"สุรนันทน์"แฉตอน 3 "สอท."เป๋จนเสียทรง มาจากคีย์เวิร์ด 3 คำ "กระแส-สไนเปอร์-ทุน" ย้ำผู้บริหารขาดยุทธศาสตร์ที่ชัดเจนทำพรรคล้มเหลว
เมื่อวันที่ 1 มีนาคม 2566 นายสุรนันทน์ เวชชาชีวะ อดีตรองหัวหน้าพรรค และประธานภาค กทม.พรรคสร้างอนาคตไทย (สอท.) โพสต์เฟซบุ๊ก บันทึกช่วยจำสร้างอนาคตไทย (ตอนที่ 3/5) โดยระบุว่า
ถ้าจะถกเถียงในทุกมิติถึงพรรคการเมืองในอุดมคติ คงต้องเขียนหนังสือเป็นเล่มๆ ไม่ใช่มาเขียนโพสต์เป็นบันทึกช่วยจำเช่นนี้ ดังนั้นผมจะเขียนถึง “พรรคการเมือง” เฉพาะในมิติที่ผมคิดว่าทำให้พรรคสร้างอนาคตไทย “เป๋” หรือ “เสียศูนย์เสียทรง” ทำให้ไปไม่ถึงดวงดาวที่ตั้งใจไว้
“คีย์เวิร์ด” ที่เกี่ยวข้องภายในบริบทดังกล่าว มี 3 คำ คือ “กระแส” “สไนเปอร์ – Sniper” และ “ทุน”
1. กระแส นักการเมืองชอบพูดว่า เราต้อง “สร้าง” กระแสเพื่อให้พรรคและ/หรือผู้สมัครได้รับความนิยม และ “แปลง” กระแสนั้น ให้เป็นคะแนน เพื่อชัยชนะในการเลือกตั้ง
องค์ประกอบที่ทำให้เกิด “กระแส” มีหลายปัจจัย ตั้งแต่การนำเสนอนโยบายที่ถูกใจ ตรงตามความต้องการของประชาชน การสื่อสารในนโยบายนั้นๆให้ประชาชนเข้าใจ ผู้สมัครมีฐานความนิยมส่วนตัว ผู้นำมีผลงานและสื่อสารได้โดนใจ รวมถึงการทำงานจัดตั้งในพื้นที่ที่เข้มแข็ง ฯลฯ
แต่ปัจจุบันหลายพรรคและนักการเมืองหลายคนคิดเพียงว่า ถ้าจัด “อีเว้นท์” หรือทำ “โซเชียล” ก็เพียงพอแล้ว จึงทุ่มงบประมาณไปตรงนั้น ถ้าถามว่าสำคัญไหมก็ปฏิเสธไม่ได้ว่าไม่สำคัญ แต่ในบริบทของการตลาด โดยเฉพาะการเมืองที่เป็นเรื่องของมนุษยสัมพันธ์ การได้เห็นตัวเป็นๆ ได้พูดคุย และสำคัญสุดในยุคนี้ คือ ประชาชนต้องการคนไปพูดไปปราศรัย เท่ากับไป “ฟัง” ปัญหาความทุกข์ยากของเขา การสร้างกระบวนการที่มีผู้สมัครและทีมงานในแต่ละพื้นที่จึงเป็นปัจจัยในการสร้างกระบวนการ “ปากต่อปาก – Word of Mouth” เมื่อได้ฟัง ทำความเข้าใจ รับรู้ปัญหา มีความสัมพันธ์เอาใจเขามาใส่ใจเรา ความศรัทธาจะเกิด และทำให้คนกลุ่มนั้นเป็นตัวแทนไปบอกญาติพี่น้องให้เลือกพรรคและผู้สมัคร มากกว่าเต้นแร้งเต้นกาใน TikTok หรือพูดแบบสัญญาพร่ำเพรื่อ หรือฉันดีฉันเก่งอย่างไร เสียเวลาเปล่า
โดยเฉพาะพรรคการเมืองใหม่อย่าง “สร้างอนาคตไทย”
ในการจัดตั้งทีม กทม. ผมได้ใช้ยุทธศาสตร์นี้ โดยได้รับความเห็นชอบจาก ดร.อุตตม ผมขอส่งคนลงเต็มพื้นที่ทั้งๆ ที่การแบ่งเขตยังไม่ชัด และ ดร.สมคิด ยังไม่เปิดตัว แต่ทุกเขตต้องมีคนอาสาเดิน ส่วนจะได้เป็น “ผู้สมัคร” ตัวแทนพรรคตัวจริงหรือไม่ ขึ้นกับผลงาน ทหารราบต้องรู้พื้นที่ เข้าใจความต้องการของประชาชน และพรรคต้องหล่อหลอมคน 33 คน ตลอดจนทีมงานให้มีวัฒนธรรมการอยู่ร่วมกันและช่วยเหลือซึ่งกันละกัน ผมเร่งการอนุมัติผู้ประสานงานในพื้นที่ และการเปิดศูนย์ประสานงาน เราเริ่มเดินพื้นที่เต็มกำลัง เมื่อชื่อสร้างอนาคตไทยยังสับสนในหมู่พรรคตระกูล “สร้าง” เราเริ่มใช้ #ทีมสมคิด และพูดกับประชาชนเลยว่าเป็น “พรรค ดร.สมคิด” หรือ “พรรคสมคิด” จากนิด้าโพลล์และการประเมินต่างๆ “กระแส” ในกรุงเทพฯของ ดร.สมคิด และพรรคมีคนรู้จักมากขึ้น ดร.อุตตม ทราบข้อมูลดี
แต่กรุงเทพไม่ใช่ประเทศไทย กระแสที่จะให้กระหึ่ม ย่อมต้องมีการเดินเกมที่กว้างพอ และลึกในหลายจุดที่เป็นพื้นที่เป้าหมาย การทำกระแสต้องวิเคราะห์ให้ออกว่า จุดเปลี่ยน (Tipping Point) อยู่ ณ จุดใด และทุกปัจจัยทั้งกองทัพบนบก และสื่อสารทางอากาศ ทำงานสู่จุดนั้นหรือไม่
น่าเสียดายที่ต่างจังหวัดยังเงียบ กระแสไม่เกิด ปริมณฑลของ กทม. 5 จังหวัด คนเดินไม่ครบเขต พรรคตั้งใจจะชูนโยบายพัฒนาพื้นที่ระเบียงตะวันออก (EEC) เพราะเป็นการริเริ่มของ ดร.สมคิด แต่กลับแทบไม่มีตัวผู้สมัคร ภาคเหนือเป็นรูโบ๋ใหญ่ ภาคกลางหรอมแหรม และแม้ถึงจะมีการบอกว่าจะเน้นภาคใต้ แต่การบริหารจัดการกลับไม่เป็นระบบ ผมไม่โทษประธานภาคแต่ละคน และไม่อยากเปิดเผยเบื้องหลังที่ไม่จำเป็น แต่ความล้มเหลวที่จะสร้างกระแสมาจากผู้บริหารพรรคโดยตรงที่ขาดยุทธศาสตร์ที่ชัดเจน
นั่นคงเป็นจุดที่ทำให้มีข่าวว่าผมขัดแย้งกับบางคนในคณะยุทธศาสตร์พรรค ผมเถียงไม่ชนะ พูดแรงแบบตรงๆ ก็พูด พูดแบบนิ่มนวลก็ทำ แต่พรรคไม่ปรับ และเมื่อไม่ปรับ ไม่ทำ ประชุมแต่ละสัปดาห์มีแต่เรื่อง “ธุรการ” และผมบอก ดร.อุตตม ว่า ถ้าเดินอย่างนี้ “ไปไม่รอด”
มองกลับไป ผมและทีมงานยังคงเชื่อว่า “โมเดล” ของเราถูก แต่พอดีมันอาจไม่ใช่โมเดลที่ผู้บริหารพรรคต้องการ เพราะดูเหมือนเขาต้องการใช้โมเดลยุทธศาสตร์ “สไนเปอร์” มากกว่า
- 006
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี