‘บิ๊กตู่’ลั่นเข้า‘รทสช.’ไม่เคยผิดหวัง
สู้ได้อยู่แล้ว
กำชับลูกพรรคห้ามด่าพรรคอื่น
พท.มีคำสั่งแต่งตั้ง‘เศรษฐา ทวีสิน’
นั่งปธ.ที่ปรึกษาครอบครัวเพื่อไทย
‘ประยุทธ์’ย้อนแสบ‘เศรษฐาคือใคร’
เคยทำประโยชน์อะไรให้ประเทศ
‘เสธ.หิ’ปัดชักใย‘ชูวิทย์’ถล่ม‘ภท.’
“บิ๊กตู่”สวมเสื้อสมาชิกใหม่ รทสช. 37 คน ยันทีมเศรษฐกิจ ต้องทำงานเป็นทีม ไม่ใช่เก่งคนเดียว ย้อนสื่อ“เศรษฐา”เก่งตรงไหน เขาเป็นนักธุรกิจ แต่ประเทศไม่ใช่ธุรกิจของครอบครัวใดครอบครัวหนึ่ง“ธนกร”มองเรื่องดี“เพื่อไทย”เปิดตัว “เศรษฐา”เชื่อไม่มีผลต่อคะแนน มั่นใจรทสช.พร้อมเลือกตั้งแล้ว 100% ชี้จุดขายอยู่ที่ “บิ๊กตู่”“เสธ.หิ”ขอความเป็นธรรม ให้“รทสช.-บิ๊กตู่”ยัน ไม่ได้อยู่เบื้องหลัง“ชูวิทย์”ล้ม “ภท.”ฝากบอก“อนุทิน”ไม่เคยคิดทำเรื่องนี้‘ผลสำรวจไลน์ ทูเดย์ โหวตเลือกตั้งปี’66 ‘ภท.’ครองอันดับ1 มีเสียงหนุน50,267 คะแนน คิดเป็น35.71% จากผู้เข้าร่วม165,000โหวต
เมื่อวันที่ 1มีนาคม2566 พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว,กลาโหม ในฐานะประธานคณะกรรมการกำหนดแนวทางและยุทธศาสตร์พรรคการเมือง พรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) พร้อมด้วยนายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค หัวหน้าพรรค แกนนำพรรค และสมาชิกพรรค ร่วมพิธีทำบุญ พรรครวมไทยสร้างชาติ ที่ พรรครวมไทยสร้างชาติ หลังเสร็จสิ้นพิธีทำบุญ พล.อ.ประยุทธ์ ได้ร่วมต้อนรับสมาชิกใหม่โดยสวมเสื้อพรรค รทสช.จำนวน 37คน อาทิ นายอนุชา นาคาศัย อดีต ส.ส.ชัยนาท พรรคพลังประชารัฐ(พปชร.) น.ส.รังสิมา รอดรัศมี อดีต ส.ส.สมุทรสงคราม พรรคประชาธิปัตย์(ปชป.) นายวิน สุธีรชัย อดีต ส.ส.บัญชีรายชื่อพรรคก้าวไกล (ก.ก.)น.ส.ฐิติภัสร์ โชติเดชาชัยนันท์ อดีต สส.กทม.พรรคพลังประชารัฐ นายสมบูรณ์ อุทัยเวียนกุล เลขานุการประธานสภาผู้แทนราษฎร นายปรีชา เร่งสมบูรณ์สุข อดีตรัฐมนตรีทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมรัฐบาล น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายสัมพันธ์ เลิศนุวัฒน์ อดีตรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี รัฐบาล พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ นายสุรชาติ ศรีบุษกร อดีตสส.พิจิตร พรรคพลังประชารัฐ นายสัญญา นิลสุพรรณ อดีตสส.นครสวรรค์ พรรคพลังประชารัฐ นายมานัส อ่อนอ้าย อดีต ส.ส.พิษณุโลก พรรคพลังประชารัฐ พ.ท.สินธพ แก้วพิจิตร ส.ส.นครปฐม พรรคประชาธิปัตย์ นายอัครเดช วงษ์พิทักษ์โรจน์ อดีต ส.ส.ราชบุรี พรรคประชาธิปัตย์
บิ๊กตู่สวมเสื้อรทสช.สมาชิกใหม่37คน
นายจารึก ศรีอ่อน อดีตส.ส.จันทบุรี พรรคพลังท้องถิ่นไทย น.ศ.กวินนาถ ตาคีย์ อดีต ส.ส.ชลบุรี พรรคพลังท้องถิ่นไทย นายสุพล จุลใส อดีต ส.ส. ชุมพร พรรคพลัง น.ส.วชิราภรณ์ กาญจนะ อดีตส.ส.สุราษฎร์ธานี พรรคประชาธิปัตย์ น.ส.พิมพ์ภัทรา วิชัยกุล อดีต ส.ส.นครศรีธรรมราช พรรคประชาธิปัตย์ นายวัชระ ยาวอฮะซัน อดีต ส.ส.นราธิวาส พรรคพลังประชารัฐ นางศิริวรรณ ปราศจากศัตรู ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาธิปัตย์ นายเจือ ราชสี ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาธิปัตย์ นายเขตรัฐ เหล่าธรรมทัศน์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคพลัง นางศิลัมพา เลิศนุวัฒน์ ส.ส บัญชีรายชื่อ พรรครวมไทยสร้างชาติ นางบุญญาพร ชาตะธนภัทร ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรครวมไทยสร้างชาติ
ลั่นทีมศก.รทสช.ต้องทำงานเป็นทีม
ต่อมา พล.อ.ประยุทธ์ ให้สัมภาษณ์ว่าพรรคมีความพร้อมในการเลือกตั้งแค่ไหน พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า หัวหน้าพรรคและเลขาธิการพรรคบอกแล้วว่า มีความพร้อม ทันเวลาอย่างแน่นอน ทุกอย่างเป็นไปตามกฎหมายและที่คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) กำหนด โดยพรรครทสช.จะส่งให้ครบ
ผู้สื่อข่าวถามว่า ตั้งเป้าได้สส.อย่างไร พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ถ้าตั้งเป้า แล้วไม่ได้ตามเป้า แล้วจะไปตั้งทำไม เพราะเราเชื่อมั่นว่าจะได้กว่าเป้า ส่วนเป้าที่วางไว้จะเป็นเท่าไหร่นั้นจะยังไม่บอก ทุกคนต่างหวังเช่นนั้น ถามว่าการจะเป็นรัฐบาลได้ สส.250เสียงขึ้นไป พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า การจัดตั้งรัฐบาลกติกาก็คือจะต้องได้คะแนนเสียงสูงและต้องมีทั้งฝ่ายค้านและฝ่ายรัฐบาล เสียงมากเสียงน้อยก็จะต้องขึ้นอยู่กับบทบาทการพูดคุยต่อไปว่าเป็นรัฐบาลกันอย่างไร เพราะครั้งที่แล้วก็เป็นแบบนี้ ก็ผ่านมาแล้ว
’เศรษฐา’เก่งตรงไหน-ไม่ใช่ธุรกิจครอบครัว
ผู้สื่อข่าวถามว่าพรรครวมไทยสร้างชาติจะมีทีมเศรษฐกิจมาช่วยงานหรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า สำหรับทีมเศรษฐกิจนั้นมี แต่เขาไม่ให้เอ่ยชื่อ เขาขออยู่เบื้องหลัง และเสนอเรื่องนั้นเรื่องนี้เข้ามา ในขณะที่ตนเองก็มีทีม การทำงานเศรษฐกิจไม่ใช่ว่าจะเก่งอยู่คนเดียวแล้วบอกว่าสุดยอดแน่นอน อย่างนั้นไม่ใช่ กลุ่มเศรษฐกิจของเรามีอยู่ทุกด้านและมีข้อเสนอเพื่อนำไปปรึกษาในคณะทำงานก่อนที่จะนำมาเข้ามาในระบบของรัฐบาลเพื่อให้เดินหน้าได้ ดังนั้นการจะเอานักเศรษฐกิจที่เก่งในเรื่องนั้นเรื่องนี้มาเพียงคนเดียวแล้วบอกว่าเก่งในเรื่องการบริหารประเทศ คิดว่ามันไม่ใช่
เมื่อถามว่ามั่นใจว่าจะสู้พรรคอื่นได้ใช่หรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า แน่นอนๆ ถามว่า ในวันเดียวกันนี้พรรคเพื่อไทยจะเปิดตัว นายเศรษฐา ทวีสิน ประธานที่ปรึกษาหัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย แล้วพรรครวมไทยสร้างชาติมีตัวชูอย่างนั้นบ้างหรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า”แล้วเขาเด่นตรงไหนล่ะ ที่เสนอชื่อเขามา เขาเก่งตรงไหน เขาทำอะไรมา เขาทำธุรกิจและประเทศชาติไม่ใช่ธุรกิจ “พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวอีกว่า “จำคำพูดผมเอาไว้นะ คำว่าเศรษฐกิจของประเทศ ไม่ใช่เศรษฐกิจ หรือธุรกิจของครอบครัวใดครอบครัวหนึ่ง เข้าใจหรือไม่ เป็นของประเทศ ฉะนั้นต้องหาคนที่เหมาะสมและการทำงานก็มีระบบและขั้นตอนมากมายไปหมด ต้องมีคณะกรรมการ มีคนที่เก่งเศรษฐกิจ ด้านการเงิน ด้านการธนาคาร การพาณิชย์ การอุตสาหกรรม และทั้งหมดต้องมาคุยด้วยกัน ไม่ว่าใครจะเก่งด้านใด เมื่อสั่งแล้วไปไม่ได้ หรือติดกฎหมายก็ไปไม่ได้อีกอยู่ดี เราก็ต้องแก้ไขตรงนี้ แล้วรัฐบาลชุดหน้าจะต้องทำแบบนี้ เข้าใจหรือยัง เลิกถามเสียทีเถอะถึงหัวหน้าทีมเศรษฐกิจเนี่ย”
เดินสายอุดรธานี-หนองบัวลำภู2มี.ค.
นายอนุชา บูรพชัยศรี รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรี ฝ่ายการเมือง ปฏิบัติหน้าที่โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม มีกำหนดลงพื้นที่ตรวจราชการ จ.อุดรธานีและจ.หนองบัวลำภู วันที่ 2มี.ค.2566 เพื่อเป็นประธานพิธีเปิดโครงการสัมมนาบทบาทท้องถิ่นไทยกับการกระจายอำนาจเพื่อการไปต่ออย่างยั่งยืน พร้อมกล่าวปาฐกถา ที่หอประชุมมหาวิทยาลัยราชภัฏอุดรธานี เวลา13.45น.ณ องค์การบริหารส่วนตำบลอุทัยสวรรค์ อำเภอนากลาง จ.หนองบัวลำภู นายกฯตรวจติดตามการดำเนินงานตามมาตรการป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติดจังหวัดหนองบัวลำภู ซึ่งเป็นต้นแบบหนองบัวลำภูสีขาวปลอดยาเสพติด
‘ธนกร’มองเรื่องดีพท.เปิดตัว’เศรษฐา’
นายธนกร วังบุญคงชนะ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ตอนนี้เรามีความพร้อมกับการเลือกตั้ง100% แล้ว โดยในพื้นที่ทับซ้อน ได้มีการพูดคุยกันแล้ว และบางพื้นที่ก็ได้ใช้ผลโพล ในการวางตัวผู้สมัคร ไม่ได้มีปัญหาอะไร เมื่อถามถึงกรณีพรรคเพื่อไทย เปิดตัว นายเศรษฐา ทวีสิน เป็นที่ปรึกษาหัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย กังวลหรือไม่ นายธนกร กล่าวว่าถือเป็นเรื่องดีที่ท่านเปิดตัวมาช่วยพรรคเพื่อไทย ทำให้ประชาชนมีทางเลือกมากขึ้น แต่พรรครวมไทยสร้างชาติ เราก็มีนักธุรกิจ ที่ความสามารถไม่แตกต่างจากนายเศรษฐา ที่มาช่วยงานพรรค แต่ไม่อยากเปิดเผยตัวขออยู่เบื้องหลัง และคิดว่าคงไม่ส่งผลต่อคะแนนให้พรรคเพื่อไทยดีขึ้น เพราะทีมเศรษฐกิจทุกพรรคก็มีความรู้ความสามารถที่ไม่แตกต่างกัน แต่ส่วนตัวเห็นว่าสิ่งสำคัญที่สุด ที่ทำให้พรรครวมไทยสร้างชาติ ได้คะแนนดีนั้นอยู่ที่พล.อ.ประยุทธ์ เมื่อถามว่าคิดว่า นายเศรษฐา จะมาเป็นแคนดิเดตนายกฯคนที่3 ของพรรคเพื่อไทยหรือไม่ นายธนกร กล่าวว่าไม่ขอก้าวล่วง
‘วิทยา’ โวกระแสบิ๊กตู่ดีกว่าทุกพรรค
นายวิทยา แก้วภราดัย รองหัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.)ในฐานะกำกับดูแลพื้นที่ภาคอีสาน กล่าวว่า การเตรียมตัวผู้สมัคร สส.ภาคอีสานใกล้ครบแล้ว เหลืออีกเพียง 15เขต ที่กำลังพิจารณาอยู่ ถ้าหากพิจารณาทั้ง 15เขตนี้เรียบร้อยแล้วก็จะครบทั้งหมด 132เขตและผู้สมัครทุกคนก็มั่นใจว่าจะได้รับชัยชนะ เพราะรู้สึกว่าเป็นคู่แข่งคนที่ 1 ทั้งหมด และคนที่เข้ามาก็มั่นใจคะแนนนิยมของพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ ในภาคอีสาน เพราะเป็นลูกอีสานทำให้คนไหลเข้ามาพรรครวมไทยสร้างชาติ ส่วนจะได้กี่คนนั้น อย่าเพิ่งประเมินในตอนนี้ เพราะยังไม่เข้าลู่ และใครที่บอกว่าจะชนะแบบถล่มทลาย ขอให้ประเมินใหม่
เมื่อถามว่าพรรครวมไทยสร้างชาติ ได้ สส.ในภาคอีสานเยอะ ก็จะหยุดแลนด์สไลด์พรรคเพื่อไทย ได้ใช่หรือไม่ นายวิทยา เชื่อว่า คะแนนภาพรวมในภาคอีสานของพรรคไม่น้อยกว่าใคร ส่วนตัวผู้สมัครก็หวังทุกคน จะได้มากน้อยแค่ไหน ก็ต้องรอดูกัน การเมือง จะประเมินกันตั้งแต่ตอนนี้ จะพยากรณ์หรือคุยโม้กัน ให้รอสตาร์ท กันจริงๆ อีกสักนิด เราจะเห็นตัวว่าเราไล่บี้กันกับใคร เมื่อถามว่ามั่นใจกระแสของพล.อ.ประยุทธ์ ในภาคอีสานจริงๆใช่หรือไม่ เพราะโพลต่างๆก็บอกว่าไม่ได้มีคะแนนนำ นายวิทยา กล่าวว่า ตนก็ไล่ดูตัวแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของทุกพรรค และเมื่อจับตัวแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี มาเรียงกันทั้งหมด พรรครวมไทยสร้างชาติ ก็ไม่ด้อยไปกว่าใคร
นายวิทยา กล่าวต่อว่า หลังจากนี้ก็จะมีผู้สมัครมาเปิดตัวที่พรรครวมไทยสร้างชาติ มากขึ้น ซึ่งไม่มีใครเคยคิดว่าจากเดิม ที่มีคนสบประมาทว่าพรรครวมไทยสร้างชาติ จะได้ไม่ถึง 25 เสียง ก็ขอให้คนพูด กลับไปทบทวนตนเองใหม่ อย่าพูดเร็วไป สถานการณ์ไม่ได้หยุดนิ่ง ไม่ได้เลือกตั้งวันนี้อย่างที่ทุกคนพูด ซึ่งวันพรุ่งนี้ก็สามารถเปลี่ยนแปลงได้ เมื่อถามว่า นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฐ์ รองนายกรัฐมนตรีและรมว.พาณิชย์ ในฐานะหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) มีการระบุว่าต้องสู้กับพรรคตกปลาในบ่อเพื่อน นายวิทยา กล่าวว่า “ตนไม่แน่ใจ หมายความว่าอย่างไร คนที่เดินออกจากคุณจุรินทร์ เคยถามเขาบ้างไหม อย่าไปพูดเลยครับ บางคนเขาก็ไล่ออกมา ผมมาเลี้ยงเด็กอนาถาก็มี”
‘เสธ.หิ’ขอเป็นธรรม ให้รทสช.-บิ๊กตู่
ที่ทำการพรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) นายหิมาลัย ผิวพรรณ หรือ เสธ.หิ ผู้ประสานงานพรรครวมไทยสร้างชาติ ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่มีกระแสวิจารณ์ว่า นายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ อดีตนักการเมืองรับงานจากพรรครทสช. เพื่อมาล้มพรรคภูมิใจไทย (ภท.) ว่า เรื่องนี้ต้องให้ความยุติธรรม พรรค รทสช.จะไปอยู่เบื้องหลังเรื่องนี้ได้อย่างไร ที่มีการโจมตีว่า ตนอยู่เบื้องหลังก็ไม่รู้ว่าใครไปพูด แต่ขอถามว่า นายชูวิทย์ โพสต์เฟซบุ๊กวิจารณ์นายกฯมาเป็นปี วิพากษ์วิจารณ์มามาหลายเดือน ถือว่าเสียหายมาก เช่น บอกว่าปล่อยคนใกล้ชิดมาวิพากษ์วิจารณ์มาตลอด เกิดความเสียหายแต่นายกฯใช้วิธีไม่ตอบโต้ สิ่งสำคัญที่สุดคือ วันที่นายกฯเปิดตัวเข้าพรรครทสช.ที่ศูนย์ประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ ซึ่ง นายชูวิทย์ ก็มาไลฟ์ต่อว่านายกฯ อยู่ที่ด้านหน้าศูนย์ประชุม ตนจึงขอถามว่า หากรู้เห็นเป็นใจกันจะให้มายืนด่านายตัวเองนานขนาดนั้นหรือ จะเป็นไปได้อย่างไร ก็ต้องให้ความเป็นธรรมด้วย
ใครจะยอมให้คนมายืนด่านายตัวเอง
“ถ้าผมรู้เห็นเป็นใจกับชูวิทย์ ผมจะยอมให้นายชูวิทย์มายืนด่านายกฯ3-4ชั่วโมงหรือ ถ้าผมสั่งนายชูวิทย์ได้ผมก็ต้องสั่งให้หยุดด่านายผมและนิสัยของ นายชูวิทย์ ตอนที่ติดคุกด้วยกัน นายชูวิทย์ เป็นคนที่ วันๆ ไม่ทำอะไร เดินรอบคุก ดูนั่นนี่ อะไรไม่ถูกต้องก็จะพูดออกมาตรงๆ ซึ่งในตอนนั้นผู้คุมกลัวแก และสะดุ้งหมด เพราะกลัวถูกร้องเรียน ผู้คุมจะให้สิทธิพิเศษก็ไม่เอา นี่คือนิสัยชูวิทย์ ตอนหลังไปอยู่โรงพยาบาลเรือนจำ ก็เข็นศพ ก็เลิกร้องเรียน และที่ข่าวบอกว่าผมไปรับชูวิทย์ทุกครั้ง มันทุกครั้งตรงไหน เพราะมีแค่ที่ศูนย์ประชุมสิริกิติ์และที่ทำเนียบเท่านั้นใครจะมาพูดใส่ความผมไม่รู้ แต่ต้องให้ความเป็นธรรมผมบ้าง”
ไม่เคยคิดทำเรื่องแบบนี้-เป็นมิตรกัน
นายหิมาลัย กล่าวอีกว่า ทุกเรื่องที่ทางรัฐบาลชี้แจงไปนายชูวิทย์ก็รับฟัง ส่วนเรื่องกระบวนการยุติธรรมที่นายชูวิทย์มาร้อง ทางนายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาคเลขาธิการนายกรัฐมนตรี และหัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ ระบุว่าฝ่ายบริหารไปยุ่งเกี่ยวไม่ได้ กลุ่มผู้ชุมนุมที่มาหน้าทำเนียบ หากนายพีระพันธ์ุไปรับได้ ก็ไปรับตลอด และที่นายชูวิทย์มานายพีระพันธุ์ก็ไม่ได้ต้องการให้เป็นข่าวอยู่แล้ว
“ใครก็ตามที่ไปพูดกับภูมิใจไทยใส่ความว่า ผมอยู่เบื้องหลัง เป็นจินตนาการที่ไร้สาระมาก ความคิดชั่วๆ แบบนี้ผมทำไม่เป็น บอกให้เลยและไม่จำเป็นที่จะต้องทำด้วย พรรคภูมิใจไทยถือเป็นพันธมิตรกับพรรครวมไทยสร้างชาติ เป็นพรรคใหญ่ที่ค้ำจุนความมั่นคงของรัฐบาล ผมมีสติปัญญาพอ การทำแบบนี้มันไม่ใช่ ภูมิใจไทยไม่ใช่คู่แข่งของรวมไทยสร้างชาติและถ้าไม่ใช่คู่แข่งทำไปจะได้ประโยชน์อะไร”ถามว่าส่วนตัวได้เคลียร์ใจกับ นายอนุทิน บ้างหรือไม่ นายหิมาลัย กล่าวว่า “ผมพยายามโทรหาท่าน แต่ท่านก็ไม่รับสาย เมื่อไม่รับสาย เราก็ไม่รู้ว่าจะชี้แจงอย่างไร ที่สำคัญที่สุด ผมคิดว่าใครก็ตามที่ทำเรื่องนี้ เราเป็นเด็กเราไม่ทะเลาะกับใคร กับนายชูวิทย์เราก็ทะเลาะด้วยไม่ได้ก็ต้องให้เกียรติพี่เข และหลายสิ่งที่ นายชูวิทย์ ทำมันก็เป็นประโยชน์ เมื่อถามว่าต้องการสื่อสารอย่างไรถึงนายอนุทินหรือไม่ นายหิมาลัย กล่าวว่า “ก็ต้องบอกท่านรองฯอนุทินว่า ผมคิดเรื่องเลวๆไม่เป็นหรอก”
‘ชูวิทย์’เตือนนายกฯอย่าไว้ใจ’อนุทิน’
นายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ อดีตนักการเมืองและนักธุรกิจ โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กระบุว่า...”ท่านผู้นำ พล.อ.ประยุทธ์ บอกว่า “ที่ชูวิทย์โจมตีพรรคภูมิใจไทย ไม่ได้เกี่ยวกับผม ผมเป็นนายกฯจำเป็นต้องรักษาความเป็นพรรคร่วมรัฐบาลอยู่แล้ว เพราะรัฐบาลร่วมกันมาเกือบ 4ปีแล้วและท่านยังย้ำว่า “เราต้องเป็นสุภาพบุรุษ ทุกอย่างต้องเป็นไปตามกฎเกณฑ์ กติกา ผมไม่ได้ไปก้าวล่วงใคร ขอเรียนท่านนายกฯ ดังนี้ เรื่องท่านนายกฯ บอกเป็นสุภาพบุรุษ ผมเข้าใจ แต่เมื่อวันนี้ท่านเป็นนักการเมืองแล้ว ทันทีที่ใส่เสื้อพรรค“รวมไทยสร้างชาติ” การเป็นสุภาพบุรุษจึงต้องเก็บเอาไว้ก่อน ผมเป็นนักการเมืองมาก่อน จึงพอจะแนะนำได้บ้าง เผื่อท่านจะได้กลับมาเป็นนายกฯ อีกในสมัยหน้า ดังนี้
“นักการเมืองจะต้อง“ผูกขาดตัดตอน ริดรอนสิทธิ์เพื่อน แทงหน้าแทงหลัง หน้าด้านหน้าทน (อันนี้ท่านเก่งอยู่แล้ว) มือยาวสาวได้สาวเอา ได้เอาไปฝากเมีย เสียยกให้เพื่อน เงื่อนเวลา (อันนี้ต้องยกให้บิ๊กป้อมท่านเก่ง) อ้างฟ้าดิน (สาบานได้ ธูปคนละดอกที่วัดพระแก้ว) และ สิ้นศรัทธา เชื่อผมเถอะว่า“อนุทิน”พรรคภูมิใจไทย ไว้ใจไม่ได้หรอกครับ เป็นเพียง “หุ่นเชิด” เพราะเบื้องหลังคนชักใย คือ เนวิน “กำกับบท”อย่าลืมวลีอมตะ“มันจบแล้วครับนาย”ตอนแยกทางกับทักษิณ ตอนนี้เนวินบอกเองว่าจะปั้นให้เสี่ยหนู “เป็นนายกฯ คนต่อไป”แล้วท่านจะมัวเป็น“สุภาพบุรุษ”ได้ไง แม้จะรู้ว่า ท่านพูดลวงไปอย่างงั้น เพื่อให้“พรรคภูมิใจไทย” ตายใจ แต่เกมการเมืองไม่มีคำว่า“สุภาพบุรุษ”ครับ รู้ทันกันหมด ไม่เชื่อไปถามสุเทพดูก็ได้ครับ
‘ไลน์ ทูเดย์เลือก’ภท.’ที่1-พปชร.ที่2
วันเดียวกัน แอพลิเคชั่น Line Today ปิดการทำกิจกรรมแบบสอบถามผ่านแอพพลิเคชั่น ไลน์ทูเดย์ ในห้วข้อ”เปิดโหวต เลือกตั้งปี ’66คุณจะลงคะแนนให้”พรรคการเมือง“ใด โดยระบุว่า ใกล้เลือกตั้งปี 2566 คุณจะเลือกลงคะแนนให้“พรรคการเมือง”ใด ซึ่งเปิดสำรวจตั้งแต่10กพ.-28 กพ.โดยพบว่า การสำรวจ จนมาถึงวันที่ 28 ก.พ.2566 เวลา 00.00 น.ปรากฎผลการสำรวจ อันดับ 1 ได้แก่ พรรคภูมิใจไทย ด้วยคะแนน 50,267 คะแนน หรือคิดเป็น 35.71 % โดยมีที่ 2 คือ พรรคพลังประชารัฐ ได้ 45,436 คะแนน หรือคิดเป็น 27.38 % ลำดับที่ 3 คือพรรคเพื่อไทย ที่ได้มา 21,993คะแนน หรือ 13.25 % และอันดับ 4 คือพรรครวมไทยสร้างชาติ ได้ 13,642คะแนน คิดเป็น8.22 % ส่วนอันดับ5 พรรคประชาธิปัตย์ 3,574 คะแนน คิดเป็น 2.15 %
สำหรับอันดับที่ 6 พรรคไทยภักดี มีคะแนน 2,219 คะแนน คิดเป็น1.34 % อันดับที่ 7 คือพรรคไทยสร้างไทย ได้ 2,187 คะแนน คิดเป็น 1.32 % อันดับ 8 พรรคเสรีรวมไทย ได้ 1,962 คะแนน หรือ 1.18 % อันดับที่ 9 พรรคอื่นๆ ได้ 1,376 คะแนน คิดเป็น 0.83 % อันดับ 10.พรรคชาติพัฒนากล้า ได้ 405 คะแนน หรือ 0.24 % อันดับ11 พรรคชาติไทยพัฒนา ได้ 40 คะแนน หรือ 0.24 % อันดับ 12 ได้ 364 คะแนน หรือ 0.22 % อันดับ 13 พรรคสร้างอนาคตไทย ได้ 278 คะแนน หรือ 0.17 % และ อันดับ 13 คือ พรรคสามัญชน ได้ 123 หรือ 0.07% จากการสำรวจเห็นได้ว่า มีผู้เข้าร่วมทั้งหมด 165,000 โหวต พรรคภูมิใจไทย มาเป็นอันดับ 1 ทิ้งคู่แข่ง พรรคพลังประชารัฐ ถึง 4,831 คะแนน หรือ ทิ้งห่างกัน 8.33 % และทิ้งคู่แข่งอันดับ 3 พรรคเพื่อไทย ที่ประกาศจะทำแลนด์สไลด์ ถึง 28,274 คะแนน หรือทิ้งห่างกัน 22.46 % เลยทีเดียว และยิ่งทิ้งห่างพรรคอันดับ4 อย่าง รวมไทยสร้างชาติ 36,625คะแนน หรือ 27.49 %
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี