‘ประวิตร’เร่งเครื่องแก้‘ค้ามนุษย์’ สั่งกระทรวงแรงงาน เร่งแก้ปัญหาแรงงานประมงผิดกฎหมายสร้างความเชื่อมั่น-จริงใจแก้ปัญหา ยึด‘ผู้เสียหาย’เป็นศูนย์กลาง ตามหลักมนุษยธรรม ย้ำการค้ามนุษย์ต้องหมดไปจากประเทศไทย โดยเร็วที่สุด
9 มีนาคม 2566 ที่มูลนิธิอนุรักษ์ป่ารอยต่อ 5 จังหวัด พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี เป็นประธานการประชุม 2คณะต่อเนื่องกัน คือ คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการค้ามนุษย์(ปคม.) และคณะกรรมการประสานและกำกับการดำเนินงานป้องกันและปราบปรามการค้ามนุษย์(ปกค.)
โดยเวลา 09.45น. ประชุม ปคม. ที่ประชุมได้รับทราบความก้าวหน้า การจัดตั้งศูนย์คัดแยกผู้เสียหาย (ดอนเมือง) ซึ่ง พล.อ.ประวิตร ได้เร่งรัด สตช. ดำเนินการให้แล้วเสร็จโดยเร็ว เพื่อเตรียมรองรับการดำเนินงานตามกลไกการส่งต่อระดับชาติ (NRM)ของทุกหน่วยงาน ต่อไป และรับทราบรายงานการพัฒนาระบบฐานข้อมูลของประเทศไทย ด้านการดำเนินคดี และการช่วยเหลือผู้เสียหายจากการค้ามนุษย์ (E-AHT) รวมทั้ง รับทราบการจัดทำแผนขับเคลื่อนโครงการส่งเสริมธุรกิจท่องเที่ยวปลอดภัยและเป็นมิตรกับเด็ก(Child Safe Friendly Tourism Project) และการจัดทำแผนปฏิบัติการ ด้านการป้องกันและแก้ไขการค้ามนุษย์ปี66-70 ซึ่งได้ผ่านความเห็นชอบจาก พม.แล้ว ขณะนี้ ยังอยู่ในขั้นตอนการกลั่นกรองของสภาพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ก่อนเสนอ ครม. ต่อไป
จากนั้น ที่ประชุมได้พิจารณาเห็นชอบ ร่างรายงานความก้าวหน้าผลการดำเนินงาน ป้องกันและปราบปรามการค้ามนุษย์ของประเทศไทย (Progress Report) และกรอบเวลาการจัดทำรายงานฯ เพื่อจัดส่งให้สหรัฐฯเพิ่มเติมเพื่อใช้ประเมินและจัดอันดับใน Tip Report ปีถัดไป และเห็นชอบการติดตาม ผลการขับเคลื่อนการดำเนินงาน NRM ในจังหวัดนำร่อง ซึ่งคณะทำงานฯ ได้กำหนดไว้ 10 จังหวัด ได้แก่ กาญจนบุรี, สระแก้ว,ตราด,สงขลา,สตูล,เชียงราย,ระนอง,ขอนแก่น,หนองคาย และอุบลราชธานี โดยมีการติดตามการดำเนินงาน ห้วง พ.ย.65 - มี.ค.66 ทั้งนี้ พล.อ.ประวิตร ได้มอบให้ มท.พิจารณางบประมาณของจังหวัดดำเนินการฯ และให้สำนักงบฯ จัดสรรงบประมาณเพื่อการขับเคลื่อนฯ ให้เป็นรูปธรรม และยั่งยืน โดยมีเป้าหมายให้ครอบคลุมทุกจังหวัด เพื่อให้ประเทศไทยปลอดจากการค้ามนุษย์โดยเร็วที่สุด และมีโอกาสยกระดับขึ้นเป็นเทียร์ 1ได้ ในปีถัดไป
จากนั้น พล.อ.ประวิตร ได้เป็นประธาน ต่อเนื่องการประชุม ปกค.โดยมีเรื่องเห็นชอบที่สำคัญ คือการให้กองทุนเพื่อการป้องกันและปรับปรามการค้ามนุษย์ ประกาศกำหนดวงเงิน/ค่าใช้จ่ายและหลักเกณฑ์ เพื่อให้ความช่วยเหลือ โดยยึดประโยชน์สูงสุดของผู้เสียหาย และเพื่อการป้องกันและปราบปรามการค้ามนุษย์เป็นสำคัญ และเห็นชอบให้ตั้งคณะอนุกรรมการติดตามการบังคับคดี ให้เป็นไปตามคำพิพากษาเพื่อการช่วยเหลือผู้เสียหายจากการกระทำผิดฐานค้ามนุษย์ ด้วย
พล.อ.ประวิตร ได้กล่าวขอบคุณ สตช.,กต. ,พม.,รง. และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ที่ดำเนินงานมีความก้าวหน้าไปมาก และขอให้ร่วมกันขับเคลื่อนการดำเนินงาน อย่างต่อเนื่อง ไม่ลดละต่อไป โดยเฉพาะเน้นย้ำการแก้ปัญหาแรงงานประมงผิดกฎหมาย อย่างจริงจังมากขึ้น เพื่อทำให้เห็นถึงความมุ่งมั่น ทุ่มเท และจริงใจของรัฐบาลไทยต่อการแก้ไขปัญหาการค้ามนุษย์ รอบด้านและ ให้หมดไปจากประเทศไทย โดยให้ผู้เสียหายเป็นศูนย์กลางที่จะได้รับประโยชน์สูงสุด และได้รับการชดเชย เยียวยา อย่างเป็นธรรม รวดเร็ว ตามหลักมนุษยธรรม ต่อไป
-005
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี