‘พ่อมดดำ’กางเหตุผลคืน‘เพื่อไทย’ เผารัง‘พปชร.’ทำไม่ได้สักอย่าง เบื่อเพลงเราจะทำตามสัญญา
29 มีนาคม 2566 ที่พรรคเพื่อไทย (พท.) นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว หัวหน้าพรรคเพื่อไทย แถลงข่าวต้อนรับนายสุชาติ ตันเจริญ อดีตรองประธานสภาผู้แทนราษฎรคนที่ 1เข้าสมัครเป็นสมาชิกพรรค พท.
นพ.ชลน่าน กล่าวว่า ยินดีต้อนรับนายสุชาติ และคณะสู่พรรค พท. ถือเป็นผู้ใหญ่ทางการเมืองที่ทำหน้าที่ได้อย่างโดดเด่น วันนี้ได้ตัดสินใจมาร่วมอุดมการณ์ทำงาน เพื่อเข้าสู่จุดมุ่งหมายการมีพันธะสัญญากับพี่น้องประชาชน เพราะเราวางตัวเป็นสถาบันการเมืองที่เป็นตัวแทนประชาชน ทำหน้าที่ร่วมกับประชาชน เพื่อให้ได้อำนาจอธิปไตยของประชาชนอย่างแท้จริง การเลือกตั้งครั้งนี้จะเป็นโอกาสไปสู่การเปลี่ยนแปลงจากสิ่งที่เป็นอยู่ในปัจจุบัน สิ่งที่เกิดขึ้นในอดีตจะไม่เกิดขึ้นอีกต่อไป
“ถ้าพรรคเพื่อไทยได้รับคะแนนเสียงถล่มทลาย เราจึงต้องการแลนด์สไลด์ และเชื่อว่านายสุชาติมีศักยภาพ รวมไปถึงจังหวัดภาคตะวันออกน่าจะเข้าสู่เป้าหมายแลนด์สไลด์ได้” นพ.ชลน่าน กล่าว
นพ.ชลน่าน กล่าวอีกว่า ส่วนโพลต่างๆที่ออกมา เชื่อว่ามีผลต่อการตัดสินใจของพี่น้องประชาชน ถึงความเป็นไปได้ หากอยู่ในช่วงตัดสินใจและเขาเชื่อว่ามีความเป็นไปได้สูง เขาจะตัดสินใจ แรงกดดันหรือความเชื่อมั่นระหว่างกลุ่มยิ่งมีผล มีจิตวิทยาทางการเมืองซึ่งมีผลต่อการเลือกตั้งที่ผ่านมา การเลือกตั้งต้องมียุทธศาสตร์ มีความจำเป็น เรามั่นใจในศักยภาพของพรรค เราคิดใหญ่ ทำเป็น เราต้องการเปลี่ยนแปลง เลือกพ่วงร่วงกันหมด เขาเริ่มมีคำพูดนี้ออกมาแล้ว เพราะฉะนั้นโพลมีความสำคัญ
ขณะที่นายสุชาติ กล่าวว่า การกลับเข้ามาสมัครสมาชิก พท.ในวันนี้ ไม่รู้สึกตื่นเต้นแต่อย่างใดเพราะเป็นการกลับมาบ้านเก่าที่เคยทำให้ตนสามารถทำงานการเมืองมาอีก 10 กว่าปี จากเดิมเป็นหัวหน้าพรรคไทยรักไทย ถูกตัดสิทธิ์การเมืองเว้นวรรค 2 สมัย และดิ้นรนมาหลายปี จนกลับมาบ้านในวันนี้
“อยากให้ มดดำ-คชาภา ตันเจริญ บุตรชาย ทำงานการเมืองแทนผม แต่นายคชาภา ไม่ต้องการทำงานการเมือง และอยากให้น้องชายลงสมัครรับเลือกตั้ง ส.ส. ซึ่งตรงกับแนวทางของพรรค พท. ที่ต้องการคนรุ่นใหม่เข้ามาทำการเมืองแบบใหม่” นายสุชาติ กล่าว
นายสุชาติ ระบุว่า เหตุผลที่กลับมาพรรคเพื่อไทย คือ 1.มดดำ - คชาภา บุตรชาย อยากให้กลับมาที่พรรคเพื่อไทย 2.นายสมพงษ์ อมรวิวัฒน์ อดีตหัวหน้าพรรคเพื่อไทย อยากให้กลับมา 3.เป็นความต้องการของพี่น้องประชาชน ที่ต้องการพรรคการเมืองที่ทำตามนโยบายที่ได้หาเสียงไว้
นายสุชาติ กล่าวต่อว่า การออกจากพรรคเดิม เพราะไม่สามารถทำตามนโยบาย 8-9 ข้อ ที่หาเสียงไว้ได้ ซึ่งการทำงานการเมือง ไม่ควรโกหกประชาชน และในการปราศรัยหาเสียงในภาคตะวันออกที่ผ่านมา มีคำถามจากประชาชน ว่าตนจะทำงานการเมืองกับพรรคใด ที่ผ่านมาการเป็น ส.ส.มา 9 สมัย ในอดีตตนใช้การแปะโปสเตอร์หาเสียง แต่ในปัจจุบันต้องให้เกียรติประชาชน เมื่อประชาชนไม่อยากให้อยู่พรรคเดิม ไปดีๆ ต้องไปพรรคพท. ตนจึงให้เกียรติประชาชนด้วยการมาร่วมงานกับพรรค พท. เพื่อมาร่วมกันทำสถาบันการเมืองในพรรคที่มีความเป็นไปได้ สามารถเป็นแกนนำในการจัดตั้งรัฐบาลได้ ส่วนถ้ามีปัจจัยทางการเมืองในอนาคตเปลี่ยนแปลงไปอีก จะย้ายพรรคอีกหรือไม่นั้น หากไม่ปฏิวัติก็คงไม่ย้ายแน่นอน
“มั่นใจว่าพรรค พท. จะสามารถตั้งรัฐบาลพรรคเดียวได้ หากไม่ถูกปล้นอำนาจไปอีก โดย ส.ว.ชุดนี้ เป็นชุดสุดท้ายแล้ว หากไม่มี ส.ว. จะกลับสู่ภาวะปกติ ซึ่งผมไม่เชื่อในแนวคิดของ ส.ว.บางคนที่กล่าวว่าแม้พรรค พท.ชนะเลือกตั้งแลนด์สไลด์ จะไม่สามารถตั้งรัฐบาลได้ เพราะจากการได้พูดคุยกับ ส.ว. พบว่า หลายคนอยากเห็นการเปลี่ยนแปลง เช่นเดียวกับที่ประชาชนมีความเชื่อมั่นใจในแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของพรรคเพื่อไทย เพราะมีความศรัทธาและมีความเชื่อมั่นด้วยกัน” นายสุชาติ กล่าว
นายสุชาติ กล่าวอีกว่า พรรคเพื่อไทยเป็นพรรคการเมืองที่เริ่มต้นนำนโยบายมาหาเสียงกับพี่น้องประชาชน จนเป็นแบบให้ทุกพรรคการเมืองอาศัยนโยบายมานำเสนอต่อประชาชน แต่พรรคเพื่อไทยหาเสียงแล้วทำได้ ประชาชนชื่นชอบในนโยบาย ทั้งนโยบายใหม่ นโยบายเดิม และยังพัฒนาให้ดีขึ้นเพื่อทำต่อได้อีก คำว่าแลนด์สไลด์ไม่ใช่คำพูดที่เป็นการหาเสียง แต่เป็นคำพูดที่ปฏิบัติได้จริง
“ผมอยากเห็นการเปลี่ยนแปลง ฟังเพลงเราจะทำตามสัญญามา 8 ปี แล้ว ประชาชนเบื่อแล้ว ประชาชนป่านนี้ตัดสินใจแล้วด้วยซ้ำ” นายสุชาติ กล่าว............-005
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี