‘ก้าวไกล’ห้าวเป้ง! พร้อมปักธง ส.ส. 5 จังหวัด ทลายทุนทหารในกาญจนบุรี ผู้ว่าฯต้องมาจากการเลือกตั้ง
19 มีนาคม 2566 ผู้สื่อข่าวรายงานจาก จ.กาญจนบุรี ว่า เมื่อเวลา 18.00 น.วันที่ 18 มีนาคม 2566 ที่ลานสนามหญ้าด้านข้างศาลา 60 พรรษามหาราช ถ.ริมน้ำ เขตเทศบาลเมืองกาญจนบุรี นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล (กก.) , น.ส.ศิริกัญญา ตันสกุล รองหัวหน้าพรรค ฝ่ายนโยบาย , นางอมรัตน์ โชคปมิตต์กุล กรรมการบริหารพรรค สัดส่วนภาคกลาง , นายพริษฐ์ วัชรสินธุ หรือไอติม ผู้จัดการการสื่อสารและการรณรงค์นโยบายพรรคก้าวไกล เดินทางมาเปิดเวทีปราศรัยพร้อมแนะนำตัวว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.พรรคก้าวไกล พร้อมกัน 5 จังหวัด ประกอบด้วย 1.จ.กาญจนบุรี 5 เขต 2.จ.สุพรรณบุรี 5 เขต 3.จ.นครปฐม 6 เขต 4.จ.ราชบุรี 5 เขต และ 5 จ.เพชรบุรี 3 เขต โดยมีนายวาโย อัศวรุ่งเรือง ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล เป็นพิธีกรบนเวที มีประชาชนจาก 5 จังหวัดเดินทางมาให้กำลังใจว่าที่ผู้สมัครแต่ละคนแต่ละเขตและร่วมรับฟังการปราศรัยกันเป็นจำนวนมาก
หลังจากว่าที่ผู้สมัครของแต่ละจังหวัดขึ้นแนะนำตัวบนเวทีแล้วเสร็จ นายพริษฐ์ และ น.ส.ศิริกัญญา สลับกันขึ้นเวทีปราศรัยเกี่ยวกับนโยบายของพรรคตามลำดับ นอกจากปราศรัยเกี่ยวกับนโยบายของพรรคแล้ว ยังมีการเสนอแก้ไขรัฐธรรมนูญ และจะปฏิรูปกองทัพ รวมทั้งเรื่องแก้ปัญหาที่ดินทำกินของประชาชน โดยเฉพาะ จ.กาญจนบุรี ที่ส่วนใหญ่เป็นพื้นที่ที่ทหารเป็นหน่วยงานดูแล และใช้ในการซ้อมรบ
ส่วนผู้ว่าราชการจังหวัดที่มาจากการแต่งตั้ง หากเลือกตั้งครั้งหน้าที่กำลังจะมาถึง พรรคก้าวไกลได้เข้าไปเป็นรัฐบาล ภายใน 100 วัน จะทำประชามติเสนอยกเลิกแล้วให้ผู้ว่าฯมาจากการเลือกตั้งทั่วประเทศ และข้อมูลของภาครัฐจะต้องถูกเปิดเผยเพื่อให้ประชาชนเข้าถึงและตรวจสอบได้ เพื่อป้องกันการโกงกินของเจ้าหน้าที่
ขณะที่นายพิธา ปราศรัยบนเวทีว่า ทหารมีไว้ทำไม วันนี้เราจะมาชวนพ่อแม่พี่น้องมาทลายทุนทหารกาญจนบุรี อะไรคือขุมทรัพย์สีเขียว อะไรคือขุมทรัพย์เสนาพาณิชย์ของกองทัพที่มีอยู่ในประเทศไทย ทหารมีไว้ทำไม คำตอบคือทหารมีไว้ทำธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ ซึ่งตลอดการปราศรัยส่วนใหญ่นายพิธา จะกล่าวโจมตีทหาร และต้องการปฏิรูปในหลายๆด้านเพื่อให้ประชาชนได้ประโยชน์มากที่สุด
นายพิธา ยังกล่าวปราศรัยเกี่ยวกับปัญหาขยะเชิงเขาทองของ อบต.แก่งเสี้ยน ที่อยู่ในที่ทหาร แต่ยังโชคที่ที่ได้ ส.ส.พรรคก้าวไกล นายณัฐชา บุญไชยอินสวัสดิ์ ส.ส.กรุงเทพมหานคร เขตบางขุนเทียน ลงพื้นที่มารับหนังสือร้องเรียน และสามารถทวงคืนที่ดินจากทหารมาได้แล้ว 100 ไร่เพื่อให้พี่น้องประชาชนชาวกาญจนบุรีได้มีที่กำจัดขยะ
“ทหารมีที่ดินแต่ไม่มีต้นทุนก็เลยเอามาทำอสังหาริมทรัพย์ ทหารมีไว้ทำไม ทหารมีไว้ทำสนามกอล์ฟ ทั้งประเทศไทยมีสนามกอล์ฟอยู่ภายใต้การบริหารของทหาร 74 แห่ง สนามกอล์ฟ 1 สนามมี 18 หลุม เอา 18 คูณด้วย 74 ได้พันกว่า เท่ากับจำนวนนายพลทั่วประเทศ ทหารมีไว้บริหารสนามกอล์ฟ ทหารมีไว้เพื่อทำบาร์ลับๆ เป็นต้น” นายพิธา กล่าว
นายพิธา กล่าวว่า นี่คือปัญหาที่เวลาตนขึ้นมาพูด ที่พรรคการเมืองอื่นไม่พูดแต่พูดเฉพาะนโยบายของพรรคตนเอง เช่น พูดถึงการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) จะทำอย่างไรให้กาญจนบุรีหางบประมาณหารายได้จากการท่องเที่ยว ส่วนพรรคก้าวไกลขึ้นมาพูดเรื่อง ททท.เหมือนกัน แต่ ททท.ของพรรคก้าวไกลนั้นคือการ “ทลายทุนทหารในจังหวัดกาญจนบุรี”
ทั้งนี้ คุณจะเอาอะไรมาพูดงบประมาณขยะก็น้อย งบประมาณส่งเสริมอ้อยก็น้อย งบท่องเที่ยวก็น้อย เพราะงบมันไปอยู่กับทหารหมด รายได้ที่ทหารเก็บได้ไม่เคยเข้าคลังไม่เคยเข้าหลวง อันนี้มันคือระบบและวงเวียนการเมืองเก่าๆที่อยู่ในประเทศไทยมาตั้งแต่ ปี 2486 24 มาจนถึงทุกวันนี้ ปัจจุบันโลกเขาเปลี่ยนไปถึงไหนกันแล้ว แต่ประเทศไทยยังวงเวียนอยู่กับการเมืองแบบเดิมๆอยู่เลย เราจะยอมถอยหลังกันอยู่อย่างนี้หรือ ถ้าไม่ยอมต้องเลือกพรรคก้าวไกล มันถึงเวลาแล้วถ้าพี่น้องต้องการแก้ปัญหาปากท้อง แก้ปัญหาเรื่องเศรษฐกิจ แก้ปัญหามลพิษฝุ่น PM 2.5 แก้ปัญหาเรื่องขยะที่มีอยู่เต็มไปหมด ถ้าท่านไม่มีความกล้าหาญ
“ถ้าท่านไม่กล้าคิดกล้าทำแบบพรรคก้าวไกล ตนบอกได้เลยจะไม่มีวันแก้ปัญหาได้ เพราะการเมืองจะอยู่ในวงจรอุบาทว์หมด การเลือกตั้งครั้งนี้จึงมีความสำคัญมาก มันไม่ใช่แค่เรืองของบุคคล ต่อให้เอา พิธา เอา ธนาธร เข้าไป แต่การเมืองยังอยู่ในระบบเดิมมันก็แก้ไม่ได้” นายพิธา กล่าว
หัวหน้าพรรคก้าวไกล กล่าวด้วยว่า พรรคก้าวไกลกล้าที่จะทำคือการวิ่งตรงเข้าไปที่ปัญหา แล้วบอกกับทหารว่าพวกคุณพอได้แล้ว ปิดสวิตช์ 3 ป. เปิดแสงสว่างแห่งความหวังให้กับการเมืองไทยแบบนี้ได้แล้ว และสิ่งที่จะต้องทำได้อย่างนั้นก็คือจะต้องปฏิรูปกองทัพจริงๆ ทหารต้องอยู่ใต้รัฐบาลพลเรือน พอกันที่กับการทำรัฐประหารวงจรอุบาทว์แบบนี้ไม่เอาอีกแล้ว
“การแก้ปัญหาอันที่หนึ่งคือ เราต้องแจกใบแดงให้กับพวกนายทหาร นายพล หลังจากเกษียณมา โดยภายใน 7 ปีพวกเขาจะไม่สามารเข้าสู่การเมืองได้ สองคือระบบเสนาธิการกินรวบ ผู้นำกองทัพทั้งหมดจะต้องอยู่ใต้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ที่มาจากการเลือกตั้งของพี่น้องประชาชน สามยกเลิกศาลทหาร สี่ยกเลิกการเกณฑ์ทหาร ห้ารีดไขมันออกจากกองทัพ มาทำเป็นงบประมาณสวัสดิการประชาชน นี่ต่างหากคือการแก้ปัญหาให้กับประเทศชาติ แบบพรรคก้าวไกล” นายพิธา กล่าว
นายพิธา ระบุว่า วันนี้ตนมีความยินดีที่ได้มีโอกาสมาพบปะกับว่าที่ผู้สมัครทั้ง 5 จังหวัด รวม 25 คน ตนเชื่อมั่นมากว่าถ้ามีพวกเรามากพอ มีพรรคก้าวไกลมากพอในสภา อะไรที่มันเป็นไปไม่ได้ ตั้งแต่ปี 2486 มันจะเป็นไปได้ในปี 2566 นี้ การเลือกตั้งครั้งนี้ มีความสำคัญมาก ดังนั้นขอให้พี่น้องอย่าละเลยสิทธิ วันลงคะแนนอย่ารอให้ถึงห้าโมงเย็น ตื่นเช้ามาให้รีบไปลงคะแนนเลือกตั้งให้พรรคก้าวไกลชนะอย่างถล่มทลาย เลือกตั้งทั้งที ต้องเลือกอย่างมีวิสัยทัศน์ ต้องเลือกพรรคก้าวไกล กาก้าวไกลให้ประเทศไทยไม่เหมือนเดิม การเมืองดี ปากท้องดี เรามามีอนาคตไปด้วยกัน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับว่าที่ผู้สมัคร สส.พรรคก้าวไกลที่มาเปิดตัวพร้อมกันในวันนี้ ประกอบ ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.จ.กาญจนบุรี เขต 1นายวรรษภณแสงเป่า หรือทนายสุกวี เขต 2 นายณัฐศักดิ์ หงษ์ทองหรือเบส เขต 3 นายเจษฎา เอี่ยมปุ่น หรือหนุ่ม เขต 4 นายณฐสิทธิ์บางอ้อ หรือ สท.เอส และเขต 5 นายณัฏพัชรพงษ์ เรือนพระจันทร์ หรือเพชร
จ.นครปฐม เขต 1 น.ส.จารุพรรณ เพชรดี เขต 2 น.ส.ศศนันท์ รัตนบรรเทิง เขต 3 น.ส.ภาชินี เหลืองเพิ่มสกุล เขต 4 นายกิตติภณ ปานพรหมมาศ เขต 5 นายสาโรจน์ จุ้ยเจริญ และเขต 6 นายชิษณุพงศ์ ตั้งเมธากุล
จ.สุพรรณบุรี เขต 1 นายสมเกียรติ เสรีวิพุธ เขต 2 นายณัฐพิชา รอดชีพ เขต 3 นายสมภาษ ชิมสด เขต 4 นายภูริชช์ สุวรรณประทีป และเขต 5 นายวิเชียร ตามสี
จ.ราชบุรี เขต 1 นายนพดล อารีย์ประเสริฐกุล เขต 2 นายปีรเมศ มณีโชติ เขต 3 นายภิญโยศิลป์ สำราญวงษ์ เขต 4 นายวิชา อินทร์จันทร์ และ เขต 5 ธนพจน์ ทรัพย์ยอดแก้ว
จ.เพชรบุรี เขต 1 นายมังกร เจริญผล เขต 2 นายอัฐพัน เสมเถื่อน และเขต 3 นายวรนาถร เพชรอำนันทกิจ
-005
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี