วันอังคาร ที่ 30 พฤษภาคม พ.ศ. 2566
แนวหน้า
  • แนวหน้า
  • หน้าแรก
  • คอลัมน์
    • คอลัมน์วันนี้
    • คอลัมน์ออนไลน์
    • คอลัมน์การเมือง
    • คอลัมน์ลงมือสู้โกง
    • โลกธุรกิจ
    • ผู้หญิง
    • บันเทิง
    • Like สาระ
    • ดูทั้งหมด
  • ข่าวเด่น
  • พระราชสำนัก
  • การเมือง
  • โลกธุรกิจ
  • อาชญากรรม
  • กทม.
  • ในประเทศ
  • เกษตร
  • ต่างประเทศ
  • กีฬา
  • ผู้หญิง
  • บันเทิง
  • ยานยนต์
  • Like สาระ
หน้าแรก / การเมือง
‘ก้าวไกล-ประชาชาติ’ยื่นศาลรธน.ฟันซ้ำ‘ศักดิ์สยาม’ ผิดม.144-เรียกเงินคืน 4 พันล้าน

‘ก้าวไกล-ประชาชาติ’ยื่นศาลรธน.ฟันซ้ำ‘ศักดิ์สยาม’ ผิดม.144-เรียกเงินคืน 4 พันล้าน

วันศุกร์ ที่ 17 มีนาคม พ.ศ. 2566, 11.12 น.
Tag : ประชาชาติ ก้าวไกล ซื้อขายหุ้น ซุกหุ้น ศักดิ์สยาม ชิดชอบ ศาลรัฐธรรมนูญ
  •  

‘ก้าวไกล-ประชาชาติ’ ยื่นศาลรัฐธรรมนูญ ฟัน ‘ศักดิ์สยาม’ ผิดซ้ำม.144 ปมถือหุ้นพร้อมได้รับผลประโยชน์จากงบประมาณ

17 มีนาคม 2566 ที่สำนักงานศาลรัฐธรรมนูญ นายปกรณ์วุฒิ อุดมพิพัฒน์สกุล ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล และ พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง เลขาธิการพรรคประชาชาติ ในฐานะผู้ร้องที่ 1 และผู้ร้องที่ 2 ซึ่งพรรคร่วมฝ่ายค้านเคยยื่นต่อประธานสภาฯ มาแล้วในคำร้องมาตรา 170 และมาตรา 82 ที่มีผลให้นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม กรณีการคงไว้ซึ่งหุ้นส่วนและยังคงเป็นผู้ถือหุ้น และเจ้าของ หจก.บุรีเจริญคอนสตรัคชั่น ได้ร่วมกันยื่นคำร้องต่อศาลรัฐธรรมนูญอีกครั้งโดยเป็นการยื่นคำร้องตามรัฐธรรมนูญมาตรา 144 สืบเนื่องจากกรณีนายศักดิ์สยาม ถูกสั่งให้หยุดปฏิบัติหน้าที่


นายปกรณ์วุฒิ กล่าวว่า คำร้องมาตรา 144 นี้เป็นคำร้องที่ฝ่ายค้านยื่นต่อประธานสภาตั้งแต่เดือนม.ค.แล้ว ซึ่งเราได้ยื่นไป 3 มาตรา แต่ครั้งนั้นฝ่ายกฎหมายของสภาตีความว่าความผิดตามมาตรา 144 ไม่อยู่อำนาจประธานสภาที่จะยื่นต่อศาลรัฐธรรมนูญได้ ดังนั้น เราจึงแยกให้เป็นคำร้อง 2 ฉบับ และวันนี้ที่เรามายื่นก็เพื่อให้เกิดความสมบูรณ์ของคำร้องแรก โดยมาตรา 144 นั้นเป็นเรื่องที่ ส.ส. ส.ว. กรรมาธิการ ห้ามกระทำการใดๆที่ทำให้ตนเองได้ผลประโยชน์จากงบประมาณโดยตรงหรือโดยอ้อม เมื่อผนวกกับความเป็นเจ้าของธุรกิจอยู่และรับสัมปทานของกระทรวงคมนาคม ดังนั้นไม่ต้องตีความอะไรมากมาย นั่นคือการได้รับผลประโยชน์ทางตรงจากงบประมาณที่ตนเองดูแล และจะเป็นเหตุผลให้ศาลเห็นว่าการที่นายศักดิ์สยาม ยังถือหุ้นของบริษัทอยู่จะมีผลประโยชน์เข้ามาเกี่ยวข้อง เพราะบริษัทนี้ก็รับสัมปทานจากกระทรวงคมนาคม

เมื่อถามว่าประเด็นที่ยื่นดังกล่าวนี้ตรงกับที่นายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ อดีตนักการเมือง เตรียมยื่นยุบพรรคภูมิใจไทย จะมีน้ำหนักมากพอให้ศาลพิจารณาทิศทางเดียวกันหรือไม่ นายปกรณ์วุฒิ กล่าวว่า ตนเชื่อว่าทั้งศาลและองค์กรอิสระคงจะพิจารณาไปตามหลักฐาน คำร้องที่ยื่นไป แต่ด้านของนายชูวิทย์นั้น ถือเป็นทิศทางที่ดีที่ภาคประชาชนออกมาแล้วกระตุ้นให้องค์กรอิสระทำงานอย่างรวดเร็ว ส่วนเรื่องที่เราร้องก่อนหน้านี้นายศักดิ์สยามก็ได้ถูกศาลสั่งให้หยุดปฏิบัติหน้าที่ไปแล้ว ส่วนคำร้องวันนี้เป็นเรื่องต่อเนื่องกัน

แต่สิ่งที่อยากจะฝากว่าคำร้องก่อนหน้านี้จะมีผลสืบเนื่อง คือ ในรัฐธรรมนูญระบุว่า คุณสมบัติของรัฐมนตรีจะต้องไม่เคยถูกถอดถอน หรือวินิจฉัยว่าขาดคุณสมบัติในเวลา 2 ปี นั่นหมายความว่าถ้าศาลวินิจฉัยว่านายศักดิ์สยามขาดคุณสมบัติ  แปลว่านายศักดิ์สยามจะเป็นรัฐมนตรีไม่ได้อีก 2 ปี ดังนั้นเชื่อว่าศาลต้องมีคำวินิจฉัยอย่างใดอย่างหนึ่ง ไม่ว่านายศักดิ์สยามจะอยู่ในตำแหน่งหน้าที่หรือไม่ก็ตาม ไม่เช่นนั้นมันจะเป็นบรรทัดฐานว่าลาออกจากตำแหน่งเพื่อหนีการตรวจสอบได้ และทำให้ตนเองไม่ขาดคุณสมบัติ ส่วนที่ว่านายชูวิทย์ไปยื่นยุบพรรคภูมิใจไทยนั้นในส่วนของเราที่มายื่นเป็นในส่วนของตัวรัฐมนตรีโดยเฉพาะ ไม่ได้เกี่ยวข้องกับพรรคการเมืองใดๆ และตนยืนยันว่าพรรคก้าวไกล หรือแม้กระทั่งพรรคประชาชาติเราไม่เห็นด้วยกับการยุบพรรคการเมืองด้วยกฎหมายแบบนี้ การยุบพรรคการเมืองจะเกิดได้ด้วยวิธีเดียวคือให้ประชาชนไม่เลือกพรรคนั้น

พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง ส.ส.บัญชีรายชื่อ และเลขาธิการพรรคประชาชาติ กล่าวว่า รัฐธรรมนูญมาตรา 144 ตามที่นายมีชัย ฤชุพันธุ์ ประธานกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ บอกว่าเป็นรัฐธรรมนูญปราบโกง คือไม่ต้องการให้ ส.ส. กรรมาธิการ ผู้เสนองบประมาณหรือรัฐมนตรี รวมทั้งวุฒิสภา กระทำอื่นใดในการแปรญัตติ หรือกระทำการต่างๆเพื่อให้ ส.ส.หรือกรรมาธิการ ได้ไปซึ่งงบประมาณ โดยกรณีที่นำมายื่นในวันนี้คือการพิจารณางบประมาณปีงบประมาณ 2564 ซึ่งนายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รมว.คมนาคม เป็นรองประธานคณะกรรมาธิการพิจารณาร่างงบประมาณปี 2564 และในการพิจารณานายศักดิ์สยามก็โหวตรับงบประมาณ ในวาระ 1-3 ด้วย

แต่สิ่งที่เราพบคือการเป็น ส.ส.หรือกรรมาธิการ ของนายศักดิ์สยามนั้น มีบางส่วนที่ทำให้ท่านได้ไปซึ่งการใช้งบประมาณที่ท่านพิจารณาในครั้งดังกล่าวรวมกว่า 372 สัญญา โดยสัญญาหนึ่งก็คือ หจก.บุรีเจริญคอนสตรัคชั่น ประมาณ 38 สัญญา เป็นเงิน 600 ล้านบาท และมีสัญญาอื่นกับกลุ่มบริษัทที่บริจาคเงินให้กับพรรคภูมิใจไทย รวม 300 สัญญา เป็นเงินทั้งหมดประมาณ 4,000 ล้านบาท อย่างไรก็ตามในวันนี้เราเรียกร้อง 2 ข้อคือ 1.ให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยว่าการพิจารณางบประมาณ และการเป็นกรรมาธิการ การเป็นผู้เสนองบประมาณ รวมทั้งการกระทำอื่นใดนั้นขัดกับรัฐธรรมนูญปราบโกงหรือไม่ และ 2.ขอให้ศาลรัฐธรรมนูญเรียกเงินในส่วนดังกล่าวคืน 4,000 กว่าล้านบาท พร้อมดอกเบี้ย

“ผมและนายปกรณ์วุฒิ ไม่ได้โกรธเคืองกับใคร แต่อยากสร้างบรรทัดฐานให้สังคมว่าคนที่มีตำแหน่งทุกตำแหน่งต้องมีความรับผิดชอบ ถ้าบ้านเมืองขาดความรับผิดชอบในตำแหน่งหนึ่ง จะทำให้เกิดการวิบัติได้ ดังนั้นในหน้าที่ของ ส.ส.เราได้รวบรวมรายชื่อ ส.ส. 1 ใน 10 ของ ส.ส.ในสภา โดยมาจากทุกพรรคฝ่ายค้าน ยื่นเรื่องในครั้งนี้ ซึ่งเราก็เคารพศาลรัฐธรรมนูญว่าจะพิจารณาอย่างไร เพราะเป็นเรื่องใหม่ เป็นเรื่องแรกของรัฐธรรมนูญมาตรา 144 อย่างไรก็ตาม วันนี้เป็นเรื่องบรรทัดฐานของสังคม และหากศาลรัฐธรรมนูญเรียกพยานหลักฐานจากหน่วยราชการอื่นจะยิ่งเห็นได้ชัดเจน เช่น เรื่องเงินทำสัญญา เอาเงินใครเป็นแบงค์การันตี หรือการอ้างว่ามีการโอนเงินมีหลักฐานหรือไม่ ซึ่งข้อมูลเหล่านี้อยู่ในอุ้งมือหน่วยงานรัฐทั้งหมด ดังนั้นขอให้ศาลค้นหาความจริงในเรื่องเหล่านี้ด้วย นอกจากนั้นยังพบอีกว่าในปี 2565 กลุ่มบริษัทดังกล่าวยังได้ร่วมกับบริษัทแห่งหนึ่งซึ่งเคยเป็นของรองนายกฯคนหนึ่ง รับงานกว่า 30,000 ล้านบาทในโครงการเดียว และยังมีการบริจาคให้พรรคภูมิใจไทยด้วย” พ.ต.อ.ทวี กล่าว

-005

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

  • \'ชลน่าน\'พูดเป็นต่อยหอยปมประธานสภาฯ แต่สรุปสุดท้ายยังตกลงกับ\'ก้าวไกล\'ไม่ได้ 'ชลน่าน'พูดเป็นต่อยหอยปมประธานสภาฯ แต่สรุปสุดท้ายยังตกลงกับ'ก้าวไกล'ไม่ได้
  • \'ธนาธร\'ชิงออกโรงเชียร์เด็กปั้น การันตีฝีมือ\'ศิริกัญญา\'จะเป็นรัฐมนตรีคลังที่ดี 'ธนาธร'ชิงออกโรงเชียร์เด็กปั้น การันตีฝีมือ'ศิริกัญญา'จะเป็นรัฐมนตรีคลังที่ดี
  • \'พิธา\'ยันจำเป็นต้องปรับค่าจ้างขึ้น 450 บาท พร้อมรับฟังเอกชนหากต้องการมาตรการดูแล 'พิธา'ยันจำเป็นต้องปรับค่าจ้างขึ้น 450 บาท พร้อมรับฟังเอกชนหากต้องการมาตรการดูแล
  • \'ชลน่าน\'ให้คำมั่น\'พิธา\'ต่อหน้า 8 พรรคร่วม \'ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้น เราจะอยู่ด้วยกันตลอดไป\' 'ชลน่าน'ให้คำมั่น'พิธา'ต่อหน้า 8 พรรคร่วม 'ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้น เราจะอยู่ด้วยกันตลอดไป'
  • มติ\'8พรรคร่วม\' ตั้งคกก.ช่วงเปลี่ยนผ่าน-7คณะทำงาน นัดถกอีก 6 มิ.ย.นี้ มติ'8พรรคร่วม' ตั้งคกก.ช่วงเปลี่ยนผ่าน-7คณะทำงาน นัดถกอีก 6 มิ.ย.นี้
  • \'พิธา\'อ้าง 8 พรรคยังไม่คุยเก้าอี้ปธ.สภาฯ โต้ลั่นไม่ได้ละลาบละล้วงระบบราชการ 'พิธา'อ้าง 8 พรรคยังไม่คุยเก้าอี้ปธ.สภาฯ โต้ลั่นไม่ได้ละลาบละล้วงระบบราชการ
  •  

Breaking News

ที่ปรึกษาสมาคมขนส่งอีสาน แฉส่วยสติกเกอร์มีนานแล้ว จำใจจ่ายเพราะไม่อยากมีปัญหา

ปลาย'ก.ค.'รู้กัน! 'จตุพร'อ่านหมาก'พท.'ทำให้'ก้าวไกล'ตายใจ รอแยกวงไปสลับขั้ว 188 เสียง

รถบรรทุก 6 ล้อจอดข้างทางรอเข้าโรงงาน จยย.พุ่งชนท้ายเสียชีวิตคาที่

ราชกิจจาฯประกาศ ปลด 2 ลูกหนี้ นามสกุล ‘วงศ์สวัสดิ์’ พ้นจากบุคคลล้มละลาย

Back to Top

ผู้ดูแลเว็บไซต์ www.naewna.com
webmaster นายประพันธ์ สุขทะใจ ดูแลรับผิดชอบข่าว/ภาพ/โฆษณา/ข้อมูลอื่นที่เกียวข้องกับเว็บไซต์
กรรมการบริษัทฯ, กรรมการผู้มีอำนาจ ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการนำเสนอข่าว/ภาพ/ข้อมูลใดๆในเว็บไซต์ทั้งสิ้น

Social Media

  • หน้าแรก |
  • เกี่ยวกับแนวหน้า |
  • โฆษณากับเรา |
  • ร่วมงานกับเรา |
  • ติดต่อแนวหน้า |
  • นโยบายข้อตกลง
Copyright © 2017 Naewna.com All right reserved