เลขา ป.ป.ช. แจงแจ้งข้อกล่าวหา“ทักษิณ” คดีทุจริตซื้อแอร์บัสเป็นไปตามตามหลักฐาน ยันเปิดโอกาสชี้แจงแก้ข้อกล่าวหา

เมื่อวันที่ 22 ก.พ.66 นายนิวัติไชย เกษมมงคล  เลขาธิการคระกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) กล่าวถึงกรณีที่นายทักษิณ  ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ออกมาแสดงความคิดเห็นทางคลับเฮ้าส์หลังถูก ป.ป.ช.แจ้งข้อกล่าวผิดในคดีทุจริตจัดซื้อเครื่องยนต์แอร์บัส A340-500 จำนวน 10 ลำ ว่า กรณีดังกล่าวเป็นการแจ้งข้อกล่าวหางวดแรกและจะมีงวดที่ 2 ตามมา  ซึ่งในการแจ้งข้อกล่าวหามีอดีตนายกรัฐมนตรีมีส่วนเกี่ยวข้อง เมื่อได้รับทราบข้อกล่าวหาแล้วก็คงจะไปตรวจสอบ ข้อเท็จจริงสาเหตุที่ถูกแจ้งข้อกล่าวหา และอาจจะทราบว่ามีคนให้ข้อมูลไม่ถูกต้อง

ทั้งนี้ในขั้นตอนของการแจ้งข้อกล่าวหานั้น ป.ป.ช. มีการสอบพยานปากคำบุคคลที่เกี่ยวข้องในเรื่องดังกล่าว ส่วนการที่บอกว่ามีการให้ข้อมูลพยานหลักฐานที่เป็นเท็จ ก็จะต้องพิสูจน์ โดย ป.ป.ช.ได้ดำเนินการตามข้อมูลที่มีอยู่  เปิดโอกาสให้ผู้ที่ถูกกล่าวหาทุกคนชี้แจงแก้ข้อกล่าวหาและนำพยานหลักฐาน พยานบุคล พยานเอกสารมาแสดงต่อ ป.ป.ช. เหมือนเป็นการซักค้าน ยอมรับว่า ป.ป.ช. ยังไม่ได้เจอพยานผู้ถูกกล่าวหา จึงไม่ทราบว่ากระทำความผิดจริงหรือไม่ ยังไม่ได้มีการชี้มูลความผิด เพียงแต่แจ้งข้อกล่าวหาให้รับทราบและมาชี้แจง

ส่วนที่บอกว่าเหตุใดนายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รมว.อุตสาหกรรม ไม่ถูกแจ้งข้อหานั้น นายนิวัติไชย กล่าวว่าเบื้องต้นยังไม่มีมูลที่จะซัดทอดว่าเป็นคนสั่งการอนุมัติ เพราะหลักฐานที่ป.ป.ช. มีเป็นอีกคนที่สั่งการ แต่หากภายหลังมีมูลและมีการพาดพิงไปถึงก็กลับมาพิจารณาได้ เพราะข้อกล่าวหายังไม่ยุติ เพียงแต่ไม่แจ้งข้อกล่าวหา  “เรื่องนี้การวินิจฉัยต้องวินิจฉัยทั้งเรื่องใครผิดใครถูกจะวินิจฉัยในตอนสุดท้าย เพราะฉะนั้นจึงแจ้งข้อกล่าวหาในส่วนที่มีหลักฐานก่อน” นายนิวัติไชย กล่าว

เมื่อถามถึงกรณีที่นายรัชฎา สุริยกิจ ณ อยุธยา อดีตอธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืชฟ้องกลับ ป.ป.ช. จากเหตุเข้าจับกุมการเรียกรับเงินซื้อลูกน้องในสังกัดแลกตำแหน่ง นั้น นายนิวัติไชยกล่าวว่า ป.ป.ช. เพียงแค่ไปร่วมสังเกตการณ์  แต่เรามองว่าการดำเนินการเป็นการกระทำโดยชอบ เพราะเป็นความผิดซึ่งหน้า ซึ่งแนวพิจารณาของศาลมองว่าการล่อซื้ออาจจะเป็นการกลั่นแกล้ง หมายถึงการที่เค้าไม่อยากกระทำความผิดแต่ไปล่อให้เค้ากระทำความผิด แต่ในกรณีนี้มีการเรียกรับมาก่อน ไม่ใช่การล่อซื้อและมีการร้องทุกข์กล่าวโทษมายัง ป.ป.ช.จึงต้องเข้าไปพิสูจน์ทราบการกระทำความผิดนั้นที่มีลักษณะใกล้เคียงการล่อซื้อ ย้ำว่าเป็นการไปพิสูจน์ความผิด ซึ่งผู้ถูกเรียกรับต้องไปจ่ายอยู่แล้ว เมื่อมีการจ่ายเงินก็เป็นความผิดซึ่งหน้า

“เราก็ไม่ว่าการถูกฟ้องคดี ผมก็ถูกฟ้องทั้งคดีอาญา คดีแพ่ง และคดีปกครอง กรรมการ ป.ป.ช. ก็โดนกันเป็นชุด แต่ถ้าหากเรากลัวการถูกฟ้องคดี เราก็ไม่ต้องทำมาหากิน เพราะเราต้องยอมรับถ้าเราปฏิบัติหน้าที่แบบนี้โอกาสถูกฟ้องเป็นไปได้ และเป็นสิทธิ์ที่เขาจะฟ้องได้ด้วย เราห้ามเขาไม่ได้ เราเพียงแต่ขอแค่กำลังให้เห็นว่าสิ่งที่เราทำ เพื่อประเทศและทำเพื่อหน้าที่ของเราแล้ว เชื่อว่าทุกอย่างจะคุ้มครองเรา และข้อกฎหมายที่คุ้มครองเรา ผมไม่ห่วง” นายนิวัติไชย กล่าว-001