"จตุพร"จับไต๋"ทักษิณ" แน่จริงอย่าโกหกซ้ำซาก เชื่อโอดครวญทุกข์ทรมานหวังเรียกเสียงแลนด์สไลด์ ท้าแน่จริงกลับมาก่อน 14 พ.ค. 66 มั่นใจได้ทั้งเสียง ไม่เป็นภาระลูกลำบาก ท้าถ้ากล้ากลับมาช่วง “ประยุทธ์” ยิ่งดี สงครามจะได้จบๆ ประเทศจะได้ปลดปล่อยกันเสียที
เมื่อ 25 มี.ค.2566 นายจตุพร พรหมพันธุ์ วิทยากรคณะหลอมรวมประชาชน เฟซบุ๊คไลฟ์ประเทศไทยต้องมาก่อน ตอน "ทองแท้และทองชุบ" โดยขยี้ทักษิณ ชินวัตร โอดครวญทุกข์ทรมาน จะกลับบ้าน พร้อมเฉ่ง อย่าโกหก ควรอับอายลูกน้องติดคุก แนะรีบกลับมาก่อน 14 พ.ค. นี้ สงครามจะได้จบ และจะได้ปลดปล่อยประเทศกันเสียที
โดยนายจุตพร ระบุตอนหนึ่งว่า ในรัฐบาลยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ประชาชนสู้เพื่อจะเอาทักษิณกลับบ้านเช่นกัน แต่เมื่อชนะได้เสียงจำนวนมากแล้ว แต่รัฐบาลไม่เอากลับเอง โดยอ้างว่ารัฐบาลอ่อนแอ เมื่อแข็งแรงก็ไม่เอากลับอีก อ้างอีกว่ากลัวรัฐบาลจะอ่อนแอ
ในช่วงปลายรัฐบาลยิ่งลักษณ์ เริ่มเสื่อมถอยลง มีการจะออกกฎหมายนิรโทษกรรมผู้ชุมนุมทางการเมือง เกิดการประท้วง และเมื่อใกล้ฉิบหายจึงบอกเอาทักษิณกลับบ้าน ในช่วงที่ทำนิรโทษกรรมนั้น พี่น้องมุกดาหาร อุบลฯ อยู่ในเรื่อนจำและกำลังจ่อเข้าคุกอีก จึงบอกให้นิรโทษเฉพาะประชาชนก่อน รัฐบาลกลับไม่เอา โดยแอบไปขยายให้นิรโทษกรรมทหารฆ่าประชาชนและคดีทุจริตด้วย จึงกลายเป็นความเห็นแก่ตัว แล้วเกิดนิรโทษกรรมสุดซอย ประชาชนบางคนก็ตายในคุกเพราะทักษิณ เอาตัวเองเป็นใหญ่ แล้วทักษิณเคยคิดถึงคนอื่นบ้างหรือไม่
“ทักษิณ เป็นคนที่ไม่เคยเอาประชาชนเป็นใหญ่ และประชาชนก็ไม่มีอยู่ในหัวใจเลย ถ้าประชาชนอยู่ในหัวใจจริงๆแล้ว ทักษิณจะไม่กล้าทำอย่างนั้น ทำไมวัฒนา เมืองสุข, บุญทรง เตริยาภิรมย์, ภูมิ สาระผล รวมทั้งสุรพงษ์ โตวิจักษณ์ชัยกุล ทำไมคนเหล่านี้ ซึ่งเป็นลูกน้องยังกล้าติดคุด ทักษิณเคยเห็นใจพวกเขาหรือเปล่า ทำไมทักษิณ เป็นหัวหน้าพวกเขา แต่ไม่กล้าติดคุก แล้วเอาลูกน้องให้ติดคุกแทน”นายจตุพร ระบุ
นายจตุพร กล่าวว่า วันนี้ทักษิณ ต้องการกลับบ้านอีก จึงสอดคล้องกับคำพูดของนายเศรษฐา ทวีสิน ไปพูดคำใหญ่โตไว้ว่า ผู้นำไร้หัวใจขับไล่คนมีความรู้ความสามารถออกนอกประเทศ เพียงเขาไม่ฟังโอวาท จากนั้นเศรษฐา ก็ใส่เนคไทเหลือง ไปไหว้ศาลหลักเมืองและวัดพระแก้ว ขณะที่สมศักดิ์ เทพสุทิน บอกย้ายพรรคมาเพื่อไทย ตามดินฟ้าอากาศ และฟ้าเปิดแล้ว จนมาถึงทักษิณ ให้สัมภาษณ์สื่อมวลชนญี่ปุ่น โดยช่วงสัมภาษณ์นั้น มั่นใจคะแนนเสียงจะได้ 250 เสียง แต่ในไทยปั่นไป 310 เสียง ดังนั้น สิ่งสำคัญคือ ไม่มั่นใจคะแนนเสียงจะได้รับตามที่คุยใหญ่โตไว้
พร้อม ย้ำว่า ตนบอกอีกครั้งว่า ระหว่างการเป็นนายกฯ หรือองคาพยพของทักษิณ เป็นนายกฯ นั้น มีคนตายในช่วงวงศ์วานญาติเครือทักษิณเป็นายก มามากเท่าไรแล้ว ทุกชีวิตย่อมมีค่าเท่ากัน พวกเขามีเมีย ลูก และถูกพรากจากไป คนที่เหลืออยู่จึงทรมานแสนสาหัส แล้วทักษิณเคยขอโทษพวกเขาบ้างหรือไม่ กลับเอาแต่ตัวเอง และไม่ซื่อสัตย์กับประชาชนมาตลอด
“ประเทศให้ทักษิณมากกว่าทุกคนได้รับอีก ทั้งเป็นตระกูลนายกฯ ที่สำคัญทักษิณ คิดจะให้อะไรกับประเทศบ้าง ถ้าคิดจะกลับในสองห้วงเวลาคือ ก่อนเลือกตั้งและหลังเลือกตั้งแล้ว ถ้าทักษิณพูดจริง ก็เชื่อว่าจะได้กลับบ้าน ซึ่งเป็นส่วนหนึ่ง และอีกส่วนหนึ่งไม่แน่ใจเรื่องคะแนนเสียงว่าจะแลนด์สไลด์ ดังนั้น การพูดกลับบ้านจึงประสงค์การเมือง คิดเป็นอื่นไม่ได้ ถ้าแฟร์กับประชาชนต้องกลับก่อนเลือกตั้ง เดิมพันกับคะแนนแลนด์สไลด์กันเลย”
นายจตุพร กล่าวว่า ถ้ากลับหลังเลือกตั้ง เมื่อได้คะแนนตามต้องการแล้ว อะไรจะเป็นหลักประกันว่า จะกลับบ้านจริง เมื่อครั้งนี้หลายคนเชื่อว่าจะกลับบ้าน ก็ควรแฟร์กับประชาชน ถ้าจะปฏิเสธไม่เกี่ยวคะแนนเสียงก็ต้องกลับก่อน 14 พ.ค. 2566
“สิ่งสำคัญ ประกาศกลับบ้านแล้ว แต่กลัวไม่กล้ากลับจริง เพราะการพูดเป็นปลายเปิดบอกถึงความไม่จริงใจ แล้วเป็นคนไม่รับผิดชอบตั้งแต่หนีไป ไม่กลับประเทศแล้ว ทักษิณควรเดิมพัน ขอท้าด้วย ถ้ากลับก็กลับก่อน 14 พ.ค. 2566 อย่าบอกว่า ภายในปีนี้ อย่าเล่นบทดาวพระศุกร์ทนทุกข์ เพราะประชาชนทุกข์ยิ่งกว่าทักษิณ”นายจตุพร กล่าว
และว่า ขอให้ทักษิณกล้าๆ หน่อย อย่าโกหกซ้ำซาก เพราะคะแนนเสียงปั่นไม่ขึ้น จึงต้องโกหก ถ้าไม่อยากให้ลูกเดือดร้อนก็กลับมาในช่วงพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ยังเป็นนายกฯ อยู่ ทำไมไม่เอาชีวิตคุณมาเดิมพันบ้าง ชอบเอาแต่ชีวิตคนอื่นมาเดิมพันให้ตัวเองเท่านั้น ท้ากันเลย หน้าไหนเห็นว่า ผมพูดไม่จริงก็ให้สวนมาได้ คนที่อยู่ในทุกเหตุการณ์เห็นว่า สิ่งที่ผมพูดตอนไหนบ้างไม่จริง ผมจึงบอกทักษิณว่าเลิกเห็นแก่ตัว กลับมาวันนี้ ไม่เป็นภาระกับลูก เสียงก็ได้แลนด์สไลด์ และสงครามจะได้จบ ประเทศไทยจะได้ปลดปล่อยกันเสียที กล้าๆหน่อย กลับมาเลย เข้าคุก 12 ปี อย่างมากติดไม่เกิน 4 ปี