‘บิ๊กตู่’หวั่นเกียร์ว่างช่วงรอยต่อ
ไม่สนเรื่องไร้สาระ
เดินหน้าลงพื้นที่กำกับดูแลงาน
‘ธนกร’ปัดใช้งบหลวงหาเสียง
‘อนุทิน’ยันภท.-พปชร.ขั้วเดียวกัน
เงื่อนไขร่วมรบ.ก.ม.กัญชาต้องฉลุย
พปชร.ลุยเวทีลานคนเมือง18มี.ค.
‘บิ๊กป้อม’นำปราศรัย-เปิดตัว33เขต
นายกฯลงตรวจราชการ จ.ระนอง ย้ำลงพื้นที่กำกับดูแลช่วงรอยต่อเลือกตั้ง หวั่นเกิดปัญหาเกียร์ว่างลั่นไม่สนอะไรที่ไม่ใช่สาระ ขออย่าเอาการเมืองมาตีจนวุ่น เตรียมลงตรวจเชียงใหม่ 17 มีนาคม“ธนกร” ยันนายกฯไม่ได้ใช้งบหลวงเอาเปรียบหาเสียง ชี้ลงพื้นที่เป็นเรื่องดี ช่วยเหลือปชช. รทสช.วางยุทธศาสตร์หาเสียงทุกพื้นที่จัดเวทีปราศรัยใหญ่ “อนุทิน”พลิ้ว แจงร่วมวงมื้อกลางวัน“บิ๊กป้อม”ไม่แปลก
มันมหัศจรรย์ตรงไหน! ถ้ากับ‘เพื่อไทย’ค่อยตื่นเต้นหน่อย ย้ำ พปชร.-ภท.เป็นขั้วเดียวกัน คือ ขั้วรัฐบาลอยู่แล้ว กางตัวเลข ‘ส.ส.ภท.ไม่ต่ำ70 ที่นั่ง ปัดปล่อยภาพขู่คู่แข่ง พร้อมรับนัดทุกพรรค ระบุเงื่อนไขร่วมรบ.ครั้งหน้า‘กม.กัญชา’ต้องฉลุย เมิน‘ชูวิทย์’ยื่นกกต.ยุบพรรค ขอเอาเวลาไปหาเสียง‘สกลธี’เผย เวทีปราศรัยลานคนเมือง พปชร.พร้อมหมดแล้ว ‘บิ๊กป้อม’นำปราศรัย-เปิดตัวผู้สมัครทั้ง 33 เขต เตรียมเสนอนโยบาย เน้นแก้ปัญหาปากท้อง-จราจรในกทม.หวังกวาด12ที่นั่ง‘ภูมิธรรม’ปลุกกา’เพื่อไทย’310 เสียง ย้ำหยุดระบอบ‘ประยุทธ์’ ปั่นใจให้พรรคอื่นไม่ได้
เมื่อวันที่ 16 มีนาคม 2566 ที่ท่าอากาศยานทหาร2 กองบิน6 ดอนเมือง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม ให้สัมภาษณ์ก่อนเดินทางไปตรวจราชการที่ จ.ระนอง ถึงกรณีคลิปแนะนำตนเองว่าอยู่พรรครวมไทยสร้างชาติ(รทสช.)ว่าไม่ทราบ ไม่ได้เป็นคนทำเองมีคนทำให้ ก่อนย้อนถามสื่อมวลชนว่าไม่มีเรื่องอะไรที่น่าสนใจมากกว่านี้แล้วหรือว่า ประเทศชาติจะเดินอย่างไร เศรษฐกิจเราเป็นอย่างไร และขณะนี้บ้านเมืองจะเดินไปทางไหนสำคัญกว่ามั้ง มาสนใจแต่เรื่องกระจุกกระจิกแบบนี้
นายกฯย้ำต้องอยู่รักษาการอีกนาน
“วันนี้นายกฯก็ยังคงเป็นนายกฯอยู่ ยังต้องอยู่รักษาการอีกนาน ขอให้ความสำคัญกับสิ่งที่เป็นปัจจุบันไม่ดีกว่าหรือ เรื่องอื่นก็ว่ากันไป การเมืองก็ว่ากันไป อย่านำมาตีกันจนวุ่นไปหมด ผมยังคงต้องบังคับบัญชาและควบคุมคณะรัฐมนตรีเหมือนเดิมยังทำงานเหมือนเดิมตามกรอบของคณะกรรมการการเลือกตั้งเพราะฉะนั้นอย่าให้ความสำคัญกับเรื่องที่ไร้สาระเอาว่าวันนี้เราจะอยู่อย่างไรให้รอดก่อน”นายกฯย้ำ
พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวถึงกรณีผลกระทบจากสถานการณ์ธนาคารล้มในต่างประเทศว่าฝ่ายเศรษฐกิจได้ยืนยันและตอบกลับมาแล้ว ยังไม่มีอะไรที่น่าเป็นห่วง เกี่ยวกับเรื่องสถานการณ์ทางการเงินที่อาจเกิดผลกระทบจากสหรัฐอเมริกาโดยธนาคารแห่งประเทศไทยได้ยืนยัน ดังนั้นเราควรกลับมาดูของเราว่าจะทำอย่างไรให้ประชาชนของเราอยู่ได้ในวันนี้
ย้ำลงดูแลรอยต่อลต.หวั่นเกิดเกียร์ว่าง
“และที่นายกฯลงพื้นที่ตรวจราชการทุกวันนี้ก็เพื่อไปกำกับดูแลเพราะว่าหลายคนเป็นห่วงว่าช่วงการเลือกตั้ง และช่วงนี้เป็นช่วงรอยต่ออาจเกิดปัญหาเกียร์ว่าง นายกฯจึงต้องไปกำกับติดตามดูแลและให้เกียรติทุกคนที่ทำงานกันมา อย่าวุ่นวายกันมาก หากต่างคนต่างพูดกันไป ก็จะทำให้มีปัญหา อะไรที่ไม่ใช่สาระผมไม่สนใจ ผมสนใจประเทศ และประชาชนมากกว่าทุกคนทำเพื่อประเทศชาติและประชาชน” นายกฯกล่าว
นายกฯลงตรวจงานเชียงใหม่17มี.ค.
นายอนุชา บูรพชัยศรี รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง ปฏิบัติหน้าที่โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่าพลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม มีกำหนดลงพื้นที่ตรวจราชการ ณ จังหวัดเชียงใหม่ ในวันศุกร์ที่ 17 มีนาคม 2566 เพื่อติดตามความคืบหน้าการดำเนินงานตามนโยบายของรัฐบาล โดยมี พลเอก อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทย นายอิทธิพล คุณปลื้ม รมว.วัฒนธรรม นางสาวตรีนุช เทียนทอง รมว.ศึกษาธิการ นายธนกร วังบุญคงชนะ รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี และนายอรรถพล สังขวาสี ปลัดกระทรวงศึกษาธิการ ร่วมลงพื้นที่ตรวจราชการ
โดยมีกำหนดการ ดังนี้ เวลาประมาณ 08.30น.นายกรัฐมนตรีและคณะ ออกเดินทางจากท่าอากาศยานทหาร 2 กองบิน 6 (บน.6) ดอนเมือง กรุงเทพฯ ไปยังท่าอากาศยานทหาร กองบิน 41 ตำบลสุเทพ อำเภอเมืองเชียงใหม่ จังหวัดเชียงใหม่ โดยเครื่องบินของกองทัพอากาศ แล้วเดินทางไปถวายเครื่องสักการะและกราบอนุสาวรีย์ครูบาศรีวิชัย เพื่อความเป็นสิริมงคลในโอกาสเดินทางลงพื้นที่ตรวจราชการจังหวัดเชียงใหม่ จากนั้นนายกรัฐมนตรีจะเดินทางไปยังวัดพระธาตุดอยสุเทพราชวรวิหาร ตำบลสุเทพ อำเภอเมืองเชียงใหม่ จังหวัดเชียงใหม่ เพื่อรับฟังข้อเสนอการสนับสนุนแผนแม่บทโครงการเสนอชื่อครูบาเจ้าศรีวิชัยเป็นบุคคลสำคัญของโลก กลุ่ม 10 จังหวัดภาคเหนือ
ติดตามผลดำเนินงานตามนโยบาย
หลังจากนั้น นายกรัฐมนตรีจะเดินทางต่อไปยังศูนย์ประชุมและแสดงสินค้านานาชาติ เฉลิมพระเกียรติฯ เชียงใหม่ ตำบลช้างเผือก อำเภอเมืองเชียงใหม่ จังหวัดเชียงใหม่ เพื่อพบปะประชาชนชาวเชียงใหม่และติดตามผลการดำเนินงานตามนโยบายของรัฐบาล ได้แก่ 1) โครงการฟื้นฟูสุขภาพช่องปากด้วยรากฟันเทียมที่พัฒนาขึ้นเอง คณะทันตแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ โครงการปรับปรุงอาคารผู้ป่วยหลวงปู่แหวน “สุจิณโณ” โรงพยาบาลมหาราชนครเชียงใหม่ และด้านพลังงานสะอาด พลังงานทดแทน การแก้ไขปัญหาการเปลี่ยนแปลงภูมิอากาศ 2) การพัฒนา AI เพื่อช่วยเหลือการทำงานและดูแลสุขภาพ และ 3) การพัฒนาแปรรูปพืชพื้นบ้าน/ผลิตภัณฑ์พื้นบ้าน การส่งเสริมเศรษฐกิจสร้างสรรค์ การส่งเสริมนวัตกรรมเพื่อชุมชน จากนั้น นายกฯจะเดินทางไปยังมหาวิทยาลัยแม่โจ้ ตำบลหนองหาร อำเภอสันทราย จังหวัดเชียงใหม่ เพื่อตรวจเยี่ยมการพัฒนาศักยภาพผู้สูงอายุในพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่ ก่อนจะเดินทางกลับถึงท่าอากาศยานทหาร 2 กองบิน 6 (บน.6) ดอนเมือง กรุงเทพฯ ในเวลาประมาณ 17.45 น.
“โดยจังหวัดเชียงใหม่ถือเป็นศูนย์กลางทางเศรษฐกิจที่สำคัญของภาคเหนือ มีความโดดเด่นมีนวัตกรรมที่ต่อยอดให้เกิดเป็นผลิตภัณฑ์และบริการมูลค่าสูงตามแนวทางเศรษฐกิจสร้างสรรค์ และแนวทางการพัฒนาพื้นที่ระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคเหนือ (Northern Economic Corridor : NEC – Creative LANNA) รวมทั้งโดดเด่นทางศิลปวัฒนธรรมล้านนาและภูมิปัญญาท้องถิ่นที่มีอัตลักษณ์และเป็นเมืองท่องเที่ยวสำคัญของไทยที่ได้รับความนิยมในระดับโลก โดยรัฐบาลมุ่งพัฒนาจังหวัดเชียงใหม่ให้เป็นเมืองที่น่าอยู่ เป็นประตูการค้าการลงทุนสู่สากล ผ่านการพัฒนาทางด้านเศรษฐกิจและสังคม และพร้อมดูแลประชาชนทุกคนในพื้นที่ ยกระดับรายได้ และคุณภาพชีวิต เพื่อสร้างการเติบโตอย่างยั่งยืน และเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม” นายอนุชา กล่าว
‘ธนกร’คลิปแนะนำตัว‘บิ๊กตู่’ผู้หวังดีทำให้
นายธนกร วังบุญคงชนะ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงการทำคลิปประชาสัมพันธ์พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหมอยู่พรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.)ว่ามีรุ่นพี่ที่เป็นคนทำให้ ซึ่งสอดคล้องกับที่ประชาชน บางส่วน ยังไม่รู้ว่านายกรัฐมนตรีอยู่รทสช.คนที่หวังดีก็เลยทำคลิปมาให้ ตนจึงส่งให้สื่อมวลชน และได้นำลงในเพจ ซึ่งได้รับความสนใจและมีผู้คนสอบถามเข้ามามาก ส่วนกำหนดการของรทสช.จะมีการทยอยเปิดตัว ผู้สมัคร ส.ส.เป็นรายภาคและกำหนดตารางปราศรัยจะมีทั้งเวทีใหญ่และเวทีขนาดกลาง ในหลายพื้นที่ซึ่งมีการกำหนดไว้หมดแล้ว
รทสช.พร้อมเปิดผู้สมัครสัปดาห์หน้า
เมื่อถามถึงกรณีที่ คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.)ระบุว่ามีการแบ่งเขตจะเสร็จสิ้นภายในวันนี้ พรรคมีการเตรียมตัวเกี่ยวกับผู้สมัครไว้อย่างไร นายธนกร กล่าวว่า สัปดาห์หน้าก็จะประกาศได้และมีการพิจารณาเอาไว้แล้ว แต่หากการแบ่งเขตมีการปรับเปลี่ยนบ้างก็จะมีการปรับผู้สมัครนิดหน่อยแต่น่าจะเป็นส่วนน้อย แต่ผู้สมัครของเรามีความพร้อมมากและจากการลงพื้นที่ได้รับการตอบรับจากประชาชนเป็นอย่างมากซึ่งประชาชนส่วนใหญ่ทราบว่าพล.อ.ประยุทธ์ อยู่ รทสช. ดังนั้นไม่ว่าจะเดินทางไปไหนก็จะเห็นประชาชนให้กำลังใจพลเอกประยุทธ์และต่างพูดกันว่า ขอให้ลุงตู่อยู่ต่อบริหารประเทศชาติต่อไป
วางยุทธศาสตร์บิ๊กตู่ลงหาเสียงทุกพื้นที่
เมื่อถามว่าพล.อ,ประยุทธ์จะเดินทางลงพื้นที่หาเสียงไปทุกพื้นที่หรือไม่ นายธนกร กล่าวว่าคงไม่ทุกพื้นที่ เพราะตะกำหนดจุดสำคัญไว้มากกว่า ซึ่งคณะกรรมการยุทธศาสตร์พรรคได้มีการวางแผนไว้แล้วเพราะเรามีเป้าหมายที่จัดเตรียมในแต่ละจังหวัด แต่สำหรับทั่วประเทศพรรคก็มียุทธศาสตร์ในการหาเสียง ซึ่งการกระจายข้อมูลข่าวสารต่างๆก็จะออกเต็มรูปแบบ ในเร็วๆนี้
ชี้ยุบสภา 20-21 มี.ค.เป็นไปได้หมด
เมื่อถามว่านายกรัฐมนตรีมีการพูดคุยถึงการยุบสภาหรือไม่ นายธนกร กล่าวว่า นายกรัฐมนตรีไม่ได้พูดแต่คงเป็นไปตามที่สื่อมวลชนนำเสนอข่าวไป ไม่คาดเคลื่อนอะไรมาก เมื่อถามต่อว่าวันยุบสภา จะเป็นวันที่ 20 มี.ค.นี้หรือไม่ นายธนากร กล่าวว่า เป็นไปได้หมด เพราะมีเวลาแค่นั้น 20 -21 มีนาคม ซึ่งตนอยากให้มาสนใจเรื่องการเลือกตั้งมากกว่า วันที่ยุบสภา เพราะมันยุบอยู่แล้วแต่นายกฯก็ยังคงเป็นนายกฯรักษาการและลงพื้นที่ช่วยเหลือประชาชนแบบนี้ ซึ่งกำหนดการมีล่วงหน้าอยู่แล้ว ตนคิดผมคิดว่า นายกรัฐมนตรี ลงไปในแต่ละพื้นที่ปัญหาต่างๆที่คาราคาซังก็ได้รับการแก้ไขซึ่งหลายพื้นที่ก็สามารถช่วยเหลือประชาชนได้
ป้องนายกฯไม่ใช่ใช้งบหลวงหาเสียง
เมื่อถามอีกว่าหลายฝ่ายมองว่าการลงพื้นที่ของนายกรัฐมนตรีเป็นการใช้ทรัพยากรหลวงในการเอาเปรียบหาเสียง นายธนกร กล่าวว่า คงไม่ใช่ เพราะทุกรัฐบาลก็เป็นอย่างนี้ อยากให้มองตรงนั้นมากกว่าไม่อยากให้มองว่าใช้กลไกอำนาจรัฐในการหาเสียงเพราะปกตินายกฯก็ลงพื้นที่อยู่แล้ว และการลงพื้นที่ก็เป็นเรื่องที่ทำได้ และเราก็ปฏิบัติตามกฎหมายของ กกต.อยู่แล้วและตนคิดว่าประชาชนได้ประโยชน์ การลงพื้นที่อย่างน้อยก็ทำให้เกิดความคึกคัก ปัญหาต่างๆได้รับการแก้ไขอย่างทันท่วงที ทั้งเรื่องแหล่งน้ำต่างๆประชาชนก็ได้ประโยชน์
‘อนุทิน’แจงร่วมวงมื้อเที่ยง‘บิ๊กป้อม’
นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรมว.สาธารณสุข หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย (ภท.)ให้สัมภาษณ์รายการ“ลึกจากสนามข่าว”ทางFM 96.0 ชี้แจงกรณีปรากฎภาพแกนนำพรรคภูมิใจไทย ร่วมโต๊ะรับประทานอาหารกลางวันกับพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) อย่างชื่นมื่น เมื่อวันที่ 15มี.ค.ที่ผ่านมาว่าไม่ได้มีนัยยะทางการเมือง แต่เป็นการนัดกันล่วงหน้านานแล้ว ตั้งแต่ นายชาดา ไทยเศรษฐ์ รองหัวหน้าพรรค เดินทางไปพบกับพล.อ.ประวิตร ในช่วงที่ลงพื้นที่ตรวจราชการที่ จ.นครสวรรค์ และเห็นว่า ไม่ได้กินข้าวกับ พล.อ.ประวิตรนานแล้ว ตนจึงได้โทรศัพท์ไปย้ำนัดกันอีกครั้ง ก่อนพบว่ามีเวลาตรงกัน
คุยสถานการณ์การเมืองปัดจับขั้วใหม่ -
“ผมพร้อมคณะจึงได้เข้าไปพบ พล.อ.ประวิตรและร่วมพูดคุยถึงสถานการณ์การเมืองแลกเปลี่ยนความพร้อมของทั้งสองพรรคในการเลือกตั้งที่กำลังจะมาถึง ซึ่ง พล.อ.ประวิตรก็สอบถามถึงการประเมินตัวเลข ส.ส.ของพรรคภูมิใจไทย ผมก็แจ้งว่าน่าจะได้ประมาณ 70 คน ซึ่งท่านก็เห็นว่า ตรงกับผลโพลที่ออกมา พร้อมปฏิเสธพูดคุยถึงการจับขั้วการเมืองใหม่ เพราะปัจจุบันทั้งพรรคภูมิใจไทย กับ พรรคพลังประชารัฐ เป็นขั้วเดียวกัน คือ ขั้วรัฐบาลอยู่แล้ว
กินข้าวกับ‘บิ๊กป้อม’มหัศจรรย์ตรงไหน
“ผมไปกินข้าวกับผู้จัดการรัฐบาล มันมหัศจรรย์ตรงไหนหรอ ถ้าไปกินข้าวกับพรรคเพื่อไทยค่อยตื่นเต้นกันหน่อย การนัดกินข้าวร่วมกันของนักการเมืองในช่วงนี้ ไม่ใช่เรื่องแปลก เพราะ ก่อนหน้านี้ก็มีการนำภาพที่ผมไปกินข้าวเที่ยงกับพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ในช่วงที่ถูกเว้นวรรคปฏิบัติหน้าที่ ไปวิพากษ์วิจารณ์”นายอนุทิน ระบุ
ประกาศพร้อมรับนัดทุกพรรค
พร้อมยืนยันด้วยว่า “แต่ผมเห็นว่าทางการเมืองเราสามารถพบปะพูดคุยกันได้ วันนี้ผมโทรไปนัดใครหรือใครโทรมานัดผมกินข้าว ผมไปหมด หัวหน้าพรรคร่วมฝ่ายค้าน จะเชิญพรรคร่วมรัฐบาลไปกินข้าว ผมคิดว่าก็ต้องไปนะ เพราะการนัดกินข้าว ก็ไม่ใช่ว่าจะต้องร่วมหัวจมท้ายกัน”นายอนุทินกล่าว
ผู้สื่อข่าวถามว่าเหตุใดจึงต้องนัดกินข้าวกันในช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อทางการเมืองนายอนุทิน กล่าวว่า ตอนนี้ไม่ใช่ช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อ เพราะเหลือเวลาอีกไม่ถึง 10 วัน วาระของรัฐบาลชุดนี้ก็จะหมดลงในวันที่ 23 มี.ค.นี้ซึ่งวันนั้น ทุกพรรคเท่ากัน ไม่มีฝ่ายรัฐบาล หรือ ฝ่ายค้านแล้วเพียงแต่คณะรัฐมนตรียังคงต้องรักษาการไปจนกว่าจะได้คณะรัฐมนตรีชุดใหม่
ปัดปล่อยภาพทานข้าวหวังขู่คู่แข่ง
เมื่อถามว่ามีการตีความว่าทั้งสองพรรคปล่อยภาพออกมาเพื่อหวังข่มขู่พรรคการเมืองคู่แข่ง นายอนุทินกล่าวว่าอย่ามองโลกในแง่ร้าย ไม่การขู่ หรือระแวงกัน เพราะระยะเวลา 4 ปีที่ผ่านมาหากมีการข่มขู่กัน คงอยู่ร่วมกันไม่ได้มาถึงทุกวันนี้ ยอมรับว่าอาจจะมีความเห็นต่างกันบ้าง แต่ก็ยอมรับในกติกาซึ่งส่วนตัวคิดว่าบรรยากาศทางการเมืองดีขึ้น ไม่ได้มีความตึงเครียดเหมือนที่สื่อประเมินกันไว้
พร้อมระบุว่า หากครั้งหน้าพรรคภูมิใจไทยได้มีโอกาสกลับมาเป็นรัฐบาล เงื่อนไขแรกคือ การบอกพรรคร่วมรัฐบาลว่าร่างกฎหมายกัญชาต้องผ่าน เพราะเป็นประโยชน์กับประชาชน เรามีช่องทางที่จะแสดงความเป็นตัวของตัวเองมากขึ้น
เมิน‘ชูวิทย์’ยื่นยุบภท.เอาเวลาหาเสียงดีกว่า
ส่วนกรณีนายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ เตรียมยื่น กกต.ให้ยุบพรรคภูมิใจไทย กรณีการใช้นอมินีในการเข้ามารับงานประมูลในกระทรวงที่ตนเองกำกับดูแล และขอให้มีการยุบพรรคก่อนเลือกตั้งนั้น นายอนุทิน กล่าวว่า ทุกคนในฐานะประชาชนมีสิทธิ์ที่ทำได้ ซึ่งผู้ที่ถูกกล่าวหาก็มีหน้าที่ชี้แจงข้อเท็จจริง และหากชี้แจงไม่ได้หรือทำผิดกฎหมายก็ต้องยอมรับชะตากรรมไป ตรงกันข้ามผู้ที่กล่าวหา หากมีเจตนามุ่งทำลาย และไม่ได้เป็นไปตามที่กล่าวหา ก็เสี่ยงที่จะถูกดำเนินคดีซึ่งส่วนตัวยังมั่นใจบนพื้นฐานว่าไม่ได้ทำอะไรผิด และไม่เคยคิดว่าใครอยู่เบื้องหลังในเรื่องนี้ แม้ว่าคอการเมืองจะมีการพูดด้วยซ้ำว่าใครอยู่เบื้องหลังเพราะพรรคภูมิใจไทยมีจุดหมายที่ใหญ่กว่าจะต้องทำคือการหาเสียงเลือกตั้งให้ดีที่สุด หากมั่วไปตอบโต้ก็มีแต่จะเสียงคะแนนลงไป
พปชร.พร้อมปราศรัยลานคนเมือง18มีค.
ที่พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) นายสกลธี ภัททิยกุล หัวหน้าทีมกทม.ของพรรค พปชร.กล่าวถึงเวทีปราศรัยใหญ่ของพรรค พปชร.ที่ลานคนเมือง ศาลาว่ากรุงเทพมหานคร ในวันเสาร์ที่ 18 มีนาคมนี้ว่า มีความพร้อมหมดแล้ว กำลังเตรียมประชุมเกี่ยวกับการวางตัว และดูแลเรื่องแสง สี เสียง ส่วนการจัดตัวผู้สมัคร ส.ส.ขณะนี้มีครบแล้ว มีเกินด้วยซ้ำ กำลังรอการแบ่งเขตของคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.)ให้ชัดเจนก่อน จะสามารถจัดคนลงได้ทันที โดยจัดขุนพลที่สำคัญขึ้นปราศรัยบนเวทีไว้หมดแล้วที่จะมาพูดถึงนโยบายเฉพาะในพื้นที่กทม.เรื่องเศรษฐกิจปากท้อง และเรื่องขนส่งสาธารณะ จากทำโพลมา ปัญหาอันดับ1ใน กทม.คือ ปัญหาจราจร รถติด ต้องอาศัยภาพรวมความร่วมมือหลายฝ่าย ทั้งนี้ ได้เตรียมเก้าอี้ไว้ประมาณ 3 พัน พื้นที่จุดนี้ไม่ใหญ่มาก ถ้ารวมประชาชนที่ยืนด้วยน่าจะมีประมาณ5พันคน
เมื่อถามว่าในฐานะที่ดูแลพื้นที่ กทม. คาดว่าพื้นที่ไหนที่มีแนวโน้มจะได้ผู้สมัครเข้ามาบ้างนายสกลธี กล่าวว่าความจริงก็หวังทั้งหมด หากมองแง่ความเป็นจริง คาดว่าน่าจะได้ใกล้เคียงของเดิมคือ12ที่นั่ง
‘บิ๊กป้อม’นำปราศรัย-เปิดตัวทั้ง33เขต
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับเวทีปราศรัยที่ลานคนเมือง มีการวางตัวขุนพลปราศรัย ได้แก่ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ หัวหน้าพรรค นางนฤมล ภิญโญสินวัฒน์ ไป เหรัญญิกพรรค หัวหน้าทีมว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.กทม. นายอุตตม สาวนายน นายมิ่งขวัญ แสงสุวรรณ์ ทีมเศรษฐกิจพรรค นายสันติ พร้อมพัฒน์ รมช.คลัง เลขาธิการพรรค และ นายสกลธี ภัททิยกุล หัวหน้าทีมว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.กทม.และจะมีเปิดว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.กทม.ทั้ง33 เขตด้วย
พท.ปลุก310เสียงหยุดระบอบประยุทธ์
ด้านนายภูมิธรรม เวชยชัย รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย ได้โพสต์ข้อความเรื่องการเลือกตั้งเชิงยุทธศาสตร์เพื่อไม่ให้คะแนนสูญเปล่า “หยุดระบอบประยุทธ์”โดยมีเนื้อหาว่า “การเลือกตั้งที่กำลังจะมีขึ้นในอนาคตอันใกล้นี้ มีความสำคัญอย่างยิ่งต่อการเปลี่ยนแปลงของสังคมไทย มีความสำคัญอย่างยิ่งต่ออนาคตของพี่น้องประชาชนที่ต้องการหลีกให้พ้นจากความบอบช้ำในการบริหารประเทศของระบอบประยุทธ์ เพราะการเลือกตั้งครั้งนี้เป็นการใช้อำนาจของประชาชน เพื่อทำการเปลี่ยนแปลงหยุดระบอบประยุทธ์ซึ่งกัดเซาะบั่นทำลายความหวังของประชาชน
“ด้วยการเลือกพรรคเพื่อไทยให้เกิน310 เสียง ทำไมต้องเลือกพรรคเพื่อไทย เพื่อหยุดระบอบประยุทธ์ เพราะพรรคเพื่อไทยเป็นพรรคที่ได้รับความไว้วางใจจากประชาชนเป็นอันดับ1ทุกครั้งที่มีการเลือกตั้ง นับตั้งแต่พรรคไทยรักไทย พลังประชาชนและเพื่อไทย เป็นเวลาเกือบ 20 ปีเพราะพรรคเพื่อไทย และทีมของเพื่อไทย ประสบการณ์ เป็นรัฐบาลบริหารประเทศ แก้ไขปัญหา ให้พี่น้องประชาชน”
โวคัดบุคลากรทุกระดับพร้อมแก้วิกฤติ
พรรคเพื่อไทยมีความพร้อมของบุคลากรทางการเมืองทุกระดับไม่ว่าจะเป็นแคนดิเดตนายกฯซึ่งมีความพร้อมที่จะเข้ามาบริหารจัดการปัญหาทุกข์ร้อนของประชาชนและเชื่อมประสานได้กับทุกภาคส่วน มีผู้สมัครส.ส.แบบบัญชีรายชื่อทั้งผู้มีประสบการณ์ในด้านต่างๆคนรุ่นใหม่ที่มีความสามารถ/โดยเฉพาะอย่างยิ่ง มีผู้สมัคร ส.ส.เขต ที่ถือเป็นด่านหน้าที่สำคัญในการเป็นสะพานเชื่อมประสานระหว่างพรรคกับประชาชนในแต่ละเขตพื้นที่ ซึ่งพรรคให้ความสำคัญและพิถีพิถันในการคัดเลือกคนที่ใช่ที่สุดในการเป็นผู้แทนเข้าไปทำงานรับใช้พี่น้องประชาชน ที่สำคัญคือเพราะพรรคเพื่อไทย ยืดหยัด มุ่งหมายและเชื่อมั่นในหลักการประชาธิปไตยมาอย่างต่อเนื่องนับตั้งแต่มีการรัฐประหารปี2549 วันนี้พรรคเพื่อไทยมีความพร้อมทั้งด้านนโยบายที่เรามั่นใจว่า“คิดใหญ่ ทำเป็น”พร้อมด้วยทีมบุคลากรที่มีคุณภาพในทุกระดับ พร้อมด้วยฐานที่มั่นประชาธิปไตยของพี่น้องประชาชนที่ร่วมเคียงข้างกันมา
ลั่นจะปั่นใจกาบัตรให้พรรคอื่นไม่ได้
“ดังนั้น การเลือกตั้งครั้งหน้า จึงไม่อาจตัดสินใจเป็นอื่นไปได้ นอกจากการเลือกเชิงยุทธศาสตร์ เลือกเพื่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลง เลือกเพื่อปิดสวิชต์ ส.ว.250 เสียง ด้วยการลงคะแนนให้กับพรรคเพื่อไทยทั้งสองใบ พลังของพี่น้องประชาชนที่ร่วมกับพรรคเพื่อไทยเท่านั้นที่จะมีพลานุภาพในการนำพาประเทศไทยให้หลุดจากระบอบประยุทธ์ ที่มีแต่ความทุกข์ ก้าวออกไปสู่ประเทศที่มีความหวังเห็นอนาคตที่สดใส พรรคเพื่อไทยพร้อมครับ”
‘ชัยวุฒิ’จ่อซบรทสช.หลังควง‘จุติ’ลงตาก
ผู้สื่อข่าวรายงานความเคลื่อนไหวภายหลังนายจุติ ไกรฤกษ์ รมว.พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ลาออกจากพรรคปชป.เพื่อร่วมงานพรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) ล่าสุด พบว่าวันนี้นายชัยวุฒิ บรรณวัฒน์ สส.ตาก พรรคประชาธิปัตย์ ร่วมลงพื้นที่กับนายจุติที่ศูนย์โอท็อป ต.ช่องแคบ อ.พบพระ
จ.ตาก ขณะนี้นายชัยวุฒิยังเป็นสมาชิกพรรค ปชป.และเป็นแกนนำคนสำคัญของภาคเหนืออยู่จึงต้องจับตานายชัยวุฒิว่าจะตัดสินใจอย่างไร ก่อนหน้านี้มีกระแสข่าวว่า นายชัยวุฒิอาจตัดสินใจเว้นวรรคการเมือง หรืออาจย้ายพรรคไปอยู่รทสช.โดยมีกระแสข่าวว่าอาจจะลงสมัคร สส. เขต 2เขตเดิม จ.ตาก ประกอบกับนางศิริวรรณ ปราศจากศัตรู แกนนำภาคเหนือ ได้ลาออกจากสส.บัญชีรายชื่อ และสมาชิกพรรคปชป.
ไปก่อนหน้า จนกระทั่งมาถึงกรณีของนายจุติได้ลาออกเป็นคนล่าสุด
‘สมศักดิ์’รับย้ายพรรคใหม่เปิดใจ17มี.ค.
นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รมว.ยุติธรรม ให้สัมภาษณ์ระหว่างเดินทางตรวจเยี่ยมเรือนจำและมอบนโยบายโดยกล่าวถึงท่าทีอนาคตทางการเมืองว่าขณะนี้รัฐบาลกำลังจะหมดวาระ ผมก็คงจะไปอยู่พรรคใหม่ แต่นโยบายต่างๆ ที่ให้ไว้คงจะดำเนินต่อไป แต่จะไปพรรคไหนวันที่ 17 มี.ค. เวลา 14.00 น. ผมจะ
แถลงข่าวให้ทราบ เพราะวันนี้ดินฟ้าอากาศเปลี่ยน เราก็ต้องดำเนินการให้เข้ากับสภาพอากาศ โดยขอให้ทุกท่านรอติดตาม” ส่วนกระแสข่าวการย้ายเข้าพรรคเพื่อไทยหรือไม่ปลายสัปดาห์นี้จะมีความชัดเจนเพราะถ้าจะขยับตัว ก็คงต้องทำความชัดเจนให้ทราบ
‘สุริยะ-สมศักดิ์’ลาออกรมต.-สส.17มี.ค.
รายงานข่าวจากพรรคพลังประชารัฐเปิดเผยถึงความเคลื่อนไหวในส่วนของกลุ่มสามมิตร ที่มีข่าวออกมาอย่างต่อเนื่องว่าจะลาออกไป อยู่กับพรรคเพื่อไทยในการเลือกตั้งครั้งหน้าว่าในวันที่ 17 มี.ค.นี้ นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ จะยื่นใบลาออกจาก รมว.อุตสาหกรรม รวมถึงลาออกจากการเป็น ส.ส.บัญชีรายชื่อ
และสมาชิกพรรคพลังประชารัฐ ส่วนนายสมศักดิ์ เทพสุทิน ก็จะยื่นใบลาออก จาก รมว.ยุติธรรม รวมถึงลาออกจากการเป็น สส.บัญชีรายชื่อ และสมาชิกพรรคพลังประชารัฐ เช่นกัน
พร้อมนัดแถลงเปิดใจย้ายพรรคใหม่
ทั้งนี้ มีรายงานว่าในส่วนของตำแหน่งรัฐมนตรีนั้น ถือเป็นมารยาททางการเมืองที่ควรต้องลาออก เนื่องจาก จะย้ายไปอยู่พรรคเพื่อไทยที่เป็นพรรคที่อยู่ ฝ่ายตรงกันข้ามกับรัฐบาล อย่างไรก็ตาม
นายสมศักดิ์จะเปิดแถลงข่าวในวันที่ 17 มี.ค.นี้ เวลา 14.00 น. ที่ร้านกินเส้น จ.นนทบุรี
นอกจากนี้ มีรายงานด้วยว่าน.ส.พรรณสิริ กุลนารถศิริ ส.ส.สุโขทัย น้องสาวนายสมศักดิ์และนายพงศ์กวิน จึงรุ่งเรืองกิจ สส.บัญชีรายชื่อ หลานชายนายสุริยะ ซึ่งทั้ง 2 คน จะลาออกจากสส.และสมาชิกพรรคพลังประชารัฐ เพื่อย้ายไปอยู่พรรคเพื่อไทยเช่นเดียวกัน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี