกคนต้องมีอาชีพที่ดีขึ้น รายได้มากขึ้น สามารถช่วยรัฐบาลได้ในอนาคตทุกเรื่องทั้งหมดขอรับไว้พิจารณา ขอบคุณทุกคนที่มานั่งฟังตรงนี้
ชมฝรั่งตื่นเต้นมาเที่ยวเต็มตลาด’ร่มหุบ’
“อาจจะฟังดูว่านายกฯเครียดอะไรหรือเปล่า ไม่ได้โกรธใครเลย แต่เสียงมันเป็นอย่างนี้เอง บางเวลาก็ยิ้มหัวเราะได้แต่พอเป็นงานเป็นการก็เป็นแบบนี้คิดอยู่ตลอดเวลา เมื่อกี้ที่พวกท่านพูด ก็จดไว้ 5 หน้ากระดาษ บางอันก็ซ้ำเดิมแสดงว่าแก้ไม่ได้จริง ก็ต้องยอมรับว่าอะไรใช่ ไม่ใช่ รับปากจะไปดูแลให้”นายกฯ กล่าว ช่วงท้าย พล.อ.ประยุทธ์ ถามว่า มีใครจะถามอะไรไหม เมื่อเช้านั่งรถไฟมาสนุกดีเห็นในรูปอยากมาตั้งนานแล้วที่ตลาดร่มหุบ ร่มบ้านของเธอ คนมาเต็มบนรถไฟ คนต่างประเทศเต็มไปหมด เขาตื่นเต้นกับตลาดร่มหุบ และตื่นเต้นเป็น2 เท่าที่ได้เจอนายกฯไทย ตนก็งงๆ เขาก็ต้อนรับตนดี ทั้งที่ไม่รู้จักกัน แต่เขารู้ว่านี่คือนายกฯแน่นอน ถ่ายรูปกันไป ตนก็ขอบคุณในนามประเทศไทยและชาวสมุทรสงคราม ยินดีที่ท่านมาเที่ยวทำให้เศรษฐกิจฐานรากของเราดีขึ้น ตนไปไหนไม่เห็นมีใครรังเกียจประเทศไทย เขาชื่นชมว่าเราทำได้อย่างไรเศรษฐกิจก็ดี
ไหว้พระขอให้ปท.เรียบร้อย-มีความสุข
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ทันทีที่นายกฯพูดมาถึงตรงนี้ปรากฎว่าไฟดับ พล.อ.ประยุทธ์ พยายามเคาะไมโครโฟน แต่เสียงไมโครโฟนยังไม่ดัง ทำให้ต้องตัดสินใจลงจากเวที มาทักทายประชาชน ซึ่งจังหวะนี้ไฟฟ้ากลับมาใช้ได้ตามปกติ โดยนายกฯใช้เวลาพูดต่อไปอีก 19นาที โดย พล.อ.ประยุทธ์ เดินทักทายประชาชน พร้อมชมว่า”ยิ้มสวย ผมก็อยากยิ้มเหมือนกัน แต่ก็ยังทำไม่ได้”นายกฯยังกล่าวอีกว่า“เมื่อช่วงเช้าที่ไปไหว้พระได้ขอพรให้กับคนไทยทุกคนเพื่อให้ประเทศเรียบร้อย มีความสุข ผมไม่ได้ขออะไรเพื่อตัวเองมากมาย ผมขออย่าทะเลาะกัน ขัดแย้งกัน พูดกันดีๆ วันนี้ถ้าพูดไม่เพราะ ก็ขอโทษด้วยแล้วกัน ถึงนายกฯจะพูดไม่เพราะ แต่ก็มีหัวใจให้กับพวกเราทุกคน”
ผู้สื่อข่าวรายงานบรรยากาศเพิ่มเติมว่า นอกจากคณะ ส.ส.และอดีต ส.ส. ได้แก่ น.ส.รังสิมา รอดรัศมี ส.ส.สมุทรสงคราม พรรคประชาธิปัตย์ น.ส.ไพลิน เทียนสุวรรณ อดีต ส.ส.สมุทรปราการ พรรคพลังประชารัฐ น.ส.ฐิติภัสร์ โชติเดชาชัยนันต์ อดีต ส.ส.กทม. พรรคพลังประชารัฐ พ.ท.สินธพ แก้วพิจิตร ส.ส.นครปฐม พรรคประชาธิปัตย์ นายอัครเดช วงษ์พิทักษ์โรจน์ ส.ส ราชบุรี ของพรรคประชาธิปัตย์ ที่มาร่วมต้อนรับนายกฯตัังแต่ช่วงเช้าแล้ว ในช่วงบ่ายยังมี ส.ส.บางส่วนตามมาสมทบด้วย โดยเฉพาะ น.ส.กุลวลี นพอมรบดี ส.ส.ราชบุรี เขต 1 พรรคพลังประชารัฐ ที่มีข่าวจะลงสมัครรับเลือกตั้ง ส.ส.กับพรรครวมไทยสร้างชาติในการเลือกตั้งครั้งหน้า ขณะที่นายอัครเดช ส.ส ราชบุรี ของพรรคประชาธิปัตย์อีกคน เดินมาร่วมต้อนรับ พล.อ.ประยุทธ์ตั้งแต่ช่วงเช้าแล้ว
นายกฯชี้สภาล่มเพราะเล่นเกมการเมือง
ที่วิทยาลัยเทคนิคสมุทรสงคราม จ.สมุทรสงคราม พล.อ.ประยุทธ์ ให้สัมภาษณ์กรณี นายศุภชัย โพธิ์สุ รองประธานสภาผู้แทนราษฎรคนที่2 เรียกร้องให้นายกฯยุบสภา หลังสภาล่มบ่อย ว่า ได้ขอร้องบรรดาพรรคร่วมรัฐบาลดูว่ามีปัญหาอยู่ตรงไหน ส่วนใหญ่เป็นเรื่องปัญหากฎหมายแต่ละฉบับของใครๆ ก็รู้กันอยู่ กรุณาทำหน้าที่ให้ดีที่สุดแล้วกัน ตนก็ทำหน้าที่ฝ่ายบริหารของตน ไม่เคยไปก้าวก่ายอำนาจของฝ่ายนิติบัญญัติ ฉะนั้นต่างคนต่างทำหน้าที่แล้วกัน ให้ดีที่สุด ประชาชนก็แยกแยะเอาเอง เลือกเอาเอง เลือกจะฟัง เลือกจะเชื่อกันเอาเองแล้วกัน
ผู้สื่อข่าวถามว่า เวลาที่เหลืออยู่ของรัฐบาล จะทำอะไรให้เสร็จสมบูรณ์ พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า หลายอย่างเสร็จสมบูรณ์ไปแล้ว อย่างเรื่องถนน ความยากจน อาชีพ สำเร็จแล้วคือพวกนี้ แต่ต้องทำต่ออีก คนที่ไม่ได้ช่วงหนึ่งจะต้องมาทำช่วงนี้ต่อ เพราะการใช้จ่ายและการบริหารประเทศของรัฐบาลเดินเป็นระยะๆ เข้าใจหรือไม่ จะกี่ปีกี่เดือนก็แล้วแต่เถอะ ฉะนั้น ต้องดูว่าที่ผ่านมามีอะไรสำเร็จไปแล้วบ้าง สิ่งที่สำเร็จไปแล้วพอหรือยัง ถ้ายังไม่พอต้องทำใหม่ ทำต่อ แต่อันไหนที่เป็นปัญหาคาราคาซังอยู่ ต้องดึงออกมารื้อต่อ รื้อใหม่ คนเยอะความคิดก็เปลี่ยน อะไรก็เปลี่ยน ฉะนั้น สิ่งไหนที่ทำแบบเดิมๆ อาจจะไม่ได้ ต้องหาวิธีการใหม่ ฝากไว้กับบรรดา สส.ช่วยดูในเรื่องกฎหมายด้วยแล้วกัน กฎหมายบางอย่างที่เราพยายามเร่งแต่ออกไม่ได้ เพราะไม่เข้าใจกัน ไม่อยากให้ประเด็นกฎหมายหรือ พ.ร.บ.ที่เสนอเข้าไปถูกเรียกว่าการเมือง แต่เป็นเรื่องของประชาชน กฎหมายทุกตัวไม่ใช่ของพรรคใดพรรคหนึ่ง แต่เป็นของประชาชนทั้งประเทศ
ลงปาร์ตี้ลิสต์เบอร์1เดี๋ยวก็ว่ากันไป
เมื่อถามว่า การลงพื้นที่เสียงของประชาชนเชียร์ให้ พล.อ.ประยุทธ์อยู่ต่อ โดยเฉพาะวันนี้มีประโยคเชียร์ว่า 2ปีก็มีค่า ขณะเดียวกัน มีข่าวว่า พล.อ.ประยุทธ์จะลงสมัครรับเลือกตั้ง ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อ ลำดับที่ 1 ของพรรครวมไทยสร้างชาติ(รทสช.)ด้วย ข้อเท็จจริงเป็นอย่างไร พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ก็เดี๋ยวว่ากัน ก็ว่าไป นายกฯจะตัดสินใจอีกที เรื่องของนายกฯอย่าตอบตอนนี้ บางเรื่องตอบทีหลังก็ได้ แต่วันนี้ยืนยันว่าจะทำหน้าที่ของตัวเองให้เต็มที่ ไม่ว่าจะอยู่สถานะใดก็ตาม
ผู้สื่อข่าวรายงานว่าในการลงพื้นที่จังหวัดสมุทรสงคราม นายกฯใช้รถยนต์ยี่ห้อโตโยต้าอัลพาร์ด สีขาว หมายเลขทะเบียน 3 กญ 2929 กรุงเทพมหานคร
‘พปชร.’ปลื้ม!กระแส’ลุงป้อมฟีเวอร์’
ขณะที่พรรคพลังประชารัฐ(พปชร.)น.ส.เกณิกา อุ่นจิตร์ ทีมโฆษกพรรค พปชร.ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.กล่าวถึงกระแสตอบรับ หลังจาก พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ เดินสายลงพื้นที่ในทุกภูมิภาคของประเทศ และได้เปิดนโยบาย “บัตรประชารัฐ700บาทต่อเดือน” หรือ”ป้อม700” ทำให้ประชาชนในแต่ละพื้นที่แสดงความชื่นชม และบางคนถึงกับไปถามว่าที่ผู้สมัครในเขตของตนเองว่าต้องทำอย่างไร อยากให้ลุงป้อมเป็นนายกฯ ให้ได้ เพื่อจะได้มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น
“ขอเรียนว่า ที่ผ่านมาพรรคพลังประชารัฐในฐานะแกนนำจัดตั้งรัฐบาล ได้มีผลงานที่เป็นรูปธรรม ในเรื่องการสร้างสวัสดิการประชารัฐ ผ่านบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ การบริหารจัดการน้ำ การจัดที่ดินทำกิน การปราบปรามการค้ามนุษย์ อุตสาหกรรมประมงและอื่นๆ อีกมากมาย และสำหรับนโยบาย “ป้อม 700” ที่เราพึ่งเปิดตัวไป ถือเป็นนโยบายแรกเท่านั้น โดยเป็นการอัพเกรดจากนโยบายเดิมที่เคยทำสำเร็จแล้วแต่จะทำให้ดีกว่าเดิม หลังจากนี้ยังมีนโยบายอื่นๆ อีกที่รอเปิดตัว ซึ่งทุกนโยบายของพรรคเกิดจากการลงพื้นที่ฟังเสียงประชาชน จึงมั่นใจว่าทุกนโยบายจะถูกใจประชาชนอย่างแน่นอน”
ทีมโฆษกพรรค พปชร.ย้ำอีกว่า “ตนเองได้ติดตามลงพื้นที่ร่วมกับหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐอย่างต่อเนื่อง ทำให้เห็นถึงกระแสลุงป้อมฟีเวอร์ในช่วงนี้ ไปไหนมีแต่คนมาขอถ่ายรูป มากอด มาหอม ชวนไปฟ้อน ไปรำ มาส่งแรงเชียร์อยากให้เป็นนายกคนที่ 30 ของประเทศไทย ประชาชนบอกยิ่งได้เจอตัวจริงยิ่งรู้ว่าลุงป้อมเป็นคนใจดี เข้าถึงประชาชน และทำงานอย่างหนักเพื่อประชาชนจริงๆ โดยเฉพาะผลงานที่ผ่านมาที่จะเป็นเครื่องพิสูจน์ อีกทั้งยังเป็นผู้นำที่พร้อมสานสัมพันธ์กับทุกฝ่าย เพื่อก้าวข้ามความขัดแย้ง เดินหน้าสร้างพลังแห่งความปรองดองและสามัคคีให้กับประเทศ”
“วิษณุ”เชื่อสภาฯไม่ล่มวันซักฟอก
ที่ทำเนียบรัฐบาล นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณี นายสมชัย ศรีสุทธิยากร ออกมาตั้งข้อสังเกต พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) แนะนำผู้สมัคร สส.ระหว่างลงพื้นที่ตรวจราชการ จ.ราชบุรี เข้าข่ายผิดกฎหมายเลือกตั้งหรือไม่ ว่า ตนไม่ได้ดู ไม่รู้ว่า พล.อ.ประวิตร ไปไหน ไปทำอะไร แม้แต่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม ตนก็ไม่รับรู้ เมื่อถามว่า เหตุการณ์สภาล่มบ่อยรัฐบาลทำใจแล้วหรือยัง นายวิษณุ กล่าวว่า ไม่ได้ทำใจ วันที่ 7กุมภาพันธ์ จะเสนอพระราชกฤษฎีกา (พ.ร.ฎ.) ปิดสมัยประชุมสภาวันที่ 1มีนาคมแปลว่าอยู่ไปตามนั้น หากล่มก็ไม่ต้องประชุม แต่ไม่เป็นเหตุให้ยุบสภา เพราะหากยุบไม่สามารถจัดการเลือกตั้งได้ และจะนับหนึ่งเร็วเกินไปจนยุ่งกันทุกพรรค อย่างไรก็ตาม ไม่มีกฎหมายของรัฐบาลที่จะเสนอต่อสภาแล้ว เพราะได้หารือกับนายชวน หลีกภัย ประธานสภาผู้แทนราษฎรว่า ต่อไปนี้รัฐบาลจะไม่ส่งกฎหมายฉบับใหม่เพราะวันประชุมเหลือ 4ครั้ง หักอภิปรายทั่วไปแบบไม่ลงมติตามรัฐธรรมนูญ มาตรา152 จะเหลือ3ครั้ง
เมื่อถามว่า คิดว่าการอภิปรายตามรัฐธรรมนูญ มาตรา152 สภาจะล่มหรือไม่ นายวิษณุ กล่าวว่า ประชุมได้ถึงเที่ยงคืน เมื่อถามต่อว่า ฝ่ายรัฐบาลสามารถเล่มเกมกลับเพื่อให้สภาล่ม จนฝ่ายค้านไม่สามารถอภิปรายได้หรือไม่ นายวิษณุ กล่าวว่า ตนไม่ทราบ รัฐบาลไม่เล่นเกมอยู่แล้ว แต่สมาชิกเล่นของเขากันเองอยู่แล้ว ซึ่งตนไม่ทราบ ที่ผ่านมารัฐบาลก็กำชับเรื่องนี้ โดยเมื่อวันที่ 31 มกราคม ที่ผ่านมา เลขาธิการคณะรัฐมนตรี (ครม.) ได้อ่านจดหมายของนายชวน ว่าขอความร่วมมือ ซึ่งพล.อ.ประยุทธ์ได้กำชับอีกครั้งหนึ่งว่าการประชุมสภาเหลืออีกไม่กี่ครั้ง ขอให้ช่วยรักษาเกียรติประวัตินี้เอาไว้ ให้ทุกคนเข้าใจว่าเป็นผลงานของสภาที่จะบันทึกไว้ ยืนยันว่าการอภิปราย ม.152 ไม่มีปัญหา เพราะรัฐบาลพร้อมที่จะตอบ แต่หากองค์ประชุมไม่ครบด้วยเหตุใด ตนก็ไม่ทราบ แต่ถึงอย่างไร ถ้าไม่มีใครขอให้นับองค์ประชุม ก็ไม่เป็นไร
เมื่อถามถึงกรณีที่พรรคภูมิใจไทย (ภท.) ระบุว่าหากวิปรัฐบาลไม่สามารถควบคุมองค์ประชุมสภาได้ พรรค ภท.จะไม่ร่วมเป็นองค์ประชุม นายวิษณุ กล่าวว่า ต้องไปถามพรรค ภท. ตนไม่ทราบ และเป็นบางคนเท่านั้นที่ประชดกันไปประชันกันมา ซึ่งตนเห็นมาแล้วในวาระกระทู้สด ก็ครบองค์ประชุมทุกที
ประกาศเขตลต.ลงราชกิจจาฯไม่เกิน28กพ.
นายวิษณุ กล่าวอีกว่า ขณะนี้ กกต.ได้ประกาศหลักเกณฑ์การแบ่งเขตเลือกตั้งลงราชกิจจานุเบกษาแล้ว ขณะนี้กำลังทยอยส่งในรูปแบบเขตเลือกตั้งที่แบ่งใหม่ตามกฎหมายลูก ให้ กกต.จังหวัดและผู้ว่าราชการจังหวัดนำไปรับฟังความคิดเห็นประชาชนในพื้นที่ จากนั้นเมื่อรับฟังเสร็จแล้ว จะส่งกลับมายังกกต.เพื่อสรุป และเตรียมประกาศในราชกิจจานุเบกษา ซึ่งกกต.ได้แจ้งมาว่า จะประกาศเขตเลือกตั้งในราชกิจจานุเบกษาได้ภายในวันที่ 28ก.พ.หรือเร็วกว่านั้น
‘จุรินทร์’ไม่วิจารณ์-ปชป.ทำหน้าที่เต็มที่
นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ตอบคำถามผู้สื่อข่าวประเด็นสภาล่มซ้ำซาก คิดว่าเป็นเกมการเมืองของแต่ละพรรคหรือไม่
นายจุรินทร์กล่าวว่า ตนไม่ไปวิจารณ์พรรคไหน แต่ในส่วนประชาธิปัตย์พยายามทำหน้าที่เต็มที่ โดยถือหลักกฎหมายที่เสนอโดยคณะรัฐมนตรีเป็นกฎหมายหลักที่ต้องสนับสนุน เพราะอยู่ในพรรคร่วมรัฐบาล แต่ถ้าเป็นกฎหมายที่เสนอโดยพรรคการเมือง ก็ต้องดูเป็นกรณีไป เช่น พรบ.กัญชาเป็นกฎหมายที่เสนอโดยพรรคการเมืองไม่ใช่กฎหมายที่เสนอโดยรัฐบาล ก็แยกกันว่าอันไหนสนับสนุนอันไหนไม่ควรสนับสนุน รวมทั้ง พรบ.ประมงที่ยังค้างอยู่ในการพิจารณาก็เป็นกฎหมายที่เสนอโดยพรรคการเมือง อย่างน้อยพรรคประชาธิปัตย์เป็นพรรคหนึ่งที่เสนอ เพราะต้องการแก้ไขพระราชกำหนดที่ออกมาก่อนหน้านี้ ให้เป็นพระราชบัญญัติประมงฉบับใหม่ที่เหมาะสมสอดคล้องกับสถานการณ์ แก้ปัญหาที่เกิดกับชาวประมงมากที่สุดอยู่ทุกวันนี้ เพื่อฟื้นการประมงพาณิชย์ไทยและทำให้ประมงพื้นบ้านสามารถเดินหน้าทำเศรษฐกิจของประเทศให้โตต่อเนื่องยิ่งขึ้นได้ โดยประชาธิปัตย์เสนอหลักการใหญ่คือ ประมงพาณิชย์ถือหลักให้ปรับมาตรการมาเท่ากับมาตรฐานไอยูยู ไม่ต้องเกินจนกลายเป็นการทำลายประมงยับเยินเหมือนก่อนหน้านี้ จนเศรษฐกิจเสียหายหลายแสนล้านบาท ขณะเดียวกันก็ส่งเสริมให้รำวงพื้นบ้านหรือประมงท้องถิ่นสามารถทำการประมงได้คล่องตัวขึ้นและมีส่วนสำคัญในการพัฒนาเศรษฐกิจของประเทศควบคู่กันไปให้มากขึ้น แต่ยังไม่สามารถเข้าพิจารณาในสภาได้เพราะสภาล่มเสียก่อน
ผู้สื่อข่าวได้สอบถามถึง การวางตัวของนายกรัฐมนตรีที่ไปเป็น สส.บัญชีรายชื่อพรรครวมไทยสร้างชาติเบอร์1 นายจุรินทร์กล่าวว่า ตนไม่มีความเห็นเป็นเรื่องปกติ ไม่มีอะไรพิเศษ ถ้าจะเป็นนักการเมืองในวิถีประชาธิปไตยต้องลงสมัครรับเลือกตั้ง ซึ่งนักการเมืองในระบบประชาธิปไตยเกือบทั้งหมดก็ลงสมัครรับเลือกตั้งอยู่แล้ว เพราะฉะนั้นไม่มีอะไรใหม่และไม่มีอะไรพิเศษ ตนไม่วิจารณ์และไม่ให้ความเห็นในเรื่องนี้ พวกตนลงสมัครรับเลือกตั้งเที่ยวหน้า ตนลงสมัครรับเลือกตั้งในระบบบัญชีรายชื่อเช่นเดียวกัน
‘วราวุธ’ชี้ยุบสภาตอนนี้โกลาหลแน่
นายวราวุธ ศิลปอาชา รมว.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ในฐานะหัวหน้าพรรคชาติไทยพัฒนา (ชทพ.) ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีรองประธานสภาผู้แทนราษฎร จี้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชานายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม ให้ยุบสภา เนื่องจากสภาไม่สามารถปฏิบัติหน้าที่ได้ ล่มอยู่บ่อยครั้ง ว่า ตั้งแต่ตนอยู่การเมืองมาก็ไม่ค่อยเห็นสถานการณ์ที่รัฐบาลอยู่มายาวจนเกือบครบวาระ ครั้งนี้เป็นครั้งแรกที่เกิดเหตุการณ์เช่นนี้ ซึ่งก็เข้าใจได้เพราะผู้แทนราษฎรแต่ละคนก็ต้องการลงพื้นที่ ให้เต็มที่ จึงทำให้บางครั้งการมาประชุมสภาจึงไม่สามารถมากันครบได้ เข้าใจทั้งสองฝ่าย แต่ในส่วนของแต่ละพรรคการเมืองได้ขอให้ทุกคนมาเข้าร่วมประชุมเท่าที่จะทำได้ “ตอนนี้ถึงจะยุบสภาไปตามที่รองประธานสภาร้องขอ หากยุบตอนนี้ก็จะโกลาหล อย่างที่ กกต.บอกว่าการแบ่งเขตยังทำไม่เสร็จสิ้นสมบูรณ์ คงต้องอดทนรอกันอีกไม่เกินเดือน คงจะได้ยุบสภา และเตรียมตัวเลือกตั้งกันเต็มที่แล้ว ส่วนรัฐมนตรีเองก็เป็นนักการเมืองที่เข้าสู่โหมดเลือกตั้งกันทุกคนเหมือนกัน ทำให้การทำงานในสภาอาจจะติดขัดในช่วงเดือนนี้ แต่ช่วงอภิปราย ม.152 น่าจะครบองค์ประชุม ไม่น่าจะขาดกัน” นายวราวุธ กล่าว
ผู้สื่อข่าวถามถึงกรณีที่นายสุรทิน พิจารณ์ สส.บัญชีรายชื่อ หัวหน้าพรรคประชาธิปไตยใหม่ บอกมีข้อมูลนายกฯจะยุบสภา 9 มี.ค.นายวราวุธ กล่าวว่า อยู่ในวิสัยที่เป็นไปได้ เพราะพ้นเดือนกุมภาพันธ์ไปแล้ว หากจะยุบสภาในวันที่ 9 หรือ15 หรือ 20มีนาคม เวลาสิบกว่าวันก็ไม่ได้ต่างอะไรกัน เพราะสภาปิดสมัยประชุมแล้ว สามารถเกิดขึ้นได้ ไม่ได้อยู่นอกเหนือความคาดหมาย มีความเป็นไปได้ แต่อย่างน้อยก็ต้องก่อนวันที่ 22 มีนาคมแน่ เมื่อถามถึงกรณีที่คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) กำลังเร่งแบ่งเขตเลือกตั้งก่อน 28กุมภาพันธ์ นายวราวุธ กล่าวว่า ตนคิดว่าเป็นผลดีกับทุกฝ่าย และจะได้เป็นไปตามที่รองประธานสภาฯร้องขอจะได้ยุบสภาเร็วขึ้น และดำเนินการเลือกตั้ง แต่ กกต.ก็ต้องทำด้วยความระมัดระวังเพราะ กกต.มีถึง 400เขตในการที่จะตัดสินว่าแบ่งเขตแบบใด ถ้าได้เร็วก็ดี แต่เร็วแล้วก็ต้องมีความรอบคอบด้วย เห็นใจและเป็นกำลังใจให้กับกกต.ให้เวลากกต.ทำให้รอบคอบ ดีกว่าทำออกมาแล้วมีความผิดพลาด เพราะครั้งนี้ประชาชนทุกคนมีความตั้งใจอยากเลือกตั้งเต็มที่
ผู้สื่อข่าวถามถึงกรณีที่ พรรคชาติไทยพัฒนากำลังพูดคุยกับหลายคนเพื่อส่งลงสมัครในเขตกรุงเทพมหานคร นายวราวุธ กล่าวว่า จากการที่มีการโยกย้ายเปลี่ยนพรรคสังกัดจึงมีว่าที่ผู้สมัครจำนวนหนึ่งให้ความสนใจมาร่วมงานกับพรรคชาติไทยพัฒนา ซึ่งถือเป็นสิ่งดี เพราะแต่ละคนล้วนแต่ทำงานมาได้ระยะเวลาหนึ่ง พรรคชาติไทยพัฒนา หวังว่าถ้ามีโอกาสอย่างน้อยสัก 1 เขตในกทม.เราจะพยายามอย่างเต็มที่
‘นิกร’โพสต์หนุน‘วราวุธ’ชิงนายกฯ
นายนิกร จำนง ประธานคณะกรรมการนโยบายและยุทธศาสตร์ ผู้อำนวยการพรรค และ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร แบบบัญชีรายชื่อ พรรคชาติไทยพัฒนา โพสต์ข้อความบนเฟซบุ๊กส่วนตัว Nikorn Chamnong ระบุว่า “ผมได้ทำบันทึกเสนอต่อคณะกรรมการบริหารพรรคชาติไทยพัฒนา ขอเสนอชื่อ คุณวราวุธ ศิลปอาชา เพื่อแต่งตั้งเป็นนายกรัฐมนตรี ตามประกาศของพรรคชาติไทยพัฒนา เรื่อง คำเชิญชวนเสนอชื่อบุคคลเพื่อแต่งตั้งเป็นนายกรัฐมนตรีของพรรคชาติไทยพัฒนา ลงวันที่ 1 กุมภาพันธ์ พ.ศ.2566”
ผู้สมัคร พท.จี้แบ่งเขตให้เป็นธรรม
นายนิติ จิตรัตน์ ว่าที่ผู้สมัคร เขต7พรรคเพื่อไทย(พท.) จ.นครศรีธรรมราช กล่าวถึงการแบ่งเขตเลือกตั้งที่เอื้อกับพรรครัฐบาลว่า ผมมองว่าการแบ่งเขตเลือกตั้งควรอยู่ในบริบท วิถึชุมชน ภูมินิเวศ ต้องเป็นไปในทิศทางเดียวกัน อย่างการแบ่งเขตโซนเขา ก็ต้องให้พื้นที่อยู่ในกลุ่มคนเขา เนื่องจากชุมขนเหล่านี้จะมีวิถึชุมชนที่เหมือนกัน จึงง่ายสำหรับ สส.ที่จะเข้ามาพัฒนาพื้นที่ เช่น เขต7ของตน บางรูปแบบเท่าที่ทราบมา มี อ.ลานสกา บางรูปแบบก็ไม่มี เอาลานสกา ซึ่งเป็นกลุ่มเขาไปอยู่กับโซนทะเล ซึ่งมองว่าแปลกๆ มันต้องคำนึงถึงประชากรด้วย บางอำเภอใหญ่ๆที่มีจำนวนประชากรมาก ก็เอาเป็นอำเภอตั้งหลัก และค่อยหยิบอำเภอใกล้เคียงที่มีลักษณะภูมินิเวศเหมือนกันมาเติมให้เต็มเขต ไม่ควรเอาอำเภอใหญ่มาแยกออก ประชากรสับสน คนที่จะมาพัฒนาก็ทำไม่ถูก บางครั้งตำบลนี้ได้รับการสนับสนุนท่องเที่ยวทางทะเล และพื้นที่จองเราอยู่ในโซนเขาจะทำอย่างไร เป็นต้น
ถามว่าแบ่งเขตแบบเอื้อให้พรรครัฐบาลหรือไม่ ตอบคำเดียวว่าใช่ พรรคเล็กๆ ไม่มีปากเสียงในการพิจารณาหรือนำเสนออย่างแน่นอน แค่เพียงเอื้อพื้นที่ให้กับคนของตน แต่ไม่ได้มองลักษณะภูมินิเวศของประชากร อย่าทำอะไรน่าเกลียดเกินไปผมมองว่าการแบ่งเขตในปี 54 ดีที่สุด
เปิดหลักเกณฑ์แบ่งเขตเลือกตั้งส.ส.
สำนักงาน กกต.แจ้งว่า กกต.เห็นชอบกรอบระยะเวลาการแบ่งเขตเลือกตั้ง สส.โดยให้สำนักงาน กกต.ประจำจังหวัด ดำเนินการ 1.กรณีจังหวัดที่มีจำนวน ส.ส. แบบแบ่งเขตเลือกตั้งมากกว่า 1 คน ให้ผู้อำนวยการการเลือกตั้งประจำจังหวัด (ผอ.กต.จว.) จัดทำรูปแบบการแบ่งเขตเลือกตั้งภายใน 3 วัน โดยต้องแบ่งพื้นที่ของเขตเลือกตั้งแต่ละเขต ให้ติดต่อกันและต้องจัดให้มีจำนวนราษฎรในแต่ละเขตเลือกตั้งใกล้เคียงกัน แล้วประกาศรูปแบบการแบ่งเขตเลือกตั้งอย่างน้อย 3รูปแบบ เพื่อรับฟังความคิดเห็นของพรรคการเมืองและประชาชนในจังหวัดเป็นเวลา 10วัน ซึ่งแต่ละรูปแบบต้องประกอบด้วยรายละเอียดเกี่ยวกับอำเภอหรือตำบล หรือเขตพื้นที่ที่อยู่ในเขตเลือกตั้งแต่ละเขต จำนวนราษฎรของแต่ละเขตเลือกตั้ง และผลต่างของของจำนวนราษฎรในแต่ละเขตเลือกตั้งจากจำนวนเฉลี่ยราษฎรต่อสส.1คนในจังหวัดนั้น
ทั้งนี้ ผลต่างของจำนวนราษฎรในแต่ละเขตเลือกตั้งไม่ควรเกินร้อยละ10 ของจำนวนเฉลี่ยต่อสส.1 คนในจังหวัดนั้น เว้นแต่ เป็นกรณีมีความจำเป็นเพื่อให้ราษฎรในชุมชนเดียวกันหรือใกล้เคียงกันสามารถเดินทางได้โดยสะดวก รวมถึงเหตุผลประกอบการเสนอแนะการแบ่งเขตเลือกตั้ง และแผนที่แสดงรายละเอียดของพื้นที่ที่ประกอบเป็นเขตเลือกตั้งแต่ละเขตเลือกตั้ง
ให้ประชาชนมีส่วนร่วมแสดงความเห็น
2.กรณีที่จังหวัดใดมีจำนวน สส.แบบแบ่งเขตเลือกตั้งเท่ากับจำนวนสมาชิกส.ส.แบบแบ่งเขตเลือกตั้งในการเลือกตั้งทั่วไปเมื่อปี 2562 และมีผลต่างของจำนวนราษฎรในแต่ละเขตเลือกตั้งจากจำนวนเฉลี่ยราษฎรต่อส.ส.หนึ่งคนในจังหวัดนั้นไม่เกินจำนวนผลต่างที่กำหนดไว้ข้างต้น ให้จัดทำรูปแบบการแบ่งเขตเลือกตั้ง สส.ที่ใช้ในการเลือกตั้งเป็นการทั่วไปเมื่อปี 2562 และประกาศรับฟังความคิดเห็นในการแบ่งเขตเลือกตั้งในครั้งนี้ด้วย โดยให้ดำเนินการปิดประกาศรูปแบบการแบ่งเขตเลือกตั้ง ส.ส.ไว้ ณ สำนักงานกกต.ประจำจังหวัด ศาลากลางจังหวัด ที่ว่าการอำเภอ สำนักงานเทศบาล ที่ทำการองค์การบริหารส่วนตำบล ทั้งนี้ ให้รวมถึงศาลาว่าการกรุงเทพมหานคร สำนักงานเขต และศาลาว่าการเมืองพัทยาด้วย และให้เผยแพร่ในเว็บไซต์ของสำนักงานกกต. ประจำจังหวัด รวมทั้งประชาสัมพันธ์ผ่านสื่อต่างๆด้วย เพื่อเปิดโอกาสให้พรรคการเมืองและประชาชนได้มีส่วนร่วมในการแสดงความคิดเห็น
สำหรับจังหวัดที่มีจำนวน สส.แบบแบ่งเขตเลือกตั้ง 1คน ให้ดำเนินการปิดประกาศเขตเลือกตั้งส.ส.ไว้ ณ สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้งประจำจังหวัด ศาลากลางจังหวัด ที่ว่าการอำเภอ สำนักงานเทศบาล ที่ทำการองค์การบริหารส่วนตำบล และให้เผยแพร่ในเว็บไซต์ของสำนักงานกกต.ประจำจังหวัด และประชาสัมพันธ์ผ่านสื่อต่างๆ