วันพฤหัสบดี ที่ 20 พฤศจิกายน พ.ศ. 2568
‘ชวน’ภูมิใจทำหน้าที่ 4 ปี-ฝ่าสารพัดวิกฤต
แจงเหลือยอดสส.ส่งท้าย 393 คน
ขอบคุณสมาชิกร่วมทำงานด้วยดี
อาสาใช้ประสบการณ์ 16 สมัย 54 ปี
ถ่ายทอดวิถีประชาธิปไตยให้ปชช.
“ปธ.ชวน”แถลงสรุปส่งท้ายก่อนประกาศ“ยุบสภา” แจงเหลือยอด สส. 393 คน ขอบคุณสมาชิก ภูมิใจทำหน้าที่ 4 ปี ฝ่าสารพัดวิกฤต แม้ช่วงท้ายเจอมรสุม“องค์ประชุมล่ม” มองหลังเลือกตั้ง เชื่อพรรคร่วมรัฐบาล คงมีไม่ถึง 19 พรรค ชื่นชม กรรมการจริยธรรมชุดนี้ทำหน้าที่ดีที่สุด อาสาใช้ประสบการณ์การเมือง
16 สมัย 54 ปี ถ่ายทอดข้อมูลให้ประชาชน เผยช่วงปลายชีวิต สิ่งที่อยากออกไปขอบคุณชาวบ้าน ก่อนที่จะเป็น อัลไซเมอร์ หรือ ก่อนคนที่ช่วยเราล้มตายจาก และยินดี ‘รักษาฟรี-เบี้ยคนชรา’ได้รับสานต่อ
เมื่อวันที่ 20 มีนาคม 2566 เวลา 09.35 น. ที่รัฐสภา นายชวน หลีกภัย ประธานสภาผู้แทนราษฎร แถลงข่าวว่าคาดว่าในวันนี้(20 มี.ค.) ราชกิจจานุเบกษา จะมีประกาศพระราชกฤษฎีกายุบสภา จึงขอรายงานสถานภาพสมาชิกสภาฯชุดที่ 25 เป็นครั้งสุดท้าย ดังนี้จำนวน ส.ส.เริ่มต้น 500 คน แต่หลังจากพรรคอนาคตใหม่ ถูกยุบพรรคไป ทำให้มี ส.ส.ต้องพ้นสมาชิกภาพ 11คน มีส.ส.ถูกศาลฎีกาสั่งหยุดปฏิบัติหน้าที่กรณีเสียบบัตรแทนกัน 3 คน มี ส.ส.ถูกศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง สั่งหยุดปฏิบัติหน้าที่จากกรณีการก่อสร้างสนามฟุตซอล 4 คน
นอกจากนี้ยังมี ส.ส.จากพรรคต่างๆ ที่พ้นสมาชิกภาพโดยไม่มีการเลือกตั้งซ่อม และ ไม่มีการเลื่อนลำดับ 4 คน มี ส.ส.ลาออกและเลื่อนลำดับ ในช่วงระเบียบคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.)180วันก่อนการเลือกตั้ง ทำให้มีสมาชิกลดลงไป 84 คน เสียชีวิต 1 คน สรุป ส.ส.ที่ปฏิบัติหน้าที่อยู่ในปัจจุบัน 393 คน
ประธานสภาผู้แทนฯกล่าวอีกว่าหากทบทวนการทำงานของสภาฯชุดที่ 25 ที่ถือเป็นชุดพิเศษที่เริ่มใหม่ หลังจากว่างเว้นไม่มีการเลือกตั้งมา 5ปีและถือเป็น ส.ส.ใหม่เกิน 500คน แม้จะมีข้อวิจารณ์เรื่องวัฒนธรรมพฤติกรรม โดยเฉพาะทางสถาบันพระปกเกล้าได้ติติงเกี่ยวกับพฤติกรรมสมาชิกที่ผิดแปลกไป โดยเฉพาะการแต่งกาย ตนจึงได้แจ้งไปยังประธานคณะกรรมาธิการกิจการสภาฯไปตักเตือนสมาชิกแต่ละพรรคการเมืองให้ปฏิบัติตามข้อบังคับสภาฯ แม้สมาชิกบางคนจะพยายามแสดงความเป็นคนสมัยใหม่ด้วยการแต่งกายที่ดูไม่ให้เรียบร้อย แต่สังคมประชาธิปไตย สำคัญที่สุดคือข้อบังคับกฎหมาย ถ้ากฎหมาย ไม่ศักดิ์สิทธิ์สังคมก็อยู่ยาก เพราะสังคมนี้คนมีสิทธิเสรีภาพสูง จะอยู่ได้ต้องเคารพกฎเกณฑ์กติกา จึงได้กำหนดเป็นหลักสูตรอบรมสั้นๆขึ้นมาเพื่อเป็นประโยชน์ต่อสมาชิก รวมถึงโครงการเสริมสร้างบ้านเมืองสุจริต ถึงตนจะพ้นตำแหน่งไปแล้วแต่ก็จะกำหนดเป็นนโยบายต่อไป
ทั้งนี้ในช่วงปลายสมัยประชุมแม้จะพบปัญหาที่ฝ่ายรัฐบาลไม่สามารถนำหรือควบคุมองค์ประชุมได้แต่ในภาพรวมสภาฯได้ฝ่าวิกฤตตั้งแต่เปิดสมัยประชุมวันแรก มีการใช้สถานที่ประชุมหลายแห่งซึ่งไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนจนมาเกิดสถานการณ์โควิด-19ทำให้ต้องมีการหยุดการประชุมไป 1เดือนแล้วมีการชดเชยในภายหลังแต่โชคดีว่าสภาขยันทำงานในตอนต้นจึงไม่มีกฎหมายค้างประกอบกับรัฐบาลเสนอกฎหมายมาน้อย
“แม้ช่วงปลายสมัยประชุม จะเกิดปัญหาองค์ประชุมไม่ครบ แต่ 4 ปีผมภูมิใจที่สภาฯอยู่มาได้ซึ่งที่ผ่านมาไม่มีแบบนี้ทุกครั้งถ้าไม่มองในช่วงปลายสมัยประชุม สมาชิกต่างทำหน้าที่กันได้เกือบครบ แม้ช่วงท้ายจะยังมีกฎหมายค้างอยู่ เช่นร่าง พ.ร.บ.กัญชาฯ ร่างพ.ร.บ.การศึกษาแห่งชาติ วาระแก้ไขรัฐธรรมนูญที่เป็นการประชุมร่วมกันของรัฐสภา รวมถึงข้อปรึกษาหารือของสมาชิกกว่า 11,000 เรื่อง ที่เป็นผลไปแล้วกว่า80 เปอร์เซ็นต์ ผมนั่งเป็นประธานมา 4 ปี อาจแปลกสำหรับข้าราชการที่ปกติแล้วประธานสภาฯมักจะมอบรองประธานฯทำหน้าที่ แล้วเดินทางไปต่างประเทศ เพื่อไปประชุมสภาฯร่วม แต่ผมทำหน้าที่ตลอด เพราะเห็นว่าก่อนหน้านี้ ไม่มีสภาฯมา 5 ปี ทางสมาชิกก็ให้ความร่วมมือด้วยดี”นายชวน ย้ำ
ประธานสภาผู้แทนฯกล่าวด้วยว่า“จากนี้ในอนาคต หากมีสภาฯชุดใหม่ ผมก็อยากให้นำมาเป็นบทเรียนทั้งแง่บวก และลบ ดำรงไว้ซึ่งนิติบัญญัติ ตรวจสอบฝ่ายบริหารตามกฎหมายและใช้สิทธิตามกฎหมาย ไม่ทำพฤติกรรมที่หาผลประโยชน์ต่างๆทั้งแต่งตั้งคนที่ไม่เหมาะสมมานั่งในกรรมาธิการ พูดจาข่มขู่ คุกคามกันในที่ประชุม ทำให้เป็นภาระต่อคณะกรรมการจริยธรรม เปลืองทั้งงบประมาณ เอกสาร ขณะเดียวกันรัฐธรรมนูญปี2560 ที่ว่ากันว่าเป็นฉบับปราบโกง แต่ต้องยอมรับว่าการทุจริตยังระบาดไปทั่ว ไม่เพียงแต่ส.ส. แต่ยังลามไปในวงข้าราชการอีกด้วย”
เมื่อถามถึงประเด็นการตรวจสอบจริยธรรม ส.ส.ที่พบว่ามีเรื่องค้างและทำไม่แล้วเสร็จจำนวนมาก ทำให้ถูกมองว่าเป็นการช่วยเหลือกันเองหรือไม่ นายชวน กล่าวว่ากรรมการจริยธรรมชุดนี้ ถือว่าดีที่สุด แม้ตนจะเคยเป็นกรรมการจริยธรรมชุดอื่น แต่ทำงานไม่เท่าคณะกรรมการจริยธรรมชุดนี้ ไม่มีอนุกรรมการที่ช่วยเหลือใคร ตนเป็นผู้ตั้งประธานคณะอนุกรรมการซึ่งเป็นถึงรองอัยการ ถือว่ามีความสุจริต และที่ผ่านมาการนำเสนอของคณะอนุกรรมการ ไม่มีกรรมการชุดใหญ่ที่ไม่เห็นด้วยตามนั้น ทั้งไม่เคยมีการช่วยเหลือ ส่วนกรณีที่ถูกมองว่าการทำงานล่าช้า เพราะมีคนที่ถูกกล่าวหาขอขยายเวลาซึ่งตามระเบียบสามารถทำได้ จึงทำให้บางเรื่องขยายเป็นปี สัปดาห์ที่ผ่านมา เป็นการประชุมคณะกรรมการจริยธรรมเป็นครั้งสุดท้าย ซึ่งตนได้ทำหนังสือขอบคุณทุกคนแล้ว
นายชวน กล่าวด้วยว่าสำหรับหลังการเลือกตั้ง เชื่อว่ารัฐบาลจะเปลี่ยนเชิงโครงสร้าง พรรคร่วมรัฐบาล คงมีไม่ถึง 19 พรรค และ พรรคที่อยู่ในสภาฯ คงไม่ถึง 26 พรรค อย่างไรก็ดี หากยุบสภาฯจะมีเวลาให้คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ประกาศวันเลือกตั้ง ภายใน 5 วัน โดยโอกาสและความเป็นไปได้จะอยู่ในวันที่ 7 พ.ค. หรือ 14 พ.ค.
“โฉมหน้ารัฐบาล ไม่อาจรู้ได้ว่า ใครอยู่กับใคร สื่อมวลชน อาจจะรู้ดีกว่าผม แม้จะมีคนออกมาปฏิเสธก็ตาม ทั้งนี้ผมไม่ขอวิจารณ์ แต่ผมขอให้การทำงานมีความต่อเนื่อง เพราะระบอบประชาธิปไตยการทำงานที่ต่อเนื่องนั้นเป็นประโยชน์กับประชาชน รัฐบาลบางชุดไม่ต่อเนื่องเรื่องนโยบาย เพราะถือว่าไม่ใช่ของเขา เป็นเรื่องที่น่าเสียดาย ผมคิดว่าความต่อเนื่องจะทำให้ให้กฎหมายที่มีปัญหา ซึ่งเป็นประโยชน์ จะไม่ค้างพิจารณาและดำเนินการต่อไปได้ ในสภาชุดต่อไป ผมเชื่อว่าร่างกฎหมายที่ค้างคงทำต่อในสภาชุดต่อไป” นายชวน กล่าว
เมื่อถามว่า ส.ส.รุ่นใหม่วิพากษ์วิจารณ์การทำงานของประธานสภาฯค่อนข้างรุนแรงรู้สึกอย่างไรบ้าง นายชวน กล่าวว่า หน้าที่เรา คือ ฟังและอธิบายไป โดยทั่วไปร้อยละ 99.99 ก็เข้าใจ
เมื่อถามต่อว่าประชาชนตื่นตัวในการเลือกตั้งมากน้อยเพียงใด นายชวนกล่าวว่าการที่ไม่มีสภาฯมา 5 ปีอาจทำให้ความทรงจำในอดีตหายไป บางคนลืมว่าอะไรดี อะไรชั่ว คนรุ่นใหม่ที่เติบโตขึ้นมาเขาก็ไม่รู้หลายเรื่องว่าเกิดอะไรขึ้นในบ้านเมือง จึงต้องให้ข้อมูลเขา ขณะเดียวกัน ส.ส.รุ่นใหม่ ก็ไม่ทราบซึ่งตนเป็นรุ่นเก่า จึงพอรู้เพราะเห็นด้วยตาตนเอง
ในการหาเสียงครั้งนี้น่าจะมีส่วนให้ข้อมูลกับประชาชนมากพอสมควรว่าก่อนหน้าที่จะมาถึงวันนี้บ้านเมืองเป็นอย่างไร การเป็นผู้แทนมา 16 สมัย 54 ปี เห็นตั้งแต่สภาฯมี 219จนปัจจุบันมี 500คน วันนี้บ้านเมืองเปลี่ยนแปลงไปมาก สิ่งที่ดีมีจำนวนมากแต่สิ่งที่ร้ายก็ตามมาเช่นเดียวกันดังนั้นการได้ถ่ายทอดข้อมูลให้ประชาชนเข้าใจ จะทำให้ประชาชนเข้าใจวิถีทางประชาธิปไตยมากขึ้น แต่ก็ต้องให้เกียรติพวกเขาในการตัดสินใจอย่างไร ต้องเคารพแต่อยากให้การใช้ดุลยพินิจมาจากพื้นฐานความรู้ที่มีความเข้าใจ
“ผมเป็นคนคิดตั้งแต่ต้นในเรื่องการรักษาฟรีเด็กและผู้สูงอายุ ส่วนช่วงวัยกลางๆถ้าจนต้องมีบัตรผู้มีรายได้น้อยและสิ่งนี้ก็พัฒนามาเรื่อยๆจนถึงปัจจุบันซึ่งถือว่าเป็นสิ่งที่ดี ทีแปลกคือเบี้ยผู้สูงอายุกลายเป็นว่าทุกพรรคเห็นด้วยแล้ว โดยมีการเกกันว่าพรรคนั้นพรรคนี้ให้กี่พัน สมัยที่ผมทำไว้ 200-300บาท จากนั้น5ปีกว่าที่นายทักษิณเป็นรัฐบาลไม่ได้เพิ่มให้แม้แต่บาทเดียวเพราะมองว่าเป็นนโยบายของพรรคประชาธิปัตย์ กระทั่งพล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ มาเป็นนายกฯจึงเพิ่มให้อีกบัดนี้ น่าดีใจและเห็นว่าจะต้องเพิ่มให้เขาในอนาคตด้วยเช่นเดียวกั กยศ. ผมยอมเสียคะแนน ถ้าจะบอกว่าน้องๆที่กู้ยืมเรียนไปขอได้โปรดคืนเพื่อให้รุ่นน้องต่อไปได้ใช้เรียน”นายชวน ย้ำ
เมื่อถามถึงการปราศรัยที่ส่งเสริมให้ประชาชนรับเงินแต่ไม่ต้องเลือกพรรคนั้นถูกต้องหรือไม่ นายชวน กล่าวว่า ตนไม่สนับสนุน สำหรับตนใช้คำขวัญว่า“ศักดิ์ศรีชาวตรัง ใครอย่ามุ่งหวังซื้อด้วยเงินตรา” “ไม่โกง ไม่กิน ไม่สิ้นชาติ”ตนจำได้คำเหล่านี้ ใช้ได้กับพวกซื้อเงิน ซึ่งบางทีสู้ได้แต่เหนื่อย ช่วงปลายชีวิตสิ่งที่อยากทำ คือ ออกไปขอบคุณชาวบ้านก่อนที่จะเป็นอัลไซเมอร์ หรือก่อนที่คนช่วยเรา จะล้มหายตายจากไป
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี