‘ไม่รักลุงแล้วจะไปรักแมวที่ไหน’
‘บิ๊กตู่’อ้อนหนัก
บุกอุดรธานีเมืองหลวงเสื้อแดง
พร้อมทำเต็มที่ให้คนไทยด้วยกัน
ขอเพียง‘รัก-สามัคคี-ไม่แตกแยก’
พปชร.ชูทีมศก.เหนือกว่าเพื่อไทย
ชาวพังงาเชียร์‘จุรินทร์’นั่งนายกฯ
‘อุ๊งอิ๊ง’นำทัพหาเสียง3จว.อีสานใต้
นายกฯเหยียบถิ่นอุดรฯเมืองหลวงเสื้อแดง ปชช.เชียร์ให้กำลังใจ เปิดสัมมนาพบผู้บริหารท้องถิ่นทั่วประเทศ ขอช่วยกันเพื่อประเทศชาติ พบชาวอุดรฯพูดสดจากหัวใจ พร้อม ทำเต็มที่ให้คนไทย ดูแลทุกคนอย่างทั่วถึง ขอเพียงความรัก-สามัคคี ไม่ทะเลาะแตกแยก อ้อนหนัก “ถ้าไม่รักลุงตู่ จะไปรักแมวที่ไหน” นายกฯเยือนถึงหนองบัวลำภู ป้ายเชียร์“ทำแล้ว ทำอยู่ ทำต่อ” อ้อนอย่าจงเกลียดจงชังทหารนักนายกฯประกาศขึ้นค่าตอบแทน อบต.ใช้งบขององค์กร
พร้อมยกระดับเป็นเทศบาล ยันไม่ได้มาหาเสียง เร่งทำให้เสร็จ ไม่รู้วันข้างหน้าอะไรจะเกิดขึ้น ลั่นไม่ยุบท้องถิ่นแน่ มท.1ชี้ยึดหลักสากล-คาดประกาศราชกิจจาฯ6มี.ค. ‘ไพบูลย์’ฟุ้งทีมศก.พปชร.ครบเครื่องกว่า‘เศรษฐา’-พรรคอื่น ชาวพังงาเชียร์“จุรินทร์”เป็นนายกฯ”เพื่อไทย”บุกหาเสียงอีสานใต้ 4-5มี.ค.“โคราช-บุรีรัมย์-สุรินทร์”2 วัน 5 เวที
เมื่อเช้าวันที่ 2มีนาคม 2566 ที่ท่าอากาศยานทหาร2 กองบิน6 (บน. 6) ดอนเมือง กทม.พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม เดินทางลงพื้นที่ตรวจราชการจังหวัดอุดรธานี และหนองบัวลำภู พร้อม พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทย, นายธนกร วังบุญคงชนะ รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรีและนายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค เลขาธิการนายกรัฐมนตรี เดินทางไปยังท่าอากาศยานทหาร กองบิน23 ต.หมากแข้ง อ.เมืองอุดรธานี จ.อุดรธานี
‘บิ๊กตู่’เหยียบอุดรฯเสียงเชียร์กระหึ่ม
ทันทีที่ นายกฯมาถึงได้มีประชาชนมาตะโกนให้กำลังใจ“ลุงตู่สู้ๆ”โดยนายกฯตอบกลับไป“ ก็ขอให้ช่วยกันสู้เช่นเดียวกันขอให้สู้เพื่อประเทศชาติ” จุดแรกเวลา 09.57น.ที่หอประชุมมหาวิทยาลัยราชภัฏอุดรธานี (ศูนย์สามพร้าว) ต.สามพร้าว อ.เมืองอุดรธานี จ.อุดรธานี นายกฯเป็นประธานในพิธีเปิดโครงการสัมมนาบทบาทท้องถิ่นไทยกับการกระจายอำนาจเพื่อการไปต่ออย่างยั่งยืน
ในงานได้จัดเตรียมเก้าอี้ไว้ให้สมาชิกสภาท้องถิ่น ข้าราชการและพนักงานขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นที่มาร่วมงาน5,000ที่นั่ง โดยบริเวณตรงกลาง ได้จัดเตรียมเจ้าหน้าที่ถือธงชาติไทย ที่มีตราสัญลักษณ์กระทรวงมหาดไทย สมาคมองค์การบริหารส่วนตำบลแห่งประเทศไทย ไว้ตลอดเส้นทางเพื่อให้พล.อ.ประยุทธ์ เดินเข้ามาหน้าเวที พร้อมเปิดเพลงมาร์ช เป็นการต้อนรับ นอกจาก จะมีบรรดานายกสภาท้องถิ่นแล้ว ยังมี นายชัชวาลล์ คงอุดม แกนนำพรรครวมไทยสร้างชาติ ร่วมงานด้วย
เข้มรักษาความปลอดภัย-หวั่นแดงป่วน
บรรยากาศการรักษาความปลอดภัย เป็นไปอย่างเข้มงวด มีการตั้งด่านจุดตรวจสกัดและตรวจค้นบุคคลที่จะเข้ามาในงานจำนวน 2 ด่าน เจ้าหน้าที่ตำรวจคอยตรวจสอบและสแกนเพื่อป้องกันไม่ให้ กลุ่มคนเสื้อแดงอุดรฯ เข้ามาเคลื่อนไหว หรือต่อต้านพล.อ.ประยุทธ์ ในส่วนของกระทรวงมหาดไทย ได้ตั้งศูนย์ดำรงธรรมเพื่อรับเรื่องร้องเรียนไว้ด้านหน้าก่อนถึงหอประชุมมหาวิทยาลัยราชภัฏอุดรธานี(ศูนย์สามพร้าว)ประมาณ 3 กิโลเมตร ขณะที่บริเวณภายในพื้นที่จัดงาน ได้มีเจ้าหน้าที่ทั้งในและนอกเครื่องแบบตรวจค้นและสแกนบุคคลที่จะเข้ามาอย่างเข้มงวด ทุกคนต้องผ่านเครื่องสแกนและติดสติกเกอร์รวมถึงตรวจค้นกระเป๋าอย่างละเอียด
เจ้าหน้าที่ตำรวจเผยว่าในทางการข่าวขณะนี้ยังไม่มีการเคลื่อนไหวของกลุ่มแดงอุดรฯมีแต่กลุ่มประชาชนที่เดือดร้อนที่เดินทางมายื่นเรื่อง และจดหมายร้องเรียนซึ่งกระทรวงมหาดไทยได้ตั้งศูนย์ดำรงธรรม ให้รองผู้ว่าฯเป็นผู้รับหนังสือ มีกลุ่มแรก เป็นกลุ่มเหมืองโปแตสประมาณ 20 คนที่จะเข้ามาร้องเรียน
คิวนายกฯลงตรวจพื้นที่ต่อเนื่องยาว
ผู้สื่อข่าวรายงานว่าก่อนการยุบสภาและเลือกตั้ง พล.อ.ประยุทธ์ ยังมีกำหนดการลงพื้นที่ตรวจราชการในฐานะนายกฯอย่างต่อเนื่อง หลังจากลงพื้นที่ จ.พระนครศรีอยุธยาแล้ว เบื้องต้น ยังมีกำหนดการลงพื้นที่ จ.สงขลา ระนอง และ นราธิวาส
นายกฯย้ำเดินไปข้างหน้าทำเพื่อปชช.
ต่อมา เวลา 10.40น.ที่หอประชุมมหาวิทยาลัยราชภัฏอุดรธานี (ศูนย์สามพร้าว) ต.สามพร้าว อ.เมืองอุดรธานี จ.อุดรธานี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีกล่าวปาฐกถา“ท้องถิ่นต้องไปต่อ”และทำพิธีเปิดโครงการสัมมนา“บทบาทท้องถิ่นไทยกับการกระจายอำนาจเพื่อการไปต่ออย่างยั่งยืน”โดยกล่าวว่า ขอบคุณมากทุกคนที่ได้มาเจอกันในวันนี้ จากหลายภูมิภาคด้วยกัน เป็นโอกาสสำคัญที่มาพบกัน เพราะเราต้องทำงานร่วมกัน เข้ามาตอนแรกตื่นเต้นเหมือนกัน เพราะเห็นคนเยอะซึ่งเป็นผู้บริหารจากหลายภาคส่วน
“วันนี้ดีใจที่ได้มาเจอ ถือว่าได้มีโอกาสพูดกับประชาชนทั้ง70ล้านคน สวัสดีผู้บริหารทั่วประเทศที่มาร่วมสัมมนา ตลอดจนที่มีการค้าขายอยู่ด้านนอกห้องประชุม วันนี้ยินดีและเป็นเกียรติอย่างยิ่ง ที่มาเปิดโครงการสัมมนาบทบาทท้องถิ่นไทยกับการกระจายอำนาจ เพื่อการไปต่ออย่างยั่งยืน ถือว่าสิ่งที่กำหนดไว้ในวันนี้นั่นคือ ความสำคัญของการบริหารราชการแผ่นดิน ทำอย่างไร จะเดินไปข้างหน้าเพื่อให้ประชาชน ได้รับประโยชน์สูงสุด”
ขอบคุณอบต.ทั่วปท.ร่วมแก้ปัญหา
พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่าวันนี้เป็นการเปิดโครงการที่สำคัญที่สุดในลำดับต้นๆให้ความสำคัญเสมอมา ผู้บริหารอบต.ทั่วประเทศทุกท่านที่ดูแลเป็นอย่างดีในการแก้ไขปัญหาพื้นที่ซึ่งมีปัญหามากมาย เราผ่านปัญหามาด้วยกันอย่างโควิด-19หลายคนอย่าลืมตรงนี้ เพราะเป็นฝีมือของพวกเราทุกคน ขอวันนี้พูดในนามนายกฯ วันนี้ถือว่ามาขอบคุณและภาคภูมิใจกับพวกเรา ซึ่งต้องร่วมมือกันแบบนี้ซึ่งไม่รู้ว่าจะเผชิญกับอะไรอีกในโลกใบนี้ เพราะโลกเปลี่ยนแปลงไปด้วยเทคโนโลยีดิจิตอลต่างๆ การทำหน้าที่ ถือเป็นการสะท้อนปัญหาอย่างชัดเจน แม้ตนจะอยู่ในระดับบน แต่ก็ดูระดับล่างด้วย มีความสัมพันธ์กับท้องถิ่น อยากให้โครงการต่างๆเกิดขึ้นในท้องถิ่นทุกชุมชนทั่วประเทศ
พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่าครอบครัวคนไทย ใครทำอะไรไม่ได้ นี่คือสังคมของเราจะแตกแยกไม่ได้ สังคมครอบครัว สังคมส่วนรวม สังคมประเทศชาติแตกไม่ได้อยู่แล้วมีข่าวบางข่าวตนไม่แน่ใจใครพูดจะยุบท้องถิ่นจะให้เขายุบหรอจะให้ยุบไหม
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ระหว่างนี้เหล่าอบต.ได้ตะโกนตอบว่า”ไม่ให้ยุบ”นายกฯจึงกล่าวอีกว่า”ใครพูด ผมไม่รู้ การจะให้อะไรก็ตาม ในฐานะที่เป็นรัฐบาล เป็นนายกรัฐมนตรี ก็ต้องดูงบประมาณมีแค่ไหน ไม่ใช่ว่าได้เท่าไหร่จ่ายหมดมันไม่ได้ เรารับผิดชอบหนี้ ก่อนหน้านั้นก็มีมาสมควร ไม่ใช่มาเริ่มที่สมัยผม ผมต้องดูมือซ้ายทำอย่างไรเงินจะเพิ่มขึ้นแต่ทางขวาก็ต้องเตรียมความพร้อม นี่คือสิ่งที่ต้องฝากลูกหลานทุกคนสุดท้ายนี้ ขอชื่นชมพี่น้องท้องถิ่นผู้บริหารอบต.ทั่วประเทศที่เกี่ยวข้องช่วยการพัฒนาให้เกิดความเข้มแข็งดีขึ้นเรื่อยๆและทำต่อไป
ประกาศเพิ่มเงินตอบแทนอบต.
พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า”เฮ้อ ชักเหนื่อย ถ้าพูดสามารถพูดได้ทั้งวัน”ระหว่างนี้บรรดาท้องถิ่นได้ปรบมือให้ นายกฯจึงกล่าวอีกว่ารัฐบาลสนับสนุนการกระจายอำนาจ ไม่หวงไว้ เราจะหวงไว้ทำไม แต่ทำอย่างไรถึงจะปลอดภัย วันเดียวกันนี้ ตนได้พูดคุยกับคณะกรรมการและกระทรวงมหาดไทย รัฐบาลจะปรับค่าตอบแทนให้กับนายกองค์การบริหารส่วนตำบล(อบต.)รองนายก อบต.ประธานสภา และรองประธานสภา สมาชิกสภา อบต.และเลขานุการ ขณะนี้ รมว.มหาดไทย กำลังดำเนินการ คาดว่าจะลงนามแล้วและประกาศในราชกิจจานุเบกษาในสัปดาห์หน้า
ลั่นยกอบต.เป็นเทศบาล ไม่ใช่หาเสียง
นายกฯยังย้ำว่า ยืนยันว่าเรื่องนี้ไม่ใช่การหาเสียง เพราะเรื่องนี้ทำขอเรื่องนี้ทำมานานแล้ว แต่บังเอิญทำได้ในช่วงนี้ แต่มาที่นี่พอดี นอกจากนี้รัฐบาลจะยกฐานะอบต.เป็นเทศบาล ขณะนี้รัฐบาลกำลัง รัฐบาลกำลังทำร่างประมวลกฎหมายท้องถิ่นให้ อบต.ยกฐานะเป็นเทศบาล ตามหลักการของการปกครองท้องถิ่น ตามสากล ต่อไป ทุกคนจะต้องเรียกตัวเองว่า นายกเทศมนตรี
“โอ้โห ใหญ่โตกันทั้งหมด ถือว่าใหญ่โตวันข้างหน้าก็จะได้เป็นนายกฯจะมายืนอยู่ตรงนี้”เมื่อพูดถึงตรงนี้นายกฯได้ทุบอกตัวพร้อมบอกว่า“แต่โจทก์เยอะหน่อย”
ลั่นไม่ยุบท้องถิ่นแน่-พัฒนาให้ดียิ่ง
นายกฯกล่าวอีกว่าทั้งนี้เรื่องสวัสดิการของนายกฯและรองนายกฯอบต.ประธาน รองประธาน สมาชิกและเลขานุการ รัฐบาลทราบถึงความยากลำบากกำลังพิจารณาถึงสวัสดิการเช่นค่ารักษา พยาบาลค่าเลี้ยงดูบุตร กำลังพิจารณาอยู่
“นี่ไม่ใช่การมาหาเสียง เป็นการมาทำงานตามปกติ แต่ผมจำเป็นจะต้องเร่งรัด ให้แล้วเสร็จให้เร็วๆ เพราะไม่รู้ว่าอะไรจะเกิดขึ้น วันข้างหน้าอาจจะมีการปรับเปลี่ยน พัฒนาไปให้ดียิ่งกว่าเดิมก็ได้ซึ่งเริ่มไปแล้วและทำไปซึ่งเริ่มไปแล้ว และทำไปแล้ววันหน้า ก็ทำต่อๆไป ไม่ใช่จะเสนอ แต่จะให้ยุบองค์การบริหารส่วนท้องถิ่น มันไม่ได้ พูดมากไปเดี๋ยว มีเรื่องอีก” นายกฯ กล่าวย้ำ
ย้ำขึ้นค่าตอบแทนใช้งบองค์กร
นายกฯให้สัมภาษณ์หลังประกาศขึ้นค่าตอบแทนอบต.ในงานสัมมนาอบต.ทั่วประเทศ ว่าเขาได้รับการพิจารณาจากทางกระทรวงมหาดไทยมาแล้ว เมื่อถามว่าหากประกาศในราชกิจจานุเบกษาจะมีผลสิ้นเดือนมี.ค.เลยหรือไม่ นายกฯตอบว่า“ก็มีผลซึ่งเป็นการใช้งบของ อบต.เขา”เมื่อถามว่า แต่ละอบต.จะไม่ได้เท่ากันใช่หรือไม่ ต้องขึ้นอยู่กับรายได้ของแต่ละแห่งนั้น นายกฯระบุว่า“อันนี้ เดี๋ยวเขากำลังพิจารณาอยู่ซึ่งรายละเอียดตนไม่ทราบ รู้แต่เพียงหลักการ”
เมินจะถูกมองเป็นการหาเสียง?
เมื่อถามว่าการขึ้นค่าตอบแทน อบต.จะถูกมองว่าเป็นการหาเสียงหรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า “คุณมองยังไงก็ไปอย่างนั้น แล้วแต่คุณจะมอง แต่มันเป็นเรื่องการทำงานปกติของรัฐบาล”
เมื่อถามว่า การยกระดับอบต.เป็นเทศบาลจะทำได้เมื่อไหร่ พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า“เร็วๆนี้”เมื่อถามต่อว่าต่อไปจะไม่มีอบต.แล้วจะเป็นเทศบาลทั้งหมดเลยใช่หรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า“ก็ใช่ ผมพูดไปแล้วไง ก็ อบต.ยกสถานะเป็นเทศบาล”พร้อมยืนยันว่า ยกระดับทั้งหมด
มท1.คาดประกาศราชกิจจา6มี.ค.
ด้าน พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทย กล่าวถึงกรณีพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม จะยกระดับองค์การบริหารส่วนตำบล(อบต.)เป็นเทศบาลว่า ขณะนี้เรื่องอยู่ในขั้นตอนการตราในประมวลกฎหมายท้องถิ่นซึ่งใกล้จะเสร็จสิ้นแล้วที่จะมีผลกับอบต.ทั่วประเทศโดยถือว่าเป็นไปตามหลักสากล ให้เป็นนายกเทศมนตรีซึ่งสถานะของอบต.ก็จะเป็นเทศบาลทั้งหมด
ทั้งนี้ ส่วนการเพิ่มค่าตอบแทนนั้น ขณะนี้กฎหมายเสร็จแล้วอยู่ในขั้นตอนพิจารณาในรายละเอียด คาดว่าวันจันทร์ที่ 6 มีนาคมนี้จะประกาศได้ในราชกิจจานุเบกษาและจะมีผลในช่วงประมาณเดือนตุลาคม โดยหลักการนั้นจะคำนวณจากรายได้ ที่จะมีหลักเกณฑ์อยู่
ชาวอุดรฯชูป้ายเชียร์ให้กำลังใจ
เวลา 12.30น.หลังเสร็จสิ้นธีเปิดโครงการสัมมนา“บทบาทท้องถิ่นไทยกับการกระจายอำนาจเพื่อการไปต่ออย่างยั่งยืน”ที่มหาวิทยาลัยราชภัฏอุดรธานี (ศูนย์สามพร้าว) นายกฯได้พบปะประชาชนชาวอุดรธานี ที่มารอให้กำลังใจพร้อมชูป้าย ขอบคุณโครงการรัฐบาล ที่สร้างอาชีพ สร้างรายได้ เกษตรกร เช่น ‘ชาวอีสานรักลุงตู่’ ‘ลุงตู่ซื่อสัตย์จริงใจไร้โกง’ ‘โครตรักลุงตู่’ ‘ ใครด่าลุงกูด่ากลับ’
พูดจากหัวใจ ทำเต็มที่ให้คนไทย
โดยนายกฯได้กล่าวขอบคุณชาวอุดรฯว่า ยินดีที่ได้พบกันอีก บางคนเคยพบกันหลายครั้งแล้ว บางคนอาจจะยังไม่เคยเจอกันก็จะได้เจอวันนี้ เจอตัวตนนายกฯ วันนี้ขอพูดไม่ดูสคริปต์ เป็นการพูดจากหัวใจของนายกฯ ยืนยันว่าตนจะทำอย่างเต็มที่ให้ดีที่สุด เพราะนี่คือคนไทยด้วยกัน เราต้องร่วมจิตร่วมใจเป็นคนไทยที่ดี สำหรับดินแดนแหลมทองของเรา อีสานเป็นส่วนที่สำคัญมาก เพราะมีการเชื่อมโยงกันทั้งในและต่างประเทศ ขออย่างเดียวคือความรัก ความสามัคคี ก่อนจะถามชาวบ้านว่า ให้นายกฯได้ไหมความรัก ความสามัคคี ไม่ทะเลาะเบาะแว้ง แตกแยกกัน รัฐบาลต้องเป็นแบบนี้ ดูแลทุกคนอย่าง ทั่วถึง
อ้อน‘ถ้าไม่รักลุงตู่ จะไปรักแมวที่ไหน’
ช่วงท้าย นายกฯยังย้ำว่า“ถ้าไม่รักลุงตู่ แล้วจะไปรักแมวที่ไหน มาวันนี้เอาหัวใจมาฝาก ในนามนายกฯต้องรักทุกคน ผมเป็นนายกฯวันนี้ต้องรักวันนี้ วันหลังก็ไม่รู้เหมือนกันแต่ทำเพื่อคนไทยทุกคน ทำมาตลอดเวลาที่ผ่านมา รักทุกคนและขอบคุณในน้ำใจไมตรีแด่ชีวีที่ยังคงมีค่า กว่าไตรรงค์ที่คลุมเมื่อยามตาย”
นายกฯลุยเยือนถึงหนองบัวลำภู
เวลา 14.00น.นายกฯพร้อมคณะเดินทางถึงองค์การบริหารส่วนตำบล(อบต.)อุทัยสวรรค์ อำเภอนากลาง จังหวัดหนองบัวลำภู เพื่อตรวจติดตามการดำเนินงานตามมาตรการป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติดจังหวัดหนองบัวลำภู ในระยะเร่งด่วน 3 เดือน (หนองบัวลำภูต้นแบบสีขาวปลอดยาเสพติด)
จากนั้น นายกฯร่วมเป็นสักขีพยานในโอกาส ผู้ว่าฯหนองบัวลำภูมอบหนังสืออนุญาตให้เข้าทำประโยชน์ในเขตปฏิรูปที่ดิน(สปก. 4-31 ก.)สำหรับใช้ก่อสร้างศูนย์พัฒนาเด็กเล็กองค์การบริหารส่วนตำบลอุทัยสวรรค์แห่งใหม่ให้แก่นายกองค์การบริหารส่วนตำบลอุทัยสวรรค์ ซึ่งเป็นสถานที่คนร้ายก่อเหตุกราดยิงภายในศูนย์พัฒนาเด็กเล็กทำให้มีผู้เสียชีวิตจำนวนมากเมื่อปี2565
ลั่นจนท.เอี่ยวยาเสพติดลงโทษเด็ดขาด
จากนั้นนายกฯกล่าวพบปะประชาชน โดยเหมือนเช่นเคยมีการฉายวีดีทัศน์ผลงานรัฐบาลที่ผ่านมา โดย กล่าวว่าวันนี้มาเยือนอีกครั้งนึกถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อเดือนตุลาคม 2565 เป็นความสูญเสีย สะเทือนใจของคนไทยทุกคน เราได้ประจักษ์แล้วว่ายาเสพติดเป็นต้นตอสำคัญในเรื่องความรุนแรง นอกจากสุขภาพแล้ว วันนี้รัฐบาลมุ่งเน้น 3 ระดับด้วยกัน คือ การป้องปราม ป้องกันและปราบปราม อันสุดท้ายคือ การบำบัดฟื้นฟู สิ่งสำคัญต้องแยกเป้าหมายให้เจอเป้าหมายสีเขียว สีส้ม และสีแดงจะต้องมีมาตรการเฉพาะหลายอย่างใช้หน่วยงานตามกฎหมายและใช้สังคมชุมชนช่วยกันดูแล การบำบัด ต้องช่วยกันดู ช่วยกันแจ้ง มีหลายช่องทาง แต่ถ้าแจ้งแล้วไม่มีใครมาดูมาแก้ไขให้แจ้งมาที่นายกรัฐมนตรี สิ่งที่คาดหวังคือความร่วมมือ ร่วมใจในชุมชน ในหมู่บ้าน รักลูก อย่ารักในทางที่ผิด ตนให้เวลาไปแล้ว 3 เดือน เหลืออีก 1 เดือน จะต้องทำเป็นรูปธรรมให้เห็น วันนี้ต้องทำต่อให้สำเร็จ
“สารตั้งต้นยาเสพติดกำลังไล่อยู่ว่ามาตรงไหน ต้องลงโทษทั้งหมด ซึ่งมีกลวิธีหลายอย่าง สิ่งสำคัญคือ เจ้าหน้าที่ทุกคน ถ้าเกี่ยวข้องกับยาเสพติด ผมลงโทษเด็ดขาด ถ้าทำดีสนับสนุนต่อไป ต้องเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐ เจ้าหน้าที่ของประชาชน เป็นที่พึ่งของประชาชนในทุกโอกาส”นายกฯย้ำ
วอนอย่าจงเกลียดจงชังทหารนัก
นายกฯกล่าวอีกว่า รัฐบาลจะดูแลให้วันนี้ได้ทำทยอยมาหลายจังหวัด ปัญหามีความซับซ้อนมาก เราต้องรู้จักว่า ถ้าจะพัฒนาตัวเอง เพื่อประเทศ ตนทำหน้าที่ของรัฐบาล ทุกรัฐบาลต้องทำหน้าที่ สร้างความเท่าเทียมในทุกโอกาสให้กับทุกคน เป็นนายกฯต้องรับผิดชอบในการทำงานทุกอย่าง เพื่อให้เกิดผลสัมฤทธิ์สำเร็จ วันข้างหน้าจะได้มีคนมาทำต่อ ทำให้ดี ก็แล้วกัน ใครจะมาจะไปก็ไม่รู้
มีอะไร คิดอะไรไม่ออก บอกทหารแล้วกัน ขืนไม่มีทหาร จะลำบาก เพราะกระทรวงไม่มีคน ทหารมีไว้รบ ทหารวันนี้ ลดลง น้อยมากจากอัตราเต็ม แต่นี่คือประเทศของเรา บางคนเรียนนักศึกษาวิชาทหาร5ปี ก็ไม่ต้องเป็นเพียง 3 ปี ก็ลดลงหน่อย การฝึกเพื่อให้เป็นระเบียบ ขอให้เชื่อมั่น ถ้าเราไม่มีปัญหาน้ำท่วม ฝนแล้ง ทหารเข้าไปช่วยก่อนไม่ต้องจ้างให้เงินเดือนทำทุกอย่าง นั่นคือ ลูกหลานของท่าน แล้วทำไมจงเกลียดจงชังทหารนักหนา ไม่เข้าใจ ตกลงทหารเรา วันหน้าใช้ดาบไปฟัน ไม่ต้องมีอาวุธยุทโธปกรณ์ใดๆทั้งสิ้นใช้ดาบจะให้ออกรบกับเขา คนพูดไปรบกับเขาด้วยนะ”
“วันนี้ต้องดูแลทุกคนประชาชนก็ดู พลเรือน ก็ดู ทำไม ไม่ทำให้คนรักกัน นี่ไม่ได้หาเสียงเลยนะ พูดเฉยๆเสื้อตัวนี้ ที่ใส่มาเป็นสีตรวจราชการ และ สิ่งที่ทำอยู่แล้ว ถ้าดีทำได้ ก็ทำไป นายกฯเป็นคนตลกไม่ใจร้าย ไส้ระกำ แต่ใจร้ายกับไอ้คนชั่ว จำไว้ ขอบคุณ”นายกฯ ย้ำ
ชูป้ายเชียร์‘ทำแล้ว ทำอยู่ ทำต่อ’
ต่อมานายกฯเยี่ยมชมนิทรรศการ การป้องกันและปราบปรามยาเสพติดของแต่ละอำเภอของจังหวัดหนองบัวลำภู พร้อมให้กำลังใจผู้ที่ได้รับการบำบัดและเจ้าหน้าที่ปฏิบัติงาน ระหว่างพบกับชุดรักษาความปลอดภัยหมู่บ้าน(ชรบ.)ว่า”ฝากหัวใจของเราไว้ที่นี่ด้วยนะ” หันมาโบกมือส่งสัญลักษณ์มินิฮาร์ดให้ประชาชนพร้อมกล่าวว่า“จริงใจให้กัน เดินได้แน่ประเทศไทย”
จากนั้นร่วมถ่ายรูปกับสมาชิกอบต.หนองบัวลำพู พร้อมทำท่าดอกบานอย่างอารมณ์ดีพร้อมยกมือขึ้นแนบที่ใบหน้าทั้งสองข้างพร้อมบอกว่า“ยกสองมือเท่ากับ ดอกไม้บานสองดอก หรือสองกีบเลย”พร้อมทั้งมอบดอกกุหลาบและชูป้ายเชียร์เช่นนายกฯในดวงใจ , FC ลุงตู่’ ,หนองบัวลำภูอยากให้ลุงตู่เป็นนายกฯ,หนองบัวรักลุงตู่ , แล้วสูงอายุขอบคุณลุงตู่1,000 บาท , ทำแล้ว ทำอยู่ ทำต่อ ,ลุงตู่สู้ๆ ,ขอให้อยู่นานๆ
เผยมือบวม บอกเดี๋ยวก็หาย
เวลา 15.45 น.นายกฯให้สัมภาษณ์ภายหลังลงพื้นที่จ.หนองบัวลำภู ว่า รักทุกคน จริงใจให้กันเดินได้แน่ประเทศไทย เมื่อสอบถามนายกฯถึงที่มือบวมเป็นอะไรนายกฯตอบว่า “มันบวมนิดหน่อย ไม่รู้เป็นอะไรเหมือนกันแต่ไปเช็คแล้ว ไม่เป็นอะไร อาจจะเป็น เพราะพูดมากมั้ง เดี๋ยวก็หาย” เมื่อถามว่าลงพื้นที่ถี่ๆเหนื่อยหรือไม่ นายกฯตอบว่า”ไม่เหนื่อยๆลงมาตรวจงาน นายกฯจะไปเหนื่อยอะไร”
ลั่นนายกฯเดินหน้าทำงานทุกวัน
เมื่อถามว่าจะตรวจจนวินาทีสุดท้ายจนยุบสภาใช่หรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า”ฉันเป็นนายกฯต้องมีหน้าที่ทำงานทุกวัน หรือเปล่าจ๊ะ งานมันเข้ามาตลอดแหละจ๊ะ เดี๋ยวก็หาเรื่องกันจนได้”ซึ่งกล่าวด้วยรอยยิ้มอย่างอารมณ์ดี ทั้งนี้ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การลงพื้นที่จังหวัดอุดรธานีและหนองบัวลำภูครั้งนี้ เป็นที่น่าสังเกตว่ามือด้านขวานายกฯบวมเป่งอย่างเห็นได้ชัด จากการสอบถามคนใกล้ชิดนายกฯเผยว่าเกิดจากอาการนิ้วล็อค ซึ่งนายกฯได้โทรศัพท์หาหมอระหว่างลงพื้นที่แล้ว
‘ไพบูลย์’ฟุ้งทีมศก.ครบเครื่องกว่า‘เศรษฐา’
นายไพบูลย์ นิติตะวัน ส.ส.บัญชีรายชื่อ และรองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีพรรคเพื่อไทย(พท.)เปิดตัวนายเศรษฐา ทวีสิน เป็นประธานที่ปรึกษาครอบตัวเพื่อไทยที่มี น.ส.แพทองธาร ชินวัตร เป็นหัวหน้าครอบครัวเพื่อไทยเพื่อให้คำปรึกษาด้านเศรษฐกิจ กับพรรค พท.คิดว่าทีมเศรษฐกิจพรรคพปชร.จะสู้ได้หรือไม่ว่า ต้องดูโปรไฟล์นายเศรษฐาเคยอยู่แต่กับภาคเอกชน เมื่อเทียบประสบการณ์การบริหารราชการแผ่นดินกับทีมเศรษฐกิจของพรรคพปชร.
“เรามีนายอุตตม สาวนายน อดีต รมว.คลัง นายมิ่งขวัญ แสงสุวรรณ์ อดีตรองนายกฯฝ่ายเศรษฐกิจ นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ อดีต รมว.พลังงาน นายสันติ พร้อมพัฒน์ รมช.คลัง ในฐานะเลขาธิการพรรค พปชร.และนายวราเทพ รัตนากร อดีต รมช.คลัง ซึ่งทั้งหมดนี้มีประสบการณ์ด้านการบริหารราชการแผ่นดิน มีผลงานเด่นชัดในสังคมมากที่สุด ส่วนตัวคิดว่ามีความสามารถมากว่าทีมเศรษฐกิจพรรคอื่นๆ เมื่อเทียบกับนายเศรษฐา ก็ขอให้สังคมพิจารณากันเอาเอง”นายไพบูลย์ ย้ำ
สำหรับนโยบายเศรษฐกิจชุดใหม่ของพปชร.นั้น ตอนนี้ทางทีมงานด้านนโยบาย เตรียมเปิดนโยบายชุดใหม่เป็นช่วงๆอยู่แล้วเพราะเราให้ความสำคัญกับนโยบายเศรษฐกิจซึ่งนายอุตตม จะมาเป็นประธานคณะกรรมการฝ่ายนโยบายอยู่แล้ว คงจะทำให้การขับเคลื่อนนโยบายเศรษฐกิจของพรรคไปได้เต็มที่
ชาวพังงาเชียร์“จุรินทร์”เป็นนายกฯ
วันเดียวกัน เวลา08.30น.หาดท้ายเหมือง จ.พังงา นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกฯและรมว.พาณิชย์ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ เดินทางร่วมงาน”ประเพณีอนุรักษ์เต่าทะเล ประจำปี 2566” และปล่อยพันธุ์ลูกเต่าทะเลลงสู่ทะเลบรรยากาศสุดคึกคัก เนื่องแน่นไปด้วยนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ นายจุรินทร์เดินทักทายกับประชาชน นักท่องเที่ยว ทั้งชาวไทยและต่างชาติ ที่มาร่วมงานอย่างเป็นกันเอง ในระหว่างเดินชมงานมีคนเข้ามาทักทายนายจุรินทร์ไม่ขาดสาย ขอจับมือ ขอถ่ายรูป เซลฟี่ มอบของกินอร่อยๆให้ ขอให้ชิมเมนูเด็ดของท้องถิ่น (ยำเพรียง) พร้อมต่างเชียร์ว่า“พวกเราอยากได้นายกรัฐมนตรีเป็นคนท้ายเหมือง พังงา เราอยากให้ท่านเป็นนายก”
ทั้งนี้ ในงานมีนายนิพนธ์ บุญญามณี อดีตรมช.มหาดไทย พล.ต.ต.วิชัย สังข์ประไพ ที่ปรึกษารมว.พาณิชย์ นายจุฤทธิ์ ลักษณวิศิษฏ์ นายราเมศ รัตนะเชวง พร้อมนายเอกรัฐ หลีเส็น ผู้ว่าฯพังงา ร่วมด้วย
ปลื้มท่องเที่ยวจว.แถบอันดามันคึกคัก
นายจุรินทร์ ให้สัมภาษณ์ภายหลังการร่วมปล่อยเต่าว่างานนี้จัดมาเป็นปีที่ 53 แล้ว และเป็นงานประจำปีที่ใหญ่ที่สุดของ อ.ท้ายเหมือง จ.พังงา เนื่องจากบริเวณนี้ เป็นชายหาดสำคัญที่มีเต่าทะเลมาวางไข่เป็นประจำทุกปีอย่างต่อเนื่อง ระยะหลังมีเต่าขึ้นมาวางไข่น้อยลง เมื่อมีหน่วยงานเข้ามารับผิดชอบดูแลโดยตรง พร้อมจัดตั้งศูนย์อนุรักษ์และเพาะพันธุ์รวมถึงรณรงค์ไม่ให้รับประทานไข่เต่าและห้ามนำไปขายทำให้มีเต่าทะเลขึ้นมาวางไข่เพิ่มต่อเนื่องทำให้เต่าทะเลมีมากขึ้น สำหรับสถานการณ์การท่องเที่ยวในจังหวัดแถบอันดามันนั้น ขณะนี้ดีขึ้นทั้งภูเก็ต กระบี่ พังงาและอีกหลายจังหวัดในแถบอันดามันทั้งหมดโดยเฉพาะที่ จ.พังงาจะมีนักท่องเที่ยวจากยุโรปเป็นจำนวนมากเนื่องจากมีศักยภาพในการทำตลาดกับทางยุโรป ทำให้ได้รับผลสำเร็จเป็นอย่างดี เพราะหาดท้ายเหมือง อยู่ไม่ไกลจากเขาหลัก เป็นแหล่งท่องเที่ยวสำคัญอีกแห่ง ขณะนี้ก็มียอดจองห้องพักเต็มทุกแห่ง
‘อุ้งอิ้งค์-พท.’บุกอีสานใต้ 4-5 มี.ค.
ที่พรรคเพื่อไทย นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ ผู้อำนวยการครอบครัวเพื่อไทยกล่าวว่าในวันที่ 4-5มี.ค.นี้ พรรคเพื่อไทย เตรียมลงพื้นที่หาเสียงภาคตะวันออกเฉียงเหนือใน 3 จังหวัดอีสานใต้ได้แก่ นครราชสีมา บุรีรัมย์ และ สุรินทร์โดยแกนนำที่จะร่วมขึ้นเวทีปราศรัย นำโดยนพ.ชลน่าน ศรีแก้ว หัวหน้าพรรคเพื่อไทย น.ส.แพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย นายประเสริฐ จันทรรวงทอง เลขาธิการพรรค นายสุทิน คลังแสง รองหัวหน้าพรรค พร้อมส.ส.และผู้ประสงค์ลงสมัครส.ส.ทั้งระบบบัญชีรายชื่อและระบบเขต
‘โคราช-บุรีรัมย์-สุรินทร์’2วัน5เวที
โดยวันที่ 4 มี.ค.เวลา 10.00 น. เริ่มเวทีแรก ที่ อาคารกีฬาเฉลิมพระเกียรติ 80 พรรษา เทศบาลเมืองปักธงชัย อ.ปักธงชัย จ.นครราชสีมา จากนั้นจะไปสักการะอนุสาวรีย์ท้าวสุรนารี ก่อนเปิดเวทีที่ 2 ในเวลา 14.00 น. ณ ลานข้างสถานีรถไฟ อ.คง จ.นครราชสีมา และช่วงเย็นเวลา17.00น.จะเปิดเวทีปราศรัยใหญ่ ที่สนามหน้าศาลากลาง อ.เมือง จ.นครราชสีมาซึ่งสนามนี้เคยมีเวทีพรรครวมไทยสร้างชาติเมื่อสัปดาห์ก่อนเชื่อว่าพรรคเพื่อไทย จะได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี เก้าอี้จะเต็มทุกที่นั่ง และในวันที่ 5 มี.ค.เริ่มตั้งแต่เวลา11.00 น.จะเปิดเวทีปราศรัย ณ ศูนย์ประสานงานพรรคเพื่อไทย อ.ประโคนชัย จ.บุรีรัมย์ และไปต่อเวทีปราศรัย ณ ตลาดเมืองใหม่ไอคิว อ.เมือง จ.สุรินทร์
ตอกกลับ‘ประยุทธ์’วิจารณ์‘เศรษฐา’
นายณัฐวุฒิ กล่าวถึงท่าทีพล.อ.ประยุทธ์ ที่มีต่อการเปิดตัว นายเศรษฐา ทวีสิน ในฐานะประธานที่ปรึกษาหัวหน้าครอบครัวเพื่อไทยว่า ทุกคนทราบว่า ประเทศเป็นของประชาชนทุกคน นายเศรษฐาก็เป็นที่ยอมรับในแวดวงเศรษฐกิจและธุรกิจ ต่างจาก พล.อ.ประยุทธ์ที่อยู่ในค่ายทหารมาตลอดแต่กลับเป็นหัวหน้าทีมเศรษฐกิจของพรรครวมไทยสร้างชาติ พล.อ.ประยุทธ์ ควรแสดงวุฒิภาวะที่ดีมากกว่านี้ ควรสำนึกว่าเติบโตมาในชีวิตราชการอย่างไร ส่วนตัวมองว่าท่านโตมาในกองทัพและกลุ่มบูรพาพยัคฆ์ ส่งต่อมาเป็นทอดๆ และตลอด 8 ปีที่ผ่านมา ไม่คิดว่าคนไทยจะเห็นพล.อ.ประยุทธ์เป็นที่พึ่งอีกแล้ว และไม่สามารถเห็นอนาคตภายใต้การนำของท่านได้ เพราะประเทศไทยไม่ใช่ค่ายทหาร ประชาชนไม่ใช่พลทหาร อำนาจที่มี แนวทางที่เป็น ไม่ได้สอดรับกับความต้องการของประชาชนที่รออยู่ ทั้งนี้ พรรคเพื่อไทยจะขับเคลื่อนนโยบายและเดินหน้าเป้าหมายแลนด์สไลด์ต่อไป
แย้ม‘เศรษฐา’ขึ้นร่วมปราศรัยแน่
ส่วนกรณีที่นายเศรษฐา ยังไม่ได้เข้าร่วมเวทีปราศรัยพรรคเพื่อไทยนั้น นายณัฐวุฒิ ชี้แจงว่า เนื่องจากติดภารกิจ แต่หลังจากนี้ไป จะเห็นนายเศรษฐาร่วมด้วยแน่นอน เพราะนายเศรษฐาเองมีสถานะที่แวดวงธุรกิจยอมรับ มีมิติด้านนโยบายที่จะเข้ามามีส่วนร่วมได้ ยอมรับว่าความเป็นที่รู้จักของนายเศรษฐาต่อประชาชนอาจต้องใช้เวลา แต่เชื่อว่าภายใต้การทำงานเป็นทีมของพรรคจะทำให้ประชาชนสัมผัสและให้การตอบรับนายเศรษฐาในนามประธานที่ปรึกษาหัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย
“ส่วนของแคนดิเดตนายกฯพรรคเพื่อไทย ยืนยันมาตลอดว่าจะส่งรายชื่อครบ 3รายชื่อ ทุกคนล้วนเป็นตัวจริง ไม่มีตัวหลอก ประชาชนพิจารณาหาคนที่ได้รับการยอมรับมากที่สุด สุดท้ายแล้วจะเป็นใครก็จะต้องรอมติกรรมการบริหารพรรคอีกครั้ง” นายณัฐวุฒิ ระบุ
‘ชูวิทย์’ฉะ’อนุทิน’เด็กวานซืน’ถูกเนวินหยาม
นายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ อดีตนักการเมือง โพสต์เฟซบุ๊กในหัวข้อ “เด็กวานซืน”ระบุว่า ภาพเนวินถีบตูดอนุทิน สำหรับลูกผู้ชายอย่างผมถือว่า“หยาม”กัน ไม่ใช่“หยอก”กัน เพราะวันนี้นายอนุทิน ไม่ใช่“เด็กวานซืน”อีกต่อไปแล้ว แต่ให้ผมเดาตามประสาที่เคยเป็นนักเรียนประจำมาก่อนตอนเด็กๆ อนุทินคงโตมาแบบ “ลูกคนรวย” แล้วไปเจอ “เด็กบ้านนอก” คงหงอหัวหดฝังลงไปในเส้นเลือด ยอมให้ตบกระบาลเป็น “ลูกไล่” เมื่อโตก็ติดนิสัยขี้กลัวไปยันแก่ ภาษาฝรั่งเขาเรียกว่า “loser”ขี้แพ้ แล้วไม่ใช่อะไร โดนถีบแล้วพนันได้ว่า อนุทินคงยังหันไปยกมือไหว้ตอบ ยิ้มแหะๆ มิน่าเล่า ถึงเอาความรู้สึกกลัวมาบอกว่า “ชูวิทย์จะไปบุรีรัมย์ คงไปได้แค่สระบุรี” คนอย่างผมไม่เคยกลัวคนตั้งแต่เด็ก เมื่อโตขึ้นไม่เห็นมีใครมาหยอกแบบนี้กับผม และผมก็ไม่เคยทำแบบนี้กับใคร เพราะนิสัย “ลูกผู้ชาย” เขาไม่เล่นกันอย่างนี้หรอกครับ
โตจนป่านนี้ ยังเป็นลูกไล่เนวินวันยันค่ำ เขาเรียกว่า “ลามปาม” ครับ มันเสียฟอร์ม คนอย่างนี้หรือครับ จะเป็นนายกรัฐมนตรีประเทศไทย ใครไปเลือกพรรคภูมิใจไทย เท่ากับเลือกหนูแถมเนวิน หากทำอะไรไม่ถูกใจเวลาเป็นใหญ่เป็นโต คงได้ถูกถีบกลาง ครม.แล้วลองคิดดูว่า ใครจะถีบใคร
‘อนุทิน’โพสต์วิธีแสดงความรักของคนภท.
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรมว.สาธารณสุข ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย โพสต์เฟซบุ๊ก “Anutin Charnvirakul” เป็นภาพของนายเนวิน ชิดชอบ ประธานสโมสรฟุตบอลบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ที่กำลังยกเท้าในลักษณะเตะหยอกล้อกับนายอนุทิน ขณะที่อีกภาพ นายอนุทิน กำลังใช้เท้าเตะหยอกล้อกับนายยศวัฒน์ มาไพศาลสิน ส.ส.กาญจนบุรี พรรคภูมิใจไทย พร้อมระบุแคปชั่นว่า“วิธีการแสดงออกถึงความรักกันของคนในพรรคภูมิใจไทย
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ก่อนหน้านี้นายชูวิทย์ กมลวิศิษฏ์ ได้ออกมาเปิดเผยภาพที่นายเนวิน ชิดชอบประธานบริหารสโมสรฟุตบอลบุรีรัมย์ ยูไนเต็ดใช้เท้าในลักษณะเตะหรือถีบไปที่บั้นท้ายของนายอนุทินโดยระบุว่า เป็นการสั่งสอน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี